ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 845 เรื่องน่ายินดีที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
ตอนที่ 845 เรื่องน่ายินดีที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
………………..
ตอนที่ 845 เรื่องน่ายินดีที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
เฉินเจียวั่งยังได้จัดทำงบประมาณอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นแบบจำลองอาคาร แบบแปลน หรือรายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณเหล็ก ปูนซีเมนต์ ทราย และอิฐที่ต้องใช้ในการก่อสร้างตึกหลังนี้
ความจริงแล้วเซี่ยไห่เองก็ไม่เข้าใจแบบแปลน และยิ่งไม่เข้าใจสูตรและพารามิเตอร์ทางเทคนิคต่างๆ ที่ระบุไว้บนนั้น
หลินเซี่ยก็ไม่ค่อยเข้าใจเช่นกัน จึงต้องส่งต่อให้เฉินเจียเหอ
เฉินเจียเหอถือแบบแปลนขึ้นมาดูอย่างมืออาชีพ จากนั้นก็เริ่มหารือกับเฉินเจียวั่ง
และเขาก็ได้เข้าใจถึงความสามารถของเฉินเจียวั่งมากขึ้นอีกระดับหนึ่งผ่านแบบแปลนนี้
ก่อนหน้านี้เขาคิดเหมือนเซี่ยไห่ว่าน้องชายคนเล็กยังอยู่ในช่วงฝึกงาน ยังไม่ได้ลงสนามทำงานจริงๆ มีแต่ทฤษฎีล้วนๆ ตอนนี้คงไม่กล้าให้เขารับผิดชอบงานใหญ่
พอตอนนี้ถือแบบแปลนในมือ เฉินเจียเหอก็ตบไหล่เขาเบาๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจที่ซ่อนไม่มิด
เฉินเจียวั่งได้รับการยอมรับจากพี่ใหญ่ จึงเชิดหน้าขึ้นมองเซี่ยไห่อย่างท้าทายและหยิ่งผยอง
พี่น้องทั้งสองคุยกันอย่างมืออาชีพมาก ตั้งแต่โครงสร้างไปจนถึงสัดส่วนการใช้คอนกรีต รวมถึงความสูงของแต่ละชั้น เฉินเจียวั่งที่ปกติเงียบขรึมไม่ค่อยพูด พอได้พูดถึงเรื่องในสาขาวิชาชีพของเขา กลับพูดได้คล่องแคล่วราวกับสายน้ำ
ส่วนหลินเซี่ยไม่คิดว่าเฉินเจียเหอที่สร้างรถไฟจะเข้าใจแผนผังงานวิศวกรรมได้ดีขนาดนี้ เธอมองเฉินเจียเหอด้วยสายตาเต็มไปด้วยความชื่นชม
เขาอธิบายแผนผังที่ตัวเองทำให้หลินเซี่ยและคนอื่นๆ ฟัง หลินเซี่ยก็พยักหน้าหงึกๆ ตาม แต่เดิมเธอไม่ค่อยเข้าใจแผนผังนี้เท่าใด แต่พอเฉินเจียวั่งอธิบายแบบนี้ เธอก็เข้าใจแล้ว แบบแปลนนี้ได้วางแผนตามความต้องการของเธอทั้งหมด
ดูดีมาก
ในระหว่างที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่นั้น เฉินเจียวั่งก็ได้รับโทรศัพท์จากครูที่โรงเรียน เขาจึงรีบออกไปอย่างเร่งรีบ
“เจียเหอ เป็นยังไงบ้าง?” ทันทีที่เฉินเจียวั่งจากไป เซี่ยไห่ก็พูดตรงๆ มากขึ้น “นี่เป็นโครงการใหญ่ ในภายหลังฉันก็ต้องลงทุนด้วย พวกเราต้องจริงจังหน่อย ไม่ใช่เล่นกันเหมือนเด็กๆ น้องชายของนายไว้ใจได้หรือเปล่า?”
เฉินเจียเหอมองดูแบบแปลนที่เฉินเจียวั่งทิ้งไว้ แล้วตอบว่า “ผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาก ถ้ายังไม่วางใจ เราอาจจะส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทของเถ้าแก่อู๋ดูก็ได้ หรือไม่ก็ให้บริษัทก่อสร้างรับเหมาไปเลย พวกเขามีผู้เชี่ยวชาญอยู่แล้ว”
ตอนนี้เซี่ยไห่ไว้วางใจอู๋เซิ่งหงมาก เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเจียเหอ เขาก็แสดงความเห็นด้วยกับข้อเสนอนั้น “งั้นก็ให้ผู้เชี่ยวชาญจากฝั่งของอู๋เซิ่งหงมาดูแล้วกัน”
แน่นอนว่าอู๋เซิ่งหงตอบรับข้อเรียกร้องของเซี่ยไห่อย่างกระตือรือร้น
เขาบอกว่าจะให้คนออกเดินทางมาทันที โดยให้บินมา ค่าใช้จ่ายเขาออกเอง ให้เซี่ยไห่ส่งคนไปรับก็พอ
เซี่ยไห่ทำงานอย่างขยันขันแข็ง รอจนกระทั่งช่างเทคนิคที่อู๋เซิ่งหงส่งมาถึง ก็มอบแบบร่างที่เฉินเจียวั่งทำให้กับอีกฝ่ายทันที
วิศวกรที่อู๋เซิ่งหงส่งมาชื่อเสี่ยวจาง เป็นชายวัยสามสิบปีที่สายตาสั้นถึงแปดร้อย เขาหย่อนตัวนั่งลงบนเตียงในโรงแรม สวมแว่นตาหนาเตอะ ยกแบบร่างขึ้นมาดูใกล้ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พลางกล่าวว่า “แบบร่างนี้ทำมาอย่างมืออาชีพมาก แต่ยังคงต้องประเมินจากพื้นที่จริงและความต้องการของหัวหน้าอีกครั้ง”
ตอนที่มาจากเซินเจิ้น เขาก็แบกอุปกรณ์ติดตัวมาด้วย และตามเซี่ยไห่ไปที่ไซต์งานเพื่อทำการสำรวจ
สุดท้ายเขาได้ฟังหลินเซี่ยอธิบายความคิดและแผนการออกแบบของเธอ
จากนั้นเขาก็ได้ข้อสรุปว่า
“เถ้าแก่เซี่ย ผมฟังเถ้าแก่หลินอธิบายแล้ว ผมคิดว่าแบบร่างนี้ทำได้ดีมาก จากประสบการณ์ที่ผ่านมาของผม การประมาณการวัสดุเหล่านี้ค่อนข้างแม่นยำ โดยพื้นฐานแล้วจะไม่มีความคลาดเคลื่อนมากนัก”
หลินเซี่ยเคยเห็นตึกสูงสวยงามทันสมัยในอนาคตมาแล้ว ดังนั้นเธอจึงเสนอข้อกำหนดให้เฉินเจียวั่งออกแบบรูปแบบและสไตล์ของอาคารตามความคิดของเธอเอง
เมื่อได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญ เฉินเจียเหอและหลินเซี่ยต่างก็เผยรอยยิ้มอย่างภาคภูมิใจบนใบหน้า
หลินเซี่ยมองไปที่เซี่ยไห่ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อารอง ฉันบอกแล้วไงคะว่าไม่มีปัญหา”
ช่างเทคนิคจางก็รู้สึกสงสัยเช่นกัน ในเมื่อที่นี่มีสถาปนิกมืออาชีพอยู่แล้ว ทำไมถึงยังให้เขาเดินทางมาอีก
หลังเซี่ยไห่ได้รับการยืนยันกับเสี่ยวจางอีกครั้งว่าแผนผังที่เฉินเจียวั่งทำไว้ไม่มีปัญหาอะไร เขาก็อดชื่นชมไม่ได้ “ดูเหมือนว่าลูกชายคนที่สามของตระกูลเฉินจะประสบความสำเร็จในด้านนี้จริง ๆ”
ในช่วงฤดูหนาว นอกจากคนทำงานประจำแล้ว ประชาชนที่ทำงานอิสระหรือรับจ้างทั่วไปส่วนใหญ่ก็หยุดพักงานกันหมด
เซี่ยไห่สั่งให้หลินจินซานหาคนงานมา เพื่อเตรียมขุดฐานราก
สองสามวันนี้ เซี่ยไห่ไม่ได้สนใจเรื่องห้องเต้นรำเลย เขาอยู่ที่บ้านของหลินเซี่ยทั้งวัน ปรึกษาหารือกับเธอเกี่ยวกับการวางแผนสร้างโรงเรียน
ตอนนี้เซี่ยไห่สนใจธุรกิจก่อสร้างมาก เขาต้องการใช้โครงการสร้างโรงเรียนเล็ก ๆ นี้เป็นการฝึกฝน เพื่อในอนาคตจะได้ลงทุนในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น
ห้องเต้นรำเป็นธุรกิจบริการด้านความบันเทิง มีปัจจัยที่ไม่แน่นอนมากมาย เมืองไห่เฉิงมีห้องเต้นรำหลายแห่งที่เลียนแบบพวกเขา และยังเปิดคาราโอเกะด้วย การแข่งขันจึงค่อนข้างดุเดือด
ขณะที่หลินเซี่ยกำลังกดเครื่องคิดเลข โทรศัพท์บ้านก็ดังขึ้น
เป็นสายมาจากชุมชนบ้านพักทหาร
หลินเซี่ยรับสายแล้วก็ได้ยินเสียงตื่นเต้นของผู้เฒ่าเฉิน “ฮัลโหล เซี่ยเซี่ย!”
“คุณปู่คะ ทำไมถึงโทรมาล่ะคะ? มีอะไรหรือเปล่า?” หลินเซี่ยพอได้ยินน้ำเสียงของคุณปู่ ก็รู้ทันทีว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ
และดูเหมือนจะเป็นเรื่องดีด้วย
“มีสิ เป็นเรื่องน่ายินดีมากๆ เลยล่ะ!” ผู้เฒ่าเฉินพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นมากขึ้นอีกหลายเท่า “บ้านเรามีเรื่องน่ายินดีใหญ่โตเลยนะ!”
คุณปู่เน้นย้ำถึงเรื่องน่ายินดีอยู่เรื่อย ทำให้หลินเซี่ยรู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา “คุณปู่คะ เรื่องน่ายินดีอะไรเหรอคะ? เล่าให้ฟังหน่อยสิคะ”
“เจียเหอเลิกงานแล้วใช่ไหม? พวกเธอรีบกลับบ้านมาเร็ว ฉันจะส่งรถไปรับพวกเธอ”
หลินเซี่ยได้ยินคำพูดของคุณปู่แล้วรู้สึกสงสัยเต็มไปหมด
ทำไมถึงต้องฝ่าฝืนหลักการส่งรถมารับด้วยล่ะ?
หลินเซี่ยพูดว่า “คุณปู่คะ ไม่ต้องมารับฉันหรอกค่ะ อารองของฉันอยู่ที่นี่พอดี เขาไปส่งพวกเราได้”
ผู้เฒ่าเฉินได้ยินว่าเซี่ยไห่ก็อยู่ด้วย เขาจึงเชิญชวนอย่างกระตือรือร้น “งั้นก็ให้อารองของหลานมาด้วยสิ ต้องให้เขามานะ วันนี้พวกเราจะได้กินข้าวฉลองด้วยกัน”
หลินเซี่ยเดิมทีคาดเดาว่าอาจจะเป็นเพราะหยางหงเสียตั้งครรภ์อย่างกะทันหัน ผู้สูงอายุถึงได้ดีใจขนาดนี้ แต่พอคุณปู่พูดถึงการเชิญอารองของเธอ เธอก็รู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องของหยางหงเสีย
เรื่องแบบนี้แค่ฉลองกันในครอบครัวก็พอแล้ว ไม่น่าจะเชิญอารองของเธอเป็นพิเศษหรอก
“ได้ค่ะ ฉันจะถามอารองดู ถ้ามีเวลาก็จะไปนะคะ”
หลังจากวางสาย เฉินเจียเหอก็รู้สึกสงสัยเช่นกัน ที่บ้านจู่ๆ มีเรื่องน่ายินดีอะไรกัน?
“จะเป็นไปได้ไหมว่าเจ้ารองทำอะไรดีๆ?” เฉินเจียเหอคาดเดา
หลินเซี่ยยิ้มแต่ไม่พูดอะไร เธอไม่คิดว่าเรื่องน่ายินดีนี้เป็นเพราะเฉินเจียซิ่ง
เขาไม่ก่อเรื่องก็ดีแล้ว
“อารอง คุณปู่บอกให้คุณไปร่วมฉลองด้วยนะคะ ไหนๆ คุณก็เข้าไปกินข้าวด้วยเลยไหม วันนี้คุณก็ยุ่งมาทั้งวันแล้ว พอดีฉันจะได้ไม่ต้องทำอาหารด้วย”
“ได้ ฉันจะไปส่งพวกเธอ แล้วก็แวะเข้าไปดูหน่อย” เซี่ยไห่ก็อยากรู้เหมือนกันว่าบ้านเฉินจะมีเรื่องมงคลอะไรเกิดขึ้นกะทันหัน เขาจึงตกลง
ตั้งใจจะตามเฉินเจียเหอและคนอื่นๆ ไปสืบดูให้รู้เรื่อง
หลินเซี่ยสวมเสื้อคลุมให้เสี่ยวหู่ จากนั้นเซี่ยไห่ขับรถพาพวกเขาไปรับหู่จือที่หน้าประตูโรงเรียนประถมก่อน แล้วจึงพากันกลับไปที่ชุมชนบ้านพักทหาร
รถของเซี่ยไห่จอดที่หน้าประตูชุมชนบ้านพักทหาร เฉินเจียเหออุ้มเสี่ยวหู่ลงจากรถ หลินเซี่ยจูงมือหู่จือ ทุกคนเพิ่งปิดประตูรถเสร็จ พอดีกับที่เฉินเจียซิ่งและหยางหงเสียทั้งสองคนก็เดินเข้ามาในชุมชนบ้านพักทหารเช่นกัน
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เกิดเรื่องน่ายินดีอะไรขึ้นกันน้า คุณปู่ถึงได้เรียกประชุมคนทั้งบ้านรวมทั้งเซี่ยไห่มารวมตัวกัน?
ไหหม่า(海馬)