ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 886 เซี่ยปิง
ตอนที่ 886 เซี่ยปิง
หลินจินซานได้ยินเสียงคนเรียกจากด้านนอก จึงลุกขึ้นเปิดม่านประตูออกไปดูสถานการณ์ก่อนใคร จากนั้นก็ได้เห็นชายวัยกลางคนที่ไม่คุ้นหน้ายืนอยู่ในลานบ้าน อีกฝ่ายดูมีอายุใกล้เคียงกับเซี่ยไห่ และมีบุคลิกสง่างามเช่นเดียวกัน เขาหวีเสยสลิคแบค มีโครงหน้าคมเข้ม สวมเสื้อโค้ทสีน้ำตาลที่ดูมีคุณภาพสูง
หลินจินซานถามอย่างสุภาพ “สวัสดีครับ คุณมาหาใครครับ?”
สายตาของอีกฝ่ายจับจ้องที่หลินจินซาน ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัย เขาถามอย่างระมัดระวัง “สวัสดีครับ ไม่ทราบว่านี่เป็นบ้านของคุณเซี่ยเหลยหรือเปล่าครับ?”
“ใช่ครับ”
หลินจินซานไม่กล้าซักถามตัวตนของอีกฝ่าย เขาหันกลับไปพูดกับเซี่ยเหลยที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้อง “ลุงเซี่ย มีคนมาหาคุณครับ”
เซี่ยเหลยกับเซี่ยไห่ได้ยินว่ามีคนแปลกหน้ามา พวกเขาก็ลุกขึ้นยืน
ทั้งคู่เดินออกมาจากห้องโถง พอเห็นชายวัยกลางคนที่มีบุคลิกสง่างามยืนอยู่ในลานบ้าน ทั้งสองคนต่างมีสีหน้างุนงงเช่นกัน
โดยเฉพาะเซี่ยเหลยที่ดูเหมือนจะไม่รู้จักคนคนนี้
เซี่ยเหลยยังคงเดินเข้าไปหา มองอีกฝ่ายแล้วแนะนำตัวอย่างสุภาพ
“สวัสดีครับ ผมชื่อเซี่ยเหลย ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครครับ?”
เมื่อได้ยินการแนะนำตัวของเซี่ยเหลย สีหน้าที่เคยสงบนิ่งของชายคนนั้นก็เปลี่ยนเป็นตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด
เขารีบเดินเข้ามาหาเซี่ยเหลย พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า “พี่ใหญ่ สวัสดีครับ”
เมื่อได้ยินคำว่า “พี่ใหญ่” เซี่ยเหลยก็ยิ่งมีสีหน้างุนงงมากขึ้น
เขามองเซี่ยไห่ สบตากัน ทั้งสองพี่น้องต่างมองหน้ากันอย่างงุนงง
เซี่ยเหลยเริ่มคาดเดาในใจว่าอีกฝ่ายอาจจะเป็นสหายร่วมรบในกองทัพ
แม้เขาจะฟื้นความทรงจำแล้ว แต่สำหรับคนรู้จักบางคนที่ห่างหายไปนาน เขาก็ยังนึกไม่ออกทั้งหมด
เซี่ยไห่ก็คิดเช่นเดียวกัน คนที่มาหาพี่ชายของเขาน่าจะเป็นสหายร่วมรบแน่นอน
นอกจากพี่น้องแท้ๆ แล้ว ก็มีแต่สหายทหารเท่านั้นที่จะมองพี่ใหญ่ด้วยสีหน้าตื้นตันและตื่นเต้นขนาดนี้
ตัวเขาเองก็เคยเป็นทหารมาก่อน เขาเข้าใจความรู้สึกนั้นดี
“ไม่ทราบว่าคุณคือ…” เซี่ยเหลยมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงขอโทษ “ก่อนหน้านี้ผมเคยได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ อาจจะจำคุณไม่ได้ ขอโทษด้วยนะครับ”
ชายคนนั้นสบตากับเซี่ยเหลยที่มองมาอย่างจริงใจ ใบหน้าของเขาแสดงความลังเลอยู่หลายอึดใจ จากนั้นจึงพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอึดอัดเล็กน้อย “พี่ใหญ่ พวกเราเคยเจอกันตอนเด็กๆ เวลาผ่านไปตั้ง 30 กว่าปีแล้ว คุณคงลืมไปแล้วแน่ๆ”
เซี่ยเหลย “???”
เจอกันเมื่อ 30 กว่าปีก่อน?
พี่ใหญ่?
สมองเซี่ยไห่คิดประมวลผลอย่างรวดเร็ว เมื่อเชื่อมโยงคำเหล่านี้เข้าด้วยกัน สายตาของเขาก็เริ่มระแวดระวังขึ้นมาทันที เขาหรี่ตามองอีกฝ่ายอย่างพินิจพิเคราะห์ ครั้นความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาในหัว สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
สายตาของชายคนนั้นเลื่อนมาที่เซี่ยไห่ แล้วถามด้วยรอยยิ้ม “คุณคือเซี่ยไห่ใช่ไหมครับ?”
เซี่ยไห่ทำหน้าเย็นชา มองชายคนนั้นด้วยสายตาราวอาบยาพิษ “ใช่ ผมคือเซี่ยไห่ คุณชื่ออะไร?”
เขาอยากรู้ตัวตนของอีกฝ่ายอย่างเร่งด่วน
“ผม…” ชายคนนั้นหลบตา ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยปาก “ผมชื่อเซี่ยปิง”
เมื่อเซี่ยเหลยได้ยินชื่อนี้ ประกอบกับสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักของเซี่ยไห่ เขาก็ดูเหมือนจะเข้าใจบางอย่าง
แต่แล้วก็รีบปฏิเสธสิ่งที่เดาเอาไว้ในใจ
เป็นไปไม่ได้
จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะเป็นเด็กชายคนนั้นในอดีต?
อย่างไรก็ตาม กลัวอย่างไรกลับเจออย่างนั้น…
“พี่ใหญ่ เซี่ยไห่ สวัสดีครับ ผมขอแนะนำตัวว่าผมชื่อเซี่ยปิง เป็นน้องชายต่างมารดาของพวกคุณ ”
เซี่ยปิงมองเซี่ยเหลยและเซี่ยไห่ แล้วแนะนำตัวเองอย่างละเอียด “ผมน่าจะแก่กว่าเซี่ยไห่สองปี ผมอายุเท่ากับเซี่ยอวี่น่ะครับ”
“ลูกนอกสมรสของเมียน้อยเหรอ?” เดิมทีเซี่ยไห่แค่คาดเดา แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินคำแนะนำตัวของคนคนนี้ ร่างกายของเขาก็สั่นระริกเล็กน้อย ควบคุมอารมณ์ทั้งหมดไม่อยู่ ชกสวนอีกฝ่ายไปหนึ่งหมัดทันที
“แกเป็นลูกนอกสมรสคนนั้นเหรอ? หมายความว่าไง? ผ่านสามสิบกว่าปีแล้วมาหาเราทำไม? ใครให้แกมาที่นี่? ยังจะเรียกพี่ใหญ่เรียกน้องชายอยู่อีก? แกไม่รู้สึกขยะแขยง แต่พวกเรารู้สึกขยะแขยงนะ!”
เซี่ยปิงมองพวกเขาด้วยท่าทางถ่อมตัว น้ำเสียงแฝงความขอโทษ “ขอโทษด้วย ผมรู้ว่าผมมาอย่างกะทันหัน ซึ่งมันไม่สมควร”
คุณแม่เซี่ยและคนอื่นๆ ที่กำลังกินสาลี่ตุ๋นเห็ดหูหนูขาวอยู่ในบ้านได้ยินเสียงวุ่นวายแว่วๆ มาจากด้านนอก จึงเดินออกมาดู
เมื่อได้ยินชายคนนี้แนะนำตัวว่าชื่อเซี่ยปิง หญิงชราก็แทบจะทรงตัวไม่อยู่
ชุนฟางรีบเข้าไปประคองนางไว้ได้ทันก่อนที่จะล้ม
“แม่ เข้าบ้านไปเถอะ” เซี่ยไห่กลัวว่าการปรากฏตัวของบุคคลนี้จะกระทบกระเทือนจิตใจมารดาของเขา เขาส่งสัญญาณให้หลินจินซานรีบพาหญิงชราเข้าไปในบ้าน
อย่างไรก็ตาม คุณแม่เซี่ยยังมีหูตาปกติดี นางได้ยินบทสนทนาของพวกเขาทั้งหมดแล้ว
แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้แนะนำตัวตนอย่างชัดเจน แต่การที่เขาเรียกเซี่ยเหลยว่าพี่ใหญ่ และยังบอกว่าตนชื่อเซี่ยปิง นางจะไม่นึกถึงตัวตนของเขาได้อย่างไร
“เสี่ยวเหลย ให้เขาเข้ามา” คุณแม่เซี่ยมีใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยดูเคร่งขรึมอย่างยิ่ง มองเซี่ยเหลยและสั่งเขาด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
“แม่ คนนี้น่าจะเป็นเพื่อนทหารของพี่ใหญ่ แม่เข้าบ้านไปเถอะ พวกเราจะพาเขาไปพบพี่ใหญ่ข้างนอก”
“บอกให้เขาเข้ามา” คุณแม่เซี่ยสั่งด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดอีกครั้ง
เซี่ยไห่ขมวดคิ้ว สบถเบา ๆ แล้วไล่ตามไป กลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่สุภาพกับแม่ของเขา หรือทำให้แม่ตกใจ
ด้วยความหัวร้อน เขายกเท้าขึ้นถีบบั้นท้ายของเซี่ยปิงทันที
“ไอ้บ้า ใครให้แกไปที่นั่น? ไปให้พ้น”
แม้ปกติเซี่ยไห่จะปากไว แต่เขาแทบไม่เคยใช้ความรุนแรงกับคนอื่นเพราะอารมณ์ไม่อยู่กับร่องกับรอย แต่วันนี้เขากลับเตะชายที่ชื่อเซี่ยปิงคนนี้
คุณแม่เซี่ยตวาดว่า “เสี่ยวไห่ อย่าไร้มารยาท”
เซี่ยปิงโดนเตะ แต่เพราะเซี่ยไห่สวมรองเท้าแตะผ้า จึงไม่เจ็บ มีเพียงรอยเท้าจาง ๆ บนเสื้อโค้ทสีน้ำตาล
เขาไม่สนใจเซี่ยไห่
“คุณป้าครับ สวัสดีครับ ผมชื่อเซี่ยปิง” เขามองหญิงชราตรงหน้าด้วยสีหน้าซับซ้อนอย่างยิ่ง พูดด้วยน้ำเสียงยากลำบาก “ผม…ผมเป็นน้องชายต่างแม่ของพี่เซี่ยเหลย พวกเรา…พวกเราเคยพบกันเมื่อสามสิบปีก่อน”
พูดจบ เขาก็คุกเข่าลงตรงหน้าคุณแม่เซี่ย
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ลูกเมียน้อยมาหาแบบนี้แสดงว่าเกิดเรื่องอะไรกับพ่อหรือเปล่าน้า ต้องการให้คนบ้านตระกูลเซี่ยไปทำอะไรหรือเปล่า
ไหหม่า(海馬)