ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 908 ความคิดของเฉินเจียซิ่ง
ตอนที่ 908 ความคิดของเฉินเจียซิ่ง
ตอนกลางคืน หลังจากชุนฟางกลับมาแล้ว หล่อนก็เล่าเรื่องการไปอบรมที่เซี่ยงไฮ้ให้หลินจินซานฟัง
“มีเรื่องดีๆ แบบนี้ด้วยเหรอ?” หลินจินซานได้ยินคำพูดของชุนฟางแล้วก็มองหล่อนด้วยความประหลาดใจ ถามย้ำว่า “ชุนฟาง นี่เป็นเรื่องจริงใช่ไหม? เซี่ยเซี่ยจะให้โอกาสพวกคุณไปอบรมที่เซี่ยงไฮ้จริงๆ เหรอ?”
ชุนฟางพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม “ใช่แล้ว เซี่ยเซี่ยบอกว่าให้ฉันไปเรียนที่เซี่ยงไฮ้พร้อมกับเสี่ยวเยี่ยนและหงเสีย ชุนฟางจะเรียนเกี่ยวกับการทำผม ส่วนฉันกับเสี่ยวเยี่ยนจะเรียนเรื่องการแต่งหน้าและจัดทรงผม บอกว่าเรียนสามเดือนก็จะได้ใบรับรองวิชาชีพ หลังจากนั้นก็จะเป็นครูสอนวิชาปฏิบัติในโรงเรียนได้”
พอชุนฟางพูดจบ หลินจินซานก็ยิ่งดีใจ “จริงเหรอ? ต่อไปคุณกับเสี่ยวเยี่ยนก็จะได้เป็นครูในโรงเรียนที่เซี่ยเซี่ยเปิดแล้วสินะ?”
หลินจินซานดูจะตื่นเต้นและดีใจมากกว่าตัวชุนฟางเองเสียอีก “ต่อไปพวกคุณก็จะได้เป็นครูแล้วเหรอ? เยี่ยมมากเลยนะ ครอบครัวเราจะมีคนเก่งๆ แล้วสิ”
หลินจินซานนึกถึงภรรยาและน้องสาวของเขาที่จะได้เป็นครูในโรงเรียนที่เป็นของน้องสาวที่เก่งและขยันของเขา เขาก็รู้สึกภูมิใจมากกว่าใครๆ
“แล้วคุณคิดยังไง? เห็นด้วยไหมที่ฉันจะไปเรียน?” ชุนฟางมองหลินจินซานและถาม
หลินจินซานมองหล่อนและพูดอย่างจริงจังว่า “ที่รัก นี่เป็นโอกาสที่ดีมาก เราต้องคว้าไว้ให้ได้ สามเดือนก็ไม่นานเท่าไหร่ คุณกับเสี่ยวเยี่ยนไปเรียนให้ดีๆ นะ ต้องตั้งใจเรียนให้มาก พยายามเอาใบรับรองมาให้ได้ ต่อไปพวกคุณก็จะได้เป็นครู แค่คิดก็ภูมิใจในตัวพวกคุณแล้ว”
“ดีแล้วที่คุณเห็นด้วย ฉันกลัวว่าคุณจะไม่ยอมให้ฉันไปเสียอีก”
เมื่อได้ยินคำพูดของชุนฟาง หลินจินซานก็เอานิ้วบีบจมูกหล่อนอีกครั้ง แล้วพูดว่า “เรื่องดีๆ แบบนี้ ทำไมผมจะไม่เห็นด้วยล่ะ? ผมจะขัดขวางความก้าวหน้าของคุณได้ยังไง? ผมไม่ได้โง่นะ”
“ขอบคุณค่ะ ฉันไม่ได้มองคนผิดจริงๆ” ชุนฟางรู้สึกซาบซึ้งใจ จูบแก้มของหลินจินซานอย่างแรง
หล่อนเพิ่งจะจูบเสร็จและกำลังจะถอยออกมา ชายหนุ่มกลับดึงหล่อนเข้าไปในอ้อมกอด ร่างทั้งสองล้มลงไปด้วยกัน…
ส่วนทางด้านนี้ หลังจากหยางหงเสียกลับบ้านแล้ว หล่อนก็เล่าเรื่องการไปอบรมที่เซี่ยงไฮ้ให้เฉินเจียซิ่งฟัง
“อะไรนะ? ไปเซี่ยงไฮ้?” เมื่อเฉินเจียซิ่งได้ยินข่าวนี้ เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทางดีใจเลย เขามองหยางหงเสียด้วยความประหลาดใจและถามว่า “พี่สะใภ้บอกคุณเมื่อไหร่? ทำไมผมไม่เคยได้ยินข่าวนี้มาก่อนเลย?”
หยางหงเสียอธิบายว่า “วันนี้พี่สะใภ้เรียกฉัน ชุนฟาง และหลินเยี่ยนมาประชุมด้วยกัน แล้วบอกข่าวดีนี้กับพวกเรา หล่อนบอกว่าจะส่งพวกเราไปอบรม ไปเรียนสามเดือนก็จะได้ใบรับรอง หลังจากนั้นก็จะเป็นครูในโรงเรียนได้แล้ว”
“เป็นครู? เป็นครูอะไร?” เฉินเจียซิ่งดูเหมือนจะไม่เชื่อคำพูดของหยางหงเสีย “พวกคุณมีความรู้ระดับไหน? จะไปเป็นครูในโรงเรียนได้ยังไง? นี่มันไม่ใช่การทำให้เด็กๆ เสียอนาคตหรอกเหรอ?”
เฉินเจียซิ่งมองหล่อนอย่างไม่ไว้หน้า พยายามทำลายความมั่นใจของหล่อน “ผมรู้สึกว่าพวกคุณคิดง่ายเกินไป พวกคุณเองก็เพิ่งเปิดคลาสอบรม แล้วจะไปอบรมที่เซี่ยงไฮ้อีก แค่ไปอบรมก็เป็นครูได้แล้วเหรอ? ถ้าอย่างนั้นมาตรฐานการเป็นครูก็ต่ำเกินไปแล้ว”
หยางหงเสียพยายามอธิบายเหตุผลให้เขาฟัง “พวกเราจะเป็นครูสอนภาคปฏิบัติ โรงเรียนที่พี่สะใภ้เปิดก็เป็นโรงเรียนสอนทักษะอยู่แล้ว หล่อนบอกว่าฝีมือของพวกเราสามคนตอนนี้สอนในโรงเรียนได้สบายๆ แต่เพราะคำนึงถึงปัญหาวุฒิการศึกษาของพวกเราที่ไม่มีใบรับรองจากสถาบันที่เป็นที่ยอมรับ มันก็เหมือนกับหมอเถื่อนที่ไม่มีใบอนุญาตก็ทำงานไม่ได้ หล่อนถึงได้ส่งพวกเราไปเรียนโดยออกค่าใช้จ่ายให้”
หยางหงเสียมีดวงตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น “เป็นค่าใช้จ่ายของทางการนะ หล่อนไม่ให้พวกเราจ่ายเงินเองด้วยซ้ำ โอกาสแบบนี้คนอื่นอยากได้แต่ไม่มีโอกาส พวกเราโชคดีมากที่ได้รับความเมตตาจากพี่สะใภ้ ไม่งั้นชาตินี้ฉันคงได้แต่ฝันว่าจะไปเซี่ยงไฮ้”
คำพูดของหยางหงเสียทำให้เฉินเจียซิ่งไม่พอใจ “หงเสีย คุณพูดอะไรของคุณน่ะ? ทำไมถึงพูดว่าถ้าไม่มีพี่สะใภ้ คุณก็ได้แต่ฝันว่าจะไปเซี่ยงไฮ้?”
เขาพูดว่า “พวกเรายังหนุ่มสาวอยู่นะ ต่อไปเมื่อหาเงินได้มากขึ้น ผมก็ตั้งใจจะพาคุณไปเที่ยวดูโลกภายนอก ถึงไม่มีพี่สะใภ้ ต่อไปผมก็จะพาคุณไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ได้ มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรนักหรอก ถ้าพวกเราไม่ต้องทำงาน แค่ซื้อตั๋วก็ไปได้แล้ว”
หยางหงเสียไม่คิดว่าเฉินเจียซิ่งจะอ่อนไหวขนาดนี้ หล่อนบอกข่าวดีแบบนี้ไป เขาไม่เพียงแต่ไม่ดีใจไปกับหล่อน แต่กลับมาโต้เถียงพยายามพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง
หล่อนบ่นอย่างโมโห “คุณพูดอะไรของคุณน่ะ? พวกเราไม่ได้ไปเที่ยวนะ พวกเราไปอบรมต่างหาก ฉันรู้ดีว่าในอนาคตคุณมีความสามารถพาฉันไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ได้ แต่ฉันไม่สนใจเรื่องเที่ยวเล่น ฉันแค่อยากไปอบรมเรียนรู้ พัฒนาตัวเอง เพื่อที่จะได้ไปเป็นครูเมื่อโรงเรียนเปิด นี่เป็นโอกาสที่ดีมาก คนที่มีสมองปกติก็จะคว้าโอกาสนี้ไว้เพื่อไปเรียนรู้”
“คุณหมายความว่ายังไง? จะไม่เห็นด้วยให้ฉันไปหรือ?” หยางหงเสียถามพลางมองเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจ
เฉินเจียซิ่งดวงตาวูบไหว ใบหน้ายิ้มแย้ม มองหล่อนและพูดว่า “ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น แค่รู้สึกว่างานของคุณตอนนี้มั่นคงและดีมากแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปอบรมที่เซี่ยงไฮ้เลย”
“คุณลองคิดดูสิ ต่อไปร้านเช่าชุดแต่งงานก็ต้องมีคนดูแลใช่ไหม? ถ้าหลินเยี่ยนไปเรียน ในร้านก็เหลือแค่คุณคนเดียว คุณดูแลร้าน ต่อไปร้านก็จะเป็นของคุณ เหมือนเป็นเจ้าของเลย นี่มันสบายกว่าตั้งเยอะ”
เฉินเจียซิ่งเห็นว่าหยางหงเสียไม่พูดอะไร เขาจึงพูดต่ออย่างจริงจัง “แต่ที่คุณบอกว่าอบรมเสร็จแล้วจะไปเป็นครูนั่น ผมรู้สึกว่าไม่น่าเชื่อถือ คุณก็รู้สถานการณ์ของตัวเองดี นิสัยแบบคุณจะเป็นครูได้เหรอ? ตอนพี่สะใภ้เปิดคอร์สอบรม หล่อนยังไม่ให้คุณสอนนักเรียนเลย แค่ให้ทำหน้าที่ลงทะเบียนและจัดตารางเรียน แล้วตอนนี้คุณจะไปอบรมที่เซี่ยงไฮ้สามเดือนกลับมาแล้วจะเป็นครูที่โรงเรียนได้เลยเหรอ? ผมรู้สึกว่าพี่สะใภ้ก็กำลังเสี่ยงนะ พวกคุณไม่มีวุฒิการศึกษา จะเป็นครูได้ยังไง?”
“พวกเราควรจะเป็นจริงเป็นจังหน่อย อย่าฝันเฟื่องเลย ผมว่านะ คุณควรจะตั้งใจดูแลร้านดีกว่า หลินเยี่ยนไปแล้วทางร้านก็ต้องการคนช่วย คุณอยู่ที่นี่จะได้แสดงความสามารถของตัวเองได้มากกว่า พวกคุณแบ่งหน้าที่กันทำก็ดีแล้วนี่”
หยางหงเสียก้มหน้าลง เงียบไม่พูดอะไร
คำพูดของเฉินเจียซิ่งดูเหมือนจะทำให้หยางหงเสียหวั่นไหว เพราะสีหน้าของหล่อนดูลังเลอยู่บ้าง เขาจึงพูดต่อไปว่า “ผมคิดว่าตอนนี้คุณควรคว้าโอกาสนี้ไว้ พอหลินเยี่ยนไปแล้ว คุณก็บริหารร้านเช่าชุดแต่งงานนี้ให้ดี รอให้พี่สะใภ้ส่งนักเรียนมาอีกสองคนในภายหลัง คุณก็จะได้ทำงานอย่างสบายๆ แถมยังสร้างผลกำไรให้หล่อนได้อีก มันดีแค่ไหนล่ะ”
เขาจับมือของหยางหงเสียไว้ พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็น “เรื่องการเป็นครูนั้นไม่น่าไว้ใจจริงๆ พี่สะใภ้ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์แล้ว ต้องมีคนมาสมัครเยอะแน่ๆ คุณก็รู้สถานการณ์ของตัวเองดี พวกเราควรจะเป็นคนที่มองความเป็นจริงหน่อย อย่าไปตามกระแสเดินบนสะพานไม้กระดานเดียวเลย อยู่ดูแลร้านเช่าชุดแต่งงานไม่ดีกว่าหรือ? ทั้งมั่นคงและสบายด้วย”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เจียซิ่งดูเหมือนไม่อยากให้เมียก้าวหน้ากว่าตัวเองยังไงไม่รู้แฮะ รู้ไหมเนี่ยว่าการกระทำแบบนี้เป็นการ gaslighting เมียทางอ้อม ทำให้เขาสงสัยในความสามารถของตัวเอง จนไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเอง
ไหหม่า(海馬)
………………..