ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 867 ผู้กระทำความผิดเป็นนิสัย
ตอนที่ 867 ผู้กระทำความผิดเป็นนิสัย
หลินเซี่ยถูกคนบ้าคนนี้ฉุดรั้งไว้ เธอพยายามบังคับตัวเองให้สงบ อดทนต่อความรู้สึกคลื่นไส้ พยายามพูดจาโน้มน้าวชายคนนี้ พูดจาดีๆ บอกว่าพวกเขาสามารถเป็นเพื่อนกันก่อนได้
เธอคิดว่าต้องทำให้เขาสงบก่อน แล้วค่อยหาทางหนี
“พวกเราเป็นเพื่อนกันก่อนก็ได้นะ คุณปล่อยฉันก่อน แล้วฉันจะเลี้ยงข้าวคุณ… ปล่อยฉันก่อนเถอะ ถ้ามีคนเห็นจะไม่ดีนะ”
คำพูดของหลินเซี่ยทำให้ชายคนนี้เริ่มผ่อนคลายลงเล็กน้อย
“คุณปล่อยฉันก่อนนะ ถ้ามีคนผ่านมาเห็นแล้วแจ้งตำรวจว่าคุณเป็นพวกโรคจิตอนาจารแล้วจะยุ่งนะ”
หลินเซี่ยรู้สึกได้จากคำพูดของเขาว่า ชายคนนี้น่าจะมีพื้นเพครอบครัวที่มีอิทธิพล เขาถึงได้กล้าทำอะไรตามใจชอบแบบนี้
“คุณปล่อยฉันก่อน แล้วเราค่อยคุยกันดีๆ ฉันยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย”
ในที่สุดคำพูดโน้มน้าวของหลินเซี่ยก็โน้มน้าวใจชายหนุ่มคนนี้ได้ เขาปล่อยเอวของหลินเซี่ย “ได้ ฉันจะเลี้ยงข้าวเธอเอง”
ในทันทีที่เขาปล่อยหลินเซี่ย เธอก็วิ่งหนีอย่างรวดเร็วราวกับมีลมใต้ฝ่าเท้า
ใบหน้าของชายคนนั้นบิดเบี้ยว เขาทำท่าจะไล่ตามเธอ
ในขณะที่หลินเซี่ยวิ่งไปข้างหน้าด้วยความหวาดกลัว เธอก็เผชิญหน้ากับร่างสองร่างที่กำลังเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“เซี่ยเซี่ย”
หลินเซี่ยได้ยินเสียงคุ้นเคย ดวงตาที่หวาดกลัวของเธอเป็นประกายขึ้นมา เธอเงยหน้าขึ้น เมื่อร่างสูงใหญ่สองร่างวิ่งมาหาเธอ ร่างกายที่ตึงเครียดของเธอก็ผ่อนคลายลงทันที
เฉินเจียเหอดึงหลินเซี่ยเข้ามากอดไว้
ส่วนถังจวิ้นเฟิงก็ใช้ความเร็วดั่งสายฟ้าจับกุมชายหนุ่มที่ไล่ตามหลินเซี่ยไว้
เฉินเจียเหอกอดหลินเซี่ยไว้ สีหน้าของเขาดูตกใจไม่น้อยไปกว่าหลินเซี่ยเลย
เขาไม่เคยคิดว่าจะมีคนบ้ากล้าไล่ตามภรรยาของเขากลางถนนแบบนี้
ไอ้หนุ่มคนนี้เบื่อชีวิตแล้วหรือไง?
เขาลูบหลังหลินเซี่ยเบา ๆ พลางปลอบโยนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เซี่ยเซี่ย ไม่ต้องกลัวนะ”
ถังจวิ้นเฟิงมีพละกำลังมหาศาล เขาหยิบกุญแจมือที่พกติดตัวมาออกมา แล้วล็อกข้อมือคนร้ายทันที
เมื่อครู่พวกเขาเดินมาแต่ไกล เห็นร่างสองร่างกอดกันอยู่ ถังจวิ้นเฟิงก็คิดว่าเป็นคู่รักวัยรุ่นกำลังเล่นกัน
ที่แท้ก็เป็นไอ้หนุ่มคนนี้กำลังลวนลามภรรยาของสหายพี่ชายเขา
ความปลอดภัยแถวนี้แย่เหลือเกิน
เฉินเจียเหอจ้องมองชายหนุ่มที่ถูกถังจวิ้นเฟิงใส่กุญแจมือด้วยสายตาเยียบเย็น เขาปล่อยหลินเซี่ยแล้วเดินเข้าไปหา ทำท่าจะต่อยหน้าชายหนุ่มคนนั้น
ถังจวิ้นเฟิงห้ามเขาไว้ พูดว่า “ส่งตัวไปสำนักสันติบาลเถอะ”
ตอนนี้ยังไม่เหมาะที่จะลงมือ
คนแบบนี้ไม่ใช่แค่ต่อยสักทีแล้วจบ เมื่อครู่นี้เขากระทำอนาจาร ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ควรได้รับการลงโทษตามกฎหมาย
หลินเซี่ยค่อนข้างตกใจกลัวกับเรื่องเมื่อครู่นี้ เพราะตัวเธอเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ไม่สามารถสู้ผู้ชายในด้านพละกำลังได้เลย
ตอนที่วิ่งหนีเมื่อครู่ เธอใช้แรงทั้งหมดที่มี ตั้งใจจะวิ่งไปทางร้านของตัวเอง
“เซี่ยเซี่ย เธอรู้จักคนนี้เหรอ?” เมื่อครู่อีกฝ่ายเรียกหลินเซี่ยว่าเถ้าแก่หลิน
หลินเซี่ยตอบว่า “เป็นลูกค้าที่ร้าน วันนี้มาตัดผม ฉันบอกเขาไปแล้วว่าแต่งงานแล้ว แต่เขายังโผล่ออกมาจากข้างทางมารบกวนฉัน”
ตอนนี้สงบลงแล้วยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้น ไอ้หมอนี่คงแอบตามเธอมา
ดูเหมือนเป็นแค่นักศึกษาธรรมดา แต่จริง ๆ แล้วเป็นคนวิปริต
หลินเซี่ยถามเฉินเจียเหออย่างสงสัย “พวกคุณมาเจอที่นี่ได้ยังไง?”
เฉินเจียเหออธิบาย “ผมจะมารับคุณที่ร้าน เด็กสาวสองคนนั้นกำลังล็อคประตู บอกว่าคุณไปซื้อขาหมู”
หลินเซี่ยมองขาหมูที่เธอใช้ทุบหัวคนคนนั้นเมื่อครู่ ตอนนี้มันกระจัดกระจายอยู่บนพื้นห่างออกไปสามเมตร และเปื้อนฝุ่นไปแล้ว
หลินเซี่ยมองขาหมูบนพื้นแล้วพูดอย่างโมโห “ดูเหมือนว่าขาหมูจะไม่ถูกโฉลกกับพวกเรา ต่อไปนี้ฉันจะไม่กินขาหมูอีกแล้ว”
ครั้งนั้นที่หู่จือถูกลักพาตัวไป ก็เพราะไปซื้อขาหมู
“ใช่ ต่อไปเราจะไม่กินขาหมูข้างนอกอีกแล้ว เดี๋ยวผมจะทำให้คุณเอง”
หลินเซี่ยฝืนยิ้ม “มันไม่เกี่ยวกับคุณหรอก อย่าโทษตัวเองเลย ใครจะไปรู้ว่าแค่มาทำงานก็จะเจอคนบ้า”
“มันเป็นความผิดของผมเอง”
ถ้าเขามาเร็วกว่านี้สิบนาที เธอก็จะไม่ต้องอยู่คนเดียว
มีคนพูดว่าความรักคือการติดหนี้อยู่เสมอ
คำพูดนี้ถูกต้องทุกประการ เฉินเจียเหอมองหญิงสาวในอ้อมกอดของเขา รู้สึกผิดและเจ็บปวด
เขาไม่กล้าคิดเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นหากเขามาช้าไปอีกนิดเดียว
หลินเซี่ยมองสายตารู้สึกผิดของเขาแล้วก็แสร้งทำเป็นผ่อนคลาย “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ต่อให้คุณไม่มาฉันก็วิ่งหนีพ้น อีกนิดเดียวฉันจะวิ่งไปถึงสี่แยกซือจือที่มีคนพลุกพล่านแล้ว”
ในฤดูหนาวเช่นนี้ อากาศช่วงบ่ายก็ยังหนาวอยู่ จึงไม่มีใครอยู่ตรงทางเข้าตรอกแห่งนี้
เฉินเจียเหอกับหลินเซี่ยตามถังจวิ้นเฟิงไปยังสถานีตำรวจ
ภายในสถานีตำรวจเต็มไปด้วยเพื่อนร่วมงานของถังจวิ้นเฟิง พอเห็นเขาพาหนุ่มน้อยคนหนึ่งสวมกุญแจมือมา ก็จะเข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่พอได้เห็นหน้าอีกฝ่ายชัดๆ ก็เริ่มอุทานเสียงกร้าว “หวังเป่าหง เป็นนายอีกแล้วเหรอเนี่ย?”
“ผู้กระทำความผิดเป็นนิสัยเหรอ?” ถังจวิ้นเฟิงได้ยินคำพูดของเพื่อนร่วมงานแล้วก็เลิกคิ้วถามอีกฝ่าย
ตำรวจวัยกลางคนย่นคิ้ว มองชายหนุ่มที่ชื่อหวังเป่าหง และเอ่ยอย่างจนใจ “แน่สิ เขาเคยลวนลามเพื่อนนักศึกษาหญิงที่มหาวิทยาลัยจนโดนจับมาที่นี่สองครั้งแล้ว”
ถังจวิ้นเฟิงถึงกับฉุนขึ้นมาทันที “ทำไมไม่ลงโทษให้หนักๆ ล่ะ ปล่อยเขาออกมาทำผิดเป็นครั้งที่สามเนี่ยนะ? คุณมัวแต่ทำอะไรอยู่?”
ชายหนุ่มคนนี้ถูกตั้งข้อหาอนาจารแต่กลับไม่ถูกตัดสินโทษ พอออกมาได้ก็ทำร้ายผู้คนอีกซ้ำๆ
ถังจวิ้นเฟิงเอ่ยกับตำรวจวัยกลางคนด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “เมื่อครู่เขาลวนลามผู้หญิงคนนี้ ถ้าพวกเรามาไม่ทันเวลา เกรงว่าเขาจะข่มขืนหล่อน พฤติการณ์ร้ายแรง หลักฐานชัดเจน ควรจับกุมคุมขังและฟ้องร้องดำเนินคดีทันที”
ชายที่ถูกใส่กุญแจมือพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น “พี่ใหญ่ ผมผิดไปแล้ว ผมไม่ได้ทำอย่างที่คุณพูดเลย ผมไม่ได้คิดจะข่มขืนหล่อน ผมแค่คิดว่าหล่อนสวย เห็นหล่อนครั้งแรกก็นึกถึงหล่อนตลอด ผมแค่อยากจะคบเป็นแฟนกับหล่อนเท่านั้น”
“คบบ้านแกสิ หล่อนบอกอยู่ชัดๆ แล้วว่าแต่งงานแล้ว แกเป็นพวกวิปริตหรือไง แล้วใครเขาคบกับแฟนด้วยการบังคับกัน แกตั้งใจจะทำอนาจารหล่อนชัดๆ”
“ดำเนินการตามขั้นตอนเถอะ” ถังจวิ้นเฟิงวิเคราะห์จากคำพูดของเพื่อนร่วมงานว่า ลูกคุณหนูคนนี้อาจมีเส้นสาย ทำให้เขากล้าทำอะไรโดยไม่เกรงกลัว
“ถ้าพูดถึงเส้นสาย เขาแน่นกว่าเยอะ ดำเนินการตามขั้นตอนเถอะ ไม่ต้องประกันตัว ผมจะคอยดูแลคดีนี้ตลอด”
ตำรวจวัยกลางคนมองชายหน้าดุที่ดูน่าเกรงขามแล้วพยักหน้า แสดงว่าจะจัดการอย่างจริงจัง
มีคนที่มีเส้นสายแน่นกว่าเด็กคนนี้ พวกเขาก็จะทำงานได้ง่ายขึ้น
ไม่อย่างนั้นพ่อแม่ของเด็กคนนี้จะออกหน้า แอบเอาเงินฟาดหัวผู้เสียหายอย่างลับๆ พอเด็กสาวเปลี่ยนคำให้การ พวกเขาก็ไม่มีหลักฐาน อยากจัดการก็ทำไม่ได้
ถังจวิ้นเฟิงจ้องมอง บันทึกคำให้การ แล้วสั่งคุมขังหวังเป่าหงทันที
เฉินเจียเหอในตอนนี้ยังคงอยากต่อยหน้าหมอนั่นสักสองหมัดเพื่อระบายความแค้น แต่น่าเสียดายที่ถูกถังจวิ้นเฟิงจับตัวไว้ ทำให้ไม่สามารถลงมือในสถานีตำรวจได้
เฉินเจียเหอพูดว่า “ส่วนที่เหลือพวกเราจะส่งทนายมาจัดการ”
เมื่อได้ยินว่าเป็นผู้กระทำผิดซ้ำซาก พวกเขาก็ยิ่งมั่นใจในการตัดสินใจหาทนายมาดำเนินการอย่างเด็ดขาด
ในเมื่อเขามีเส้นสาย ฝั่งนี้ก็สามารถใช้เส้นสายของตัวเองได้เช่นกันในยามจำเป็น โดยไม่ต้องละเมิดกฎหมาย แค่กำกับดูแลก็ไม่ขัดต่อหลักการ
ถังจวิ้นเฟิงเข้าใจความโกรธของเฉินเจียเหออย่างสมบูรณ์
เหมือนกับที่แฟนของเขาเคยประสบเหตุการณ์แบบนั้นมาก่อน เขาอยากจะสับร่างของพวกค้ามนุษย์เป็นชิ้นๆ เหมือนกัน
แต่ในสังคมที่มีกฎหมาย พวกเขายิ่งควรใช้อาวุธทางกฎหมายในการแก้ปัญหา
แน่นอนว่าต้องมั่นใจก่อนว่ากฎหมายจะถูกใช้อย่างยุติธรรมและเที่ยงตรง
เขาปลอบเฉินเจียเหอไม่ให้หุนหันพลันแล่น บอกว่าเรื่องนี้ให้เขาจัดการเอง เขาจะคอยดูแลให้มีการดำเนินการตามกฎหมายอย่างแน่นอน ไม่ว่าไอ้ลูกคุณหนูบ้านรวยคนนี้จะโผล่มาจากไหน หรือมีเส้นสายอะไร ก็ไม่มีทางหลุดรอดจากการลงโทษตามกฎหมายได้
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เจอคนใหญ่กว่าซะมั่ง จะได้รู้ว่าเป็นลูกคุณหนูบ้านรวยแล้วก็ใช่ว่าจะได้ทุกอย่างตามที่ต้องการ
ไหหม่า(海馬)