ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 838 ความคิดของผู้เฒ่าเสิ่น
ตอนที่ 838 ความคิดของผู้เฒ่าเสิ่น
………………..
ตอนที่ 838 ความคิดของผู้เฒ่าเสิ่น
เพราะคำพูดของเจียงอวี่เฟย ในใจหลินเซี่ยจึงมีแต่คำถาม
เธอเริ่มอดไม่ได้ที่จะคิดฟุ้งซ่าน
บางทีตระกูลหลิวอาจส่งเสิ่นเสี่ยวอวี้กลับไปหาเซี่ยหลานจริง ๆ แต่เซี่ยหลานกลัวว่าเธอจะโกรธ จึงไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้?
แต่เดิมหลินเซี่ยจะโทรไปถามเซี่ยหลานเพื่อยืนยันเรื่องนี้ แต่ผลปรากฏว่าตอนกลางคืนเธอได้รับโทรศัพท์จากเสิ่นอวี้หลงพอดี บอกว่าหลินเซี่ยไม่ได้กลับบ้านพวกเขามานานแล้ว
ดังนั้นหลินเซี่ยจึงถือโอกาสนี้พาลูกกลับไปเยี่ยมบ้านในช่วงสุดสัปดาห์
เซี่ยหลานรู้สึกดีใจมากที่เห็นหลินเซี่ยพาหลานชายมาเยี่ยม
หล่อนอุ้มเด็กน้อยไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
และยังตั้งใจซื้อของเล่นให้เขาเป็นพิเศษอีกด้วย
“เสี่ยวหู่ เร็วเข้า เรียกน้าชายสิ” เสิ่นอวี้หลงอุ้มเด็กน้อยที่กำลังส่งเสียงอ้อแอ้อยู่ในปาก แล้วพูดคุยกับเขาว่า “เมื่อกี้เธอเรียกน้าชายใช่ไหม? ลองอีกครั้งสิ”
หลินเซี่ยหัวเราะพลางกล่าวว่า “เขายังเล็กแค่นี้ จะเรียกอะไรได้ล่ะ? นายใจเย็นๆ รอไปก่อน พอผ่านปีใหม่ไปแล้วเขาก็จะค่อยๆ หัดพูดเองแหละ”
ขณะที่เสิ่นอวี้หลงกำลังเล่นกับเสี่ยวหู่ หลินเซี่ยก็ถามเซี่ยหลานเกี่ยวกับสถานการณ์ของเสิ่นเสี่ยวอวี้
คำตอบที่ได้รับนั้นแน่นอนว่าไม่ตรงกับข่าวที่เจียงอวี่เฟยนำมา
เซี่ยหลานกล่าวว่า “เซี่ยเซี่ย ตระกูลหลิวเคยอุ้มเด็กมาส่งที่นี่ครั้งหนึ่ง แต่ฉันกับอวี้หลงด่าไล่พวกเขากลับไป หลังจากนั้นพวกเขาก็ไม่เคยมาอีกเลย”
“แม่คะ ฉันได้ยินจากอวี่เฟยว่าเสิ่นเสี่ยวอวี้ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่บ้านตระกูลหลิวแล้ว แม่ของหลิวจื้อหมิงบอกกับเพื่อนบ้านว่าพวกเขาส่งเด็กกลับไปให้แม่แล้ว นี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ?”
“เหลวไหล ไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอก”
เซี่ยหลานได้ยินคำพูดของหลินเซี่ย แล้วสีหน้าก็เคร่งเครียดขึ้นมา เอ่ยปากว่า “เซี่ยเซี่ย ดูเหมือนว่าจะเกิดเรื่องกับเสิ่นเสี่ยวอวี้ที่บ้านตระกูลหลิวแล้วล่ะ”
ครอบครัวนั้นไม่มีขีดความสำนึก หรือว่าเด็กคนนั้น…
ไม่ว่าจะอย่างไรหล่อนก็เป็นหลานสาวแท้ๆ ของตัวเอง เซี่ยหลานนึกถึงความเป็นไปได้บางอย่าง สีหน้าก็ดูกระวนกระวายและไม่สบายใจ จึงคิดจะไปสืบหาความจริงที่บ้านตระกูลหลิว
เสิ่นอวี้หลงกำลังเล่นกับหลานชายอยู่ เมื่อเห็นแม่ของเขาลุกขึ้นยืนจะออกไปข้างนอกอย่างกะทันหัน หลังจากถามว่าเกิดอะไรขึ้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทางย่ำแย่
เขาขวางเซี่ยหลานไว้ทันที ไม่ยอมให้หล่อนไปอย่างเด็ดขาด
ก่อนพูดอย่างโกรธเกรี้ยว “แม่ครับ แม่จะไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้านได้ไหม? ในเมื่อเด็กคนนั้นถูกส่งไปอยู่กับตระกูลหลิวแล้ว มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเราอีกต่อไป ตอนนี้แม่ยังจะวิ่งไปถามอีก ถ้าเกิดเด็กคนนั้นอยู่กับตระกูลหลิว แม่จะอุ้มกลับมาหรือ? ถ้าไม่ได้อยู่กับตระกูลหลิว แม่ก็จะไปสืบหาร่องรอยของหล่อนเพื่อตามหากลับมาอีกหรือ?”
“แม่มีอะไรติดค้างในใจจนไม่ยอมวางกันแน่?” เมื่อถูกเสิ่นอวี้หลงตะโกนใส่ เซี่ยหลานก็เงียบลง
ใช่แล้ว หล่อนคิดหวังอะไรจากการสืบหาที่อยู่ของเด็กคนนั้น?
แต่ถ้าไม่สืบให้รู้แน่ชัด หล่อนก็รู้สึกกังวลและเป็นห่วงอยู่ในใจ
นั่นคือชีวิตหนึ่ง
เพราะเสิ่นอวี้หลงคัดค้าน เซี่ยหลานจึงไม่ได้ออกไปข้างนอกอีก
แต่บรรยากาศในบ้านก็ตึงเครียดมากจนหลินเซี่ยรู้สึกอึดอัดใจ เสียใจที่บอกเรื่องนี้ให้พวกเขารู้
เรื่องของปีศาจน้อยคนนั้นทำให้ทุกคนอารมณ์เสีย มันไม่คุ้มค่าเลย
หลินเซี่ยพูดกับเซี่ยหลานว่า
“แม่ อย่าไปเลยค่ะ ที่อวี้หลงพูดก็ถูกแล้ว ในเมื่อส่งหล่อนไปบ้านตระกูลหลิวแล้ว หล่อนก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเราอีก ถึงแม่หาเจอแล้วจะทำอะไรได้ล่ะคะ”
หลินเซี่ยเข้าใจความกังวลของเซี่ยหลาน ที่จริงแล้วก็แค่กลัวว่าตระกูลหลิวจะทำตัวไร้มนุษยธรรม แล้วทำร้ายเสิ่นเสี่ยวอวี้
เธอจึงกล่าวว่า “งั้นเอาอย่างนี้แล้วกัน ฉันจะให้อวี่เฟยไปสืบข่าวดูอีกที น่าจะสอบถามเรื่องที่อยู่ของเสิ่นเสี่ยวอวี้ได้”
หลินเซี่ยก็รู้สึกสงสัยเช่นกันว่าตอนนี้เสิ่นเสี่ยวอวี้อยู่ที่ไหนกันแน่
หล่อนถูกส่งตัวไปให้คนอื่นหรือถูกบีบคอตายไปแล้ว?
ถ้าหล่อนถูกบีบคอตาย งั้นหลิวจื้อหมิงก็จะได้เข้าไปอยู่เป็นเพื่อนเสิ่นอวี้อิ๋งแล้ว
เซี่ยหลานถูกหลินเซี่ยกับเสิ่นอวี้หลงช่วยกันพูดให้สติ หล่อนก็ใจเย็นลง
ตอนนี้หล่อนจำเป็นต้องคำนึงถึงตัวเองและเสิ่นอวี้หลงจริงๆ หากยังคงยืดเยื้อกับตระกูลหลิวเรื่องของเสิ่นเสี่ยวอวี้ต่อไปจนทำให้เกิดความวุ่นวายและกลายเป็นเรื่องขบขันในสายตาคนอื่น เสิ่นอวี้หลงก็คงจะตำหนิหล่อน ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกแล้ว ยังอาจส่งผลต่อการเรียนของเสิ่นอวี้หลงอีกด้วย
เมื่อเซี่ยหลานคิดทบทวนทุกอย่างแล้ว หล่อนจึงบอกเพียงแค่ให้หลินเซี่ยฝากเจียงอวี่เฟยสืบหาที่อยู่ของเสิ่นเสี่ยวอวี้เท่านั้น
ส่วนเรื่องอื่นๆ หล่อนจะไม่ยุ่งเกี่ยวอีก
ตอนบ่าย หลินเซี่ยกำลังจะกลับ เสิ่นอวี้หลงไปส่งเธอจนถึงทางออกของหมู่บ้าน
เขาเดินตามหลังหลินเซี่ย ทำหน้าบึ้งตึง พูดด้วยน้ำเสียงอึดอัด “พี่ครับ แม่คงยังห่วงเสิ่นเสี่ยวอวี้อยู่แน่ๆ แม่ใจดีเกินไปแล้ว”
หลินเซี่ยไม่อยากให้เสิ่นอวี้หลงกับเซี่ยหลานมีความรู้สึกห่างเหิน เธอยิ้มและพยายามอธิบาย “ไม่หรอก นั่นก็เป็นชีวิตหนึ่ง แม่ก็แค่กลัวว่าคนตระกูลหลิวจะโหดร้ายเกินไปแล้วจะทำร้ายเด็กคนนั้น ถ้าแม่ไม่มีความรู้สึกแบบนี้เลย นั่นสิถึงจะเรียกว่าไม่ปกติ”
เมื่อหลินเซี่ยพูดแบบนี้ เสิ่นอวี้หลงก็รู้สึกดีขึ้นบ้าง
ตอนที่ออกมาจากหมู่บ้านแล้ว หลินเซี่ยกำลังจะเรียกแท็กซี่ เสิ่นอวี้หลงก็กั้นเธอไว้ทันที เขารวบรวมความกล้าพูดว่า “พี่ครับ ผมมีเรื่องอยากคุยกับพี่”
“พี่ คุณปู่อยากให้พี่ไปเยี่ยมท่านมาตลอด เมื่อไหร่พี่จะมีเวลาครับ? ตอนนี้สุขภาพท่านแย่มาก ดูน่าสงสารมาก”
นี่คือเหตุผลที่เสิ่นอวี้หลงเรียกหลินเซี่ยมา แต่เพราะเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ ของเสิ่นเสี่ยวอวี้ ตอนอยู่ที่บ้าน เขาจึงไม่มีโอกาสคุยเรื่องนี้กับหลินเซี่ยตามลำพัง
หลินเซี่ยเอ่ยปากอย่างขอโทษขอโพย “ช่วงนี้ฉันยุ่งมาก คงไม่มีเวลา”
สีหน้าของเสิ่นอวี้หลงหม่นลงไปหลายส่วน น้ำเสียงผิดหวัง “อ้อ”
เขาหยุดไปสักครู่ แล้วพูดกับหลินเซี่ยว่า “คุณปู่ยังบอกอีกว่า ยังหวังให้ผมไปเยี่ยมในคุก ไปดูพ่อ…”
ที่จริงแล้วคุณปู่บอกกับเขาว่า หวังให้หลินเซี่ยมาเยี่ยมท่าน ท่านอยากขอโทษหลินเซี่ย และสิ่งสำคัญที่สุดคือสังขารอันชราภาพของเขาอยากขอร้องให้หลินเซี่ยยกโทษให้คนในตระกูลเสิ่น อยากให้หาทางพูดต่อหน้าคนตระกูลเฉิน และช่วยเคลื่อนไหวคดีของเสิ่นเถี่ยจวิน…
เสิ่นอวี้หลงยังเป็นลูกชายของเสิ่นเถี่ยจวิน เขาถูกผู้เฒ่าเสิ่นพูดจนใจอ่อน
สำหรับเรื่องที่เสิ่นอวี้หลงจะไปเยี่ยมพ่อในคุก หลินเซี่ยยิ่งไม่ได้ให้ความเห็นอะไรกับเขาเลย เธอยิ้มพลางพูดว่า “ถ้านายอยากไปก็ไปสิ เรื่องนี้นายตัดสินใจเองแล้วกัน”
“เอาละ ฉันขอตัวกลับก่อนนะ นายก็ตั้งใจเรียนด้วยล่ะ อย่าให้พวกคนไร้สาระมารบกวนนาย”
หลินเซี่ยอุ้มลูกแล้วเรียกแท็กซี่ออกไป
เธอไม่อยากพบผู้เฒ่าเสิ่น และก็ไม่อยากไว้หน้าเสิ่นอวี้หลงด้วย
เขาไม่เพียงแต่รับปากคุณปู่ว่าจะไปเยี่ยมเสิ่นเถี่ยจวินพ่อของเขาเท่านั้น แต่ยังจะไปดูเสิ่นอวี้อิ๋งที่มีฐานะเป็นพี่สาวด้วย
ทุกคนบอกเขาให้ตั้งใจเรียน อย่าไปคิดถึงคนวุ่นวายพวกนั้น
แต่เขาจะไม่คิดถึงได้อย่างไร?
คนหนึ่งคือพ่อแท้ๆ ที่รักและทะนุถนอมเขามาสิบเจ็ดปี อีกคนคือพี่สาวแท้ๆ ที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อนแต่กลับต้องการเอาชีวิตเขา
ความรู้สึกที่ซับซ้อนเหล่านั้น กดทับจนเขาแทบหายใจไม่ออก
เขาฟื้นขึ้นมาได้เกือบหนึ่งปีแล้ว
ช่วงแรกเป็นการฟื้นฟูร่างกาย
ช่วงหลัง เพราะรู้เรื่องการกระทำของเสิ่นเถี่ยจวินในอดีต ในใจจึงมีความรู้สึกติดค้างอยู่ตลอด ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับพ่อคนนั้นอย่างไรดี
ตอนนี้ เสิ่นอวี้หลงตั้งใจจะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งนี้
ตั้งแต่เสิ่นอวี้อิ๋งถูกตัดสินจำคุก เซี่ยหลานก็ไม่เคยไปเยี่ยมหล่อนเลย
หล่อนยุ่งกับงาน และต้องดูแลลูกชาย จึงไม่มีเวลาสนใจเสิ่นอวี้อิ๋งเลย
นอกจากนี้ เสิ่นอวี้อิ๋งทำให้หัวใจของหล่อนแตกสลาย
จนไม่อยากพบหล่อนจริงๆ
แต่ตอนนี้เสิ่นอวี้หลงเสนอที่จะไปเยี่ยมในเรือนจำ เซี่ยหลานจึงต้องตกลง
โชคดีที่เสิ่นเถี่ยจวินและเสิ่นอวี้อิ๋งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำชานเมืองไห่เฉิง จึงไม่ต้องเสียเวลามากนัก สามารถเดินทางไปกลับได้ในวันเดียว
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ต่างคนต่างแยกย้ายและใช้ชีวิตบั้นปลายให้มีความสุขเถอะผู้เฒ่าเสิ่น ก่อนหน้านี้ทำอะไรไว้กับหลินเซี่ยเยอะมากจนอีกฝ่ายไม่อยากเผาผีซะขนาดนั้น
ไหหม่า(海馬)