ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 853 ผู้ชายสองคนต่อสู้กัน
ตอนที่ 853 ผู้ชายสองคนต่อสู้กัน
หลินจินซานเดินผ่านหน้าเฉินเจียซิ่งแล้วเดินไปหาหลินเซี่ย ยิ้มตาหยีพลางพูดว่า “เซี่ยเซี่ย พวกเรามาแล้ว”
เฉินเจียซิ่งเดิมทีเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ตั้งใจจะต้อนรับหลินจินซานและคณะ แต่ท่าทางเย็นชาของหลินจินซานกลับทำให้เขารู้สึกหม่นหมองใจ
เขายืนแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น สีหน้าเก้อเขิน
ในขณะเดียวกันก็รู้สึกโกรธนิดหน่อย
หยิ่งอะไรนักหนา
ไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ ของหลินเซี่ยสักหน่อย คิดว่าตัวเองใหญ่มาจากไหน
แต่ด้วยลักษณะงานในปัจจุบันของเฉินเจียซิ่ง แม้เขาจะไม่พอใจพฤติกรรมของหลินจินซานมาก แต่ก็ยังต้องยิ้มแย้มต้อนรับอยู่ดี
เขาไม่อาจระเบิดอารมณ์หรือแสดงสีหน้าไม่พอใจได้ ได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมรอยยิ้มที่ดูฝืนๆ
“พี่ เกิดอะไรขึ้นหรือคะ? ดูท่าทางไม่ค่อยสบายใจ”
หลินจินซานยิ้มอย่างกระตือรือร้น “ไม่มีอะไรหรอก ฉันมาถ่ายรูปพรีเวดดิ้งนะ จะไม่สบายใจได้ยังไงล่ะ?”
เขาจูงมือชุนฟางไปนั่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
หลินเซี่ยมองท่าทางของเขาแล้วก็เข้าใจทันที คนคนนี้ไม่ได้อารมณ์ไม่ดี แต่ตั้งใจทำหน้าบึ้งใส่เฉินเจียซิ่งต่างหาก
โตป่านนี้แล้ว ทำไมถึงได้เด็กอย่างนี้นะ
“เซี่ยเซี่ย จางซ่วนไม่อยู่เหรอ? เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?” หลินจินซานมองไปรอบๆ แล้วถามหลินเซี่ยอย่างจงใจ
หลินเซี่ยมองเขาแวบหนึ่ง แล้วตอบอย่างหงุดหงิด “พี่จะถามถึงเขาทำไม?”
เธอบอกพวกเขาไปตั้งนานแล้วว่าจางซ่วนไม่ได้อยู่ที่ร้านเช่าชุดแต่งงาน
หลินจินซานพูดอย่างจริงจังว่า “เขาเป็นมืออาชีพนะ ฉันก็คิดว่ารูปพรีเวดดิ้งนี้ชีวิตหนึ่งก็ถ่ายแค่ครั้งเดียว ต้องถ่ายให้สวยหน่อย ดูซิว่าจะให้เขาถ่ายให้พวกเราได้ไหม”
หลินเซี่ยได้ยินคำพูดของเขา จึงมองไปทางเฉินเจียซิ่งที่อยู่ไม่ไกล
หลินจินซานคนนี้ช่างไม่รู้จักเสแสร้งเอาเสียเลย เฉินเจียซิ่งก็อยู่ตรงนี้ เขายังจะหาจางซ่วน ยังจงใจแสดงสีหน้าให้คนอื่นเห็น นี่มันเกินไปแล้ว
แน่นอนว่าหลินเซี่ยเข้าใจพี่ชายของเธอ เขามีปัญหากับเฉินเจียซิ่งมาก่อน จึงมีความประทับใจที่ไม่ดีต่อเฉินเจียซิ่งมาตลอด จนถึงตอนนี้ก็ยังคงติดใจอยู่
จึงแสดงออกเป็นการปกป้องเธอ
แต่ตอนนี้ทุกคนเปลี่ยนไปแล้ว เฉินเจียซิ่งเป็นน้องชายของเฉินเจียเหอ ทุกคนเป็นครอบครัวเดียวกัน เขาก็ขอโทษและยอมรับผิดไปนานแล้ว เธอก็ไม่ควรจะยึดติดกับอดีต
ชีวิตต้องดำเนินต่อไปไม่ใช่หรือ?
หลินเซี่ยอธิบายอย่างอดทนว่า
“จางซ่วนไม่ได้กลับมาก่อนปีใหม่แล้ว หลังปีใหม่เขาก็คงไม่ได้ทำงานที่นี่อีก เขาหาตำแหน่งที่เหมาะกับเขามากกว่าได้แล้ว”
จางซ่วนไม่ใช่คนธรรมดา เขาจะอยู่ในร้านเช่าชุดแต่งงานเล็กๆ แบบนี้ไปตลอดได้อย่างไร ที่ผ่านมาเป็นเพียงช่วงเปลี่ยนผ่าน เธอที่รู้จักชื่อเสียงของจางซ่วนจากชาติก่อนจึงเก็บเขาไว้
“โอ้ ไม่กลับมาแล้วหรือ” หลินจินซานได้ยินข่าวนี้แล้วผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด เขาตั้งใจยกระดับน้ำเสียง
“ฉันยังคิดจะให้จางซ่วนถ่ายรูปให้พวกเราอยู่เลย ถ่ายให้ฉันดูหล่อหน่อย ถ่ายให้ชุนฟางดูสวยหน่อย”
หลินจินซานยิ่งวางท่าโอหังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทุกคนสีหน้าไม่ดี หยางหงเสียกับหลินเยี่ยนก็เห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจกระแนะกระแหนเฉินเจียซิ่ง
หลินเซี่ยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ชุนฟางสวยอยู่แล้ว ถ่ายยังไงก็สวย ส่วนพี่ ฉันว่าต่อให้จางซ่วนมาก็คงไม่มีประโยชน์มากนัก”
หลินจินซาน “!!”
“เซี่ยเซี่ย พูดแบบนี้ได้ยังไง ฉันด้อยตรงไหน ถ้าจางซ่วนถ่ายให้ฉัน ต้องถ่ายออกมาหล่อเฟี้ยวแน่นอน ส่วนคนอื่นก็ไม่แน่”
หน้าตาของเขาไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ถ้าถ่ายออกมาน่าเกลียดกว่านี้อีก ก็คงดูไม่ได้เลย
เขากลัวจริงๆ ว่าถ้าถ่ายรูปพรีเวดดิ้งออกมา เขากับชุนฟางจะเป็นคู่สาวงามกับอสูร
เฉินเจียซิ่งพยายามควบคุมตัวเองมาตลอด ไม่ได้ตั้งใจจะพูดอะไร แต่เมื่อได้ยินหลินจินซานพูดจาประชดประชันเรื่องฝีมือการถ่ายภาพของเขา เขาก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
เขาเดินเข้ามาหาและชักสีหน้าไม่พอใจ ถามหลินจินซานอย่างเอาเรื่องว่า “จินซาน นายหมายความว่ายังไง? นายสงสัยในฝีมือการถ่ายภาพของฉันงั้นเหรอ? ดูรูปพรีเวดดิ้งตัวอย่างที่แขวนอยู่ในร้านเช่าชุดแต่งงานสิ ทั้งหมดนั่นฉันเป็นคนถ่ายเอง ฉันเป็นลูกศิษย์ของจางซ่วน ผ่านการทดสอบด้านการถ่ายภาพมาแล้วถึงได้จบออกมา คนอื่นเขาไม่มีใครว่าฉันเลย แล้วนายมาพูดจาประชดประชันแบบนี้หมายความว่ายังไง? ตัวเองหน้าตาไม่ดีแล้วมาโทษฝีมือถ่ายภาพของคนอื่น ฉันว่านายนั่นแหละที่ไม่มั่นใจในหน้าตาตัวเอง”
หลินจินซานหัวเราะเยาะ “ใครไม่มั่นใจกัน ฉันไม่มั่นใจในฝีมือของนายต่างหาก”
หลินจินซานพูดกับเฉินเจียซิ่งอย่างไม่ไว้หน้า
เขาทนไม่ได้ที่เฉินเจียซิ่งไม่ทำงานในหน้าที่ของตัวเองให้ดี แต่กลับมาวุ่นวายกับหลินเซี่ย
เขาไม่เชื่อใจในตัวเฉินเจียซิ่งเลยสักนิด
ถ้าวันไหนเขาทรยศหักหลังหลินเซี่ยขึ้นมาจะทำอย่างไร?
เฉินเจียซิ่งถูกเขาโต้กลับจนพูดไม่ออก
เขาโกรธจนต้องเอามือกอดอก แล้วโต้กลับไปว่า “อะไรกันที่บอกว่าฉันมาแทรกแซง? ฉันก็หากินด้วยความสามารถของตัวเองนะ พี่สะใภ้ของฉันไม่ได้เลี้ยงคนว่างงาน ฝีมือฉันผ่านมาตรฐานนะ ลูกค้าหลายคนก็พอใจมาก มีแต่นายนี่แหละที่มาจู้จี้จุกจิก พอแล้ว ฉันไม่ถ่ายรูปให้นายแล้ว ใครอยากถ่ายก็ไปหาคนอื่นถ่ายเอาเองเถอะ!”
ก่อนหน้านี้เขามีปัญหากับหลินเซี่ย ทั้งสองคนต่างก็ไม่ลงรอยกัน
แต่ตอนนี้เขาไม่ใช่เฉินเจียซิ่งคนเดิมแล้ว
หลินจินซานลุกพรวดขึ้นยืน แล้วแค่นเสียงอย่างเย็นชา “โอ้โห ใครจะอยากได้กันล่ะ”
“ไม่อยากได้ก็ไม่ต้องถ่าย”
ไม่มีใครยอมใคร
หยางหงเสียกับชุนฟางต่างก็เข้ามาดึงผู้ชายของตัวเองไว้ แต่ก็ไม่สามารถแยกพวกเขาออกจากกันได้
เรื่องที่ควรจะมีความสุข กลับถูกพวกเขาทำให้กลายเป็นแบบนี้
หลินเซี่ยที่นั่งอยู่ตรงนั้นปวดหัวกับเสียงทะเลาะของพวกเขา แต่ไม่ได้ห้ามใครเลย เมื่อได้ยินว่าพวกเขาทะเลาะกันมาถึงขนาดนี้แล้ว เธอจึงพูดกับหลินจินซานตรงๆ “พอแล้ว ถ้าไม่ถ่ายก็กลับบ้านไปเถอะ”
พูดจบแล้วก็หันไปมองเฉินเจียซิ่ง “ถ้าต่อไปนายยังใช้ท่าทีแบบนี้กับลูกค้าคนอื่น งานนี้นายก็ไม่ต้องทำแล้ว”
เฉินเจียซิ่งได้ยินดังนั้น รีบอธิบายแก้ตัว “พี่สะใภ้ครับ หลินจินซานเป็นคนดูถูกผมก่อน เขาเพิ่งเข้ามาก็ทำหน้าบึ้งใส่ผม พูดจาประชดประชัน ดูถูกฝีมือถ่ายรูปของผม ยังไม่ทันได้ถ่ายเลย เขารู้ได้ยังไงว่าผมถ่ายไม่ดี? เขาแค่มีอคติกับตัวผม มองผมด้วยสายตาที่ไม่ดี”
หลินจินซานได้ยินคำพูดของเฉินเจียซิ่ง จึงแค่นเสียงเบาๆ “โอ้ นายเพิ่งรู้ตัวเหรอ? ฉันมีอคติกับนายมานานแล้ว”
“นิสัยของนายทำให้คนไม่อยากเชื่อถือเลย”
“นายพูดถึงนิสัยทำไม? นี่มันการโจมตีเรื่องส่วนตัวนะ!” เฉินเจียซิ่งโต้กลับเสียงเข้ม “ฉันบอกนายเลยนะ อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบเดิมๆ อีกเลย นายต้องมองคนด้วยสายตาที่มองการพัฒนา ยุคสมัยกำลังก้าวหน้า สังคมกำลังพัฒนา ฉันเฉินเจียซิ่งก็กำลังเปลี่ยนแปลง มีแต่คนอย่างนายนี่แหละที่ไม่มีวิสัยทัศน์เลย ยังคงจับจ้องเรื่องเก่าๆ ไม่ปล่อยวาง ขนาดพี่สะใภ้ของฉันยังไม่ถือสาเลย นายมาเอาจริงเอาจังอะไรตรงนี้?”
“นาย…” คราวนี้กลับเป็นหลินจินซานที่พูดไม่ออก
“พอแล้วๆ พวกนายอย่าทะเลาะกันเลย เด็กๆ ร้องไห้กันหมดเพราะเสียงพวกนาย พี่ ถ้าไม่ถ่ายก็กลับไปเถอะ รูปพรีเวดดิ้งพวกพี่จัดการกันเองนะ”
หลินเซี่ยหันไปพูดกับเฉินเจียซิ่ง “ส่วนนาย นายก็กลับไปพักเถอะ ทุกคนเลิกทำงานได้แล้ว”
หลินเซี่ยหน้าบึ้งตึง ไล่คนออกไปทันที
“พวกนี้เป็นคนประเภทไหนกัน ตั้งใจมาก่อกวนทั้งนั้น”
ความสุภาพนำมาซึ่งความมั่งคั่ง เธอเปิดร้านทำธุรกิจ แต่คนในครอบครัวกลับมาทะเลาะกันที่นี่
อีกสักพักลูกค้าที่มาก็จะถูกพวกเขาไล่ไปหมด
ก็เพราะพวกเขาอาศัยนิสัยใจดีของเธอนั่นแหละ
เฉินเจียซิ่งกับหลินจินซานถูกหลินเซี่ยตะโกนใส่ ต่างคนต่างจ้องตากันอย่างโกรธเคือง
หลินจินซานตระหนักว่าหลินเซี่ยโกรธจริงๆ เขารีบประนีประนอมทันที พูดว่า “เซี่ยเซี่ย ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะ ถ้าจางซ่วนไม่กลับมา ก็ให้เขาถ่ายก็ได้”
“พวกคุณตกลงกันเองเถอะ ฉันเป็นเจ้าของร้านแท้ๆ แต่พวกคุณไม่เห็นหัวฉันเลย พวกคุณอยากทำอะไรก็ทำไป ถ้าทำให้ร้านนี้พัง ต่อไปก็อย่ามาทำงานอีก”
หลินเซี่ยเริ่มเก็บของ อุ้มลูกเข้าไปในห้องกั้น
เฉินเจียซิ่งก็รู้จักอ่อนข้อ เขาลูบจมูกแล้วหันไปขอโทษหลินจินซาน “จินซาน เมื่อกี้ฉันใจร้อนไปหน่อย อย่าถือสาฉันเลยนะ นี่เป็นครั้งแรกที่นายแต่งงาน ไม่เคยถ่ายรูปพรีเวดดิ้งมาก่อน ทั้งยังไม่รู้สถานการณ์ในร้านเรา และไม่รู้จักฝีมือการถ่ายภาพของฉัน ฉันเข้าใจทั้งหมด งั้นนายมาดูภาพที่ฉันถ่ายสักสองสามชุดก่อน ถ้าพอใจ เราค่อยคุยกันต่อ”
ในเมื่อเฉินเจียซิ่งแสดงท่าทีอ่อนลง เปิดทางให้หลินจินซาน หลินจินซานก็ต้องยอมรับ
ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะถูกหลินเซี่ยไล่ออกไปจริงๆ
ดูเหมือนว่าเขาจะทำเกินไปหน่อย ต่อให้จะไม่พอใจเฉินเจียซิ่ง แต่ก็ไม่ควรทำลายงานของน้องสาวตัวเอง
อีกอย่าง นี่ก็เป็นร้านเช่าชุดแต่งงาน จะไปถ่ายที่ร้านอื่นจริงๆ ก็คงจะถูกคนหัวเราะเยาะเอาได้
“ตกลง งั้นไปดูกันก่อนก็แล้วกัน”
หลินจินซานเดินตามเฉินเจียซิ่งไปดูตัวอย่างภาพ
พอพวกเขาสองคนเดินจากไป หยางหงเสียก็หันไปอธิบายกับชุนฟางอย่างเก้อเขิน “ชุนฟาง พวกคุณอย่าโกรธนะ บางครั้งเจียซิ่งของฉันก็ใจร้อนไม่อดทนแบบนี้แหละ”
ชุนฟางยิ้ม “พวกคุณต่างหากที่ไม่ควรโกรธ จินซานพูดจาไม่ยั้งปาก ฉันก็ทำอะไรเขาไม่ได้ ยังไงพวกเขาก็เป็นผู้ชายสองคน ปล่อยให้พวกเขาทะเลาะกันไปเถอะ พวกเราอย่าไปใส่ใจเลย”
หลินเซี่ยฟังหยางหงเสียกับชุนฟางคุยกัน เธอยิ้มพลางถอนหายใจ “โธ่ สองคนนั้นช่างโชคดีจริงๆ ที่ได้แต่งงานกับภรรยาที่เข้าอกเข้าใจอย่างพวกคุณ”
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เกือบวางมวยกันแล้ว ดีที่ยั้งคิดกันไว้ได้ทัน ไม่งั้นพังกันหมด
ไหหม่า(海馬)