ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 911 อยากฉีกปากเขาจริงๆ
ตอนที่ 911 อยากฉีกปากเขาจริงๆ
หลินจินซานดูมีความสุขมาก ใบหน้าเปล่งปลั่ง มองหลินเซี่ยด้วยสายตาเอ็นดูและรู้สึกขอบคุณอย่างมาก
เขาพูดอย่างตื่นเต้น “เซี่ยเซี่ย เมื่อคืนพี่สะใภ้กลับมาเล่าให้ฉันฟังเรื่องที่เธอส่งพวกหล่อนไปอบรมที่เซี่ยงไฮ้ ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดีแล้ว”
“งั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว” หลินเซี่ยอดขำไม่ได้กับท่าทางเกินจริงของเขา
ท่าทีของหลินจินซานกับเฉินเจียซิ่งช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
หลินจินซานมองหลินเซี่ยด้วยสีหน้าขอบคุณ แล้วพูดว่า “น้องสาวของฉัน ทำไมเธอถึงเก่งขนาดนี้ล่ะ? ฉันเป็นผู้ชายยังรู้สึกอายเลย ไม่สิ ผู้ชายหลายคนคงรู้สึกอายเหมือนกัน เธอสร้างโรงเรียนก็แล้วไป ตอนนี้ยังจะส่งน้องสาวกับพี่สะใภ้ไปเรียนต่อ เป็นครู พวกเราทุกคนได้รับประโยชน์จากเธอแล้ว”
หลินจินซานพูดจบก็หันไปมองเฉินเจียซิ่งที่นั่งอย่างอึดอัดอยู่ตรงนั้น แล้วถามอย่างจริงจัง “เจียซิ่ง นายก็มาขอบคุณน้องสาวฉันเหมือนกันใช่ไหม?”
เฉินเจียซิ่ง “……”
เขาเกาจมูกอย่างเก้อเขิน ไม่รู้จะตอบคำถามของหลินจินซานอย่างไร
หลินเซี่ยมองไปทางประตูด้านนอกแล้วพูดว่า “ออกไปซื้อของแล้ว น่าจะกลับมาเร็วๆ นี้”
“เจียซิ่ง นายก็คงดีใจมากสินะ ภรรยาจะไปเรียนต่อ ภูมิใจไหมล่ะ?” ความสัมพันธ์ระหว่างหลินจินซานกับเฉินเจียซิ่งดีขึ้นและอบอุ่นขึ้นหลังจากถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง พวกเขาดื่มเหล้าด้วยกันและเรียกกันว่าพี่น้อง
หลินจินซานค่อนข้างสบายๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าเฉินเจียซิ่ง เขามองจากมุมมองของตัวเอง รู้สึกว่าเฉินเจียซิ่งต้องตื่นเต้นเหมือนกับเขาแน่ๆ
เฉินเจียซิ่งไม่กล้ามองหลินจินซาน เขายิ้มแหยๆ รู้สึกอึดอัดใจ อยากจะรีบออกไปให้เร็วที่สุด
แต่น่าเสียดายที่หยางหงเสียยังไม่กลับมา เขาก็ไม่สามารถออกไปคนเดียวได้
“เฉินเจียซิ่งไม่ตั้งใจจะให้หงเสียไปเรียนต่อ” ตอนนี้ทุกคนที่อยู่ในที่นี้ล้วนเป็นคนคุ้นเคย หลินเซี่ยจึงไม่คิดจะรักษาหน้าให้เฉินเจียซิ่ง เธอจงใจพูดความคิดที่แท้จริงของเฉินเจียซิ่งออกมาต่อหน้าหลินจินซานและคนอื่นๆ
ให้หลินจินซานได้ดุด่าเขาสักหน่อย
ถ้าไม่มีการเปรียบเทียบก็จะไม่มีความเจ็บปวด
ให้เฉินเจียซิ่งดูว่าอะไรคือวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล
ดูว่าคู่รักของคนอื่นเขาจัดการกับเรื่องนี้กันอย่างไร
หลินจินซานมองดูเฉินเจียซิ่งอย่างสงสัยและถามว่า “เจียซิ่ง เกิดอะไรขึ้น? ทำไมไม่ให้ภรรยาของนายไปอบรมล่ะ?”
เมื่อพูดมาถึงจุดนี้แล้ว เฉินเจียซิ่งก็ไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไป จึงต้องเปลี่ยนเหตุผลเพื่อพยายามรักษาภาพลักษณ์ของตัวเอง “ผมก็คิดถึงพี่สะใภ้เหมือนกัน ผมกลัวว่าถ้าพวกเขาไปกันหมด จะไม่มีคนดูแลร้าน”
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเจียซิ่ง หลินจินซานก็มองไปที่หลินเซี่ยด้วยความห่วงใย “เซี่ยเซี่ย เจียซิ่งพูดมีเหตุผลนะ ถ้าพวกเขาไปกันหมด แล้วร้านจะทำยังไง?”
หลินเซี่ยพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ พลางยักไหล่ “ลูกมือในร้านอย่างเหวินเหวินก็จบการฝึกงานแล้ว แถมยังมีฉันอยู่ด้วย ช่วงนี้ก็ไม่ได้มีคนแต่งงานมากมาย เราจัดการได้แน่นอน”
หลินจินซานได้ยินคำพูดของหลินเซี่ยแล้วก็วางใจลง เขามองเฉินเจียซิ่งและพูดว่า
“ถ้าไม่มีอะไรให้กังวลแล้ว ก็ให้หล่อนไปสิ”
“แต่ว่า…”
ตอนนี้เฉินเจียซิ่งรู้สึกเหมือนถูกย่างบนเตาไฟ ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี
เฉินเจียซิ่งพูดอึกอัก หลินจินซานจึงพูดอย่างหงุดหงิด “แต่อะไร? โอกาสดีๆ แบบนี้ไม่คว้าเอาไว้ นายยังมีความคิดอะไรอีกล่ะ?”
เขารู้สึกสงสัยมากว่าทำไมอีกฝ่ายถึงมีความคิดเช่นนี้
“ฉัน…” เฉินเจียซิ่งลูบจมูกอีกครั้ง ยิ้มแหยๆ
ความคิดของเขา เขาจะพูดออกมาตรงๆ ต่อหน้าพวกเขาได้อย่างไร?
แต่หลินจินซานก็ไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ จากความเข้าใจที่เขามีต่อเฉินเจียซิ่ง เขาก็นึกอะไรบางอย่างออกทันที
หลินจินซานจ้องมองเขาด้วยสายตาเป็นประกาย แล้วพูดเสียงเบาๆ ว่า “นายไม่ได้กลัวว่าภรรยาของนายจะไปเรียนเพิ่มเติมแล้วทิ้งนายไปแล้วไปลับไม่กลับมาหรอกนะ?”
เฉินเจียซิ่ง “!!!”
หลินจินซานเห็นสีหน้าของเฉินเจียซิ่งแล้วก็รู้ว่าตัวเองเดาถูก เขาจึงพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “มีอะไรน่ากลัวด้วย นายนี่ไม่มั่นใจในตัวเองเอาซะเลย พวกเราต่างก็จดทะเบียนสมรสกันแล้ว เป็นการแต่งงานที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ถึงว่าวจะบินสูงแค่ไหน เชือกป่านก็ยังอยู่ในมือเรา ถ้าเราไม่ยินยอมให้หย่า พวกหล่อนก็ไปไหนไม่ได้”
หลินจินซานมองน้องสาวของตัวเองแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ ว่า “อีกอย่าง ยังมีเซี่ยเซี่ยคอยดูแลอยู่ไม่ใช่หรือ? ถ้าพวกหล่อนมีใจอื่น ต่อไปเซี่ยเซี่ยก็จะไม่ให้โอกาสในการทำงานกับพวกหล่อนอีก เรื่องแบบนี้ที่เป็นการทำลายตัวเอง ชุนฟางกับหงเสียจะไม่มีทางทำแน่นอน
ฉันคิดว่าพวกเราควรไว้ใจคู่ครองของตัวเอง อย่าคิดมากไปเลย และต้องมีความมั่นใจในตัวเองด้วย”
เขารู้ว่าหยางหงเสียไม่ใช่คนแบบนั้น
หล่อนจะไม่เปลี่ยนใจเพียงเพราะออกไปเห็นโลกภายนอกแค่สามเดือน
หยางหงเสียนั้นซื่อสัตย์และจริงใจต่อความรู้สึก
เขาไม่กล้าบอกใครในสิ่งที่เขากังวลที่สุด ว่าเมื่อหยางหงเสียเรียนจบกลับมา ช่องว่างระหว่างสามีภรรยาทั้งสองจะยิ่งห่างกันมากขึ้น…
ตอนนี้เขาไม่มีความรู้สึกมั่นคงเลยแม้แต่น้อย
เขาเองก็อยากพัฒนาตัวเอง แต่ตอนนี้เขาเหมือนแมลงวันบนกระจกหน้าต่าง มองเห็นอนาคตสดใส แต่ไม่มีทางออก
เขากลัวจริงๆ ว่าจะถูกรังเกียจ
ตลอดมา เขาเป็นคนที่อยู่รั้งท้ายสุดในบรรดาพี่น้องสามคน
แม้จะไม่เป็นไรและไม่รู้สึกอับอายอะไร เพราะอย่างไรเสีย พี่ใหญ่ของเขาก็มีจุดเริ่มต้นที่สูง ไม่ใช่คนทั่วไปจะเทียบได้
น้องชายสามมีความสามารถในการเรียนรู้ที่แข็งแกร่งและมีความอดทน แม้เขาจะป่วยมาหลายปีและต้องหยุดเรียนหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยละทิ้งการศึกษา
ดังนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าพี่น้อง เขาจึงไม่มีอะไรให้อิจฉา
ความมุ่งมั่นและความสามารถของพวกเขาอยู่ในระดับที่เขาไม่สามารถไปถึงได้
เขามีแต่ความชื่นชมและความเคารพนับถือเท่านั้น
เมื่อความสามารถและทักษะของคนๆ หนึ่งเหนือกว่าตัวเองมาก และสร้างช่องว่างระหว่างพวกเขาอย่างสิ้นเชิง ความอิจฉาก็จะกลายเป็นความเคารพบูชา
แต่หยางหงเสียนั้นแตกต่าง
หล่อนเคยเป็นเพื่อนร่วมงานของเขา และตอนนี้เป็นภรรยาของเขา
งานปัจจุบันของหล่อนก็ได้มาเพราะการแต่งงานกับเขา
ตั้งแต่โบราณกาล ผู้หญิงมักพึ่งพาผู้ชายเพื่อการอยู่รอด
ผู้คนคุ้นเคยกับการที่สถานะทางสังคมของผู้หญิงต่ำกว่าผู้ชาย และเงินเดือนก็น้อยกว่าผู้ชาย
แต่ตอนนี้ ทุกอย่างกำลังจะพลิกผันในครอบครัวของเขา
จึงคิดจะขัดขวางความก้าวหน้าของหยางหงเสีย
เขาไม่ได้ห้ามหล่อนให้ก้าวหน้า แค่หวังว่าหล่อนจะชะลอฝีเท้าลงบ้าง
ให้รอเขาสักหน่อย
รอจนกว่าเขาจะหางานดีๆ ได้ กลายเป็นช่างภาพที่ได้รับการยอมรับอย่างแท้จริง และได้รับเงินเดือนสูง แล้วค่อยให้หล่อนก้าวหน้า
หลินจินซานพูดพร่ำเพรื่อให้เหตุผลกับเขา แสดงความคิดเห็นของตัวเอง
เฉินเจียซิ่งสมองยุ่งเหยิงราวกับเส้นด้ายพันกัน ก้มหน้านิ่งไม่พูดอะไร
ในตอนนั้น หยางหงเสียได้กลับมาแล้ว
เมื่อเห็นชุนฟางกับหลินจินซานมา หล่อนก็ทักทายอย่างกระตือรือร้น
ชุนฟางมีสีหน้าเปี่ยมสุขและหวานชื่น บอกกับหยางหงเสียว่าหลินจินซานทราบแล้วว่าหล่อนมีโอกาสไปเรียนที่เซี่ยงไฮ้ เขาก็ดีใจมาก จึงตั้งใจซื้อของอร่อยมาฝากหลินเซี่ยโดยเฉพาะ
ชุนฟางยังหยิบช็อกโกแลตหนึ่งกล่องจากกองขนมนั้นให้หยางหงเสียด้วย
“ลองชิมดูสิ นี่เป็นของนำเข้า อร่อยมากเลยนะ จินซานซื้อมาเยอะเลย”
หยางหงเสียมองรอยยิ้มที่เปล่งประกายบนใบหน้าของชุนฟาง มองกองขนมบนโต๊ะ แล้วมองหลินจินซานที่กำลังคุยกับเฉินเจียซิ่ง ดวงตาของหล่อนฉายแววหม่นหมองขึ้นมา
ชายสองคนตรงหน้านี้มีท่าทีที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ในใจของหล่อนรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
จินซานก็พูดถูกนะ แต่งงานกันแล้ว ควรเชื่อใจคู่ชีวิตบ้าง
ไหหม่า(海馬)