ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 893 ในที่สุดก็ส่งพระประธานใหญ่นี้กลับไปได้
ตอนที่ 893 ในที่สุดก็ส่งพระประธานใหญ่นี้กลับไปได้
ขณะลินดากำลังปวดหัวกับเสียงรบกวนของเซี่ยไห่ พอดีเสียงโทรศัพท์มือถือของเซี่ยไห่ก็ดังขึ้น หล่อนจึงเตือนเขาว่า “โทรศัพท์ของคุณดังแล้ว รีบรับสิ”
“อ๋อ” เซี่ยไห่กำลังจะรับ แต่อีกฝ่ายวางสายไปแล้ว
ลินดาฉวยโอกาสนี้รีบกล่าวลาคนที่อยู่ปลายสาย
หล่อนพูดกับเซี่ยไห่ว่า “อาจจะเป็นโทรศัพท์จากที่บ้าน คุณโทรกลับไปสิ คนที่บ้านคงเป็นห่วงคุณ”
เซี่ยไห่โทรกลับไป เฉินเจียเหอเป็นคนรับสาย
ถามว่าเซี่ยไห่อยู่ที่ไหน
“อยู่กับเมียฉันน่ะสิ” เซี่ยไห่ถามว่า “มีอะไรหรือเปล่า?”
เฉินเจียเหอได้ยินเซี่ยไห่เรียกลินดาว่าเมียอย่างไม่เกรงใจ และจากน้ำเสียงก็ดูไม่มีอะไรผิดปกติ เขาจึงพูดว่า “ผมกับเซี่ยเซี่ยพาลูกๆ มาอยู่ที่บ้าน คุณเสร็จธุระแล้วก็กลับมานะ พวกเราไม่ได้เจอกันหลายวันแล้ว”
“แย่แล้ว เซี่ยเซี่ยคงรู้เรื่องเมื่อวานแล้วแน่ๆ” เซี่ยไห่วางสาย สบถด้วยความโมโห “บ้าชิบ ไอ้เซี่ยปิงนั่นมันเป็นบ้าไปแล้ว ทำให้ทุกคนฉลองปีใหม่ไม่มีความสุข”
ลำพังครอบครัวของพวกเขารับรู้ก็แย่พออยู่แล้ว ตอนนี้คงเดาได้ว่าเฉินเจียเหอกับ หลินเซี่ยคงรู้เรื่องนี้แล้วด้วย
เขาไม่อยากให้เรื่องไร้สาระแบบนี้มากระทบอารมณ์ของทุกคน
ลินดาได้ยินดังนั้น ดวงตาก็วาววับ ไม่รู้จะตอบอย่างไร
เซี่ยไห่ยิ่งคิดยิ่งโมโห กำชับลินดาอีกครั้ง “คุณโทรบอกเพื่อนคุณหน่อย ต้องส่งจดหมายถึงมือไอ้คนใจร้ายนั่นให้ได้ก่อนปีใหม่ ในเมื่อพวกเราฉลองปีใหม่ไม่มีความสุข ก็อย่าให้ใครมีความสุขเลย”
ไอ้แก่เลวนั่นยิ่งไม่ต้องคิดจะฉลองปีใหม่อย่างมีความสุข ในเมื่อมันมาหาเรื่องพวกเขา เขาก็จะทำให้มันรำคาญใจสักหน่อย
“พอเถอะ เขารับปากจะช่วยแล้วก็ต้องทำให้ได้ คุณอย่าพร่ำบ่นอีกเลย”
ตอนที่เซี่ยไห่กับลินดากลับถึงบ้าน ทุกคนกำลังล้อมวงคุยหัวเราะกับเสี่ยวหู่และหู่จือ ในบ้านเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความสนุกสนาน
เสี่ยวหู่กำลังเกาะโซฟา ค่อยๆ ขยับเท้าก้าวเดินอย่างช้าๆ
เมื่อเซี่ยไห่เห็นภาพนี้ ความรู้สึกหนักอึ้งในใจของเขาก็คลายลงทันที รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
พอเห็นรอยยิ้มที่เบ่งบานบนใบหน้าของหญิงชรา มุมปากของเขาก็ยกขึ้นโดยไม่รู้ตัว
โชคดีที่มีเด็กๆ มาช่วยเยียวยาพวกเขา โชคดีที่จิตใจของทุกคนไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
เขามองลินดาที่อยู่ข้างๆ สายตาของเขาอ่อนโยนขึ้น
พวกเขาก็ควรจะแต่งงานและมีลูกได้แล้ว
เหมือนที่เฉินเจียเหอพูดไว้ ไม่ว่าจะเจออุปสรรคอะไรข้างนอก แค่กลับบ้านมาเห็นภรรยาและลูกๆ เห็นพวกเขาวิ่งมาหาด้วยความดีใจ ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนก็คุ้มค่า ทุกอย่างก็มีแรงผลักดันให้ก้าวต่อไป
คุณแม่เซี่ยเห็นเซี่ยไห่กับลินดากลับมา ในที่สุดก็โล่งใจ
นางยิ้มทักทาย “เสี่ยวไห่ ลินดา กลับมาแล้วเหรอ? เร็ว มานั่งสิ เสี่ยวหู่กับเซี่ยเซี่ยก็มาแล้ว มาดูเด็กๆ กันเร็ว”
เซี่ยไห่อุ้มเสี่ยวหู่ขึ้นสูงทันที
“โอ้โห เสี่ยวหู่ของตารองโตขึ้นแล้ว”
แต่เซี่ยไห่กลับไม่ยอมปล่อยเขาลงมา
“ไอ้ตัวจิ๋ว อยากให้ตารองหอมหรือให้ของเล่นหอม?” เซี่ยไห่แสดงความไม่พอใจที่เสี่ยวหู่สนใจแต่ของเล่น
เขาไม่ยอมปล่อยลง อุ้มเสี่ยวหู่แล้วพูดอย่างหงุดหงิด “ตารองเป็นคนซื้อของเล่นให้นะ ถ้ารู้ว่าหนูจะเป็นแบบนี้ ตารองไม่น่าซื้อให้เลย ไอ้ตัวจิ๋ว อายุแค่นี้เล่นของเล่นอะไร มาให้ฉันอุ้มอีกหน่อย”
เซี่ยไห่อุ้มเสี่ยวหู่ไม่ยอมปล่อย เด็กน้อยพยายามดิ้นสองสามทีแต่ก็ไม่หลุด
ใบหน้าน้อยๆ ย่นยู่ สายตาขอความช่วยเหลือมองไปที่หลินเซี่ย
แล้วก็ร้องไห้โฮออกมา
เห็นเซี่ยไห่ทำตัวเป็นเด็กลดตัวลงมาทะเลาะกับเด็กแบบนี้ หลินเซี่ยก็รู้สึกหมดคำพูด เธอพูดกับเซี่ยไห่ว่า “อารอง ปล่อยเขาลงมาเถอะ เขายังเด็กแค่นี้เอง คุณจะมาเอาจริงเอาจังกับเขาทำไม?”
เสี่ยวหู่ร้องไห้อย่างน่าสงสาร เซี่ยไห่จึงต้องปล่อยเขาลง หลินเซี่ยรีบหยิบกรุ๋งกริ๋งให้เขาทันที เด็กน้อยที่อารมณ์ไม่ดีได้แต่ร้องไห้โวยวาย แม้จะได้ของเล่นแล้วก็ยังสะอื้นอย่างเศร้าโศก
“พอแล้ว อย่าร้องไห้นะ คุณตารองเป็นคนไม่ดี”
เฉินเจียเหอแกล้งทำเป็นโกรธแล้วฟาดเซี่ยไห่สองที “เสี่ยวหู่ พ่อตีคุณตารองแก้แค้นให้ลูกแล้วนะ”
เซี่ยไห่ก็ร่วมมือเป็นอย่างดี พอเฉินเจียเหอฟาดเขาทีหนึ่ง เขาก็ร้องไห้โฮออกมาทันที
เสี่ยวหู่เห็นเซี่ยไห่ร้องไห้แล้วก็หยุดร้องไห้ทันที แล้วมองเขานิ่ง
เฉินเจียเหอฟาดเซี่ยไห่อีกครั้ง “พอแล้ว ดูสิ พ่อตีคุณตารองจนร้องไห้แล้ว ลูกเสือน้อยไปเล่นของเล่นเถอะ”
ดวงตาสีดำขลับคู่โตของเสี่ยวหู่จ้องมองเซี่ยไห่ พอเห็นเขาร้องไห้ไม่หยุดก็รู้สึกอายที่จะร้องไห้ต่อ จึงหยิบไม้กรุ๋งกริ๋งมาเล่นอย่างตั้งใจ
ทุกคนหัวเราะชอบใจกับสีหน้าของลูกเสือน้อย
คุณแม่เซี่ยมองเสี่ยวหู่ด้วยสายตาเปี่ยมด้วยความรัก แล้วอุทานว่า “เด็กสมัยนี้ฉลาดจริงๆ ดูสิ อายุเขายังไม่ถึงขวบเลย ทำไมถึงได้ฉลาดขนาดนี้นะ?”
เซี่ยเหลยรับคำ “ผมว่าเสี่ยวหู่บ้านเราฉลาดกว่าเด็กคนอื่นๆ นะ”
หลินเซี่ยได้ยินแล้วมุมปากกระตุกเล็กน้อย เธอพูดว่า “พ่อคะ นั่นเป็นเพราะพ่อมองหลานด้วยสายตาคุณปู่ต่างหาก พ่อแม่บ้านอื่นๆ ก็คงคิดแบบเดียวกับพ่อนั่นแหละ”
เซี่ยเหลยพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม แสดงความเห็นด้วยกับคำพูดของหลินเซี่ย “ลูกพูดถูก ญาติผู้ใหญ่บ้านไหนบ้างล่ะที่จะไม่คิดว่าลูกหลานตัวเองฉลาด? ทุกคนก็คิดเข้าข้างตัวเองกันทั้งนั้น”
ทุกคนล้อมรอบเด็กน้อย ในห้องเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ทุกคนต่างเข้าใจกันดี จึงไม่พูดถึงเรื่องที่เซี่ยปิงเคยมาเยือน
ใกล้จะถึงวันปีใหม่แล้ว หลินจินซานกับชุนฟางก็กลับมาแต่เนิ่นๆ บอกว่าจะมาช่วยงาน
พวกคนหนุ่มสาวต่างรู้กันดีว่าควรทำตัวกระฉับกระเฉงกว่าปกติ พวกเขาคอยทำให้หญิงชราอารมณ์ดีอยู่ที่บ้าน และเล่าเรื่องสนุกๆ ที่พบเจอมาจากข้างนอก ตั้งใจเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
คุณแม่เซี่ยไม่ได้พูดถึงเรื่องของไอ้แก่บัดซบอีกเลย
คนอื่นๆ ยิ่งไม่มีทางพูดถึงเรื่องนี้
ส่วนร้านเต้นรำหลายแห่งของเซี่ยไห่ก็เตรียมปิดร้านสักสองสามวัน รอให้ผ่านวันที่สามของเทศกาลปีใหม่ไปก่อนค่อยเปิดทำการ
ให้พนักงานทุกคนหยุดพักและกลับบ้านไปฉลองปีใหม่
เซี่ยไห่กำลังยุ่งอยู่ แต่ในใจจริงๆ แล้วยังคงคิดถึงจดหมายที่เขาส่งออกไป
เขายังไม่ได้รับข่าวคราวใดๆ จึงได้แต่เร่งรัดลินดาอีกครั้ง “เพื่อนของคุณโทรกลับมาหรือยัง? จดหมายส่งถึงมือคนใจร้ายนั่นหรือเปล่า? ที่อยู่ที่เซี่ยปิงให้มาน่าจะไม่ผิดนะ?”
ลินดากระแอมเบาๆ แก้ตัวว่า “คุณอย่าเพิ่งร้อนใจ ช่วงนี้หล่อนมีธุระนิดหน่อย ไม่ได้อยู่ในเป่าซื่อ รอให้หล่อนกลับมาก่อนแล้วค่อยส่งไปให้”
“ทำไมไม่บอกแต่แรกว่าหล่อนไม่อยู่ในเป่าซื่อ”
เซี่ยไห่แสดงความผิดหวังอย่างมากกับข่าวนี้
“เกิดอะไรขึ้น? หรือว่าไม่อยากช่วยกัน?” เขามองลินดาอย่างระแวง พร้อมกล่าวหาอย่างไม่พอใจ
ลินดาถอนหายใจอย่างจนปัญญา อดทนอธิบายให้เขาฟัง “คุณอย่าคิดมาก หล่อนยุ่งจริงๆ รออีกไม่กี่วันหล่อนกลับมาแล้วจะช่วยจัดการเรื่องนี้ให้ เรามาฉลองปีใหม่กันดีๆ ก่อนเถอะ อย่าคิดถึงเรื่องไม่สบายใจพวกนั้นเลยได้ไหม?”
แม้เซี่ยไห่จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้
ลินดาพูดเสียงนุ่มนวลลง เริ่มไล่คนอย่างอ้อมค้อม “พอเถอะ กลับบ้านก่อนเถอะ อย่าคิดถึงเรื่องไม่สบายใจพวกนี้เลย”
เซี่ยไห่มองหล่อนแล้วพูดว่า “แล้วคุณล่ะ คุณต้องกลับไปกับผมด้วยนะ”
“คุณกลับไปก่อนเถอะ ฉันยังมีธุระนิดหน่อย พรุ่งนี้วันสิ้นปี ฉันจะไปทำเกี๊ยวเอง”
เมื่อได้ยินว่าลินดาไม่ไปบ้านของพวกเขา เซี่ยไห่ก็นั่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีทีท่าว่าจะกลับ
“ถ้าคุณไม่กลับ ผมก็ไม่กลับ ผมจะทิ้งคุณไว้คนเดียวได้ยังไง”
หากเป็นยามปกติก็ช่างเถอะ แต่พรุ่งนี้จะเป็นวันปีใหม่แล้ว เขาจะทิ้งแฟนสาวที่อยู่ต่างแดนให้อยู่อย่างอ้างว้างคนเดียว แล้วตัวเองกลับบ้านไปได้อย่างไร
ลินดาได้ยินคำพูดของเซี่ยไห่แล้วก็ปวดหัวเอามือกุมขมับ ฝืนยิ้มบนใบหน้า พยายามอดทนอธิบายให้เขาเข้าใจอีกครั้ง “คุณกลับไปก่อนเถอะ วันนี้ฉันเหนื่อยนิดหน่อย อยากพักผ่อนคนเดียว ถ้ากลับไปบ้านคุณ ถึงจะคึกคักสนุกสนาน แต่ฉันที่เหนื่อยจริงๆ จะไม่กล้าพักผ่อน ถ้าคุณไม่กลับด้วยก็ยิ่งไม่เหมาะสม ใกล้ปีใหม่แล้ว คุณต้องช่วยทำงานบ้างสิ อย่าให้พี่ใหญ่กับคนอื่นๆ ยุ่งไปหมด มันดูไม่ดี”
หล่อนมองเขาอย่างอ้อนวอน หวังว่าเขาจะเข้าใจสักนิด และให้พื้นที่ส่วนตัวหล่อนบ้าง
เซี่ยไห่ในวันนี้ก็รู้ความ พยักหน้าแล้วลุกขึ้น “ได้ ผมรู้ว่าคุณชอบความสงบ คืนนี้พักผ่อนให้สบายนะ งั้นพรุ่งนี้เช้าผมจะมารับคุณ คืนพรุ่งนี้เราจะกินข้าวปีใหม่ดูรายการทีวีต้อนรับปีใหม่ด้วยกัน คงจะนอนดึกแน่ๆ”
เซี่ยไห่บอกให้ลินดาพักผ่อน แต่เขาก็ยังไม่อยากทิ้งหล่อนไว้คนเดียวแล้วตัวเองกลับบ้านไป
ตอนนี้แตกต่างจากปกติ เพราะใกล้ถึงวันปีใหม่แล้ว ลินดาอยู่คนเดียวในบ้านที่ว่างเปล่า ไม่มีญาติหรือเพื่อน หล่อนคงรู้สึกไม่สบายใจแน่นอน
แต่ลินดารีบเปิดประตูบ้านอย่างใจร้อน “ไปได้แล้ว คุณรีบกลับไปช่วยทำงานเตรียมอาหารมื้อค่ำสำหรับวันพรุ่งนี้เถอะ ฉันจะไปตอนที่ทำเกี๊ยวพรุ่งนี้ ตอนนี้ฉันอยากนอนพักผ่อนให้สบาย”
เซี่ยไห่จำต้องจากไปอย่างไม่เต็มใจ เหลียวหลังมองหลายครั้ง แทบจะในทันทีที่เขาก้าวออกจากประตู ลินดาก็รีบปิดประตูอย่างรวดเร็ว
จากนั้นหล่อนก็ทิ้งตัวลงบนโซฟาแล้วยืดเส้นยืดสาย
ในที่สุดก็ส่งพระประธานใหญ่นี้กลับไปได้เสียที
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เริ่มห่วงคู่เซี่ยไห่กับลินดาแล้ว ตอนยังไม่แต่งเซี่ยไห่ยังงอแงขนาดนี้ แต่งกันแล้วลินดาจะยิ่งปวดหัวหรือเปล่านะ
ไหหม่า(海馬)
………………..