ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 839 เยี่ยมผู้ต้องขัง
ตอนที่ 839 เยี่ยมผู้ต้องขัง
ในวันเยี่ยมผู้ต้องขัง เสิ่นอวี้หลงและเซี่ยหลานออกเดินทางไปยังเรือนจำเมืองไห่เฉิงด้วยความรู้สึกหลากหลายอยู่ในใจ
เซี่ยหลานตั้งใจจะนำของใช้และเครื่องอุปโภคบริโภคไปให้เสิ่นอวี้อิ๋ง แต่ก่อนออกจากบ้าน เสิ่นอวี้หลงกลับแย่งกระเป๋าในมือของหล่อนไป ไม่ให้หล่อนนำไปด้วย
เพื่อไม่ให้ลูกชายโกรธ ในที่สุดเซี่ยหลานก็ยอมทำตามเสิ่นอวี้หลง และวางกระเป๋าลง
ณ ห้องเยี่ยมญาติในเรือนจำเมืองไห่เฉิง
เมื่อเสิ่นอวี้อิ๋งเห็นเซี่ยหลานและเสิ่นอวี้หลงนั่งอยู่ตรงนั้น ใบหน้าที่ดูอิดโรยของหล่อนก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที รีบเดินเข้าไปหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว
เสิ่นอวี้หลงจ้องมองหญิงสาวที่กำลังเดินมาทางพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา สีหน้าของเขาเย็นชาถึงขีดสุด
เขาจำเสิ่นอวี้อิ๋งได้ในทันที จะว่าไปแล้วอาจเป็นเพราะพลังของพันธุกรรม แววตาของหญิงคนนี้จึงเหมือนเสิ่นเถี่ยจวินพ่อของเขาเหลือเกิน
“แม่ ในที่สุดแม่ก็มาเยี่ยมหนูแล้ว ฮือๆๆ……”
ใบหน้าซีดเหลืองของหล่อนมีน้ำตาไหลอาบ ร้องไห้พลางบ่นอย่างน้อยเนื้อต่ำใจว่า “แม่ ทำไมแม่ถึงใจร้ายแบบนี้ล่ะ แม่ไม่เคยมาเยี่ยมฉันเลย แม่รู้ไหมว่าฉันต้องทนทุกข์ทรมานแค่ไหนในนั้น”
หล่อนเขียนจดหมายถึงเซี่ยหลานมากมายหลายฉบับ ขอร้องให้เซี่ยหลานช่วยเหลือหล่อน หาทนายมาอุทธรณ์ให้หล่อนเพื่อลดโทษลงสักไม่กี่ปี ไม่อย่างนั้นหล่อนคงต้องใช้ชีวิตที่เหลือในคุกแล้ว
แต่เซี่ยหลานไม่เคยตอบจดหมายหล่อนสักครั้ง อีกทั้งหล่อนยังไม่ได้รับข่าวว่าเซี่ยหลานจะหาทนายมาอุทธรณ์ให้ตนด้วย
เซี่ยหลานยังไม่ทันได้เอ่ยปาก เสิ่นอวี้หลงมองผู้หญิงที่กำลังร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหลพราก แล้วพูดเสียงเย็นว่า “เธอบอกว่าทนทุกข์ในนั้นงั้นเหรอ? เสิ่นอวี้อิ๋ง นี่มันไม่ใช่สิ่งที่เธอก่อขึ้นเองหรอกหรือ?”
เสิ่นอวี้อิ๋งจริงๆ แล้วจำเสิ่นอวี้หลงได้ตั้งแต่แรกเห็น แต่หล่อนไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขา จึงแกล้งทำเป็นไม่สนใจและใช้เสียงร้องไห้เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจและเรียกร้องความเห็นใจ
แต่ไม่คิดว่าเซี่ยหลานและเสิ่นอวี้หลงจะไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย
“อวี้หลง นายคืออวี้หลงใช่ไหม?” เสิ่นอวี้อิ๋งแสร้งทำเป็นดีใจขณะมองเขา “นายเป็นน้องชายของฉัน น้องชายแท้ๆ ของฉัน ฉันอยากรู้ข่าวคราวของนายมาตลอด อยากรู้ว่านายฟื้นขึ้นมาหรือยัง แต่แม่ไม่เคยตอบจดหมายของฉันเลย”
เสิ่นอวี้หลงแค่นหัวเราะเบาๆ “เสิ่นอวี้อิ๋ง เธอคงผิดหวังมากสินะที่เห็นฉัน? ผิดหวังที่ฉันไม่ตายจากยาพิษของเธอ”
เสิ่นอวี้อิ๋งร้องไห้น้ำตานองหน้า พร่ำอธิบาย “อวี้หลง นั่นเป็นความเข้าใจผิดทั้งนั้น ฉันถูกใส่ร้าย ฉันเป็นพี่สาวแท้ๆ ของนาย นายเป็นน้องชายแท้ๆ ของฉัน ฉันจะวางยาพิษนายได้ยังไง? เรื่องนี้มันมีพิรุธ มีคนตั้งใจใส่ร้ายฉัน ส่งฉันเข้าคุก แล้วก็ยุให้พี่น้องเราแตกคอกัน คนคนนั้นช่างโหดร้าย นายอย่าหลงเชื่อหล่อนเลยนะ”
วันนี้เสิ่นอวี้อิ๋งได้พบกับเซี่ยหลานแล้ว จึงจำเป็นต้องยึดหล่อนไว้เป็นฟางเส้นสุดท้าย “แม่คะ ฉันขอร้องแม่ช่วยหาทนายให้หน่อย ฉันอยากอุทธรณ์ ฉันถูกใส่ร้าย ชีวิตฉันไม่อาจใช้เวลาทั้งหมดอยู่ในคุกได้นะคะ”
“พอเถอะ เลิกแสดงได้แล้ว” เสิ่นอวี้หลงมองหล่อนด้วยสายตาเยาะเย้ย แล้วพูดเสียงเบา “เธอช่างไร้ยางอายยิ่งกว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีก”
“เธอรู้ไหมว่าทำไมพวกเรามาที่นี่วันนี้?” เสิ่นอวี้หลงยิ้มเยาะ “พวกเราไม่ได้มาฟังเรื่องพวกนี้หรอก ฉันแค่อยากมาดูว่าผู้หญิงที่มีจิตใจโหดเหี้ยมพอที่จะทำร้ายน้องชายแท้ๆ ของตัวเองจนถึงตายนั้นหน้าตาเป็นยังไง”
“ขนาดตอนที่ฉันนอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่นั้น เธอยังไม่ปล่อยฉันไป ตอนนี้เห็นฉันฟื้นตัวได้ดีขนาดนี้ คงผิดหวังมากสินะ?”
“ฉันก็แค่อยากให้เธอผิดหวังและเจ็บปวด”
เสิ่นอวี้หลงมองผู้หญิงที่อยู่อีกฝั่งของกระจก พูดแทงใจดำหล่อนตรง ๆ “อีกอย่าง พวกเราไม่เลี้ยงลูกนอกสมรสที่เธอคลอดออกมาหรอก พวกเราโยนให้หลิวจื้อหมิงไปแล้ว ดูเหมือนหลิวจื้อหมิงจะโยนทิ้งอีกที หลิวจื้อหมิงกำลังจะแต่งงานแล้ว แฟนของเขามีลูกอยู่แล้ว เขาไม่ได้จริงใจกับเธอเลย เขาแค่ใช้เธอเป็นบันไดก้าวขึ้นไป พอหมดคุณค่าก็เตะทิ้ง เข้าใจไหม?”
เสิ่นอวี้หลงเอ่ยอย่างโหดร้าย แทงใจดำทุกประโยค แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ คำพูดเหล่านี้ไม่สามารถกระตุ้นเสิ่นอวี้อิ๋งได้เลย
ประการแรก เสิ่นอวี้อิ๋งมีแต่ความรังเกียจไม่มีความรักต่อลูกสาวที่เธอให้กำเนิดมา
นอกจากนี้ หล่อนก็ไม่ได้สนใจ หลิวจื้อหมิง มากนัก
สิ่งที่หล่อนกังวลมากที่สุดตอนนี้ไม่ใช่คนภายนอกเหล่านั้น แต่เป็น…
เมื่อใดหล่อนจะได้ออกไป?
การถูกตัดสินว่าบริสุทธิ์นั้นเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ให้เซี่ยหลานพยายามช่วยหล่อนอุทธรณ์เพื่อพิจารณาคดีใหม่
เสิ่นอวี้อิ๋งขอร้องมากมาย แต่เซี่ยหลานกลับไม่พูดอะไรสักคำ
หัวใจของเสิ่นอวี้อิ๋งหล่นวูบ มองหญิงสาวที่ถือโทรศัพท์อยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย แล้วรีบวิงวอน “แม่คะ พูดอะไรสักคำสิ แม่ช่วยหนูได้ไหม หนูไม่ได้ทำผิดอะไรร้ายแรงขนาดนั้น หนูไม่อยากติดคุกไปทั้งชีวิต”
ในที่สุดเซี่ยหลานก็เอ่ยปาก “นี่คือการลงโทษที่เธอสมควรได้รับ ถ้าอยากออกมาเร็วๆ ก็ทำตัวดีๆ พยายามขอผ่อนผันโทษกับทางเรือนจำเอาเองแล้วกัน”
การอุทธรณ์คงเป็นไปไม่ได้แล้ว
เซี่ยหลานรู้สึกสับสนและเจ็บปวด สีหน้าโหดเหี้ยมและเย็นชาของเสิ่นอวี้หลงเมื่อครู่ที่มีต่อเสิ่นอวี้อิ๋ง ทำให้หล่อนรู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
หล่อนรู้ว่าเสิ่นอวี้หลงเกลียดเสิ่นอวี้อิ๋ง เขาบอกว่าอยากเห็นว่าเสิ่นอวี้อิ๋งหน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่ และหล่อนรู้ดีว่าเขาจะต้องด่าทอเสิ่นอวี้อิ๋งอย่างแน่นอน
สิ่งนี้ทำให้หล่อนนึกถึงใบหน้าของเสิ่นเถี่ยจวินโดยไม่รู้ตัว
นี่คือความล้มเหลวในการอบรมสั่งสอนของหล่อน
ลูกทั้งสองคนของหล่อนมาพบกันครั้งแรกในสถานการณ์เช่นนี้ด้วยวิธีการแบบนี้ มันทำให้หล่อนรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกมีดกรีดหัวใจ
วันนี้ไม่ควรมาเลย
เวลาเยี่ยมยังไม่หมด แต่เซี่ยหลานลุกขึ้นยืนแล้ว พร้อมกับส่งสัญญาณให้เสิ่นอวี้หลงออกไปกับเธอ
เสิ่นอวี้อิ๋งร้องไห้โวยวายขอร้องเซี่ยหลาน หวังว่าหล่อนจะช่วยตัวเอง
เสิ่นอวี้หลงหันกลับมา ยิ้มมุมปากให้เธอ แล้วค่อยๆ เอ่ยสองคำ
เสิ่นอวี้หลงมองเห็นรูปปากของเขาชัดเจน นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าซีดเผือด หัวใจจมดิ่งลงสู่ก้นเหว
หล่อนมองเห็นชัดเจนว่าเสิ่นอวี้หลงมองหล่อนด้วยสายตาเยาะเย้ย แล้วพูดว่า “ฝันไปเถอะ”
ชีวิตทั้งชีวิตของหล่อนจะต้องอยู่ในคุกเท่านั้น
ชีวิตของหล่อนจบลงแค่นี้แล้ว
……..
วันนี้เสิ่นอวี้หลงมาเยี่ยมเสิ่นเถี่ยจวินพ่อของเขาตามคำขอของคุณปู่
พ่อลูกคู่นี้รวมทั้งเสิ่นเสี่ยวเหมยถูกขังอยู่ในเรือนจำเดียวกัน อีกสักครู่ก็จะสามารถเข้าไปเยี่ยมได้
เซี่ยหลานบอกว่าตัวเองจะรออยู่ข้างนอก ให้เสิ่นอวี้หลงเข้าไปคนเดียว
“แม่…”
เสิ่นอวี้หลงอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกเซี่ยหลานขัดจังหวะ “อวี้หลง ลูกโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว มีบางเรื่องที่ลูกควรจะเผชิญหน้าด้วยตัวเองได้แล้ว อย่าทำให้แม่ลำบากใจเลย”
ท่าทีของเซี่ยหลานชัดเจนมาก เสิ่นอวี้หลงสามารถเข้าไปเยี่ยมเสิ่นเถี่ยจวินได้เพียงคนเดียวเท่านั้น
เซี่ยหลานนั่งอยู่นอกเรือนจำเมืองไห่เฉิง ในหัวยังคงวนเวียนอยู่กับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องเยี่ยมเมื่อครู่นี้
ทุกคำพูดของเสิ่นอวี้หลง ทุกสีหน้าที่ดุดัน รวมถึงเสียงร้องไห้ของเสิ่นอวี้อิ๋ง ล้วนยังคงอยู่ในความคิดของหล่อนไม่จางหาย
ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา เสิ่นอวี้หลงก็กลับมา
คุณปู่บอกให้เขาไปเยี่ยมเสิ่นเสี่ยวเหมยด้วย แต่เสิ่นอวี้หลงไม่มีความตั้งใจจะทำเช่นนั้น
ตลอดทาง เสิ่นอวี้หลงไม่ได้พูดอะไรเลย เซี่ยหลานรู้ว่าเขาอารมณ์ไม่ดี จึงไม่ได้รบกวนเขา แม่ลูกทั้งสองนั่งรถกลับบ้าน ซึ่งก็เป็นช่วงบ่ายแล้ว
ทันทีที่เข้าประตูบ้าน เสิ่นอวี้หลงจู่ๆ ก็หันไปถามเซี่ยหลานว่า “แม่ครับ แม่กับเซี่ยเหลยพ่อของหลินเซี่ยมีความสัมพันธ์ยังไงต่อกันในอดีต?”
คำถามกะทันหันของเสิ่นอวี้หลงทำให้เซี่ยหลานที่เพิ่งเปิดประตูเข้าบ้านเกือบเสียหลัก หล่อนลื่นไถลเล็กน้อย แต่ก็พอจะเกาะกรอบประตูไว้ได้ทัน
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หมดสิทธิ์ออกแล้วยัยอวี้อิ๋ง อยู่ในคุกไปนั่นแหละ
เซี่ยหลานเจอแต่เรื่องหนักๆ ในวันเดียว จิตใจต้องเข้มแข็งขนาดไหน
ไหหม่า(海馬)