ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 821 เจ้าหนี้มาถึงบ้าน
ตอนที่ 821 เจ้าหนี้มาถึงบ้าน
เซี่ยไห่รับโทรศัพท์มือถือมา แล้วพูดอย่างสุภาพว่า “สวัสดีครับ พี่ชายเว่ยตงใช่ไหมครับ”
“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าแม่ของผมเป็นอย่างไรบ้างครับ” เสียงผู้ชายจากปลายสายก็เอ่ยอย่างสุภาพเช่นกัน
“คุณแม่ปลอดภัยดีครับ ผมมีเรื่องอยากรบกวนคุณนิดหน่อย”
เซี่ยไห่พูดเข้าเรื่องทันที “พี่ชายเว่ยตง คือแบบนี้ครับ ผมเป็นนักธุรกิจจากเมืองไห่เฉิง อยากขอซื้อที่ดินที่คุณใช้เลี้ยงไก่ ไม่ทราบว่าคุณมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง…”
“ไม่ได้ครับ”
เซี่ยไห่ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกอีกฝ่ายขัดจังหวะด้วยเสียงอันหนักแน่นและทรงพลัง “ผมไม่ขายที่ดิน”
“พวกเราต้องการสร้างตึกบนที่ดินผืนนั้น เรื่องราคาเราค่อยมาคุยกันได้ครับ”
“ต่อให้ผมจะจนแค่ไหน ผมก็ไม่ขายที่ดินผืนนี้หรอก”
ดูเหมือนว่าหวังเว่ยตงจะไม่ยอมเจรจาด้วยเลย แม้น้ำเสียงของเขาจะยังคงสุภาพ แต่ก็แฝงไปด้วยความห่างเหิน
เซี่ยไห่ไม่มีทางเลือกจึงต้องยื่นโทรศัพท์ให้กับคุณยายหวัง
“แม่ครับ สบายดีไหมครับ? ปลายปีนี้ผมจะกลับบ้านแล้วครับ งานที่นี่สบาย เงินเดือนก็ดี ปลายปีผมจะเอาเงินกลับไปใช้หนี้ แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ ไมว่ายังไงก็ห้ามขายที่ดินของเรานะครับ” น้ำเสียงของหวังเว่ยตงเต็มไปด้วยความห่วงใย
“หวังเว่ยตง! เสร็จหรือยัง? อืดอาดอะไรอยู่ รีบมาขนปูนเร็วเข้า คนมายืนรอผสมปูนแล้วเนี่ย”
“มาแล้วครับๆ” หวังเว่ยตงตอบกลับทางโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว “แม่ครับ ผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ เพื่อนร่วมงานเรียกไปกินข้าว”
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
สายโทรศัพท์ถูกตัดไป
แม้คุณยายหวังจะอายุมากแล้ว แต่นางก็ไม่ได้หูตึง
เซี่ยไห่กลัวคุณยายจะไม่ได้ยิน จึงเปิดลำโพงเสียงดังที่สุด
นางได้ยินเสียงคนตะคอกลูกชายผ่านโทรศัพท์ บอกให้เขาไปขนปูน
เซี่ยไห่กับหลินเซี่ยยืนอยู่ข้างๆ คุณยาย พวกเขาได้ยินคำพูดของหวังเว่ยตงทุกคำเช่นกัน
ดูเหมือนหวังเว่ยตงจะไม่ยอมเจรจาด้วยง่ายๆ
เซี่ยไห่มองหลินเซี่ยอย่างจนใจ
ดูจากสถานการณ์แบบนี้ เหมือนพวกเขาต้องเปลี่ยนแผนเสียแล้ว
ถ้าหวังเว่ยตงอยู่ที่เมืองไห่เฉิง พวกเขายังพอจะไปเจรจาต่อหน้าได้
แต่นี่เขาอยู่ไกลขนาดนั้น แค่โทรศัพท์ยังไม่สะดวกเลย
แบบนี้ คงคุยกันไม่รู้เรื่องแน่ๆ
หากคุยกันไม่รู้เรื่องจริง ๆ ก็คงต้องหาที่ใหม่
พวกเขาไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้
เซี่ยไห่มองไปที่หลินเซี่ย แล้วพูดกับเธอว่า
“เซี่ยเซี่ย งั้นเรากลับกันก่อนดีไหม?”
ก่อนกลับ หลินเซี่ยก็พูดกับคุณยายหวังอย่างจริงใจว่า “คุณยายคะ งั้นพวกเรากลับก่อนนะคะ ถ้าเป็นไปได้ พวกเราก็หวังว่าคุณยายจะลองเขียนจดหมายไปเกลี้ยกล่อมลูกชายของคุณดู ทางนี้พวกเรายืนยันได้เลยว่าจะไม่ให้คุณยายเสียเปรียบแน่นอน ถ้าขายที่ดินได้ เขาก็จะปลดหนี้ได้ กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวได้เร็วขึ้น”
ได้ข่าวว่าเมียกับลูกของเขาถูกส่งกลับไปอยู่บ้านแม่ยายเพื่อหนีหนี้
ตราบใดที่พวกเขายอมเปิดใจ ปัญหาทั้งหมดนี้ก็จะคลี่คลายได้
“ได้จ้ะ ยายจะลองพูดกับเขาดู”
คุณยายหวังรู้สึกเสียใจที่ทำให้พวกเขามาเสียเที่ยว
นางให้หลินเซี่ยเอาของที่นำมาด้วยกลับไป หลินเซี่ยยิ้มแล้วกล่าวว่าต่อให้ธุรกิจไม่สำเร็จแต่ความสัมพันธ์ยังคงอยู่ ถือว่าเป็นการแสดงความกตัญญูจากคนรุ่นลูกหลานอย่างพวกเขา
คุณยายหวังรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง เดินมาส่งพวกเขาที่นอกห้องโถง
“ลาก่อนค่ะคุณยาย ไม่ต้องออกมาส่งแล้ว”
หลินเซี่ยกล่าวจบก็พลันได้ยินเสียงดังโครมคราม ประตูรั้วเหล็กเก่า ๆ ของบ้านสกุลหวังถูกใครบางคนถีบจนเปิดออก
เซี่ยไห่รีบดึงเธอมาอยู่ด้านหลัง
ก่อนเห็นชายฉกรรจ์หน้าตาดุดันสามคนเดินเข้ามาในประตูรั้ว
พวกเขาเพิ่งจะเอ่ยเรียกชื่อหวังเว่ยตง ก็เห็นเซี่ยไห่กับหลินเซี่ยที่ลานบ้าน คนเหล่านั้นพลันมีสีหน้าตะลึงงัน มองสำรวจพวกเขาอย่างรวดเร็วด้วยสายตาดุร้าย
จากนั้นชายหนุ่มที่เป็นหัวหน้าก็หันไปถามคุณยายหวัง “คุณยาย หวังเว่ยตงกลับมาหรือยัง?”
“เสี่ยวจางเอ๋ย เว่ยตงยังไม่กลับมาเลย เขาจะกลับมาเอาเงินมาใช้หนี้พวกเธอตอนสิ้นปีนะ”
เห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้เป็นเจ้าหนี้ขาประจำของบ้านตระกูลหวัง
คุณยายหวังจำพวกเขาได้
“สิ้นปี?” เสี่ยวจางเยาะเย้ย “ถ้าเขาอยู่ไม่ถึงสิ้นปีล่ะ? พวกฉันจะได้เงินคืนไหม?”
คำสาปแช่งของเสี่ยวจางทำให้สีหน้าของคุณยายหวังเจ็บปวด นางตัวสั่นแทบจะยืนไม่อยู่
เซี่ยไห่และหลินเซี่ยก็มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก
เสี่ยวจางรู้สึกกดดันและรู้สึกว่าเขาพูดไม่ระวัง เขาจึงกระแอมไอและพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลขึ้น “เห็นแก่ที่เมื่อก่อนเขาเคยอุดหนุนพวกเรามาตลอด เจ้านายของผมก็ใจกว้างมากพอแล้ว เงินก้อนนี้ค้างมานานปีหนึ่งแล้ว เจ้านายของผมก็ลำบาก ไม่มีเงินไปซื้อของมาขาย
ลูกชายของคุณเข้าใจบ้างไหม รีบใช้หนี้คืนซะ ตอนนี้เขากลับหนีไปอยู่ที่อื่น แม้แต่เมียและลูกก็พาหนีไปด้วย เขาคิดว่าพวกเราไม่กล้าทำอะไรยายแก่ๆ อย่างคุณงั้นสินะ?”
คุณยายหวังพยายามขอโทษตลอด แต่ท่าทีของอีกฝ่ายยังคงแข็งกร้าวมาก
ต้องรีบคืนเงินอย่างเร่งด่วน
ซึ่งนั่นก็แสดงถึงความจนใจของฝ่ายเจ้าหนี้เช่นกัน
ทั้งสองฝ่ายยังคงงัดข้อกันไปมา คุณยายหวังพยายามพูดจาหว่านล้อม แต่อีกฝ่ายไม่ยอมอ่อนข้อให้เลย เซี่ยไห่กับหลินเซี่ยจึงไม่สามารถทิ้งคุณยายหวังไปได้
ในที่สุดหลินเซี่ยก็อดถามไม่ได้ว่า “ขอถามหน่อย หวังเว่ยตงติดหนี้พวกคุณเท่าไหร่?”
“ค่าอาหารสัตว์สามพันหนึ่งร้อยยี่สิบหยวน” เสี่ยวจางพูดด้วยน้ำเสียงจนใจ “เจ้านายของเราเห็นแก่ที่เคยรู้จักกันมาก่อนเลยไม่คิดดอกเบี้ย เขาบอกว่าให้สามพันหยวน ส่วนที่เหลือก็ตัดทิ้งไป เจ้านายของเราใจดีสุดๆ แล้ว ถ้ายังไม่คืนเงิน เราก็จะไม่สุภาพแล้ว จะไปฟ้องศาล”
เมื่อคุณยายหวังได้ยินว่าอีกฝ่ายจะไปฟ้องลูกชาย นางก็ตกใจกลัวจนหน้าซีด รีบอ้อนวอน
“ขอร้องพวกเธอให้เวลาอีกสักพัก เราจะหาทางจัดการเอง”
“ฉันไปขอร้องเจ้านายของพวกคุณได้ เถ้าแก่หลิวเคยมาบ้านฉัน เป็นคนกันเองทั้งนั้น”
เสี่ยวจางเย้ยหยัน “คุณอายุขนาดนี้แล้ว อย่ามาหาเรื่องไถเงินเจ้านายผมนะ”
“แล้วพวกคุณมาทำอะไร?” เสี่ยวจางจ้องมองเซี่ยไห่พลางถาม “มาทวงหนี้ด้วยเหรอ?”
เขาเสนอความคิด “ถ้าไม่ได้จริงๆ พวกเราสองบ้านก็รวมตัวกันฟ้องมันเลย ไอ้นี่ตอนนี้มันหน้าด้านหนีไปแล้ว ปีหน้าไม่กลับมาแน่ เงินนี่ก็อย่าหวังว่าจะได้ คงต้องใช้กฎหมายจัดการเสียแล้วล่ะ”
เจ้านายของพวกเขาบอกว่าหากไม่ได้จริงๆ ก็จับตัวคุณยายหวังมาบังคับขู่เข็ญหวังเว่ยตง
แต่การทำแบบนั้นเสี่ยงเกินไป ถ้าเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมากับหญิงชราแล้วมีคนตายขึ้นมา เรื่องราวจะใหญ่โตบานปลาย
เซี่ยไห่พูดว่า “พวกเราไม่ใช่คนทวงหนี้หรอก พวกเราเป็นญาติของหวังเว่ยตง”
“ญาติ?” เสี่ยวจางได้ยินดังนั้นก็มีสีหน้าแปลกใจไปชั่วขณะ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จ้องมองพวกเขา แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไป “ในเมื่อเป็นญาติ งั้นพวกแกก็ควรจะช่วยหวังเว่ยตงใช้หนี้สิ”
ดูออกว่าสองคนนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดา
ในเมื่อไม่ใช่พวกเดียวกันก็เป็นฝ่ายตรงข้าม ต้องให้พวกเขาจ่ายหนี้แทนหวังเว่ยตง
คุณยายหวังรีบออกมาอธิบาย “พวกเขาไม่ใช่ญาติ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา ปล่อยพวกเขาไปเถอะ เงินนี่บ้านเรายังไงก็ใช้หนี้ได้ พวกเธอผ่อนผันให้อีกหน่อยเถอะ”
เสี่ยวจางกลับไม่มีทีท่าจะอ่อนข้อให้
เจ้านายบอกไว้ว่าหากวันนี้ถ้าทวงเงินไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาทำงานอีก
“คุณยาย คุณไม่ต้องยุ่งเรื่องนี้แล้วค่ะ พวกเราจะจัดการให้เอง” หลินเซี่ยกล่าว “เอาใบแจ้งหนี้มา พวกเราจะจ่ายให้เอง”
เสี่ยวจางไม่คิดว่าทั้งสองคนจะใจดีขนาดนี้ ทำเอาเขาถึงกับงงงันไปชั่วขณะ
นั่นมันเงินตั้งสามพันหยวนเชียวนะ
ใครจะโง่เอาตัวมาเสี่ยงกับเรื่องแบบนี้กัน?
ถึงแม้เขาจะมาทวงหนี้ แต่ก็ไม่ได้หวังอะไรอยู่แล้ว
“พวกคุณอย่ามาเล่นตุกติกกับพวกฉันนะ” เสี่ยวจางแสยะยิ้ม “อย่าคิดหลอกให้พวกฉันไปเอาใบแจ้งหนี้ แล้วพวกคุณจะได้หนีไปได้ล่ะ”
เซี่ยไห่ผ่านโลกมามาก การรับมือกับเด็กอย่างเสี่ยวจางจึงถือว่าง่ายดายยิ่งนัก เขายืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางที่ดูเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด “พวกแกสามคน ทิ้งไว้สองคนตรงนี้แหละ อีกคนไปตามเจ้านายพวกแกมา บอกเขาให้เอาใบแจ้งหนี้มาด้วยตัวเอง ไม่งั้นถ้าในอนาคตหวังเว่ยตงต้องจ่ายหนี้รอบสองจะทำยังไง”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
สงสารบ้านนี้จังเลย คำว่าหนี้แค่ได้ยินก็เหนื่อยแล้ว ถ้าไม่ได้โชคดีมีพวกหลินเซี่ยช่วยจ่ายให้จะทำยังไงเนี่ย
ไหหม่า(海馬)
………………..