ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 912 คนผิดเป็นเขาเอง
ตอนที่ 912 คนผิดเป็นเขาเอง
“หงเสีย พี่เจียซิ่งไม่ยอมให้เธอไปอบรมเหรอ?” หลินจินซานเห็นหยางหงเสียเข้ามาก็ถามตรงๆ ทันที
เฉินเจียซิ่ง “!!!”
พี่น้องคู่นี้พูดตรงๆ แบบนี้ได้ไงนะ?
ถามคำถามเดียวกันเป๊ะ
หยางหงเสียฝืนยิ้มบางๆ พูดเสียงอ่อนโยน “ไม่ใช่หรอกค่ะ เป็นฉันเองที่ไม่อยากไป”
แต่หลินจินซานไม่เชื่อคำพูดของหล่อนเลย เมื่อวานชุนฟางกลับมาบอกอยู่ว่าสาวๆ ทั้งสามคนตื่นเต้นดีใจมาก อีกทั้งยังวางแผนกันว่าพอไปถึงเซี่ยงไฮ้แล้วจะต้องถ่ายรูปกลับมาเยอะๆ ด้วย
หลินจินซานมองหยางหงเสียแล้วถามคำถามสำคัญ “เธอจะไม่อยากไปได้ยังไง? โอกาสดีๆ แบบนี้เธอไม่อยากคว้าไว้เหรอ? ถ้าอย่างนั้นเธอก็ไม่มีความมุ่งมั่นเอาเสียเลย อายุยังน้อยแท้ๆ ไม่ยอมออกไปเรียนรู้ เธอคิดยังไง? ต่อไปถ้าฝีมือตามคนอื่นเขาไม่ทัน ก็จะไม่มีใครจ้างเธอทำผมแต่งหน้าแล้วนะ ถึงร้านจะเป็นของเซี่ยเซี่ย พวกเราเป็นคนกันเอง แต่ก็ต้องพัฒนาความสามารถในการทำงานให้ทันด้วย ไม่อย่างนั้นจะถูกยุคสมัยคัดออก ใครก็ช่วยไม่ได้”
คำพูดของหลินจินซานทำให้หยางหงเสียก้มหน้าจมอยู่ในภวังค์ความคิด
หลินจินซานมองเฉินเจียซิ่งแล้วพูดอย่างจริงจัง “เจียซิ่ง พวกเราเป็นผู้ชาย ไม่ควรคิดแบบนี้ ต้องสนับสนุนคู่ครองในการทำงาน เมื่อพวกหล่อนเก่งขึ้น พวกเราก็ควรจะภูมิใจไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงกักขังภรรยาไว้ที่บ้าน? เงินเดือนก็น้อยลงเรื่อยๆ สองคนยิ่งอยู่ก็ยิ่งจน คิดอะไรอยู่กันแน่?”
“ใครบอกว่าฉันไม่เห็นด้วย?” เฉินเจียซิ่งถูกหลินจินซานจ้องมองถามไม่หยุด เขาโมโหจนตั้งสติไม่อยู่ “หงเสีย บอกพวกเขาสิว่าคุณไม่อยากไปเอง หรือผมไม่ให้ไป? ทำไมทุกคนถึงเอาแต่โจมตีฉัน?”
เฉินเจียซิ่งหน้าตาบึ้งตึง น้ำเสียงแข็งกร้าว ทุกคนต่างมองหน้ากันเลิ่กลั่ก แต่หลินจินซานไม่กลัวเขาสักนิด
แต่เดิมก็ไม่ค่อยชอบหน้าคนคนนี้อยู่แล้ว ต่อมาเป็นเพราะอีกฝ่ายถ่ายรูปพรีเวดดิ้งให้ ความสัมพันธ์จึงดีขึ้นถึงขั้นดื่มเหล้าด้วยกัน แต่ความสัมพันธ์นี้ก็ไม่ได้มั่นคงนัก และทนต่อการทดสอบไม่ได้
“แกตะคอกใคร?” หลินจินซานมองเขาอย่างดุดัน แล้วเยาะเย้ย “โกรธจนหน้าแดงแล้วใช่ไหม? น้องสาวฉันให้โอกาสดีๆ ในการเรียนรู้ ยังมีทุนให้ด้วย แกมีท่าทีแบบนี้เหรอ? ช่างไม่มีความกตัญญูเลย ถ้าภรรยาแกไม่อยากไปจริง แกก็ไม่ควรพยายามโน้มน้าวหรอกหรือ? ดูท่าทางแกเห็นได้ชัดเลยว่าอยากให้หล่อนไม่ไปนั่นแหละ”
“ความคิดเล็กๆ น้อยๆ ของแกใครๆ ก็รู้” หลินจินซานมองเฉินเจียซิ่งอย่างดูถูก แล้วเยาะเย้ย “ก็แค่กลัวว่าหงเสียจะเก่งกว่าแกแล้วทิ้งแกไปใช่ไหม? เคยหย่ามาครั้งหนึ่งแล้ว มีบาดแผลในใจสินะ?”
เฉินเจียซิ่ง “……”
อยากฉีกปากเขาจริงๆ
เฉินเจียซิ่งกลัวว่าหยางหงเสียจะเข้าใจผิด จึงรีบหันไปอธิบายกับหล่อน “หงเสีย อย่าฟังเขาพูดเหลวไหลนะ เมื่อคืนเราคุยกันแล้ว คุณรู้ดีที่สุดว่าผมคิดยังไง ผมไม่ใช่คนแบบนั้น ผมเชื่อมั่นในความรักของเรา เรื่องนี้ผมมั่นใจมาก”
หลินจินซานชายตามองเขาแวบหนึ่ง สีหน้าเต็มไปด้วยความดูถูก
มีความมั่นใจบ้าอะไร ดูก็รู้ว่าหวั่นใจอยู่นั่นแหละ
แน่นอนว่าในฐานะผู้ชาย เขาย่อมเข้าใจความรู้สึกของเฉินเจียซิ่ง
แต่งงานครั้งที่สองแล้ว คงทนรับความว้าวุ่นใจไม่ไหว
แต่ในฐานะคนรู้จัก พวกเขาก็เข้าใจนิสัยของหยางหงเสีย
ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนที่จะเปลี่ยนใจง่ายๆ แน่นอน
เห็นเฉินเจียซิ่งถูกหลินจินซานต่อว่าจนหน้าดำคล้ำใกล้จะระเบิดอารมณ์ หยางหงเสียก็รีบออกมาไกล่เกลี่ย “จินซาน อย่าด่าเจียซิ่งเลย เรื่องของฉัน พวกเราจะดูแลจัดการเอง”
พอหยางหงเสียพูดแบบนี้ หลินจินซานก็รู้สึกเก้อเขิน
เขาก้าวก่ายเกินไป
ทุกครั้งที่หลินจินซานกับเฉินเจียซิ่งพบหน้ากัน ทุกคนต่างเครียดและพร้อมจะปะทะกัน พวกผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พลอยได้รับผลกระทบทางอารมณ์ไปด้วย
หลินเซี่ยโบกมือแล้วพูดกับพวกเขาว่า “พอเถอะ พวกคุณกลับไปก่อนแล้วลองคิดดูอีกที พรุ่งนี้เช้าฉันจะโทรไปยืนยัน ทุกคนส่งข้อความมาหาฉันภายในแปดโมงเช้า เพราะพรุ่งนี้เช้าฉันต้องไปสมัครอย่างเป็นทางการ”
เฉินเจียซิ่งรู้สึกเหมือนได้รับการอภัยโทษ รีบลุกขึ้นแล้วลากหยางหงเสียออกไปด้วยกัน
หลินเซี่ยจะกลับบ้าน หลินจินซานกับชุนฟางก็อยากจะตามไปด้วย บอกว่าอยากเลี้ยงอาหารเย็นหลินเซี่ย
หลินเซี่ยปฏิเสธเรื่องการเลี้ยงอาหารทันที
“พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องมากพิธีขนาดนั้นหรอก ฉันต้องกลับไปทำอาหาร เฉินเจียเหอกับหู่จือกลับมาก็ต้องกินข้าวด้วย”
“ได้ งั้นพวกเราขอไปนั่งเล่นที่บ้านเธอสักหน่อยก็แล้วกัน”
หลินจินซานช่วยหยิบขนมขบเคี้ยวบนโต๊ะ
แน่นอนว่าเขาก็แบ่งให้หลินเยี่ยนด้วยส่วนหนึ่ง
หลินจินซานหยิบขนมออกมาพลางยิ้มพูดกับหลินเยี่ยนว่า “เสี่ยวเยี่ยน ฉันให้เธอน้อยหน่อยนะ ของพวกนี้ให้พี่สาวกับหู่จือ เดี๋ยวพี่จะซื้อให้เธอใหม่”
หลินเยี่ยนจมอยู่ในความสุขที่จะได้ไปเรียนในเมืองใหญ่ แม้หลินจินซานจะไม่ให้เงินหล่อนสักหยวน หล่อนก็ไม่รู้สึกอิจฉา
ยิ่งไปกว่านั้น หล่อนเองก็เก็บสะสมเงินเดือนไว้ อยากซื้ออะไรก็ซื้อได้ทั้งนั้น
เพียงแต่ปกติหล่อนประหยัดมัธยัสถ์ ไม่อยากใช้จ่ายเท่านั้นเอง
“เสี่ยวเยี่ยน พวกเราไปก่อนนะ ถึงเวลาแล้วก็เลิกงานกลับบ้านเร็วๆ ล่ะ”
“รู้แล้วค่ะพี่สาว”
ตลอดทาง หลินจินซานยังอดไม่ได้ที่จะบ่นเฉินเจียซิ่ง บอกว่าเขาใจคอคับแคบไม่สมกับเป็นผู้ชายอะไรทำนองนี้
หลินเซี่ยบอกให้เขาหยุดพูด แต่หลินจินซานปากไม่มีหูรูด พูดไม่หยุด
บอกว่าเฉินเจียซิ่งไม่มีวิสัยทัศน์ เห็นแก่ตัว…
ไม่สมควรเป็นผู้ชาย สรุปคือยิ่งบ่นยิ่งหยาบคาย
ชุนฟางได้ยินมาว่าหยางหงเสีย อาจจะไม่ได้ไปอบรมพร้อมกับพวกเขา หล่อนรู้สึกเสียใจแทนหยางหงเสีย และในขณะเดียวกันก็รู้สึกโกรธอยู่บ้าง
สิ่งนี้ยิ่งกระตุ้นให้หลินจินซานอยากบ่นมากขึ้น หลินเซี่ยห้ามปากพวกเขาไม่ได้ จึงไม่สนใจที่จะพูดอะไร แต่หลินจินซานก็เหมือนเป็นกระบอกเสียงของพวกเขา ทุกคำบ่นของเขาล้วนแม่นยำมาก
หลินเซี่ยรู้สึกว่าการวิเคราะห์ของหลินจินซานช่างถูกต้องแม่นยำ
จากมุมมองของเฉินเจียซิ่ง เขาคงกลัวการหย่าร้างจริงๆ จึงรู้สึกไม่มั่นคง ไม่กล้าปล่อยให้ภรรยาของตัวเองบินสูงเกินไป เพราะกลัวว่าตัวเองจะตามไม่ทัน
หลินจินซานกับชุนฟางพูดคุยกันตลอดทางจนถึงหน้าบ้าน ยังคงพูดไม่หยุด
หลินเซี่ยหยิบกุญแจมาเปิดประตู
หลินจินซานกับชุนฟางยืนอยู่ด้านหลังเธอรอให้เธอเปิดประตู และยังคงพูดถึงความผิดของเฉินเจียซิ่ง
“ถ้าครั้งนี้เฉินเจียซิ่งขัดขวางหยางหงเสียไม่ให้หล่อนไปอบรมจริงๆ ต่อไปหงเสียจะต้องมีปมในใจ แล้วความสัมพันธ์ของพวกเขาจะต้องมีรอยร้าวอย่างแน่นอน”
ชุนฟางเห็นด้วย “ใช่แล้ว ต่อไปหงเสียจะต้องเสียใจมากแน่ๆ”
ก่อนจะถอนหายใจให้กับหยางหงเสีย
“แม่ มาถึงเมื่อไหร่คะ?” หลินเซี่ยเห็นหล่อนแล้วก็ประหลาดใจ ถามพร้อมรอยยิ้ม
โจวลี่หรงตอบว่า “แม่มาตอนบ่าย วันนี้เสี่ยวหู่ร้องเรียกหาแม่ตลอด แม่เลยพาเขามาด้วย”
สายตาของโจวลี่หรงเบนไปยังใบหน้าของหลินจินซานและชุนฟางที่อยู่ด้านหลัง หลินเซี่ย แล้วยิ้มบางๆ ทักทายพวกเขา “จินซานกับชุนฟางก็มาด้วยเหรอ?”
“เข้ามาสิจ๊ะ”
เมื่อเห็นโจวลี่หรง หลินจินซานกับชุนฟางต่างก็มีสีหน้าเก้อเขินอยู่บ้าง
โจวลี่หรงคงได้ยินคำวิจารณ์เฉินเจียซิ่งจากปากพวกเขาไปหมดแล้ว
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เจียซิ่งก็ทำตัวน่าบ่นอย่างที่จินซานว่าแหละ เพราะกลัวว่าเขาจะได้ดีกว่าแล้วหลุดมือไป ก็เลยพยายามรั้งเขาไว้กับตัว
แม่ได้ยินแล้วจะว่าไงนะ จะแย้งหรือจะร่วมบ่นลูกคนรองด้วย
ไหหม่า(海馬)