ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 865 ดอกท้อเน่าของเธอ
ตอนที่ 865 ดอกท้อเน่าของเธอ
หลินเซี่ยเห็นพวกเธอทั้งสองยืนลังเลอยู่ตรงนั้น เธอจึงทำหน้าเคร่งขรึมและพูดอย่างจริงจังว่า “ยืนเหม่ออะไรกัน? รีบมาสระผมให้ฉันเร็วเข้า”
เธอเดินไปที่อ่างสระผมแล้ว นอนพิงเก้าอี้ครึ่งนั่งครึ่งนอน รอให้สระผม
สองสาวรู้ว่าหนีไม่พ้น จึงรีบแย่งกันมาสระผมให้หลินเซี่ย
สระผมเสร็จแล้ว อีกคนก็ต้องตัดผม
“ไม่ต้องแย่งกัน ใครก็หนีไม่พ้น วันนี้ฉันมีเวลาทั้งวัน ต้องได้ดูฝีมือของพวกเธอทั้งสองคนให้หมด”
พอหลินเซี่ยพูดจบ สองสาวก็ถอนหายใจอย่างสิ้นหวัง
เสี่ยวเสียเดินมาสระผมให้หลินเซี่ย
หลินเซี่ยเคยสอนพวกหล่อนเกี่ยวกับจุดนวดบนศีรษะตอนสระผม
จุดนี้พวกหล่อนเรียนรู้ได้ดีมาก
หลังจากสระผมเสร็จ เหวินจวนยืนถือกรรไกรอยู่ตรงนั้น มองหลินเซี่ยด้วยความประหม่า พูดอย่างสับสน “พี่เซี่ยเซี่ย ถ้าพวกเราตัดไม่ดีจะทำยังไงดี? หรือว่า…”
หล่อนอยากจะพูดว่า ถ้าบังเอิญตัดเสียหาย มันก็ไม่สามารถงอกขึ้นมาใหม่ได้ในเร็ววัน
หล่อนอยากให้หลินเซี่ยคำนึงถึงเส้นผมของตัวเอง ไม่ควรเสี่ยงแบบนี้
แม้ว่าปกติพวกหล่อนจะยินดีมากเมื่อมีลูกค้าผู้หญิงเข้ามาให้ตัดผมก็ตาม
อยากฝึกฝนไปทีละคน
แต่สำหรับลูกค้าผู้หญิงที่มีผมยาว พวกเธอจะยอมรับแค่ชุนฟางเท่านั้น
“ตัดเถอะ” หลินเซี่ยชำเลืองมองสีหน้าหวาดหวั่นของเหวินจวน แล้วพูดเสียงเรียบ “ดูท่าทางไม่มั่นใจของเธอสิ เธอไม่ได้ตั้งใจเรียนรู้ดีๆ หรือไง?”
เมื่อหลินเซี่ยพูดแบบนั้น เหวินจวนก็รีบปฏิเสธทันที “ฉันตั้งใจเรียนดีมากค่ะ ฉันตั้งใจทุกวันเลย”
“งั้นก็แสดงฝีมือมาสิ” หลินเซี่ยนั่งลงหน้ากระจก ไม่พูดอะไรกับหล่อนอีก
หลินเซี่ยหลับตาในตอนแรกเพื่อไม่ให้หล่อนรู้สึกกดดัน
เหวินจวนค่อยๆ หวีผมอย่างระมัดระวัง จากนั้นใช้หวีแยกผมออกเป็นช่อ แล้วเริ่มลงกรรไกร…
หลินเซี่ยได้ยินเสียงกรรไกรเริ่มตัด จึงลืมตาขึ้นมองการทำงานของหล่อน
“มากเกินไป แต่ละครั้งให้หวีน้อยลงหน่อย อย่าตัดหนักมือเกินไป ไม่งั้นถ้าตัดพลาดแล้วจะแก้ไขทีหลังไม่ได้”
“ใช่ ตัดแบบนี้แหละ อย่าลืมซอยผมให้บางลงด้วย”
กรรไกรที่พวกเธอใช้เป็นกรรไกรที่เฉินเจียเหอใช้เครื่องจักรความแม่นยำสูงในที่ทำงานผลิตออกมา มีอยู่หลายแบบ แต่ที่ใช้บ่อยที่สุดคือกรรไกรซอยผม
“เรียบร้อยแล้ว งานของเธอเสร็จแล้ว ส่วนที่เหลือให้เสี่ยวเสียตัดผมหน้าม้าแทนนะ”
หลินเซี่ยไม่ได้วิจารณ์ว่าหล่อนตัดเป็นอย่างไร
เหวินจวนรู้สึกเหมือนได้รับการปลดปล่อย รีบส่งกรรไกรให้เสี่ยวเสียทันที
ส่วนตัวเองก็กุมหน้าอกไว้ พลางสังเกตสีหน้าของหลินเซี่ยอย่างระมัดระวัง
หล่อนน่าจะตัดได้ไม่เลวนะ ถ้าตัดแย่ป่านนี้เจ้านายคงโวยวายไล่หล่อนออกไปแล้ว ไม่มีทางปล่อยให้เสี่ยวเสียตัดผมหน้าม้าต่อหรอก
ในขณะที่เหวินจวนคิดคาดเดาไปต่างๆ นานา เสี่ยวเสียก็ทำงานเสร็จแล้ว
“พวกเธอคิดว่าฝีมือตัวเองเป็นยังไงบ้าง?”
หลินเซี่ยมองทรงผมของตัวเองในกระจก แล้วหันไปมองหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้วยสีหน้าตื่นเต้น
“ก็ใช้ได้นะคะ ฉันว่า” เหวินจวนพูดเสียงอ่อย
“ฉันก็คิดว่าใช้ได้ค่ะ แน่นอนว่าคงเทียบกับคุณกับพี่ชุนฟางไม่ได้ในตอนนี้ แต่พวกเราจะพยายามอย่างเต็มที่ จะเรียนรู้ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้สำเร็จการฝึกโดยเร็วค่ะ”
“ฉันให้แค่หกสิบเปอร์เซ็นต์ ผ่านแบบเฉียดฉิว” หลินเซี่ยพูด “พวกเธอดูปลายผมของฉันสิ เธอตัดไม่เรียบ สองข้างไม่สมมาตรกัน ถ้าดูดีๆ ก็เห็นชัดเจน แถมยังไล่ระดับไม่ค่อยชัด ส่วนผมหน้าม้าที่เสี่ยวเสียตัดพอผ่าน ตัดตามแบบผมหน้าม้าเดิมของฉัน ก็เลยไม่มีปัญหาอะไร”
“พยายามต่อไปนะ”
หลินเซี่ยพูดเพียงประโยคเดียว สองสาวก็รู้สึกโล่งอกทันที
พูดไปได้ไม่นาน ก็มีหนุ่มน้อยคนหนึ่งโผล่หน้ามาที่ประตู
“ตัดผมไหมคะ? เชิญเข้ามาค่ะ” เสี่ยวเสียเดินไปที่ประตู ยิ้มต้อนรับลูกค้า
สายตาของหนุ่มน้อยจับจ้องไปที่หลินเซี่ยอย่างแม่นยำ ใบหน้าฉายแววดีใจ
เขาจัดแจงเสื้อผ้าแล้วเดินเข้ามา
เมื่อเห็นหลินเซี่ย สีหน้าของเขาดูประหม่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ปิดบังความยินดีไม่มิด
“นายมาอีกแล้วเหรอ?” เสี่ยวเสียกับเหวินจวนดูเหมือนจะรู้จักหนุ่มน้อยคนนี้ดี และฟังจากน้ำเสียงก็รู้ว่าเขาเป็นลูกค้าประจำของร้าน
แต่ดูจากผมของเขาแล้วก็ดูยาวพอสมควร ไม่เหมือนคนที่มาบ่อยๆ เลย
“พี่เซี่ยเซี่ย หนุ่มคนนี้เขารอให้พี่มาตัดผมให้เขามาตลอดเลยค่ะ”
หลินเซี่ยเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มตรงหน้าที่มีสีหน้าเขินอายเล็กน้อยหลังจากได้ยินคำพูดของเสี่ยวเสีย
หลินเซี่ยมองเขาด้วยความสงสัยและถามว่า “ทำไมไม่ให้ชุนฟางตัดล่ะ? ฝีมือหล่อนดีมากนะ”
ชายหนุ่มเกาศีรษะแล้วยิ้มอย่างซื่อๆ มองหลินเซี่ยด้วยสายตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง เอ่ยปากว่า “สวัสดีครับ คุณจำไม่ได้เหรอ? ครั้งที่แล้วผมตัดผมกับคุณ ผมกลัวว่าคนอื่นจะตัดไม่ได้แบบนี้ เลยรอให้คุณมาตลอด”
“ได้ สระผมก่อนนะ สระเสร็จแล้วฉันจะตัดให้”
วันนี้หลินเซี่ยมาที่นี่เพื่อดูแลร้านอยู่แล้ว ถ้ามีลูกค้าเข้ามา เธอจะลงมือเองทุกคน
เสี่ยวเสียสระผมให้ชายหนุ่มเสร็จ เขานั่งลงบนเก้าอี้ หลินเซี่ยหยิบกรรไกรและหวีขึ้นมาอย่างเท่ๆ แล้วเริ่มลงมือทันที
“เอ่อ…คุณหลิน คุณมาที่นี่บ่อยแค่ไหนครับ?” ชายหนุ่มเม้มปากแล้วรวบรวมความกล้าชวนหลินเซี่ยคุย
หลินเซี่ยยิ้มและตอบอย่างไม่ใส่ใจ “ฉันมาที่นี่ไม่แน่นอนหรอกค่ะ ปกติไม่ค่อยได้มาเพราะอยู่บ้านเลี้ยงลูกน่ะ วันนี้ชุนฟางไม่อยู่ เลยมาทำงานแทน”
“ลูก?” เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเซี่ย หนุ่มน้อยก็ตกใจจนถึงกับสะดุ้ง แม้หลินเซี่ยจะมีประสบการณ์มากมายก็ยังห้ามคมกรรไกรไม่ทัน จึงตัดแฉลบผมแหว่งไปทันที
หลินเซี่ยมองดูผมที่ตนเองตัดจนเป็นรอยแหว่ง แล้วมองดูหนุ่มน้อยในกระจกที่มีสีหน้างงงวยเช่นกัน เธอรู้สึกอึดอัดและพูดไม่ออก
ทำไมต้องขยับด้วยนะ?
เขาแปลกใจมากที่ได้ยินว่าเธอมีลูกหรือ?
ไม่ใช่ นี่ไม่ใช่แค่ความแปลกใจ
“ขอโทษด้วยค่ะ ตัดเบี้ยวไปหน่อย” หลินเซี่ยกล่าวด้วยความรู้สึกผิด “ฉันจะพยายามแก้ไขให้ดีที่สุด อาจจะต้องตัดสั้นลงนิดหน่อยนะคะ”
หนุ่มน้อยยังคงมีสีหน้าอึ้งงัน ไม่มีการตอบสนองใดๆ
หลินเซี่ยทำได้เพียงพยายามแก้ไขส่วนที่ตัดพลาด การตัดให้สั้นลงเล็กน้อยจะทำให้มองไม่เห็นความผิดพลาด แต่ตอนนี้เป็นฤดูหนาว อากาศกำลังหนาว หลายคนไม่ชอบตัดผมสั้นเกินไป
เมื่อเขาไม่พูดอะไร หลินเซี่ยก็ถือว่าเขายอมรับแล้ว
เสี่ยวเสียและเหวินจวนได้ยินหลินเซี่ยพูดว่าตัดผมพลาดจนแหว่งเป็นหลุม พวกเธอจึงเข้ามาดูใกล้ๆ อยากเห็นว่าในสถานการณ์แบบนี้หลินเซี่ยจะแก้ไขอย่างไร
ถ้าพวกหล่อนตัดผมแบบนี้ คงต้องตัดสั้นเกรียนเท่านั้นถึงจะมองไม่ออก
หลินเซี่ยทำท่าสงบนิ่ง ถือกรรไกรแล้วเริ่มตัดแต่งรอบๆ อย่างแม่นยำ พร้อมกับกำชับหนุ่มน้อยไม่ให้ขยับตัวมาก เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุแบบนี้อีก คงต้องโกนหัวล้านเท่านั้น
ผ่านไปสักพัก หนุ่มน้อยมองสาวน้อยที่กำลังยุ่งอยู่ผ่านกระจก แล้วพูดอย่างยากลำบาก “คุณแต่งงานแล้วเหรอ?”
หลินเซี่ยยิ้มพลางตอบ “แน่นอนสิ ไม่งั้นจะมีลูกได้ยังไง?”
หนุ่มน้อยมองใบหน้าขาวผ่องสดใสของหลินเซี่ย เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอแต่งงานและมีลูกแล้ว
เธอรวบผมหางม้าสูง สวมเสื้อคอเต่าสีชมพู กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ดูอ่อนเยาว์กว่านักศึกษาปี 4 ในมหาวิทยาลัยของพวกเขาเสียอีก จะเป็นแม่ลูกอ่อนได้อย่างไร?
หลินเซี่ยตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ใช่ค่ะ พวกเราอายุใกล้เคียงกัน ฉันเพิ่งอายุ 21 ปีเอง”
“คุณอายุน้อยกว่าผมเสียอีก”
หนุ่มน้อยมองหลินเซี่ยด้วยสีหน้าเสียดายและเสียใจอย่างมาก
ในหัวของเขาเริ่มคิดไปต่างๆ นานาถึงสาเหตุที่หลินเซี่ยแต่งงานมีลูกเร็วขนาดนี้
คลุมถุงชน? คู่หมั้นตั้งแต่เด็ก…
“ทำไมคุณถึงแต่งงานเร็วขนาดนี้ล่ะ?”
ผู้หญิงที่สวยและเก่งขนาดนี้ ถ้าเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนี้ก็น่าจะยังอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยอยู่เลย
“ความรักสุกงอมแล้วก็แต่งเลยค่ะ ฉันกลัวว่าสามีฉันเก่งเกินไป ถ้าฉันไม่คว้าเขาไว้ เขาอาจจะถูกคนอื่นแย่งไปก็ได้”
จากสีหน้าและท่าทางของเขา ตอนนี้หลินเซี่ยเข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อสักครู่หนุ่มน้อยถึงได้ดูตกอกตกใจขนาดนั้น
นี่คงเป็นดอกท้อเน่าของเธอแน่ๆ
ดูเหมือนว่าครั้งสุดท้ายที่เธอมาทำหน้าที่ตัดผมน่าจะเป็นเรื่องราวเมื่อหนึ่งหรือสองเดือนที่แล้ว
เขามักจะมาที่ร้านบ่อยๆ เพื่อดูว่าเธออยู่หรือไม่ แต่ไม่เคยถามสาวๆ พวกนี้เกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานของเธอเลย
หากเขาได้สอบถามเร็วกว่านี้ เขาก็คงจะหมดหวังเร็วขึ้น และคงไม่ต้องตกใจขนาดนี้ และเธอก็คงไม่ต้องรู้สึกอึดอัดใจ
หลินเซี่ยตัดผมด้านหลังศีรษะแหว่งลึกเกินไป ตอนนี้จึงตัดผมตามทรงที่เขาเคยไว้เมื่อก่อนหน้านี้ไม่ได้แล้ว ยิ่งแก้ก็จะยิ่งเห็นได้ชัดเจน
เธอเป็นคนที่สมบูรณ์แบบในด้านการทำงาน
แม้ว่าลูกค้าจะไม่ใส่ใจ แต่ตัวเธอเองไม่อนุญาตให้อีกฝ่ายออกไปด้วยทรงผมแบบนี้
แม้ว่าจะดูไม่ชัดเจนมากนัก
ช่างตัดผมที่ไม่มีทักษะเหล่านั้น แม้จะพยายามอย่างเต็มที่ก็ไม่สามารถตัดให้ได้ผลลัพธ์แบบนี้
ดูเหมือนว่าหนุ่มน้อยคนนี้กำลังรู้สึกสะเทือนใจ เขาจึงไม่มีความต้องการใดๆ เกี่ยวกับทรงผมของเขาอีกแล้ว ได้แต่นั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้หลินเซี่ยจัดการตามใจชอบ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
อกหักเต็มๆ เลยหนุ่มเอ๊ย ถ้าก่อนหน้านี้สืบถามข้อมูลของเซี่ยเซี่ยจากคนอื่นก็จบแล้ว จะได้ตัดใจแต่เนิ่นๆ ไม่ต้องหลงอยู่กับความหวังมานานขนาดนี้
ไหหม่า(海馬)