ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 874 ตัวปัญหาใหญ่
ตอนที่ 874 ตัวปัญหาใหญ่
“เฉินเจียซิ่ง นายดีใจนักใช่ไหมที่ฉันสร้างโรงเรียนไม่สำเร็จ ในที่สุดนายก็รู้สึกมั่นคงในใจแล้วใช่ไหม?”
หลินเซี่ยในตอนนี้กำลังโกรธจัดจริงๆ เธอวางเสี่ยวหู่ลงบนพื้น แล้วมองเฉินเจียซิ่งอย่างเย็นชา เอ่ยเยาะเย้ย “ฉันที่เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งกลับสร้างโรงเรียนได้ เรื่องนี้คงทำให้นายเสียหน้ามากใช่ไหม? ตอนนี้สาแก่ใจนายแล้วสินะ?”
“นายเป็นผู้ชายตัวโตซะเปล่า แต่จิตใจช่างมืดมนจริงๆ ตัวเองไม่มีความสามารถ แถมยังไม่ยอมให้คนอื่นมีความสามารถอีก”
“นายมาทำงานให้ฉัน แต่ในใจกลับไม่ยอมรับฉัน ฉันเห็นว่านายเป็นคนที่ไม่ช้าก็เร็วคงต้องแทงข้างหลังฉันแน่ นายรีบลาออกเถอะ ฉันไม่กล้าใช้นายอีกแล้ว”
เฉินเจียซิ่ง “????”
ทำไมอยู่ดีๆ ถึงให้เขาลาออก?
เขาพูดอะไรผิดไป? ถึงได้ให้เขาลาออก?
หลินเซี่ยอารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว เฉินเจียซิ่งซักไซ้ไล่เลียงสอดรู้สอดเห็นเรื่องส่วนตัวของเธอไม่พอ คำพูดของเขาเมื่อครู่นี้ยังเปิดเผยความคิดมืดมนในใจของเขาออกมาจนหมดสิ้น
พอเฉินเจียซิ่งได้ยินว่าหลินเซี่ยจะไล่เขาออก เขาก็รีบร้อนขึ้นมาทันที เริ่มหาข้อแก้ตัว “พี่สะใภ้ใหญ่ อย่าเข้าใจผิดนะครับ ผมไม่ได้มีเจตนาอื่น ผมก็แค่วิเคราะห์ตามความเป็นจริง คุณอย่าเพิ่งโมโหจนเสียการควบคุม ถึงโรงเรียนจะสร้างไม่สำเร็จ แต่ร้านก็ยังอยู่นะครับ คุณอย่าเอาอารมณ์ไม่ดีของตัวเองมาลงกับพนักงานเลย นี่มันแย่เกินไปแล้ว”
โจวลี่หรงดุด้วยน้ำเสียงเย็นชา “แย่ตรงไหนกัน? ถ้าแกพูดไม่เป็นก็หุบปากซะ อย่าเอาแต่พูดจาไร้สาระ”
เฉินเจียซิ่งถูกแม่ของเขาดุ เขาเบ้ปาก แล้วนั่งเงียบไป
โจวลี่หรงจ้องเฉินเจียซิ่ง แล้วหันไปยิ้มให้หลินเซี่ย พลางพูดว่า “เซี่ยเซี่ย เธออย่าไปถือสาเขาเลย เขาแค่พูดไม่ยั้งคิด แต่จิตใจไม่ได้เลวร้าย ตอนนี้พวกเราควรใจเย็นที่สุด คนในครอบครัวต้องรักใคร่สามัคคีกัน ไม่งั้นจะถูกคนอื่นหัวเราะเอาได้ และยังจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานปกติของร้านด้วย”
ถึงโจวลี่หรงจะดุลูกชาย แต่อยู่ต่อหน้าหลินเซี่ย หล่อนก็ยังพูดแทนเฉินเจียซิ่ง
หล่อนไม่อยากเห็นเฉินเจียซิ่งตกงานอีกครั้ง
พอโจวลี่หรงเอ่ยปาก หลินเซี่ยก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องให้เฉินเจียซิ่งลาออกอีก
พูดตามตรง ตอนนี้ที่ร้านยังขาดเฉินเจียซิ่งไม่ได้จริงๆ
ถึงแม้คนคนนี้อาจจะแทงข้างหลังเธอในอนาคต แต่ตอนนี้ก็ยังต้องใช้เขาอยู่
เฉินเจียซิ่งก็กลัวเช่นกัน เขาเคยเห็นความร้ายกาจของหลินเซี่ยมาแล้ว
หากพูดว่าจะไล่เขาออก เธอก็อาจจะไล่เขาออกไปทันทีอย่างไม่ไว้หน้าใครเลย
เขารีบขอโทษและอธิบายว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ อย่าถือสาผมเลยนะครับ ผมพูดผิดไปแล้ว ผมก็แค่เป็นห่วงคุณ คุณเองก็ไม่บอกว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ในฐานะน้องเขยของคุณและพนักงานหลักในร้าน ผมไม่รู้จะช่วยแก้ปัญหาให้คุณยังไง ผมกังวลมากจริงๆ ใจผมห่วงกิจการของคุณ ได้ยินว่าคุณเจอปัญหาใหญ่ ผมที่เป็นห่วงมากเลยคิดไปในทางที่แย่ที่สุด นี่เป็นความกังวล ไม่ใช่สมน้ำหน้า คุณอย่าเข้าใจผิดความหมายของผมเลยนะครับ”
หลินเซี่ยได้ยินคำพูดของเขา มุมปากก็กระตุกเล็กน้อย
ต้องยอมรับว่าคนคนนี้พูดเก่งจริงๆ
คราวที่แล้วพูดจนหลินจินซานตามติดเขาไปเรียกพี่เรียกน้อง คราวนี้พูดจาฟังดูดีมาก ถ้าไม่ใช่เพราะคำพูดก่อนหน้านี้ของเขาฟังแล้วน่าโมโหมาก เธอก็เกือบจะรู้สึกซาบซึ้งแล้ว
หลินเซี่ยโบกมือ แสดงว่าจบเรื่องนี้เพียงเท่านี้
ไม่อยากถือสาอีกต่อไป
เมื่อร้านของเธอยังต้องการเขาอยู่ชั่วคราว ก็ไม่จำเป็นต้องโต้เถียงกันต่อไปอีก
วันนี้ทั้งพี่และน้องคู่นี้จับเขาได้อยู่หมัด
ตอนเช้าเขากลัวว่าหลินจินซานจะไม่พอใจรูปพรีเวดดิ้งแล้วจับผิด ตอนนี้เขาก็กังวลว่าหลินเซี่ยจะโกรธแล้วไล่เขาออก
ชีวิตคนทำงานช่างยากลำบากและต่ำต้อยเหลือเกิน
ผู้เฒ่าเฉินมองหลานชายที่น่าตบนี้แล้วก็คร้านจะสอนเขาอีก
เขาจึงถามถึงลูกสะใภ้แทน
“เจียซิ่ง ทำไมเธอมาคนเดียวล่ะ? หงเสียอยู่ไหน?”
เฉินเจียซิ่งเอ่ยปากว่า “คุณปู่ วันนี้หงเสียหยุดพักอยู่ที่บ้านครับ”
“งั้นก็รีบกลับไปเถอะ อย่าปล่อยให้หงเสียอยู่บ้านคนเดียว”
ผู้เฒ่าเฉินไล่คนกลับทันที “กลับไปเถอะ”
เฉินเจียซิ่งตั้งใจจะบอกว่าเขาจะกินข้าวให้เสร็จก่อนแล้วค่อยกลับ จะได้คุยกับหลินเซี่ยสักหน่อย แก้ตัวให้ตัวเองไม่ให้โดนไล่ออกจริง ๆ
แต่เพราะหยางหงเสียไม่ได้มาด้วย ผู้เฒ่าเฉินจึงไม่ยอมให้เฉินเจียซิ่งอยู่นานและไล่เขาออกไปทันที
เฉินเจียซิ่งจึงจำต้องจากไปอย่างเสียหน้า
พอคนออกไปแล้ว ผู้เฒ่าเฉินก็ถอนหายใจ “เมื่อไหร่ไอ้หนูนี่จะโตสักที”
เขายิ้มพูดกับหลินเซี่ยว่า “เซี่ยเซี่ย ตอนนี้ไอ้หนูนั่นก็นับว่ามั่นคงขึ้น ไม่ได้ทำอะไรเหลวไหลอีก เธอก็ให้เขาทำงานไปก่อน ถ้าต่อไปมันเกิดเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก เธอก็บอกพวกเรา ถึงตอนนั้นพวกเราจะสนับสนุนให้เธอไล่เขาออกแน่นอน ตอนนี้ให้เขาทำไปก่อน ฉันว่าช่วงนี้เขาเปลี่ยนไปมากทีเดียว อย่างน้อยก็มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว มีแนวคิดในการเลี้ยงดูครอบครัวแล้ว”
หลินเซี่ยยิ้มบาง พูดว่า “คุณปู่คะ เมื่อกี้ฉันก็แค่พูดไปตามอารมณ์ ถ้าเขาทำงานอย่างซื่อสัตย์ต่อไปได้ ฉันก็ไม่ไล่ออกหรอกค่ะ แค่กลัวว่าต่อไปเขาจะมีความคิดวุ่นวายอีก ฉันสร้างกิจการมาไม่ใช่ง่าย ๆ ไม่ยอมให้มีตัวบ่อนทำลายอยู่ในทีมแน่นอนค่ะ”
ผู้เฒ่าเฉินสีหน้าเคร่งขรึมรับรองกับเธอว่า “เซี่ยเซี่ย เรื่องนี้เธอวางใจได้ ถึงคนตระกูลเฉินจะไม่เอาไหนแค่ไหนก็ไม่มีทางทำเรื่องทรยศหักหลังแน่นอน”
หลินเซี่ยไม่ได้โต้แย้งกับคุณปู่ แต่ในใจเธอไม่ได้คาดหวังอะไรมากนักกับเฉินเจียซิ่งคนนี้
เมื่อเธอกลับไปก็จะให้จางซ่วนฝึกช่างภาพคนใหม่ขึ้นมา ถ้าที่อื่นมีงานที่เหมาะสมกับเฉินเจียซิ่ง ก็จะส่งเขาไปทำงานที่นั่นเลย
เธอไม่กล้าเก็บตัวปัญหาแบบนี้ไว้ใกล้ตัวและมอบหมายงานสำคัญให้นานๆ
“ได้ ไม่พูดแล้ว”
คู่สามีภรรยาสูงวัยตระกูลเฉินมองหลินเซี่ยด้วยสายตาเป็นห่วง แต่ก็ไม่ได้ถามถึงเรื่องที่เธอถูกรังแก
พวกเขาแค่บอกให้โจวลี่หรงทำอาหารเพิ่ม แล้วช่วยกันดูแลเสี่ยวหู ทั้งคู่พูดคุยกันมากกว่าปกติ หาเรื่องคุยต่างๆ นานา เล่าเรื่องตลกเพื่อให้เธอร่าเริง
หลินเซี่ยเดาได้ว่าพวกเขารู้เรื่องนี้แล้ว แต่เธอไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรจริงๆ และเรื่องนี้ก็กำลังอยู่ในระหว่างการจัดการ
ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก
เฉินเจียวั่งอยู่บ้านอย่างหาได้ยาก เมื่อเห็นเขาเดินลงมาจากชั้นบน หลินเซี่ยจึงฉวยโอกาสนี้หารือกับเฉินเจียวั่งเกี่ยวกับแบบแปลนการก่อสร้างอาคารเรียน
สำหรับเรื่องแบบแปลน หลินเซี่ยมีความคิดใหม่ อยากจะปรับเปลี่ยนอีกครั้ง
เฉินเจียวั่งไม่ได้แสดงอาการเบื่อหน่ายแต่อย่างใด เขาตั้งใจฟังความคิดของเธออย่างอดทน แล้วจดบันทึกลงบนกระดาษอย่างจริงจังเพื่อนำไปแก้ไขในภายหลัง
หลินเซี่ยแสดงความชื่นชมอย่างมากต่อทัศนคติการทำงานที่เคร่งครัดและจริงจังของเฉินเจียวั่ง หลังจากที่เธอพูดความคิดของตัวเองจบ เฉินเจียวั่งก็ให้เธอยืนยันอีกครั้ง
หลินเซี่ยชูนิ้วโป้งให้เขา “สถาปนิกเฉินผู้ยิ่งใหญ่ แค่ทัศนคติในการทำงานของคุณ ฉันก็มั่นใจว่าการมอบการวางแผนและออกแบบโรงเรียนให้คุณไม่ผิดแน่”
เฉินเจียวั่งไม่แสดงสีหน้า ไม่มีปฏิกิริยาต่อคำพูดยกยอของเธอ
ผู้เฒ่าเฉินยิ้มแล้วพูดว่า “เซี่ยเซี่ย เธอประเมินเจียวั่งไว้สูงมากนะ”
หลินเซี่ยกล่าวว่า “คุณปู่คะ คนคนนี้เคยได้รับรางวัลระดับนานาชาติมาแล้วนะคะ ฉันต้องประเมินสูงสิคะ ตอนนี้เขายังไม่มีชื่อเสียง ค่าตัวยังถูกอยู่ ฉันจะใช้งานเขาให้มาก ๆ ต่อไปเขาจะเป็นบุคคลที่พวกเราไม่อาจเอื้อมถึง จะให้เขาออกแบบแต่ละทีต้องจองคิวรอเลยนะคะ”
“ไม่มีทาง” เฉินเจียวั่งมองเธอ ใบหน้าหล่อเหลาดูจริงจังอย่างยิ่ง “ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ตราบใดที่พี่สะใภ้ใหญ่ต้องการ ผมจะไม่ปฏิเสธ และจะไม่คิดค่าใช้จ่ายแม้แต่เฟินเดียว”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
พูดอะไรให้มันรู้กาลเทศะมั่งเจียซิ่ง หวิดโดนไล่ออกแล้วไงล่ะ เจียวั่งยังดูเป็นผู้ใหญ่กว่านายอีก
ไหหม่า(海馬)