ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 854 เรียกพี่เรียกน้อง
ตอนที่ 854 เรียกพี่เรียกน้อง
เดิมทีหลินจินซานมีความเห็นที่ไม่ดีต่อเฉินเจียซิ่งมาก แต่ตอนนี้เขาได้ไปดูตัวอย่างผลงานกับเฉินเจียซิ่ง อีกทั้งเฉินเจียซิ่งยังมีท่าทางเป็นมิตรและกระตือรือร้นมาก
เฉินเจียซิ่งพยายามโน้มน้าวหลินจินซานไม่ให้มองเขาด้วยสายตาแบบเก่า
เขาไม่ใช่เฉินเจียซิ่งคนเดิมอีกต่อไปแล้ว
พวกเขาทั้งสองคนอายุใกล้เคียงกัน คนหนึ่งเป็นน้องชายของเฉินเจียเหอ อีกคนเป็นพี่ชายของหลินเซี่ย พวกเขาเป็นสหายพี่น้องกันได้
เมื่อเฉินเจียซิ่งวางทิฐิลง เขาก็กลายเป็นคนที่เข้าสังคมเก่งและร่าเริงมาก อีกทั้งยังมีทักษะการพูดที่ยอดเยี่ยม
หลินจินซานก็รู้สึกถึงความจริงใจของเฉินเจียซิ่ง และรู้สึกว่าเขาแตกต่างจากเมื่อก่อนจริงๆ
ท่าทางก่อนหน้านี้ของเขาดูน่ารำคาญมาก แต่ตอนนี้เขาดูเหมือนคนปกติแล้ว
เมื่อหลินจินซานมองเฉินเจียซิ่งด้วยสายตาที่ดีขึ้น เขาก็ปฏิบัติต่อเฉินเจียซิ่งอย่างยุติธรรมและเป็นธรรมได้
หลังคิดเช่นนี้ ตอนนี้พอได้ดูตัวอย่างผลงานที่เฉินเจียซิ่งส่งมาให้ หลินจินซานก็พบว่าทักษะการถ่ายภาพของเฉินเจียซิ่งดีมากจริงๆ สวยงามเป็นพิเศษ
แม้เขาจะพอใจ แต่ความเห็นของแฟนสาวสำคัญกว่า “ชุนฟาง นี่เป็นภาพที่เฉินเจียซิ่งถ่าย คุณคิดว่าเป็นอย่างไร?”
ชุนฟางเคยมาที่ร้านเช่าชุดแต่งงานบ่อยๆ ย่อมเคยเห็นภาพที่เฉินเจียซิ่งถ่ายให้คนอื่นมาก่อนแล้ว
นอกจากนี้ ในเมื่อหลินเซี่ยยอมอนุญาตให้เฉินเจียซิ่งรับหน้าที่สำคัญที่นี่ แสดงว่าเขาก็ต้องมีคุณสมบัติเหมาะสม
เหมือนที่เฉินเจียซิ่งเคยพูดไว้ หลินเซี่ยเปิดร้านทำธุรกิจ ไม่ได้เลี้ยงคนว่างงาน
วันนี้พวกเขาตั้งใจมาถ่ายรูปอยู่แล้ว แต่หลินจินซานกลับมาทำแบบนี้ ทำให้เฉินเจียซิ่งต้องเสียหน้า
แน่นอนว่าชุนฟางเข้าใจความโกรธของหลินจินซานที่มีต่อเฉินเจียซิ่ง เขาทำเพื่อปกป้องน้องสาวของตัวเอง ในฐานะแฟนของหลินจินซาน หล่อนจะยืนอยู่เคียงข้างเขาเสมอ
ชุนฟางยิ้มพลางพูดว่า
“ฉันคิดว่าดีมากเลย คุณไม่ต้องจับผิดอะไรหรอก พวกเรารีบถ่ายกันเถอะ ถ่ายเสร็จแล้วฉันยังอยากเลือกชุดแต่งงานที่จะใส่ในวันแต่งงานด้วย”
หลินจินซานเห็นด้วยอย่างขอไปที “ได้ ๆๆ งั้นก็ให้เขาถ่าย คุณรีบไปแต่งหน้าเถอะ”
หยางหงเสียก็เริ่มยุ่งกับการจัดแต่งทรงผมให้ชุนฟาง
ชุนฟางยังต้องใช้เวลาอีกสักพัก เฉินเจียซิ่งจึงเลือกชุดมาให้หลินจินซานลองสวมใส่ตามเครื่องแต่งกายของชุนฟาง
เขาเรียกหลินจินซานมาเลือกด้วยตัวเอง
“พี่จินซาน มาดูหน่อยสิครับ”
หลินจินซานสนใจชุดสูทสีขาวชุดหนึ่ง เฉินเจียซิ่งจึงหยิบลงมาให้เขาลองสวม
เมื่อหลินจินซานสวมสูทแล้ว เฉินเจียซิ่งก็ออกปากชมไม่ยั้ง “ว้าว รูปร่างของพี่จินซานดีจริง ๆ เหมือนไม้แขวนเสื้อเลย หล่อมาก”
เฉินเจียซิ่งชมหลินจินซานด้วยสีหน้าจริงใจ ทำให้หลินจินซานรู้สึกพอใจมาก
เขายืนอยู่หน้ากระจกแต่งตัว หมุนตัวไปมา และรู้สึกพอใจกับชุดนี้มาก
เฉินเจียซิ่งให้บริการหลินจินซานแบบแขกวีไอพีเลยทีเดียว หลังจากลองชุดนี้แล้ว เขาก็เลือกชุดโบราณอีกชุดหนึ่ง ซึ่งเป็นชุดพิเศษของร้าน
ก่อนหน้านี้คนส่วนใหญ่ไม่ชอบเลือกชุดแบบนี้ ทุกคนล้วนอยากใส่สูท
หลินจินซานไม่ได้ตั้งใจจะใส่ แต่เฉินเจียซิ่งบอกว่าชุนฟางเลือกชุดโบราณ ถ้าผู้หญิงใส่ ผู้ชายก็ต้องใส่ด้วย
หยางหงเสียกำลังแต่งหน้าให้ชุนฟาง หลินเยี่ยนพูดกับหลินจินซานว่า “พี่ นั่งมาตรงนี้สิ ฉันจะแต่งคิ้วให้หน่อย”
“ได้”
ผมของหลินจินซานถูกชุนฟางตัดให้เป็นพิเศษเมื่อวานนี้แล้ว
หลินเซี่ยบอกว่าคิ้วของหลินจินซานรกเกินไป ไม่ประณีต ควรแต่งให้สวยขึ้นหน่อย
การถ่ายรูปยุคสมัยนี้ไม่มีเทคนิคการตกแต่งภาพด้วยคอมพิวเตอร์เหมือนในอนาคต ทั้งหมดล้วนเป็นภาพต้นฉบับ
ความงามที่เป็นธรรมชาติและแท้จริง
หลินเยี่ยนแต่งคิ้วให้หลินจินซาน และฉีดมูสใส่ผมให้อยู่ทรงบนศีรษะของเขา ช่วยเสริมให้เขาดูหล่อมาก
หลินจินซานเตรียมพร้อมแล้ว ก็เหลือเพียงรอชุนฟาง
จากนั้นชุนฟางในชุดแต่งงานเดินออกมา หลินจินซานยืนอยู่ตรงนั้น มองหญิงสาวที่ค่อยๆ เดินมา ดวงตาของเขาเบิกกว้าง
จะอธิบายจากสายตาของเขาอย่างไรดี?
หลินเซี่ยเห็นสายตาเหม่อลอยและไม่คุ้นเคยของหลินจินซานที่มองชุนฟาง เธอก็ยิ้มและพูดล้อเล่นว่า
“พี่ชาย พี่กำลังคิดอยู่ใช่ไหมว่าฉันจีบหล่อนได้ยังไงตอนแรก?”
หลินจินซานทำหน้าเคลิ้มและพยักหน้า “ใช่ หล่อนสวยมากจริงๆ”
ปกติชุนฟางเป็นคนไม่ค่อยพิถีพิถัน การแต่งตัวก็ธรรมดา ทุกวันต้องทำงาน จึงไม่ค่อยเน้นเรื่องการแต่งตัว แต่งตามสบายเป็นหลัก
พอวันนี้หล่อนได้แต่งหน้าทำผม สวมชุดแต่งงานเดินออกมา หลินจินซานถึงกับจำหล่อนแทบไม่ได้
นี่เป็นครั้งแรกที่ชุนฟางสวมชุดแต่งงาน หล่อนรู้สึกเขินอายมาก พอเห็นหลินจินซานยืนตาค้างอยู่ตรงนั้น ไม่พูดอะไรสักคำ และไม่เดินเข้ามาหา ชุนฟางก็ยิ่งรู้สึกประหม่าและเขินอายมากขึ้น
หลินเซี่ยพูดกับหลินจินซานว่า “พี่ยืนเหม่ออยู่ทำไม? รีบไปประคองชุนฟางไปถ่ายรูปด้านหลังสิ”
“ได้ ได้” หลินจินซานรู้สึกตัว รีบวิ่งเข้าไปประคองมือชุนฟางเดินไปด้านหลังฉากถ่ายรูปด้วยกัน
เฉินเจียซิ่งก็เป็นมืออาชีพจริงๆ ประกอบกับหลินจินซานและชุนฟางต่างประสานงานกันได้ดี การถ่ายภาพจึงเสร็จอย่างรวดเร็ว
หลินเยี่ยนเตรียมชุดที่สองและเครื่องประดับศีรษะที่จำเป็นไว้พร้อมแล้ว พอพวกเขาออกมาก็รีบเปลี่ยนลุคให้ชุนฟางทันที เนื่องจากแต่งหน้าไว้แล้ว จึงทำแค่ปรับลุคเล็กน้อยเท่านั้น
ดังนั้นการถ่ายภาพจึงมีประสิทธิภาพมาก
เนื่องจากในร้านมีแค่คู่รักคู่นี้ หลังจากถ่ายรูปเสร็จก็ไม่มีอะไรให้ทำแล้ว
เฉินเจียซิ่งก็เตรียมเลิกงาน กลับไปจัดการล้างรูปถ่าย
หยางหงเสียตั้งใจจะเลิกงานพร้อมกับเขา
เฉินเจียซิ่งมีนิสัยร่าเริงและรู้จักกาลเทศะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำงานนี้
เขาเข้าใจถึงความสำคัญของการรักษาความสัมพันธ์
ก่อนจะกลับ เขาขอใช้เบอร์เพจเจอร์ของหลินจินซาน บอกว่าปกติสามารถติดต่อกันได้บ่อยๆ อย่าให้หลินจินซานมีความรู้สึกเป็นศัตรูกับเขาตลอดเวลา
ด้วยปฏิสัมพันธ์ระหว่างการถ่ายภาพ หลินจินซานก็เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเฉินเจียซิ่งไปโดยสิ้นเชิง เขาเป็นคนมีฝีมือจริงๆ เป็นมืออาชีพมาก
เหมือนที่เฉินเจียซิ่งพูดว่าควรมองปัญหาด้วยสายตาแห่งการพัฒนา ไม่ควรยึดติดอยู่กับอดีตตลอดเวลา
หลินจินซานยิ้มและตอบรับ “ได้ เดี๋ยวเราไปดื่มกันนะ ตอนฉันแต่งงานอย่าลืมมาล่ะ”
“แน่นอน ฉันต้องไปสิ จะพลาดงานแต่งได้ยังไง ถ้าที่นั่นมีอะไรให้ช่วยทำ บอกฉันได้ตลอดเวลานะ”
สองคนที่แต่เดิมเป็นศัตรูคู่อาฆาต ตอนนี้กลับเรียกพี่เรียกน้องและนัดกันไปดื่มเหล้าแล้ว
เมื่อเฉินเจียซิ่งกับหยางหงเสียทั้งสองคนเดินจากไป หลินจินซานหันกลับมา ก็เห็นหลินเซี่ยกับหลินเยี่ยนต่างจ้องมองเขาด้วยสีหน้าประหลาด
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เห็นไหม แค่เปลี่ยนมุมมอง ชีวิตก็เปลี่ยน ได้ความสัมพันธ์ดีๆ มาอีกหนึ่ง
ไหหม่า(海馬)