ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 916 ผู้ชายรอบตัวเธอคนไหนบ้างที่ไม่ดีกว่าเธอ
ตอนที่ 916 ผู้ชายรอบตัวเธอคนไหนบ้างที่ไม่ดีกว่าเธอ
เฉินเจิ้นเจียงมีสีหน้าเคร่งขรึม คำพูดของเขาก็มีน้ำหนักมาก ส่วนผู้เฒ่าเฉินและคนอื่นๆ แม้จะไม่ได้แสดงท่าทีอะไร แต่ก็เห็นได้ชัดว่าความคิดของพวกเขาสอดคล้องกับเฉินเจิ้นเจียงอย่างยิ่ง
เฉินเจียซิ่งเองก็ตกใจกับคำพูดของพ่อเขา
แม้ตอนนี้เขาจะแต่งงานและแยกออกมาอยู่ต่างหาก แต่เมื่อเจอเรื่องใหญ่จริงๆ ผู้อาวุโสก็ยังคงออกมาดูแล
เมื่อผู้ใหญ่วิเคราะห์เช่นนี้ เขายิ่งตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเอง
เขารู้ว่าการกระทำของตนน่าละอายมาก แต่ว่า…
“พ่อ ที่พ่อพูดมาทั้งหมดก็ถูกต้อง ถ้าผมขัดขวางไม่ให้หงเสียไปเรียนต่อ พวกเราอาจจะเกิดช่องว่างระหว่างกัน หล่อนอาจจะโทษผมในอนาคต” เฉินเจียซิ่งพูดมาถึงตรงนี้ ก้มหน้าลง แล้วเปลี่ยนน้ำเสียง “แต่ว่า ถ้าผมปล่อยมือให้หล่อนไปศึกษาต่อตอนนี้ ผมกลัวว่าหล่อนจะบินจากไปไม่กลับมา”
บรรดาผู้อาวุโส “…….”
โจวลี่หรงขมวดคิ้ว อดทนพูดกับเฉินเจียซิ่งว่า “เจียซิ่ง ลูกคิดมากเกินไปแล้ว หงเสียไม่ใช่คนแบบนั้น”
เฉินเจียซิ่งก้มหน้าพูดเสียงอ่อย “ตัวผมเองก็ไม่ได้มีความสามารถอะไรมากมาย ถ้าหล่อนได้ออกไปเห็นโลกกว้าง หล่อนต้องรังเกียจผมแน่ๆ”
เขากลัวว่าหยางหงเสียออกไปตอนนี้แล้วอาจจะไม่กลับมาโดยไม่ต้องรอถึงอนาคต
โจวลี่หรงมองลูกชายที่ก้มหน้าด้วยสีหน้าหม่นหมอง ในฐานะแม่ หล่อนรู้สึกเจ็บปวดใจมาก
หล่อนพูดปลอบเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจียซิ่ง ลูกต้องมีความมั่นใจหน่อยนะ ไม่ใช่แค่มั่นใจในตัวเอง แต่ต้องมั่นใจในตัวหงเสียด้วย หล่อนไม่ใช่คนที่จะเปลี่ยนใจง่ายๆ พวกลูกรักกันด้วยความสมัครใจ ทำไมลูกถึงไม่ไว้ใจหล่อนล่ะ?”
เฉินเจียซิ่งขมวดคิ้ว ท่าทางเหมือนจะร้องไห้ “แม่ครับ ผมไม่ไว้ใจเมืองเซี่ยงไฮ้นั่นน่ะ คนเราเปลี่ยนแปลงได้ทั้งนั้น”
“พี่รอง พี่คิดมากไปแล้ว”
เฉินเจียวั่งมองเขาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ไม่ต้องพูดถึงเซี่ยงไฮ้หรอก แค่ในเมืองไห่เฉิงของเรา มีผู้ชายคนไหนบ้างรอบตัวพี่ที่ไม่เก่งกว่าพี่บ้าง?”
เฉินเจียวั่งพูดต่อไปอย่างมั่นคง “พี่สะใภ้รองของผมยังไม่ได้ไปรักคนอื่นเลย แล้วไปเซี่ยงไฮ้จะเปลี่ยนใจได้ยังไง?”
เฉินเจียซิ่ง “!!!”
เขากำลังจะโต้กลับ แต่เฉินเจิ้นเจียงกลับพยักหน้าเห็นด้วยอย่างยิ่ง “เจียวั่งพูดถูก พวกหนุ่มๆ ในกลุ่มของพวกลูกล้วนเป็นคนเก่งทั้งนั้น หงเสียไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย ลูกเป็นคนรักของหล่อนแท้ๆ แต่ชอบระแวงสงสัยแบบนี้ มันจะทำให้หล่อนเสียใจนะ”
“ใช่แล้ว เจียซิ่ง ลูกคิดแบบนี้ไม่ถูกต้อง สิ่งที่สำคัญที่สุดระหว่างสามีภรรยาคือความไว้วางใจ”
โจวลี่หรงรู้สึกโชคดีที่เข้าใจลูกชายของตัวเอง จึงเรียกเขามาคุยที่บ้านเก่าตามลำพัง ไม่เช่นนั้นถ้าหยางหงเสียรู้ว่าเจ้าหนูคนนี้มีความคิดมืดมนเช่นนี้อยู่ในใจ หล่อนจะต้องเสียใจมากแค่ไหน?
เฉินเจียซิ่งก้มหน้าลง ครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วพึมพำว่า “ที่พวกคุณพูดมาก็ดูมีเหตุผลอยู่”
แม้จะฟังดูหยาบคาย แต่เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว มันก็เป็นความจริง
ผู้ชายรอบตัวเขา ตั้งแต่พี่ชายของเขาไปจนถึงเพื่อนๆ ของพี่ชาย กระทั่งหลินจินซานในตอนนี้ก็ประสบความสำเร็จมากกว่าเขา
แต่หยางหงเสียไม่เคยเอาเขาไปเปรียบเทียบกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้าเขาเลย
ที่จริงแล้วเขารู้มาตลอดว่าหยางหงเสียไม่ใช่คนแบบนั้น
ตอนที่ตัดสินใจคบกับหล่อน ก็เพราะเห็นว่าหล่อนเป็นคนมั่นคงและจริงจัง
เป็นคนละประเภทกับเสิ่นเสี่ยวเหมยคนก่อนโดยสิ้นเชิง
เฉินเจียซิ่งถอนหายใจอย่างจนปัญญา สีหน้าสับสน “พ่อครับ ผมก็อยากทำให้พ่อภูมิใจนะ แต่ตอนนี้ผมจะทำยังไงได้ล่ะ? ผมอยากลาออก แต่พวกคุณก็ไม่ยอม งานช่างภาพก็ดีอยู่หรอก แต่ตอนนี้ผมเป็นแค่พนักงานชั่วคราวที่ร้านของพี่สะใภ้ ผมก็ไม่รู้ว่าต่อไปจะทำยังไง”
เฉินเจิ้นเจียง: “ไม่รู้ก็ไปตายซะ”
เมื่อได้ยินเฉินเจียซิ่งพูดถึงคำว่าลาออกอีกครั้ง เฉินเจิ้นเจียงก็โกรธจนตัวสั่น อยากจะต่อยเขา ยกแขนขึ้นแต่ก็หักห้ามใจเอาไว้
ไอ้หมอนี่เปลี่ยนงานมากี่ครั้งแล้ว? ตอนนี้กลับมาเป็นนิสัยเก่าอีกแล้ว
ทั้งวันคิดแต่เรื่องเพ้อฝัน ยังกลัวว่าจะโดนเมียทิ้งอีก
กับนิสัยแบบนี้ ถ้าโดนเตะอีกครั้ง พวกเขาก็ไม่แปลกใจเลย
เฉินเจียซิ่ง: “!!!”
“พอเถอะ อย่าโมโหมากนักเลย” โจวลี่หรงดึงเฉินเจิ้นเจียงเอาไว้ พยายามให้เขาสงบลง
หล่อนพยายามประนีประนอม “ตอนนี้เจียซิ่งก็ก้าวหน้าขึ้นมากแล้ว ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปเถอะ พวกเขายังหนุ่มสาวอยู่”
เฉินเจิ้นเจียงจ้องเฉินเจียซิ่งอย่างดุดัน แล้วทำหน้าบึ้งตึงไม่พูดอะไรอีก
อย่างน้อยตอนนี้เขาก็มีครอบครัวเล็กๆ ของตัวเอง รับผิดชอบครอบครัวเล็กๆ นั้น และสามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระได้แล้ว
ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ทำให้ทั้งบ้านวุ่นวายไปหมด
โจวลี่หรงรีบส่งสายตาให้เฉินเจียซิ่งในขณะที่เฉินเจินเจียงยังไม่ได้พูดอะไร “กลับบ้านเถอะ อย่าให้หงเสียรอนาน กลับไปคุยกับหล่อนดีๆ พรุ่งนี้เช้าไปหาพี่สะใภ้ใหญ่ของลูก ไปลงทะเบียนให้หงเสีย”
“ครับ”
เฉินเจียซิ่งลุกขึ้น กล่าวลาผู้ใหญ่แล้วก็จากไป
ตอนที่เขาออกจากบ้าน หยางหงเสียก็ขังตัวเองอยู่ในห้องนอน บอกว่าจะนอนแต่หัวค่ำ
หล่อนมีเรื่องกังวลใจตั้งแต่กลับบ้านมาตอนบ่าย
จริงๆ แล้วเขารู้ว่าทำไมหยางหงเสียถึงมีอารมณ์แบบนี้ แต่เขาก็เลือกที่จะมองข้ามสาเหตุที่ทำให้หล่อนอารมณ์ไม่ดีไปเสีย
ตั้งแต่กลับถึงบ้านก็หลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องนั้น
เฉินเจียซิ่งแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไร แล้วออกไปซื้อข้าวมากิน หยางหงเสียกินเสร็จแล้วก็เอนตัวลงนอน พอดีเขาได้รับเพจเจอร์จากแม่ของเขา จึงถือโอกาสนี้ออกไปข้างนอก
เขาไม่กล้าเผชิญหน้ากับหยางหงเสีย ไม่กล้าอยู่ตามลำพังกับหล่อน กลัวว่าหล่อนจะถามคำถามนั้นกับเขาอย่างกะทันหัน
เขารู้ว่าวันนี้ท่าทีของหลินจินซานที่มีต่อเรื่องนี้ ทำให้หยางหงเสียได้รับผลกระทบ
หล่อนจะต้องเปรียบเทียบเขากับหลินจินซานอยู่ในใจอย่างเงียบๆ แน่นอน…
เมื่อเฉินเจียซิ่งกลับถึงบ้าน ไฟในห้องนั่งเล่นดับอยู่ เขาเปิดไฟแล้วเดินไปที่ห้องนอน เปิดประตูห้องนอนก็พบว่ามืดสนิท
ตอนนี้เพิ่งสองทุ่มกว่าๆ ยังไม่ถึงเวลานอน ปกติแล้วหยางหงเสียมักจะนั่งวุ่นวายอยู่กับหัวหุ่นแต่งหน้าของหล่อน ทำทรงผมให้หัวหุ่นซ้ำไปซ้ำมา
หล่อนรักงานนี้จริงๆ
เฉินเจียซิ่งเปิดไฟห้องนอน ถอดเสื้อนอกออก แล้วยื่นมือเข้าไปในผ้าห่ม
“ที่รัก หลับแล้วเหรอ?”
หยางหงเสียส่งเสียงรับในลำคออย่างแผ่วเบาโดยไม่ได้หันมา เสียงของหล่อนฟังดูไม่มีท่าว่าจะง่วงนอนเลย “คุณกลับมาแล้วเหรอ? นอนเร็วๆ เถอะ”
หลังจากพูดจบ หล่อนก็หลับตาลงอีกครั้ง
เฉินเจียซิ่งไม่มีความตั้งใจจะนอนเร็วขนาดนั้น เขายื่นมือไปดึงหยางหงเสีย “อย่าเพิ่งนอนสิ ลุกขึ้นมาหน่อย ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
หยางหงเสียไม่สนใจคำพูดของเขา “พรุ่งนี้ค่อยคุยกันเถอะ ฉันง่วงแล้ว”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ทั้งบ้านพูดแบบนี้แล้ว ลองคิดทบทวนตัวเองดีๆ นะเจียซิ่ง
ไหหม่า(海馬)