ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 900 คนที่มีปัญหาด้านคุณธรรม
ตอนที่ 900 คนที่มีปัญหาด้านคุณธรรม
เฉินเจียเหอชักสีหน้าไม่พอใจ พูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ไม่มีหรอก พวกเราแค่เอาของบำรุงไปให้ผู้ใหญ่นิดหน่อย”
หลินเซี่ยที่อยู่ในห้องได้ยินคำพูดของเฉินเจียซิ่ง จึงโผล่หน้าออกมาพูดอย่างหงุดหงิด “พวกเราไปไหว้ปีใหม่ที่บ้านแม่ฉัน จะเอาของผู้ใหญ่ในบ้านไปได้ยังไง? มันดูหน้าไม่อายไปหน่อยไหม?”
“พวกเราก็ใช่ว่าไม่มีเงินซื้อเอง อยากซื้ออะไรก็ซื้อได้ ไม่ต้องพึ่งพาผู้ใหญ่หรอก”
เฉินเจียซิ่งได้แต่เกาจมูกอย่างเก้อเขิน แล้วเดินกลับเข้าห้องไป
เฉินเจียเหอก็ไม่อยากสนใจเฉินเจียซิ่งอีก
ปีที่แล้วตอนปีใหม่ เพื่อเอาใจน้องชายคนรอง พวกเขาตั้งใจเก็บของขวัญไว้ที่บ้านเล็กของตัวเอง ตอนเช้าที่ไปไหว้ปีใหม่ก็แวะไปเอามา
ปีนี้เฉินเจียซิ่งไม่ใช่เขยใหม่แล้ว ตัวเขาเองก็มีประสบการณ์ในเรื่องนี้แล้ว ยังจะมาถามอีก
พวกเขารู้ดีว่าคนคนนี้คิดอะไรอยู่ในใจ
เขาก็แค่อยากรู้ว่าผู้ใหญ่ในบ้านมีของขวัญราคาแพงให้พวกเขาหรือเปล่า
ในหมู่พี่น้องทั้งสามคนนี้ ย่อมหลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบกันไม่ได้
มักรู้สึกว่าผู้เฒ่าลำเอียง
เนื่องจากวันนี้มีเสี่ยวหู่เพิ่มมาอีกหนึ่งคนในบ้าน การไปอวยพรปีใหม่ที่บ้านตระกูลเซี่ยจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
ทั้งต้องอุ้มเสี่ยวหู่ ยังต้องจูงหู่จือ แถมยังต้องถือของอีก
โชคดีที่พวกเขากำลังจะออกเดินทาง เซี่ยไห่ก็โทรมาบอกว่าจะขับรถมารับ
เฉินเจียเหอบอกว่าเขาเรียกแท็กซี่ได้ ช่วงเทศกาลปีใหม่ก็ยังเรียกรถได้ แต่เซี่ยไห่ยืนกรานจะมารับให้ได้
เฉินเจียวั่งก็ตื่นแต่เช้าจัดการเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว
ตั้งใจจะออกจากบ้าน
“เจียวั่ง เธอก็จะไปอวยพรปีใหม่ที่บ้านอวี่เฟยด้วยเหรอ?” ผู้เฒ่าเฉินถามด้วยรอยยิ้ม
เฉินเจียวั่งพยักหน้า “ครับคุณปู่ ผมจะไปบ้านอวี่เฟย”
ผู้เฒ่าเฉินไม่ได้พูดว่าเมื่อวานนี้เขาอยากจะเตือนเฉินเจียวั่งในเรื่องที่วันนี้ควรไปอวยพรปีใหม่ที่บ้านเจียงอวี่เฟย
แต่เฉินเจิ้นเจียงห้ามเขาไว้
บอกว่ายังไม่ต้องเตือน รอดูปฏิกิริยาของเฉินเจียวั่งเองในวันนี้
ถ้าเขายังเป็นเจ้าท่อนไม้เหมือนเดิม พวกเขาที่เป็นผู้ใหญ่ค่อยเอ่ยเตือน
แต่ถ้าเกิดเขาคิดเรื่องนี้ได้เอง การไปเตือนเขาก็จะเป็นสิ่งเกินความจำเป็น
และแล้วเขาก็รู้เองจริงๆ
ไม่จำเป็นต้องให้พวกเขาคอยเตือนเลย
ผู้เฒ่าเฉินมองเฉินเจียวั่งแล้วถามด้วยรอยยิ้ม “เจียวั่ง เธอจะเอาอะไรไปบ้านตระกูลเจียง?”
เฉินเจียวั่งตอบว่า “ก็แค่ซื้อของขวัญนิดหน่อยครับ”
“เดี๋ยวก่อน” ผู้เฒ่าเฉินครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วพูดกับเขา
เขาถือเงินสำหรับซื้อของไว้ในมือ กำลังจะออกจากบ้าน แต่ได้ยินคุณปู่บอกให้รอ เขาจึงถามอย่างงุนงง
“คุณปู่ครับ มีอะไรหรือ?”
ผู้เฒ่าเฉินกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง พอดีเฉินเจียซิ่งกับหยางหงเสียเดินลงมาจากชั้นบน
ผู้เฒ่าเฉินกระแอมสองที “ไม่มีอะไร”
แม้เฉินเจียซิ่งจะไม่ใช่ลูกเขยใหม่แล้ว แต่เขาแต่งตัวเกินกว่าลูกเขยใหม่เสียอีก
สวมเสื้อโค้ททันสมัย พันผ้าพันคอที่หยางหงเสียถักให้เป็นพิเศษ สวมรองเท้าหนังปลายแหลม ดูทันสมัยมาก
“เจียวั่ง ไปกันเถอะ” เฉินเจียซิ่งเรียกเฉินเจียวั่ง
เฉินเจียวั่งพยักหน้ารับคำ ตั้งใจจะออกไปพร้อมกับพี่ชายคนรอง
ผู้เฒ่าเฉินกระแอมเบาๆ อีกครั้ง “เจียวั่ง ให้พี่รองกับพี่สะใภ้รองออกไปก่อน เดี๋ยวเธอค่อยไป ตอนนี้ยังเช้าอยู่”
เฉินเจียวั่งดูนาฬิกา บอกว่าไม่เช้าแล้ว พี่ใหญ่พวกเขาออกไปกันหมดแล้ว
พอเฉินเจียซิ่งกับหยางหงเสียออกจากบ้านไป เฉินเจียวั่งก็เดินลงมาจากชั้นบน
“คุณปู่ คุณย่า มีอะไรหรือครับ?” เขาถาม
ผู้เฒ่าเฉินเหมือนแสดงกลล้วงชาอัดก้อนออกมาจากด้านหลัง ยื่นให้เฉินเจียวั่ง “ไปบ้านอวี่เฟยครั้งแรกเอานี่ไปด้วย แล้วก็เอาของอย่างอื่นไปอีกหน่อย”
เฉินเจียวั่งเห็นดังนั้นก็รีบปฏิเสธ “คุณปู่ครับ ชาซองนี้แพงเกินไป ไม่ต้องหรอกครับ ผมซื้อของไปเองก็พอแล้ว”
ผู้เฒ่าเฉินยังคงยืนกราน “ต้องเอาไปนะ นี่คือน้ำใจ ไม่ต้องกังวล ของชิ้นนี้ลูกน้องที่ทำธุรกิจของฉันเอามาให้ มีที่มาถูกต้อง”
“แต่ว่า…”
เฉินเจียวั่งมองไปทางประตูโดยไม่รู้ตัว
พี่ใหญ่และพี่รองไม่ได้รับอะไรเลย ถ้าพวกเขารู้เข้า จะมีความเห็นอะไรกับคุณปู่หรือเปล่า?
ผู้เฒ่าเฉินกล่าวว่า “เธอไม่ต้องสนใจพวกเขาหรอก พี่ใหญ่กับพี่รองเธอไปอวยพรปีใหม่ที่บ้านพ่อตาเมื่อปีที่แล้ว ฉันก็ให้เงินสนับสนุนไปแล้ว ตอนนี้พวกเขาไม่ใช่เขยใหม่อีกต่อไป ก็ต้องเตรียมของขวัญไปเยี่ยมตามสถานการณ์จริงของตัวเอง”
ผู้เฒ่าเฉินมองเฉินเจียวั่งด้วยสายตาเอ็นดู ยิ้มแล้วพูดว่า “นี่เป็นครั้งแรกของเธอ อีกอย่างเธอก็ยังอยู่ในช่วงฝึกงาน ยังไม่มีเงินเดือน ลูกหลานตระกูลเฉินของเราไม่ควรดูขัดสนเกินไป”
ในตอนนั้นโจวลี่หรงก็ยกกล่องนมออกมาจากครัว “เอาอันนี้ไปด้วยนะ จะได้ไม่ต้องซื้อตอนออกไป”
จากนั้นก็กำชับเฉินเจียวั่ง “ในนี้แม่ยังใส่ถุงลูกอมไว้ด้วย เอาไปให้น้องสาวตัวน้อยของอวี่เฟยด้วยนะ”
เฉินเจียวั่งเห็นแม่ของเขาเตรียมการอย่างละเอียดรอบคอบ เขามองโจวลี่หรงแล้วพูดออกมาจากใจ “ขอบคุณแม่ครับ”
“ขอบคุณอะไรกัน?” โจวลี่หรงส่งของให้เขาแล้วกำชับด้วยความเป็นห่วง “จำไว้นะ ไปถึงแล้วต้องกระตือรือร้นหน่อย คุยกับพ่อของอวี่เฟยให้มากๆ อย่าทำหน้าเคร่งขรึมตลอดเวลา”
เฉินเจียวั่งรับคำอย่างว่าง่าย
เขาถือของด้วยมือทั้งสองออกจากบ้าน
ผลลัพธ์คือ เพิ่งออกจากประตูบ้านได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกเฉินเจียซิ่งขวางไว้
เฉินเจียวั่งเห็นเฉินเจียซิ่งกับหยางหงเสียยังอยู่ข้างนอก สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและงุนงง
แต่ไม่นานเขาก็เข้าใจบางอย่าง
“โอ้ ถือของอะไรมาน่ะ?” สายตาของเฉินเจียซิ่งจับจ้องไปที่ถุงและกล่องของขวัญในมือของเฉินเจียวั่งอย่างแม่นยำ เขาค่อยๆ ก้มตัวลงเพื่อตรวจดู
น้ำเสียงของเฉินเจียซิ่งเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
ดวงตาของเฉินเจียวั่งกระตุกเล็กน้อย เขาเอ่ยปาก “ไม่ใช่ ผมขอคุณปู่มาเอง”
เขามองเฉินเจียซิ่งพลางบ่นอย่างไม่พอใจ “ปีที่แล้วพี่กับพี่ใหญ่ไปอวยพรปีใหม่ที่บ้านพ่อตาก็เอาชากับเหล้าที่คุณปู่ให้ไปด้วย ปีนี้ถึงตาผมบ้าง ผมเองก็อยากได้!”
เฉินเจียซิ่งแค่นเสียงเบาๆ อย่างประชดประชัน “นายยังต้องขอด้วยเหรอ? คุณปู่ลำเอียงรักนายขนาดนั้น ไม่ขอก็คงยัดเยียดให้อยู่ดีมั้ง?”
“ให้พวกพี่ได้ แต่ให้ผมไม่ได้งั้นเหรอ?” เฉินเจียวั่งมองชายตรงหน้าที่แต่งตัวดูดีแต่กลับมาคิดเล็กคิดน้อยกับคนในครอบครัว เขาทำหน้าบึ้งพลางหัวเราะเยาะ “พี่รองนี่ช่างพยายามจริงๆ เพื่อจะดูว่าผมถืออะไรมา อากาศหนาวๆ แบบนี้กลับไม่รีบไปอวยพรปีใหม่ที่บ้านพ่อตา ยังมารออยู่ตรงนี้อีก”
“ต่อไปนี้เวลาออกไปข้างนอกอย่าบอกว่าตัวเองเป็นคนจากชุมชนบ้านพักทหารเลย คิดแต่เรื่องเล็กน้อย ขี้งก ทำให้ชุมชนบ้านพักทหารเสียหน้า และทำให้ตระกูลเฉินอับอายด้วย”
เฉินเจียซิ่งถูกน้องชายของตัวเองตอกกลับอย่างแรงก็รู้สึกเสียหน้า จึงเถียงคอเป็นเอ็น “ใครรอนายกันล่ะ? เมื่อกี้พวกเรามีธุระนิดหน่อย แล้วนายก็ออกมาเจอกันพอดีไม่ใช่หรือ?”
เฉินเจียวั่งไม่สนใจเขา หันไปมองที่หยางหงเสีย “พี่สะใภ้รอง ผู้ชายไร้คุณภาพแบบนี้ เลิกกับเขาเร็วๆ เถอะครับ”
เฉินเจียซิ่งหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ ตะโกนออกมาว่า “เฉินเจียวั่ง นายหมายความว่ายังไง? นี่เป็นคำพูดที่น้องสามควรพูดหรือ?”
“แล้วการกระทำของพี่เหมาะสมกับการเป็นพี่รองหรือ?”
เฉินเจียวั่งโมโหกับพฤติกรรมของเฉินเจียซิ่งขึ้นมาแล้ว “แต่ก่อนผมคิดว่าพี่แค่เป็นคนธรรมดาไม่มีความสามารถโดดเด่นอะไร แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าปัญหาจะมาจากนิสัยพี่แล้ว”
……………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
คิดเล็กคิดน้อยแบบนี้จะเข้ากับใครเขาได้ล่ะเนี่ยเจียซิ่ง ที่ไม่ก้าวหน้าในหน้าที่การงานเสียทีก็เป็นเพราะนิสัยแบบนี้ด้วยหรือเปล่า
ไหหม่า(海馬)