ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 907 โอกาสไปฝึกอบรมที่เมืองเซี่ยงไฮ้
ตอนที่ 907 โอกาสไปฝึกอบรมที่เมืองเซี่ยงไฮ้
เซี่ยไห่มองหวังเว่ยตง รู้สึกได้ว่าอารมณ์ของเขาสงบลงมากแล้ว ไม่โมโหง่ายเหมือนครั้งก่อน
การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ทำให้เขารู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก
เขายื่นบุหรี่ให้หวังเว่ยตงแล้วถามว่า “แม่ของคุณสบายดีไหม? ปีใหม่เป็นยังไงบ้าง? ผมตั้งใจจะไปอวยพรปีใหม่ท่าน แต่กลัวคุณจะทำหน้าบึ้งไม่ต้อนรับพวกเรา ก็เลยไม่ได้ไป”
เมื่อเซี่ยไห่พูดแบบนี้ หวังเว่ยตงก็รู้สึกอึดอัดใจ
เขาสีหน้าเคร่งเครียด “แม่ของผมสุขภาพไม่ค่อยดี”
“คงเป็นเรื่องขาใช่ไหม ก่อนปีใหม่ผมเห็นท่านถือไม้เท้าเดินยังไม่ไหว อาการปวดขาในหน้าหนาวน่าจะรุนแรงมาก”
ตอนนั้นหญิงชรายังพยายามฝืนไว้ ตอนนี้ลูกชายกลับมาแล้ว นางคงทนไม่ไหว สุดท้ายก็ล้มป่วยลง
“ใช่ครับ เป็นอาการปวดขาในหน้าหนาวที่รุนแรงขึ้น”
เซี่ยไห่รู้สึกเห็นใจครอบครัวนี้มาก เขามองหวังเว่ยตงแล้วพูดว่า
เขามองสำรวจหวังเว่ยตง คนนี้อายุมากกว่าเขาไม่กี่ปี แต่เพราะทำงานหนักมากเกินไปจึงดูแก่กว่าเขามาก ภายนอกดูเหมือนคนอายุห้าสิบ
หวังเว่ยตงเอ่ยปากอย่างจริงใจ
“ปีที่แล้วผมเคยทำงานในไซต์ก่อสร้าง ผสมปูนขนอิฐไม่มีปัญหา”
“มีทักษะอะไรบ้างไหม? อย่างเช่น ช่างปูน ช่างนั่งร้าน ช่างไม้อะไรพวกนี้?”
ถ้ามีทักษะ เงินเดือนก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
เพื่อเห็นแก่คุณยายหวัง เซี่ยไห่ก็ยินดีที่จะให้งานหวังเว่ยตง เขารู้สถานการณ์ของครอบครัวพวกเขา หวังว่าจะช่วยเหลือพวกเขาได้มากที่สุด
มองใบหน้าคล้ำเคร่งเครียดของหวังเว่ยตง ได้ยินเขาบอกว่าสามารถขนอิฐผสมปูนได้ เขาก็รู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย
เมื่อเขามาขอความช่วยเหลือจากตัวเอง เขาก็หวังว่าจะสามารถหางานที่ค่อนข้างสบายให้เขาได้
แน่นอนต้องขึ้นอยู่กับว่าเขาจะทำได้หรือไม่
หวังเว่ยตงพูดถึงตรงนี้ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างเขินอายว่า “หลังจากนั้นก็เคยเลี้ยงไก่ ผมค่อนข้างเก่งเรื่องเลี้ยงไก่ แต่พอเจอโรคระบาดก็ไม่รู้จะทำยังไง”
งานของเซี่ยไห่เป็นไซต์งานก่อสร้าง ทักษะพวกนี้ของเขาใช้ไม่ได้เลย
“ได้ งั้นก็มาเป็นกรรมกรที่ไซต์งานก่อสร้างก่อนแล้วกัน”
เซี่ยไห่พูดกับเขา “คุณกลับไปก่อน ผมจะจัดการเรื่องนี้ พรุ่งนี้คุณมาทำงานได้เลย เรื่องค่าแรงไม่ต้องกังวล คนงานอื่นได้เท่าไหร่คุณก็ได้เท่านั้น”
“ขอบคุณเถ้าแก่เซี่ยครับ”
เซี่ยไห่ตอบตกลงให้งานเขาอย่างรวดเร็วแบบนี้ หวังเว่ยตงรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง ถึงขนาดรู้สึกละอายใจที่เคยมีท่าทีไม่ดีต่อเซี่ยไห่มาก่อน
เขาโค้งคำนับเซี่ยไห่ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจว่า “ขอบคุณที่ยินดีให้งานผมครับ”
เซี่ยไห่ตบไหล่เขาแล้วพูดยิ้มๆ ว่า “ไม่ต้องขอบคุณหรอก คุณหาเงินด้วยแรงงานของตัวเอง อีกอย่างผมก็กำลังต้องการรับคนเข้าทำงานพอดี”
“ตั้งใจทำงานนะ ฝากความคิดถึงถึงคุณยายหวังด้วย”
หวังเว่ยตงพูดคำขอบคุณอีกมากมาย เซี่ยไห่โบกมือให้เขาแล้วขับรถจากไป
เซี่ยไห่รับผิดชอบดูแลการก่อสร้าง ส่วนหลินเซี่ยมุ่งเน้นไปที่การดำเนินการเรื่องเอกสาร
การเปิดโรงเรียนไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีเอกสารที่ถูกต้องตามกฎหมาย แน่นอนว่าในส่วนของบุคลากรครูก็ต้องมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์การเปิดโรงเรียนด้วย
เฉินเจิ้นเจียงยอมละเมิดหลักการในเรื่องนี้ ตั้งแต่ปีที่แล้วเขาได้บอกหลินเซี่ยว่าจะช่วยสอบถามเกี่ยวกับเอกสารที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการล่วงหน้า เพื่อให้หลินเซี่ยเตรียมตัวไว้ก่อน
ดังนั้นการดำเนินการเรื่องเอกสารจึงค่อนข้างราบรื่น
ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับหลินเซี่ยคือการเริ่มสรรหาครู
บุคลากรที่พวกเขามีอยู่ตอนนี้ นอกจากหลิวน่าสไตลิสต์ที่เธอดึงตัวมาจากกองถ่าย ซึ่งสามารถเป็นครูสอนภาคปฏิบัติได้แล้ว ก็มีหยางหงเสีย หลินเยี่ยน และชุนฟางที่ยังไม่ผ่านเกณฑ์
หลินเซี่ยวางแผนจะส่งพวกหล่อนไปฝึกอบรมและศึกษาเพิ่มเติม
แม้ว่าภายใต้การฝึกฝนของเธอ ชุนฟางจะมีทักษะการทำผมที่ดี หยางหงเสียและหลินเยี่ยนก็มีความเชี่ยวชาญด้านการแต่งหน้าและการจัดแต่งทรงผม
แต่พวกหล่อนไม่มีใบรับรองที่ถูกต้อง ตอนนี้เป็นการเปิดโรงเรียน ไม่ใช่เปิดคอร์สฝึกอบรม จำเป็นต้องดำเนินการตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด
หลินเซี่ยคิดว่าจะให้พวกหล่อนไปฝึกอบรมก่อน จากนั้นจึงเปิดรับสมัครครูสอนทฤษฎีจากสังคมภายนอก
เธอลงโฆษณารับสมัครงานในหนังสือพิมพ์ แล้วเรียกหยางหงเสียกับหลินเยี่ยนมาประชุมพร้อมกัน ก่อนเล่าความคิดของตัวเอง
“พี่ ให้พวกเราไปฝึกอบรมเพื่อสอบใบรับรองเหรอ?” หลินเยี่ยนถามด้วยความประหลาดใจและดีใจเมื่อได้ยินข้อเสนอของหลินเซี่ย
หลินเซี่ยพยักหน้า “ใช่ พวกเธอทั้งสามคนตอนนี้มีทักษะในด้านของตัวเองค่อนข้างดีแล้ว สิ่งเดียวที่ขาดคือการรับรองจากหน่วยงานที่มีอำนาจ เหมือนกับหมอเถื่อน มีความรู้ทางการแพทย์อย่างเดียวไม่พอ ต้องถูกกฎหมายและได้รับการรับรองด้วยถึงจะทำงานได้”
หลินเซี่ยมองพวกหล่อนและบอกความคิดของตัวเอง “ดังนั้น ฉันตั้งใจจะส่งพวกเธอไปฝึกอบรมที่เซี่ยงไฮ้โดยออกค่าใช้จ่ายให้ ฉันสอบถามมาแล้ว มีสถาบันเฉพาะทางด้านความงามและทำผม หลักสูตร 3 เดือน ฉันจะลงทะเบียนให้พวกเธอทั้งสามคน พวกเธอไปเรียนก่อน พอโรงเรียนของเราสร้างเสร็จและเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการ พวกเธอก็จะเรียนจบกลับมาพอดี ถึงตอนนั้นก็สอนนักเรียนในโรงเรียนของเราได้”
หลินเยี่ยนดีใจมากที่มีโอกาสก้าวหน้าเช่นนี้
หล่อนจะได้ไปฝึกอบรมที่เซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ เป็นเมืองแห่งแฟชั่น
หล่อนจะได้ไปเห็นโลกกว้างในเมืองใหญ่ ช่างเป็นเรื่องที่น่าปรารถนาเหลือเกิน
หลินเยี่ยนดีใจจนตัวลอย “ขอบคุณพี่มากค่ะ พวกเราจะตั้งใจเรียนอย่างแน่นอน”
แต่หล่อนแค่คิดในใจ เมื่อคำนึงถึงชุนฟางกับหยางหงเสีย หล่อนจึงไม่ได้พูดออกมา
หลินเยี่ยนตอบตกลงอย่างรวดเร็ว เริ่มตั้งตารอที่จะไปเห็นโลกกว้างที่เซี่ยงไฮ้แล้ว
หยางหงเสียกับชุนฟางได้ยินข่าวดีแบบนี้ก็ดีใจเช่นกัน แต่พวกหล่อนทั้งสองเป็นคนมีครอบครัวแล้ว เมื่อได้ยินว่าต้องไปอบรมสามเดือน ในใจก็อดกังวลไม่ได้
ต้องปรึกษากับคนรักของตัวเองก่อน
“ทำไมพวกเธอสองคนทำหน้าแบบนั้น? ไม่อยากไปหรือ?” หลินเซี่ยเห็นหยางหงเสียกับชุนฟางนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น แม้จะดูมีความสุข แต่สีหน้ากลับมีความกังวล
“เซี่ยเซี่ย พวกเราอยากไปแน่นอน” หยางหงเสียพูด “ฉันจะกลับไปบอกเจียซิ่งสักหน่อย”
“ถ้าเขาไม่ให้เธอไปล่ะ?” หลินเซี่ยหรี่ตาถามหล่อน “ถ้าสามีเธอไม่ให้ไป เธอก็จะไม่ไปเหรอ?”
เฉินเจียซิ่งผู้ชายสุนัขแบบนั้นมีโอกาสสูงที่จะไม่ยอมให้หยางหงเสียไปอบรม
หยางหงเสียส่ายหัวอย่างงุนงง “ฉันไม่รู้”
หล่อนพึมพำกับตัวเอง “คงจะเห็นด้วยที่ฉันจะไปนะ”
หลินเซี่ยยิ้มและพูดว่า “ได้ คู่แต่งงานทั้งสองคนรีบกลับไปปรึกษากันเถอะ พวกเราต้องตัดสินใจให้เร็ว ฉันสืบมาแล้ว การอบรมเสริมสวยที่เซี่ยงไฮ้จะเริ่มในเดือนมีนาคม อีกเดือนเดียวก็จะเปิดเรียนแล้ว ที่นั่งมีจำกัด นักเรียนจากทั่วประเทศต่างรอโอกาสอบรมแบบนี้ พวกเราต้องรีบสมัครกัน”
เธอรู้ข่าวนี้ล่วงหน้าและหาทางให้พวกหล่อนได้ลงทะเบียนก็เพราะมีความทรงจำจากชาติก่อน
หลินเยี่ยนตัดสินใจด้วยตัวเองแล้ว หล่อนฮัมเพลงอย่างร่าเริงขณะยุ่งอยู่ในร้านเช่าชุดแต่งงาน
ส่วนหยางหงเสียกับชุนฟางบอกว่าจะกลับไปปรึกษากับคู่รักของพวกหล่อนในตอนเย็น
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เจียซิ่งไม่ให้ไปก็หนีไปทำงานเองเลยค่ะ ผู้ชายที่ขัดความเจริญก้าวหน้าของภรรยานี่ต้องพิจารณาใหม่แล้ว
ไหหม่า(海馬)