ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 870 รู้สึกดีมากที่ได้รับการปกป้อง
ตอนที่ 870 รู้สึกดีมากที่ได้รับการปกป้อง
เฉินเจียเหอต้องไปทำงานในช่วงบ่าย ตอนนี้ใกล้เที่ยงแล้ว อีกทั้งเวลาก็กระชั้นเข้ามา เขารอจนซี่โครงสุกแล้วรีบตักใส่ชามให้หลินเซี่ยแล้วนำออกมา
“มา ซี่โครงสุกแล้ว กินเนื้อได้แล้วครับ”
เขายังหยิบผักดองที่แม่ของเขาทำมาด้วย บอกว่าถ้าน้ำซุปเนื้อมันเลี่ยนเกินไปก็กินผักดองแกล้มได้
หลินเซี่ยป้อนขนมปังกรอบให้ลูกชายเสร็จแล้ววางเขาลงบนผ้าห่มให้คลาน
จากนั้นเธอก็ชิมซี่โครงคำหนึ่ง
แล้ววางช้อนลง
เฉินเจียเหอมองเธอด้วยความคาดหวัง รอฟังความเห็นจากเธอ
หลินเซี่ยเคี้ยวเนื้อพลางพยักหน้าอย่างพอใจ “อร่อย”
“กินเยอะๆ นะ บำรุงร่างกายดีๆ”
ในตอนนี้ เขารู้สึกพึงพอใจและมีความสุขอย่างยิ่งในใจ
ถ้าเขาทำอาหารให้เธอได้ทุกวันก็คงจะดี
แต่ด้วยลักษณะงานของเขา ทำให้ยุ่งทั้งวัน…
หลินเซี่ยเห็นเขาจ้องมองตัวเองพลางยิ้มโง่งม เธอจึงพูดว่า “คุณก็กินด้วยสิ”
“ได้ งั้นผมกินด้วย”
เฉินเจียเหอหยิบเศษอาหารที่เหลือครึ่งหนึ่งจากมือของเธอ แล้วส่งชิ้นเนื้อที่มีเนื้อเยอะให้เธออีกชิ้น
“ผมจะกินอันนี้”
หลินเซี่ยถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นการกระทำแปลกๆ ของเขา “คุณทำอะไรน่ะ ไม่ใช่ว่าไม่มีนี่”
“แบบนี้มันดูโรแมนติกไง”
หลินเซี่ย “!!!”
เรียกกระดูกที่เธอกินเหลือว่าโรแมนติกเนี่ยนะ นิยามความโรแมนติกของเขาช่างแปลกประหลาดเหลือเกิน
เฉินเจียเหอยังแบ่งอาหารไว้ให้แม่ของเขาและหู่จือคนละชาม หลังจากกินเสร็จ เขาก็เตรียมล้างหม้อ หลินเซี่ยดูนาฬิกาแล้วเร่งให้เขาไปทำงาน
เธอจะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่าทำไมวันนี้เขาถึงยอมขาดงานเพื่อไม่ไปทำงาน
ก็เพื่อจะอยู่เป็นเพื่อนเธออย่างไรล่ะ
เฉินเจียเหอยังไม่ได้ถอดผ้ากันเปื้อนออก เขาถือชามเข้าไปในครัว “ไม่เป็นไร ผมไม่รีบ”
“พอเถอะ คุณไม่รีบแต่หัวหน้าหยางรีบ ถ้าไม่ไปเดี๋ยวเขาก็มาตามอีก”
หลินเซี่ยเร่งให้เขาเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วผลักเขาออกจากบ้านเหมือนตอนที่เขาผลักหัวหน้าหยาง
เขาสั่งกำชับหลินเซี่ย “คุณกับเสี่ยวหู่อยู่บ้านดีๆ นะ ผมจะกลับมาตอนเย็น”
“ไม่ต้องกังวลค่ะ วันนี้ฉันจะอยู่บ้านรอคุณกลับมา”
หลังจากเฉินเจียเหอไปทำงาน หลินเซี่ยก็มองกองกระดูกบนโต๊ะ มุมปากเผยรอยยิ้มมีความสุข
ชุนฟางโทรมาถามไถ่ด้วยความห่วงใยเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อวาน
หลินเซี่ยสงสัย “เธอรู้ได้ยังไง?”
ชุนฟางที่ปลายสายเอ่ยด้วยเสียงแทบร้องไห้ “ฉันเพิ่งรู้ว่าเมื่อวานเธอถูกคนร้ายดักทำร้าย ตอนที่ตำรวจมาสอบถามข้อมูล”
“หนุ่มคนนั้นดูสุภาพเรียบร้อยไม่เหมือนคนร้ายสักนิด ก่อนหน้านี้ยังมาถามว่าคุณจะมาร้านเมื่อไหร่ บอกว่าอยากให้คุณตัดผมให้ ฉันเองก็ไม่ทันได้คิดอะไรเลย ฉันมันโง่จริงๆ”
น้ำเสียงของชุนฟางเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
หล่อนไม่มีความสามารถในการอ่านคนเลยจริงๆ
คนๆ นั้นวางแผนร้ายกับหลินเซี่ยมานานแล้ว แต่หล่อนกลับไม่รู้ตัวอะไรเลย
“ไม่เกี่ยวกับเธอหรอก เธอคิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร”
เธอถาม “ตำรวจถามอะไรบ้าง?”
ชุนฟางตอบ “พวกเขาสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ที่คนคนนั้นมาที่ร้าน พวกเราก็บอกความจริงไปว่าเขาเคยมาสอบถามเรื่องของเธอมาก่อนหน้านี้แล้ว น่าจะวางแผนทำเรื่องไม่ดีมานานแล้ว แค่ซ่อนเร้นได้ลึกมาก พวกเราถึงไม่ทันสังเกตเห็น”
“พวกเราก็เปิดร้านตามปกติ ทำเหมือนเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น อย่าให้กระทบกับธุรกิจของพวกเรา เธอวางใจได้ ฉันไม่เป็นไร เรื่องนี้พวกเราจะจัดการเอง ไอ้คนเฮงซวยนั่นจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมายแน่นอน นอกจากนี้เธอก็ควรสอนเรื่องความปลอดภัยให้พนักงานด้วย ตอนกลางคืนเลิกงานแล้วอย่าเดินคนเดียว ข้างนอกวุ่นวายมาก”
“ฉันเข้าใจแล้ว พวกเราจะระวังตัว” ชุนฟางได้ยินเสียงของหลินเซี่ยไม่มีอะไรผิดปกติ หล่อนถึงได้วางใจ
หลินเซี่ยวางสายแล้วถึงนึกขึ้นได้ว่าลืมกำชับชุนฟางไม่ให้บอกหลินจินซาน
ถ้าหลินจินซานรู้เรื่อง ครอบครัวเดิมของเธอคงจะวุ่นวายแน่
แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อเธอโทรกลับไปก็พบว่าโทรศัพท์สาธารณะไม่มีคนรับสาย เธอจึงต้องส่งเพจเจอร์ไปหาชุนฟาง เสียเวลาไปสักพักกว่าชุนฟางจะโทรกลับมาบอกว่าได้แจ้งหลินจินซานไปแล้ว
“เธอนี่ปากไวจังเลยนะ” หลินเซี่ยถอนหายใจอย่างหมดคำพูด ต่อว่าชุนฟาง
“ฉันเคยชินกับการเล่าทุกเรื่องให้จินซานฟังน่ะ” เสียงของชุนฟางเหมือนเด็กที่ทำผิด “เซี่ยเซี่ย ขอโทษนะ ฉันใจร้อนไปหน่อย”
“ไม่เป็นไรหรอก ปล่อยมันไปเถอะ”
ตอนบ่าย โจวลี่หรงกลับมาที่บ้าน
“เซี่ยเซี่ย ทนายไปสอบถามสถานการณ์ที่สถานีตำรวจแล้ว พ่อเป็นคนหาทนายเองนะ เธอวางใจได้ เราจะทำให้คนที่รังแกเธอได้รับผลกรรมอย่างแน่นอน”
“แม่ แม่รู้เรื่องทั้งหมดแล้วเหรอ?” หลินเซี่ยมองโจวลี่หรงอย่างตกใจและถาม
ทำไมทุกคนถึงรู้กันหมดแล้วล่ะ?
โชคดีที่เธอไม่ได้เป็นอะไรมาก ถ้าไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใหญ่รู้ก็ไม่ควรบอกพวกเขาจะดีกว่า
บอกไปก็ทำให้พวกเขากังวลเปล่าๆ
โจวลี่หรงอธิบาย “แม่บังเอิญไปได้ยินเจียเหอคุยโทรศัพท์เมื่อคืน เธอเป็นลูกสะใภ้ของบ้านเรา เราไม่อาจนั่งมองเธอถูกรังแกนอกบ้านได้ อีกอย่างเราก็มีกำลังพอที่จะต่อสู้ด้วย ฉันไปสืบข้อมูลมาแล้วล่ะ ไอ้เด็กนั่นเป็นลูกชายของผู้อำนวยการหวังแห่งกระทรวงแรงงาน คนพ่อเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่ยศไม่สูงเท่าพ่อเธอ แต่กลับทำตัวกร่างใช้อำนาจในทางมิชอบจนเกินตัว”
เห็นโจวลี่หรงแม่สามีผู้มีนิสัยเย็นชาออกตัวปกป้องเธออย่างจริงจังแบบนี้ หลินเซี่ยก็รู้สึกซาบซึ้งใจ
เธอพิงไหล่ของโจวลี่หรงและพูดอย่างจริงใจว่า “แม่ มีพวกคุณอยู่นี่ดีจริงๆ ค่ะ”
ความรู้สึกที่มีคนคอยปกป้องช่างดีเหลือเกิน
โจวลี่หรงรู้สึกไม่คุ้นเคยในตอนแรกที่ลูกสะใภ้สนิทสนมกับหล่อนเช่นนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นศีรษะของเธอพิงอยู่บนไหล่ของตัวเอง จนรู้สึกแปลกๆ ในใจ
หล่อนมีลูกชายสามคน แต่พวกเขาไม่สนิทกับหล่อนตั้งแต่เด็ก
หล่อนไม่เคยเข้มงวดกับพวกเขามากนักเพราะเป็นเด็กผู้ชายทั้งหมด เมื่อพวกเขาโตขึ้น ความสัมพันธ์กับหล่อนก็ยิ่งห่างเหินออกไป
ถ้าหล่อนมีลูกสาวก็คงจะเป็นเหมือนหลินเซี่ย ที่สนิทสนมใกล้ชิด เอาใจและเล่าเรื่องในใจให้ฟังใช่ไหม?
หล่อนรู้สึกอิจฉาครอบครัวที่มีลูกสาวขึ้นมาทันที
แต่พอคิดอีกที หล่อนก็สามารถปฏิบัติกับลูกสะใภ้เหมือนลูกสาวได้ เช่นเดียวกับตอนนี้ที่สนิทสนมกันมาก
หล่อนจะมีลูกสะใภ้สามคน นั่นก็เท่ากับมีลูกสาวสามคน
ลูกชายของพวกเขามีสายตาดีและโชคดี หาแฟนที่เก่ง ใจดี และนิสัยดีได้ทั้งนั้น
ถ้าจริงใจกับพวกเธอ พวกเธอก็จะจริงใจกับหล่อนเช่นกัน
……………………………………………..
ชุนฟางเล่าให้หลินจินซานฟังว่าหลินเซี่ยถูกนักเลงดักบนถนน เมื่อหลินจินซานบอกเรื่องนี้กับเซี่ยเหลยและคนอื่นๆ พี่น้องทั้งสองคนก็แทบจะเสียสติ
พอเข้าประตูมาในครั้งนี้ แม้จะเห็นว่าหลินเซี่ยปกติดีทุกอย่าง แต่พวกเขาก็ยังไม่วางใจ มีคำถามบางอย่างที่ไม่กล้าถาม
เธอถูกอันธพาลทำร้ายหรือเปล่า?
ถ้าทำร้าย ทำร้ายถึงขั้นไหน?
“พ่อ อารอง ไม่เป็นไรค่ะ คนนั้นแค่ลวนลามฉัน พอดีเฉินเจียเหอกับคุณตำรวจถังมาทันเวลา จับตัวเขาส่งสถานีตำรวจ ฉันแค่ตกใจกลัวนิดหน่อยตอนนั้น”
“ไอ้สารเลวนี่ รนหาที่ตายแล้ว”
ครั้นพี่น้องทั้งสองเห็นว่าหลินเซี่ยไม่เป็นอะไรมากและเข้าใจสถานการณ์แล้ว พวกเขาก็รีบรุดไปสถานีตำรวจด้วยความโกรธ
แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย แต่ก็ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง
เซี่ยเหลยหยิบใบประกาศเกียรติคุณชั้นที่สองของเขาออกมา พร้อมเอกสารต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาแทบไม่เคยทำ เขาต้องการใช้สิ่งเหล่านี้กดดันให้ตำรวจดำเนินการอย่างเข้มงวด
ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นลูกเจ้าหน้าที่รัฐ มีคนคุ้มครอง เขาก็ต้องใช้วิธีนี้เพื่อปกป้องสิทธิของลูกสาวเขาเช่นกัน
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
บ้านแม่ของเซี่ยเซี่ยก็ใช่ย่อย พ่อเป็นทหารผ่านศึกวีรบุรุษชาติ อารองเป็นนักธุรกิจใหญ่ แท็กทีมรวมกับทางบ้านเจียเหอเมื่อไหร่ คราวนี้ไอ้หวังตายแน่ ตายแน่ไอ้หวังละว้า
ไหหม่า(海馬)