ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 889 พี่น้องเผชิญหน้ากัน
ตอนที่ 889 พี่น้องเผชิญหน้ากัน
เซี่ยไห่เพิ่งคิดจะถามที่อยู่ผู้รับจดหมายจากเซี่ยปิง หลินจินซานก็นำข่าวของเซี่ยปิงมาบอกพอดี
เซี่ยไห่หรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วพูดว่า “ไม่ต้องสนใจ ไปทำธุระของนายเถอะ เดี๋ยวฉันจะจัดการเอง”
“อารอง อย่าเพิ่งโมโหนะครับ หรือจะให้ผมไล่เขาไปดี?”
หลินจินซานได้เห็นความโกรธที่น่ากลัวของเซี่ยไห่เมื่อเผชิญหน้ากับเซี่ยปิงวันนี้แล้ว เขาจึงกลัวว่าเจ้านายจะใจร้อนแล้วลงมือกับเซี่ยปิงในห้องเต้นรำ คืนนี้มีคนในห้องเต้นรำค่อนข้างมาก เขาไม่อยากให้เรื่องส่วนตัวของเจ้านายส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจปกติ
กลัวว่าคนนอกจะรู้เรื่องส่วนตัวของตระกูลเซี่ยแล้วนำออกไปนินทา
เขาเห็นแล้วว่าปกติอารองมีเหตุผลมาก แต่วันนี้เขาควบคุมอารมณ์ไม่อยู่เลย
ความจริงก็คือตอนนั้นหลินจินซานยังไม่รู้เรื่องสุดช็อกที่ว่าพ่อแท้ๆ ของอารองเซี่ยหนีไปกับคนอื่นตอนยังหนุ่ม
เขาคิดมาตลอดว่าพ่อของอารองเซี่ยเสียชีวิตไปแล้ว
หลินจินซานรู้สึกเห็นใจและสงสารพวกเขามาก เขาคิดว่ามีแค่ชีวิตของเขาที่ลำบาก ไม่คิดว่าพี่น้องตระกูลเซี่ยที่ดูเหมือนจะรุ่งโรจน์ไร้ขีดจำกัด จะต้องเผชิญชะตากรรมเช่นนี้
นี่มันแย่ยิ่งกว่าตายเสียอีก
วางสายโทรศัพท์แล้ว มุมปากเซี่ยไห่ก็ยกขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “มันเป็นความมหัศจรรย์ทางสายเลือดจริงๆ ด้วย ฉันคิดว่าจะต้องไปตามหาเขาซะแล้ว แต่เขากลับมาส่งตัวเองให้ฉันถึงที่”
เซี่ยไห่ลุกพรวดขึ้นมาอย่างกระฉับกระเฉงราวกับได้รับการฉีดยากระตุ้น “ผมมจะกลับไปที่ห้องเต้นรำ”
ลินดารู้สึกไม่สบายใจ จึงขอติดตามไปด้วย
“คุณพักผ่อนเถอะ ผมจะไปเอง คุณไม่ต้องห่วง ผมจะไม่ใจร้อนอีกแล้ว จะเอาที่อยู่ของตาแก่นั่นมาแล้วไล่เขาไป”
แต่ลินดายืนกรานที่จะไปด้วยกัน
หล่อนเชื่อว่าเซี่ยไห่มีเหตุผลในเรื่องอื่นๆ แต่มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้นที่เขาไม่มีทางมีเหตุผลได้
เกิดเขาอดใจไม่ไหวไปต่อยเซี่ยปิง พรุ่งนี้ทั้งครึ่งเมืองไห่เฉิงก็จะรู้เรื่องของครอบครัวเขา
ในเมื่อลินดายืนกรานจะไปด้วย เซี่ยไห่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ จึงจำใจพาหล่อนไปด้วย และสัญญาว่าจะจัดการอย่างมีเหตุผล ไม่ลงมือทำร้ายคนแน่นอน
หลินจินซานเห็นเซี่ยไห่กับลินดาจอดรถและลงมา เขาก็ถูมือไปมา ฝ่ามือเต็มไปด้วยเหงื่อ
“อารอง อย่าใจร้อนเลยนะครับ” หลินจินซาน มองเขาพลางรวบรวมความกล้าเตือนว่า “วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราเปิดทำการก่อนปีใหม่ ลูกค้ายังเยอะอยู่ ถ้ามีอะไรเราค่อยๆ คุยกันดีๆ นะครรับ”
ตอนนี้อารมณ์ของเซี่ยไห่ค่อนข้างมั่นคง เพราะเขาได้พบช่องทางระบายความรู้สึกแล้ว
“ตั้งแต่แต่งงานแล้วนี่นายดูคิดอะไรรอบคอบขึ้นนะ”
เซี่ยไห่พูดจบก็เดินเข้าห้องเต้นรำพร้อมกับ ลินดา
หลินจินซานยืนอยู่ที่ประตู สีหน้าแปลกๆ
นี่อารองกำลังชมเขาหรือ?
ถ้าอย่างนั้น อารองคงจะฟังคำพูดของเขาเข้าหูแล้วสินะ?
เมื่อกี้สีหน้าของอารองดูสงบนิ่งดี ดูเหมือนว่าเขาจะไม่โกรธแล้ว
ไม่เสียแรงเลยที่เป็นเจ้านายผู้ทำเรื่องใหญ่ ควบคุมอารมณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม
เซี่ยไห่มีนิสัยมุทะลุ หัวร้อนง่ายเมื่อถูกจุดประเด็น
หลินจินซานวิ่งเข้าไป พาเซี่ยไห่กับลินดามาที่ตำแหน่งที่เซี่ยปิงอยู่
เซี่ยปิงยังคงสวมเสื้อโค้ทสีน้ำตาลตัวเดิมเหมือนตอนกลางวันและนั่งอยู่ตรงนั้น มือถือแก้วเหล้าฝรั่ง มองดูกลุ่มคนหนุ่มสาวที่กำลังเต้นดิสโก้อยู่ในห้องเต้นรำ
ในห้องเต้นรำที่อึกทึกครึกโครมปรากฏร่างสูงโปร่งของเขานั่งอยู่ตรงนั้น ราวกับไม่เข้ากับสภาพแวดล้อมนี้เลย
เมื่อเซี่ยไห่เห็นร่างนั้น เขาก็ไม่รู้ว่าทำไม ในใจกลับมีความรู้สึกแปลกๆ ผ่านเข้ามา
บรรยากาศที่แผ่ออกมาจากคนคนนี้ ช่างเหมือนกับพี่ใหญ่เหลือเกิน
เพราะความคิดนี้ อารมณ์ของเซี่ยไห่พลันกลับมาหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้ง
เขาปั้นสีหน้าเย็นชา เดินไปอยู่หน้าเซี่ยปิง เพราะเสียงเพลงที่อึกทึก และแสงไฟที่กะพริบไปมา เซี่ยปิงจึงดูเหมือนจะจมอยู่ในความคิดของตัวเอง ไม่ได้สังเกตเห็นการปรากฏตัวของเซี่ยไห่
นิ้วมือของเซี่ยไห่เคาะลงบนโต๊ะสองครั้ง
“โอ้ ดูเหมือนว่าคุณจะสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับบ้านของพวกเราอย่างละเอียดจริงๆ ถึงได้มาถึงที่นี่ได้” เซี่ยไห่พูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
เมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ความโกรธก็พลุ่งขึ้นมาในใจของเซี่ยไห่อีกครั้ง เขาพูดเสียงเย็นว่า “จะไสหัวไปเองหรือให้พวกบอดี้การ์ดของเราโยนแกออกไป?”
“หืม?” เซี่ยปิงมองเขาด้วยสีหน้าไร้เดียงสา
เมื่อเห็นท่าทางแกล้งโง่ของเขา เซี่ยไห่ก็รู้สึกคันกำปั้นอีกครั้ง “อย่าบอกนะว่าแกไม่รู้ว่านี่เป็นห้องเต้นรำของฉัน”
สีหน้าของเซี่ยปิงยังคงดูไร้เดียงสาอยู่ เขายักไหล่แล้วพูดว่า “พูดตามตรง ก่อนที่คุณจะปรากฏตัว ผมไม่รู้จริงๆ ว่าคุณเป็นเจ้าของที่นี่”
“ตอนนี้รู้แล้วนี่ ถ้ารู้แล้วก็ไสหัวไปซะ” เซี่ยไห่รู้สึกโกรธมากเมื่อเห็นท่าทางผ่อนคลายสบายๆ ของเขา
นี่ไม่เข้าใจความทุกข์ของเขาเลยหรือ?
ในใจเขาต้องทนทุกข์ทรมานมากแค่ไหนเมื่อลูกนอกสมรสคนนี้มาปรากฏตัวต่อหน้าเขา แถมยังดื่มเหล้าอย่างสบายอารมณ์ มันยุติธรรมตรงไหนกัน?
เซี่ยปิงถือแก้วเหล้าไว้ จิบอย่างสบายๆ แล้วย้อนถาม “เถ้าแก่เซี่ย ผมจ่ายเงินมาใช้บริการ หนึ่งผมไม่ได้ก่อเรื่อง สองผมไม่ได้ค้างค่าใช้จ่าย นี่คือวิธีที่คุณปฏิบัติต่อลูกค้าหรือ?”
เขาวางแก้วลง ลุกขึ้นยืน จ้องตาเซี่ยไห่ ร่างกายแผ่รังสีกดดันอย่างรุนแรง “ถ้าคุณทำธุรกิจแบบนี้ ผมคงต้องประท้วงแล้วละ”
หลินจินซานรีบเกลี่ยกล่อม “อารอง ไปคุยกันในห้องรับรองดีกว่าครับ”
ลินดาดึงแขนเซี่ยไห่ เตือนว่า “ใช่ ไปห้องรับรองกันเถอะ อย่าไปรบกวนลูกค้าคนอื่นเขาเลย”
ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดิสโก้เทคคึกคักที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใกล้ถึงวันหยุดปีใหม่ คนหนุ่มสาวมากมายได้หยุดพักผ่อนกันแล้ว บรรยากาศจึงรื่นเริงมาก
เซี่ยไห่ไม่พูดอะไร เดินนำหน้าไป ปล่อยให้หลินจินซานพูดกับเซี่ยปิงอย่างสุภาพ “คุณผู้ชายคนนี้ เชิญขึ้นไปชั้นบนครับ”
ความจริงก็คือห้องรับรองเต็มหมดแล้ว มีแต่ห้องทำงานของเซี่ยไห่ที่ว่างอยู่ และเป็นห้องเก็บเสียงด้วย
หลินจินซานจึงกล้าพาพวกเขาไปที่หน้าห้องทำงานของเซี่ยไห่ “อารอง ห้องอื่นเต็มหมดแล้ว คุยกันในห้องทำงานดีกว่า มันเก็บเสียงด้วย”
เซี่ยไห่ไม่พูดอะไร เขาล้วงกุญแจออกมา หลินจินซานรับไปแล้วรีบเปิดประตู
เมื่อพวกเขาเข้าไปแล้ว หลินจินซานก็ปิดประตูอย่างรู้งาน แล้วถอยออกไปยืนเฝ้าอยู่ด้านนอก
เซี่ยไห่นั่งลงบนเก้าอี้ทำงาน ไขว่ห้างอย่างเย็นชา มองเซี่ยปิงด้วยสายตาเย็นเยียบ “แกต้องการอะไรกันแน่?”
“ผมหวังว่าจะสามารถทำให้ความปรารถนาของคุณพ่อเป็นจริงได้” เซี่ยปิงมองเขาพลางพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“เขาเหลือเวลาไม่มากแล้ว ผมไม่เคยทำหน้าที่ลูกที่ดีมาหลายปี เลยอยากขอทำสิ่งนี้เป็นสิ่งสุดท้ายให้เขา”
และมันก็เป็นสิ่งเดียวด้วย
เซี่ยปิงเข้าใจแล้วหลังจากผ่านมาหลายปีว่าสาเหตุของเรื่องนี้ส่วนใหญ่เป็นเพราะแม่ของเขาได้ให้กำเนิดเขา หล่อนเลยกล้าพอที่จะไปวุ่นวายกับแม่ของเซี่ยไห่และแย่งสามีของอีกฝ่ายมา
เขาที่รู้เรื่องนี้ตั้งแต่ยังเล็กจึงมักรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวอัปมงคล
ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะการถือกำเนิดของเขา
“แกจะตอบแทนบุญคุณเขาหรือไม่มันเรื่องของแก แต่การที่แกมารบกวนชีวิตของพวกเรามันเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจมาก แกเข้าใจไหม?” เซี่ยไห่ตอบโต้อย่างดุดัน
“เขาไม่มีบุญคุณในการเลี้ยงดูพวกเรา พวกเราไม่ติดค้างอะไรเขา แล้วทำไมพวกเราต้องไปเยี่ยมเขาด้วย? แกคิดว่าพวกเราเป็นอะไร? พวกเราไม่ใช่นักบุญ คนอย่างแกนี่แยกแยะผิดถูกไม่เป็น การตอบแทนบุญคุณเป็นเรื่องของแกคนเดียว อย่ามาใช้ความเจ็บปวดของคนอื่นเพื่อสนองความปรารถนาของตัวเองสิ”
“ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณ” เซี่ยปิงก้าวเข้าไปใกล้ขึ้น มองเขาแล้วพูดว่า “จริงๆ แล้วต่อให้ไม่มีบุญคุณในการเลี้ยงดู แต่พวกเราก็มีสายเลือดเดียวกับเขาไหลเวียนอยู่ในร่างกาย นี่เป็นความจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เขาให้ชีวิตพวกเรามา ตอนนี้เขากำลังจะตาย ผมก็ยังหวังว่าพวกคุณจะไปเยี่ยมเขาสักครั้ง หรือไม่งั้นให้ผมส่งข้อความกลับไปก็ได้”
เซี่ยปิงจ้องมองเขา แล้วพูดด้วยความจริงใจอีกครั้ง “ผมเข้าใจคุณ”
เซี่ยปิงพูดคำว่าเข้าใจติดต่อกันสองครั้ง
คำพูดของเขาดูเหมือนจะมีเวทมนตร์ ทำให้อารมณ์ของเซี่ยไห่สงบลงอย่างน่าประหลาด
ทั้งสองคนยืนเผชิญหน้ากันเงียบๆ
ดวงตาโตของเซี่ยปิงเต็มไปด้วยความจริงใจ จนเซี่ยไห่รู้สึกอยากรู้จักและสำรวจชายตรงหน้าคนนี้อย่างกะทันหัน
ลูกชายของภรรยาน้อยคนนี้มีความสัมพันธ์ไม่ราบรื่นกับพ่อเลวๆ คนนั้นจริงตามที่เขาพูดหรือ?
ถึงขนาดไม่อยู่ร่วมชายคากับตาแก่นั่นด้วย?
“คุณเคยเป็นทหารมาก่อนหรือเปล่า?” เซี่ยไห่มองดูเซี่ยปิง แล้วถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน
……………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
มันมีความจริงเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรอีกหรือเปล่านะ ค่อยๆ คุยกันดีๆ แล้วกันอารอง กลัวอารองอาละวาดลั่นเทคมากเลย
ไหหม่า(海馬)