ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 857 ฝันถึงคนใจ
ตอนที่ 857 ฝันถึงคนใจร้าย
“แม่ครับ เกิดอะไรขึ้นหรือครับ? อย่าทำให้ผมตกใจสิครับ ทำไมแม่ถึงร้องไห้ล่ะ? บอกผมเร็วๆ สิครับ”
ขณะเซี่ยไห่ถามเช่นนั้น ในใจก็เริ่มตรวจสอบตัวเองว่าตนทำอะไรไม่ดีจนทำให้หญิงชราโกรธหรือเสียใจหรือไม่
แม้เขาจะอายุกว่า 30 แล้ว แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าแม่และพี่สาว เขามักจะอาศัยความเป็นน้องเล็ก พูดจาไม่ระวัง ทำให้พวกเขาโกรธบ่อยๆ
แต่ก็ไม่น่าจะถึงขนาดทำให้หญิงชราร้องไห้ขนาดนี้
เมื่อก่อนที่แม่ร้องไห้อาจเป็นเพราะกังวลเรื่องแฟนของพวกเขา
แต่ตอนนี้พวกเขาต่างก็มีคู่แล้ว พี่สาวของเขาก็ตั้งครรภ์แล้ว จะร้องไห้ทำไมอีก?
“ไม่มีอะไรหรอก แม่ไม่ได้ร้องไห้ อาจจะมีอะไรเข้าตาน่ะ”
คุณแม่เซี่ยหันหน้าหนี ไม่ยอมรับว่าร้องไห้ นางหันหลังให้เซี่ยไห่แล้วถามว่า “กี่โมงแล้วล่ะ?”
เซี่ยไห่ตอบว่า “แปดโมงกว่าแล้วครับ เซี่ยเซี่ยอุ้มลูกรอแม่ตื่นอยู่นะครับ”
“โอ้” เซี่ยไห่จำต้องถอยออกมา
เขายังรู้สึกว่าอารมณ์ของมารดาไม่ปกติ ชัดเจนว่าดวงตาคู่นั้นบวมจากการร้องไห้ ไม่ใช่เพราะระคายเคืองตาอย่างที่นางบอกแน่นอน
เซี่ยไห่ยืนอยู่บนขั้นบันไดหน้าประตู สอดมือทั้งสองข้างเข้ากระเป๋า เริ่มทบทวนเหตุการณ์ทั้งหมดตั้งแต่เมื่อวานจนถึงก่อนเข้านอน
เมื่อคืนหลังกินข้าวเสร็จ ทุกคนในครอบครัวล้อมวงเล่นกับเสี่ยวหู่ ไม่ได้ดูโทรทัศน์เลย
พอเล่นจนถึงเวลานอน ต่างคนต่างก็แยกย้ายกลับห้อง เขาเป็นคนส่งคุณแม่เซี่ยถึงหน้าประตูห้องนอนเอง
เขามั่นใจว่าไม่มีใครทำให้นางโกรธ หรือทำอะไรให้นางเสียใจ
เซี่ยไห่กลับห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า พอดีได้รับโทรศัพท์จากหลินจินซาน
หลินจินซานบอกว่าวันนี้ทางบ้านชุนฟางจะไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ ต้องการให้เขาไปด้วย เขาจะกลับมาค่อนข้างช้า จึงจะส่งใบเสร็จรายรับของห้องเต้นรำในช่วงนี้ให้พรุ่งนี้
เซี่ยไห่ตอบรับเสียงหนึ่ง แล้ววางสาย
ในวินาทีที่เขาวางสายโทรศัพท์ จู่ๆ ก็มีบางอย่างแวบเข้ามาในความคิด
เขาสวมเสื้อนวมอย่างรวดเร็วแล้วรีบเข้าไปในห้องของแม่
คุณแม่เซี่ยสวมเสื้อนวมเรียบร้อยแล้ว ลงจากเตียงและกำลังจะพับผ้าห่ม
เซี่ยไห่มองแผ่นหลังค่อมงองุ้มและผอมบางของแม่ นึกถึงดวงตาที่บวมแดงของนาง
หัวใจของเขาปวดร้าวอย่างรุนแรง
คุณแม่เซี่ยพับผ้าห่มเสร็จแล้วถอนหายใจ พยายามปรับอารมณ์ของตัวเอง พอหันหลังกลับมาก็เห็นเซี่ยไห่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าซับซ้อน
“ทำไมเข้ามาแล้วไม่พูดอะไรล่ะ?” เมื่อครู่นี้คุณแม่เซี่ยจมอยู่กับความคิดของตัวเอง จึงไม่ได้ยินเสียงฝีเท้า
นางเห็นลูกชายกำลังจ้องมองนางด้วยสายตาที่ซับซ้อนมาก ไม่รู้ทำไมนางถึงรู้สึกเหมือนถูกมองทะลุความในใจ จึงไม่กล้าสบตากับเขา
เซี่ยไห่ปิดประตูแล้วจูงมือหญิงชรามานั่งที่ขอบเตียง เขามองดวงตาที่บวมแดงของแม่ ยกมือขึ้นเบาๆ เช็ดรอยน้ำตาที่มุมตาของนาง
คุณแม่เซี่ยตอบอย่างขอไปทีและรู้สึกผิด “ไม่เป็นไรแล้ว ฉันขยี้เอาสิ่งแปลกปลอมออกมาได้แล้ว”
นางหลบสายตาของเซี่ยไห่อีกครั้ง และไม่ยอมให้เขาเช็ดตาให้ตัวเองต่อ
เซี่ยไห่ไม่ให้โอกาสแม่ได้หลบเลี่ยง เขาจับตัวหญิงชราให้หันมาสบตากับเขาโดยตรง
เขามองแม่ด้วยสีหน้าตำหนิเล็กน้อยและพูดว่า “แม่ครับ ผ่านมาสามสิบปีแล้ว ทำไมแม่ยังร้องไห้เพื่อคนใจร้ายคนนั้นอีก มันคุ้มค่าหรือครับ?”
เขามั่นใจว่าแม่ของเขาร้องไห้เพราะเมื่อวานหลินจินซานถ่ายรูปพรีเวดดิ้งกลับมา และถามนางว่าทำไมตอนนั้นไม่ถ่ายรูปกับพ่อของเขา มันจึงกระตุ้นความทรงจำของหญิงชราและส่งผลต่ออารมณ์ของนาง
คุณแม่เซี่ยไม่คิดว่าลูกชายจะเดาใจได้แม่นยำขนาดนี้ นางถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อยแล้วยอมรับว่า “เสี่ยวไห่ แม่ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ก็ฝันถึงเขา”
นางสบตากับเซี่ยไห่ที่มีแววตาโกรธแค้นระคนเจ็บปวด ถอนหายใจแล้วพูดว่า “แม่ฝันว่าเขามาขอโทษเรา บอกว่าเขาไม่ควรหลงผิดทิ้งเราไปกับผู้หญิงคนนั้น ในฝันเขาพูดอะไรตั้งมากมาย แม่ยังฝันเห็นเขาใส่สูทใหม่เอี่ยม ดูหล่อเหลาสง่างาม ทั้งตัวขาวจนเปล่งประกาย”
เซี่ยไห่หัวเราะเยาะ “ฝันมักตรงข้ามกับความจริง คงเป็นเพราะเขาทำชั่วได้ชั่ว ถูกยมบาลเอาตัวไปแล้ว หรือไม่ก็นอนป่วยอยู่บนเตียง เป็นแผลเน่าเปื่อยไม่มีใครดูแลแหละครับ”
เซี่ยไห่มองแม่ด้วยความรู้สึกสับสน เขาสงสารหล่อน แต่ก็โกรธเช่นกัน ที่เวลาผ่านมา 30 ปีแล้วแม่ยังต้องร้องไห้เสียใจเพื่อคนแบบนั้น
เขาพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “แม่ อย่าคิดถึงมันเลย คนคนนั้นตายไปแล้วตั้งแต่วินาทีที่มันทิ้งเราไป ไม่ว่ามันจะแต่งตัวขาดรุ่งริ่งหรือหรูหราก็ตาม มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเราทั้งนั้น ตอนนี้ครอบครัวเรามีความสุขมาก ต่อไปอย่าคิดถึงคนคนนั้นอีก”
เมื่อคืนเขาเข้ามาในความฝัน ทั้งเสียงและหน้าตาชัดเจนมาก
ทุกคำพูดที่เขาพูดในฝันยังคงชัดเจนจนถึงตอนนี้
เขาเรียกชื่อนาง ร้องไห้พลางขอโทษนางในความฝัน ซึ่งนางก็ควบคุมอารมณ์ไม่ได้จนร้องไห้สะอึกสะอื้น
นางร้องไห้ไม่ใช่เพราะเขาปรากฏในฝัน แต่ร้องไห้เพราะความทุกข์ทรมานที่นางต้องทนมาหลายปี
นางและชายคนนั้นแต่งงานกันตามการจัดการของผู้ใหญ่ ให้กำเนิดลูกสามคนเพื่อเขา แต่กลับสู้ความรักครั้งแรกไม่ได้ เขาทิ้งพวกนางแม่ลูกไปอย่างไม่ไยดีเพื่อสิ่งที่เรียกว่าความรัก ทิ้งนางไว้ที่เมืองไห่เฉิง นางต้องเลี้ยงดูลูกสามคนตามลำพังและต้องผ่านความยากลำบากมากมาย
นางเกลียดชัง เกลียดความเห็นแก่ตัวและความไร้น้ำใจของเขา
ไร้ความรู้สึก ไร้คุณธรรม
พวกเขาไม่มีความรักต่อกัน แต่ลูกทั้งสามคนทำผิดอะไรที่ถูกเขาทอดทิ้ง ต้องติดตามนางผู้เป็นผู้หญิงคนเดียวไปหิวโหยและหนาวเหน็บ ต้องทนทุกข์ทรมาน
คุณแม่เซี่ยนึกถึงเส้นทางอันขรุขระที่ผ่านมาสามสิบปีท่ามกลางพายุฝนแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
พอเปิดประตูเข้าไป เธอก็เห็นใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยของย่าเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา สีหน้าของเซี่ยไห่ก็ดูไม่ดีเช่นกัน บรรยากาศในห้องทั้งหนักอึ้งและกดดัน
“คุณย่า อารอง พวกคุณเป็นอะไรหรือคะ?” หลินเซี่ยถามพวกเขาอย่างระมัดระวัง
เมื่อเห็นหลินเซี่ยเข้ามา คุณแม่เซี่ยรีบเช็ดหน้าอย่างลวก ๆ พยายามฝืนยิ้มแข็ง ๆ แล้วพูดว่า “เซี่ยเซี่ย ไม่มีอะไรหรอก เมื่อคืนตาฉันไม่รู้เป็นอะไร มีอะไรเข้าไปในตา ยังรู้สึกระคายเคืองมาจนถึงตอนนี้ ฉันเลยให้อารองของเธอช่วยเป่าออกให้”
นางพยายามหาข้ออ้างต่อไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “คนแก่ก็เรื่องมากแบบนี้แหละ ทำอะไรเองไม่ได้ ต้องรบกวนอารองของเธออีก”
หลินเซี่ยยิ้มน้อยๆ แล้วพูดว่า “คุณย่าคะ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”
เธอสังเกตเห็นว่าคุณย่าไม่อยากให้ตนรู้สาเหตุที่แท้จริง ส่วนเซี่ยไห่ก็ดูอารมณ์ไม่ค่อยดี เธอจึงแสร้งทำเป็นไม่เห็นอะไร แล้วตอบรับว่า “งั้นไปกินอาหารเช้ากันเถอะค่ะ ฉันอุ่นโจ๊กไว้แล้ว”
“ได้ ไปกันเถอะ”
คุณแม่เซี่ยลุกขึ้นเดินตามหลินเซี่ยออกจากห้องนอน ส่วนเซี่ยไห่นั่งอยู่คนเดียว สีหน้าดูไม่ดีเอาเสียเลย
หลังจากที่แม่ของเขาและหลินเซี่ยออกไปแล้ว เขาก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ จึงต่อยกำแพงอย่างแรง
ภาพเลือนรางนั้นผุดขึ้นมา เป็นภาพแม่ของเขากอดเขาและพี่สาวแล้วร้องไห้ ความทรงจำอันเลวร้ายในวัยเด็กที่ต้องอดอยากหิวโหย…
ทั้งหมดนี้แวบเข้ามาในความคิดของเขาอย่างควบคุมไม่ได้
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ฮือ ขอให้คุณย่ามูฟออนได้นะคะ อดีตที่เจ็บปวดมันผ่านไปแล้ว เปิดรับปัจจุบันและอนาคตที่ดีเถอะค่ะ
ไหหม่า(海馬)