ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 844 คุณอยากมีลูกหรือ
ตอนที่ 844 คุณอยากมีลูกหรือ
หวังซิ่วฟางยกแก้วน้ำขึ้นจิบอีกครั้ง ใบหน้าฉายแววอึดอัดใจพร้อมรอยยิ้มฝืนๆ อธิบายว่า “ฉันแต่งงานกับเหล่าเจียง เราต่างคนต่างมีลูกสาวติดมาคนละคน ติดแค่ว่าพวกเรายังไม่มีลูกด้วยกัน ฉันกลัวว่าถ้าไม่มีสายสัมพันธ์ระหว่างเรา เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ อาจจะเกิดความห่างเหินกันขึ้นมาได้”
หล่อนพูดต่อ “เหล่าเจียงก็มีแค่อวี่เฟยเป็นลูกสาวคนเดียว ไม่มีลูกชายสักคน มันดูไม่สมบูรณ์ ฉันเลยอยากให้กำเนิดลูกชายให้เขาสักคน”
คำพูดนี้หวังซิ่วฟางไม่เคยบอกใครมาก่อน
แม้แต่กับเจียงกั๋วเซิ่งหล่อนก็ไม่กล้าพูด
เพราะตอนที่พวกเขาแต่งงานกัน ทั้งสองคนได้ตกลงกันว่าพวกเขาต่างก็มีลูกอยู่แล้ว จึงจะไม่มีลูกด้วยกันอีก
เพียงสร้างครอบครัวและมอบบ้านที่สมบูรณ์ให้กับลูกสาวทั้งสองคนก็พอแล้ว
แต่ตอนนี้หวังซิ่วฟางกลับเปลี่ยนใจ
หล่อนเป็นผู้หญิงที่มีความคิดแบบดั้งเดิม ในความคิดของหล่อน จุดสูงสุดของการแต่งงานก็คือการมีลูก
ในอนาคตหากไม่มีลูกร่วมกัน การทะเลาะเบาะแว้งและความขัดแย้งอาจทำให้พวกเขาแยกทางกันได้
แต่ถ้ามีลูกด้วยกันมันก็จะต่างออกไป
เมื่อมีลูก พวกเขาจึงจะถือว่าเป็นสามีภรรยาที่แท้จริง เป็นคู่ครองที่แท้จริง
เจียงอวี่เฟยกับเสี่ยวฮวาของหล่อนก็จะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในอนาคต เพราะมีญาติร่วมกัน
หล่อนจำเป็นต้องสร้างสิ่งที่เชื่อมโยงเด็กหญิงสองคนเข้าด้วยกัน
นั่นก็คือการมีลูก
ดีที่สุดคือการมีลูกชาย
สำหรับคำถามของหวังซิ่วฟาง หลินเซี่ยต้องบอกว่าเธอไม่สามารถให้คำแนะนำใด ๆ ได้ จึงโบกมือปัด “เรื่องนี้อย่าถามฉันเลย คุณไปปรึกษากับลุงเจียงของฉันดีกว่า และความคิดเห็นของอวี่เฟยก็สำคัญมาก อย่าทำอะไรหุนหันพลันแล่นเด็ดขาด”
เรื่องใหญ่อย่างการมีลูกแบบนี้ มาถามเธอซึ่งเป็นคนนอก เธอจะกล้าให้คำแนะนำได้อย่างไร?
หลินเซี่ยเตือนหล่อนว่า “อีกอย่างหนึ่ง ตอนนี้ยังมีนโยบายวางแผนครอบครัวอยู่ พวกคุณต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย พวกคุณทั้งคู่เป็นพนักงานของรัฐ ควรทำความเข้าใจนโยบายให้ชัดเจนก่อนค่อยตัดสินใจ”
“งั้นคุณกลับไปปรึกษากับครอบครัวดูก่อนนะ ตกลงกันให้ดีแล้วค่อยมีลูก”
ตามหลักแล้ว การที่หวังซิ่วฟางมีความต้องการแบบนี้ในวัยนี้ก็ไม่ได้เกินไปเลย
หล่อนอายุแค่ต้นสามสิบ ยังสามารถมีลูกได้อย่างแน่นอน
หลินเซี่ยเข้าใจความรู้สึกของหล่อนดี
หากหล่อนไม่ได้ให้กำเนิดบุตรให้กับเจียงกั๋วเซิ่ง หล่อนก็จะรู้สึกไม่มั่นคงในครอบครัวนั้น
การมีลูกจะทำให้ครอบครัวนั้นเป็นครอบครัวที่แท้จริงของเธอ
แต่…
น่ากลัวว่าเจียงกั๋วเซิ่งจะไม่ยินยอม
แม้ว่าเขาจะเห็นด้วย เจียงอวี่เฟยก็อาจจะยังมีความคิดอื่นอยู่ในใจ
หวังซิ่วฟางพยักหน้า “ได้ เดี๋ยวฉันจะลองคุยกับเหล่าเจียงดู ว่าเขาจะว่ายังไง”
………
หลินเซี่ยได้รับข่าวของเสิ่นเสี่ยวอวี้แล้ว แต่เธอไม่ได้บอกเซี่ยหลานในทันที
เธออาจจะมีความคิดที่มืดมนชั่วร้ายอยู่บ้างในเรื่องนี้
เธอกลัวว่าเซี่ยหลานจะไม่ยอมปล่อยเสิ่นเสี่ยวอวี้ไป และจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อตามหาหล่อน
ถ้าตามหา ก็จะสามารถตามรอยไปเจอได้ง่าย ๆ
หลินเซี่ยนึกถึงภาพในชาติก่อนที่ปีศาจน้อยถอดหน้ากากออกซิเจนของเธอ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธแค้น สีหน้าดูมืดมน
เสิ่นเสี่ยวอวี้ถูกขายไปแล้ว นี่แหละที่เรียกว่าคนชั่วย่อมพบกับคนชั่วด้วยกัน
ถึงอย่างไรปีศาจน้อยก็มีความทรงจำจากชาติก่อน ถ้าหล่อนสามารถมีชีวิตรอดได้ น่ากลัวว่าเธอคงจะสามารถตามหาได้อย่างมากก็แค่ไม่กี่ปี
เมื่อถึงเวลานั้น จึงจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเผชิญหน้ากันอย่างแท้จริง
หลินเซี่ยใช้เวลาช่วงนี้ดูแลลูก และโทรหาเฉินเจียวั่งไปด้วย
เธอหวังว่าอาคารของโรงเรียนที่เธอสร้างขึ้นนี้จะได้รับการออกแบบและวางแผนโดยเฉินเจียวั่งผู้มีความสามารถสูงจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์
พอหลินเซี่ยพูดจบ เฉินเจียวั่งก็ตกตะลึงในตอนแรก
เขาคิดว่าหลินเซี่ยกำลังล้อเล่น
เมื่อยืนยันแล้วว่าหลินเซี่ยจะมอบภารกิจสำคัญนี้ให้เขาจริงๆ ดวงตาของเฉินเจียวั่งก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที
เขามองหลินเซี่ยด้วยสายตาเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง
ไม่คิดว่าหลินเซี่ยจะเชื่อใจเขาถึงเพียงนี้
“มีความมั่นใจไหม?” เธอมองเขาและถามพร้อมรอยยิ้ม
“จะว่ามีก็มีอยู่…” เฉินเจียวั่งทำหน้าลังเล มองเธอและถามว่า “ทำไมถึงมอบให้ผมล่ะ?”
“นายไม่ได้เรียนมาทางนี้หรอกเหรอ? เรียนมานานขนาดนี้แล้ว ใกล้จะฝึกงานแล้ว แต่ทำแผนผังออกแบบง่ายๆ แค่นี้ยังทำไม่ได้เหรอ?”
เฉินเจียวั่งรีบตอบว่า “แน่นอนว่าทำได้ครับ”
หลินเซี่ยยิ้มและพูดว่า “งั้นก็ตกลงตามนี้ กลับไปหาเวลาว่างทำออกมา พอทำเสร็จแล้วเอามาให้พวกเราดูหน่อย อาจจะต้องใช้เร็วๆ นี้แล้ว”
“งั้นผมต้องไปวัดขนาดที่ดินก่อน แล้วคุณช่วยบอกความต้องการและแผนของพวกคุณหน่อย ผมจะได้ออกแบบตามที่พวกคุณต้องการ”
“ได้ เดี๋ยวฉันจะพาอารองของฉันพานายไปวัดและวางแผนที่หน้างานเอง”
เซี่ยไห่ถือโอกาสที่ช่วงนี้ยังไม่มีหิมะตก จัดหารถแทรกเตอร์มาแล้ว และยังจ้างคนงานมาอีกสองสามคน ใช้เวลาสองวันในการปรับพื้นที่ฟาร์มไก่ให้เรียบ
จากนั้น เขาก็ปรึกษากับหลินเซี่ย บอกว่าตั้งใจจะขุดฐานรากเพื่อเริ่มงานก่อสร้าง
เซี่ยไห่กระตือรือร้นอย่างเห็นได้ชัด แต่หลินเซี่ยกลับมีความกังวล “อารอง ตอนนี้อากาศหนาวมากดินก็แข็งไปหมดแล้ว การขุดฐานรากคงจะเหนื่อยมากนะคะ?”
เซี่ยไห่มีท่าทีเด็ดเดี่ยว “ไม่ต้องสนใจว่าจะเหนื่อยหรือเปล่า พวกเราต้องขุดให้ได้ พอขุดเสร็จแล้วก็ไม่ต้องสนใจมันอีก”
หลินเซี่ยเข้าใจความหมายของเซี่ยไห่ ที่จริงแล้วก็คือการประกาศสิทธิ์ในที่ดินนั่นเอง
ถ้าเดาไม่ผิด หวังเว่ยตงคงจะได้รับจดหมายจากคุณยายหวังเรื่องขายฟาร์มไก่ และจะรีบกลับมาในไม่ช้า
แม้จะมีสัญญาที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ก็กลัวว่าเขาจะไม่ยอมรับเหตุผล
หลินจินซานที่มาพร้อมกับเซี่ยไห่รู้เรื่องพวกนี้ดี “ไปประกาศหาที่ตลาดสดได้เลย ที่นั่นมีคนงานชั่วคราวที่กำลังหางานทำรวมตัวกันอยู่ เราจะเอากี่คนก็เลือกได้ตามใจ”
คนงานที่ทำงานในฤดูหนาวทยอยกลับบ้านเกิดกันหมดแล้ว การขุดฐานรากไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมาก แค่มีแรงก็พอ
คนงานแบบนี้หาไม่ยากหรอก
หลินเซี่ยพยักหน้า “งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้เฉินเจียวั่งรีบวาดแบบแปลนออกมา เราจะได้ลงมือขุดดินกันก่อน”
แท้จริงแล้ว เซี่ยไห่ไม่เห็นด้วยกับการให้เฉินเจียวั่งเป็นคนวาดแบบแปลน
เขาไม่ค่อยเชื่อมั่นในฝีมือของเฉินเจียวั่งเท่าไร
อย่างน้อยในตอนนี้ เฉินเจียวั่งก็เป็นแค่นักศึกษาสถาปัตย์ที่ยังเรียนไม่จบ
ไม่มีประสบการณ์การทำงานเลยสักนิด
การมอบหมายงานสำคัญขนาดนี้ให้เขาทำ ดูจะเป็นการตัดสินใจที่ใจร้อนเกินไป
นี่เป็นโครงการใหญ่ ไม่ใช่เด็กๆ เล่นขายของ
“เซี่ยเซี่ย เจ้าสามเฉินไม่มีประสบการณ์การทำงานเลยสักนิด ฉันเข้าใจความลำบากของเธออยู่ เอาแบบนี้ดีไหม พวกเราลองหาผู้เชี่ยวชาญมาทำแบบร่างอีกชุดหนึ่ง เผื่อไว้ใช้เป็นตัวสำรอง”
“อารอง เชื่อใจเฉินเจียวั่งเถอะค่ะ”
หลินเซี่ยเชื่อมั่นในความสามารถของเฉินเจียวั่งอย่างไร้ข้อกังขา
เขามีพรสวรรค์และขยันขันแข็งมาก จึงต้องไม่มีปัญหาแน่นอน
อีกอย่างหนึ่ง เรื่องแบบแปลนการก่อสร้างอาคารก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ในช่วงการก่อสร้างภายหลัง
เมื่อถึงเวลานั้น จะมีบริษัทก่อสร้างมืออาชีพมารับงานต่อ
เฉินเจียวั่งเพียงแค่ต้องออกแบบแปลนเท่านั้น
เห็นหลินเซี่ยตัดสินใจแล้ว เซี่ยไห่ก็บ่นอย่างหงุดหงิด “เอาสิ เธออยากทำอะไรตามใจชอบก็ทำไปเถอะ”
หลินเซี่ยพยายามปลอบเซี่ยไห่ ขอให้เขาใจเย็นๆ ก่อน รอให้เฉินเจียวั่งทำแบบออกมาก่อน แล้วพวกเขาค่อยดูกัน ถ้าตอนนั้นรู้สึกว่าไม่ดีพอ ก็ยังแก้ไขได้ทัน
หลินเซี่ยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เซี่ยไห่จึงไม่สามารถเถียงเธอได้เลย
เฉินเจียเหอก็สนับสนุนให้เฉินเจียวั่งรับงานออกแบบอาคารโรงเรียนอย่างเต็มที่
แต่เซี่ยไห่ก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี
เขารู้สึกว่าเฉินเจียวั่งเรียนรู้แค่จากตำราเท่านั้น ไม่มีทางทำงานชิ้นนี้สำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว
เฉินเจียวั่งใช้เวลาเพียงสองวันเท่านั้น ก็นำแบบแปลนการออกแบบมาเสนอต่อหน้าพวกเขา
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เรื่องมีลูกเป็นเรื่องใหญ่ ตัดสินใจให้ดีๆ เลยพี่สาวหวัง
เจียวั่งจะทำให้ทุกคนประหลาดใจได้หรือเปล่าน้า
ไหหม่า(海馬)