ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 919 คนประเภทเดียวกันถึงจะอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกันได้
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80
- ตอนที่ 919 คนประเภทเดียวกันถึงจะอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกันได้
………………..
ตอนที่ 919 คนประเภทเดียวกันถึงจะอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกันได้
หลินเซี่ยหมดความอดทนกับหยางหงเสียแล้ว
ต้องยอมรับว่าสุภาษิตโบราณนั้นไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย คนประเภทเดียวกันถึงจะอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกันได้
หยางหงเสียถูกเฉินเจียซิ่งล้างสมองสำเร็จอย่างแท้จริง
แม้ตอนนี้เฉินเจียซิ่งจะบอกว่าสนับสนุนหล่อน หล่อนก็ยังเต็มใจที่จะสละโอกาสในการพัฒนาตัวเองเพื่อคำนึงถึงความรู้สึกของเฉินเจียซิ่ง
ทีมของเธอไม่ต้องการคนที่ไร้ความมุ่งมั่นเช่นนี้
แม้ว่าครั้งนี้ทุกคนจะพยายามพูดจาโน้มน้าวหยางหงเสียอย่างสุดความสามารถ และเธอจะทุ่มเททรัพยากรมากมายเพื่อฝึกฝนหล่อน แต่ในอนาคตก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่เพียงแค่คำพูดเดียวของเฉินเจียซิ่ง หล่อนก็จะสละอาชีพของตัวเองอีกครั้ง
เป็นการสูญเสียทรัพยากรไปโดยเปล่าประโยชน์
หลังจากโจวลี่หรงส่งเพจเจอร์แล้ว หล่อนก็รอสายจากเฉินเจียซิ่งมาตลอด แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีการติดต่อกลับมา
ในเวลานี้เฉินเจียซิ่งน่าจะกำลังทำงานอยู่ เขาเป็นผู้ดูแลฝ่ายการตลาด จำเป็นต้องออกไปตรวจสอบงานภายนอก เมื่อยุ่งขึ้นมาก็คงไม่มีเวลาโทรกลับหาหล่อน
“เซี่ยเซี่ย เวลาสมัครปิดรับเมื่อไหร่” โจวลี่หรงยังไม่อยากปล่อยโอกาสนี้ไป อยากให้หยางหงเสียไปเรียน
ตอนนี้คงมีแต่หล่อนเท่านั้นที่จะกู้สถานการณ์นี้ได้
ต้องไม่ให้หยางหงเสียใช้อารมณ์ทำเรื่องนี้พัง ตัดสินใจแบบที่จะต้องเสียใจในภายหลัง
“แม่ วันนี้สมัครได้ทั้งวัน จะปิดรับตอนบ่าย” หลินเซี่ยมองโจวลี่หรงแล้วพูดความเห็นของตัวเองอย่างจริงจัง “แต่สถานการณ์ตอนนี้ ฉันว่าถ้าหงเสียไม่อยากไปก็ช่างมันเถอะ เราอย่าไปบังคับเลย ไปเรียนจบกลับมาแล้วก็คงจะมีเหตุผลต่างๆ มาทิ้งงาน เงินของฉันก็ไม่ได้หามาง่ายๆ ที่ฉันส่งพวกเขาไปอบรมเพราะหวังว่าเรียนจบกลับมาแล้วจะทำงานใหญ่กับฉันได้ หงเสียอาจจะเหมาะกับการอยู่บ้านดูแลร้านค้าแบบสบายๆ จริงๆ อย่างอื่นก็ช่างมันเถอะ”
โจวลี่หรงมองหลินเซี่ยแล้วยิ้มเก้อ พูดด้วยน้ำเสียงขอร้อง “เซี่ยเซี่ย งั้นเอาแบบนี้นะ เธออย่าเพิ่งตัดสินใจ ฉันจะไปหาหงเสียก่อน ถามดูว่าหล่อนคิดยังไงกันแน่ ถ้าหล่อนไม่อยากไปจริงๆ ก็ช่างมันเถอะ แต่ถ้าเกิดหล่อนมีความกังวลอะไร ฉันในฐานะแม่สามีก็ต้องช่วยขจัดความกังวลทั้งหมดให้หล่อน ไม่งั้นต่อไปความสัมพันธ์ของหล่อนกับเจียซิ่งอาจจะมีปัญหาได้ ฉันก็หวังว่าหล่อนจะได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติม ต่อไปแม้จะดูแลร้านให้เธอ ทักษะก็ต้องผ่านไม่ใช่เหรอ”
โจวลี่หรงปลอบอารมณ์หลินเซี่ย ขอให้เธอให้โอกาสหยางหงเสียอีกครั้ง แล้วก็รีบร้อนไปที่ร้านเช่าชุดแต่งงานเพื่อหาหยางหงเสีย
หลินเซี่ยมองร่างของแม่สามีที่เดินออกไป เธอก็รู้สึกผิดหวังและโกรธคู่ของเฉินเจียซิ่งมากขึ้น
พวกไม่รู้จักโต แต่งงานย้ายออกไปแล้วยังให้พ่อแม่ต้องมาเป็นห่วง
บอกว่าเป็นการแต่งหน้าสำหรับการแสดงเต้นบนเวที
สองสาวสวยกำลังแต่งหน้า ขณะที่อีกสองคนกำลังรออยู่ข้างๆ
โจวลี่หรงไม่กล้ารบกวน หล่อนทักทายหยางหงเสียและคนอื่นๆ แล้วนั่งลงรอ
ตอนแรกทุกอย่างดูปกติดี แต่ว่า…
อาจจะเพราะแม่สามีอยู่ด้วย หรืออาจจะมีเรื่องอื่นในใจ ขณะที่กำลังแต่งหน้าให้สาวคนที่สอง หยางหงเสียก็ทำพลาดบ่อยครั้ง
คิ้วที่เขียนออกมานั้นดูน่าสยดสยองจริงๆ
สาวคนนั้นมองกระจกเห็นคิ้วที่หยางหงเสียเขียนให้ข้างหนึ่งสูงอีกข้างต่ำ ข้างหนึ่งหนาอีกข้างบาง
เพื่อนของหล่อนก็เห็นปัญหาเช่นกัน ตอนแรกพูดทักท้วงอย่างอ้อมค้อม หยางหงเสียก็ขอโทษและรีบลบแล้วเขียนใหม่
แต่ยิ่งลบก็ยิ่งผิดพลาด พอเขียนคิ้วเสร็จแล้ว ตอนแต่งตาก็แทบจะทิ่มพู่กันอายแชโดว์เข้าตาสาวคนนั้น
คราวนี้สาวคนนั้นทนไม่ไหวแล้ว หล่อนลุกขึ้นยืนอย่างโกรธจัด มองหน้าหยางหงเสียแล้วถามอย่างเดือดดาล “คุณแต่งหน้าเป็นจริงๆ หรือเปล่า? ดูสิว่าคุณแต่งหน้าฉันออกมาเป็นยังไง ขนาดคิ้วยังเขียนไม่ดีเลย อายแชโดว์ก็เข้าตาฉัน ถ้าฉันตาบอดจะทำยังไง?”
“เช็ดอะไรกัน? เธอช่างไม่มีความเป็นมืออาชีพเลย”
หญิงสาวหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดตาของตัวเองแล้วเริ่มบ่น “ฉันอุตส่าห์มาตามคำแนะนำของคนรู้จัก ยกยอฝีมือไว้ซะสวยหรู ที่แท้ชื่อเสียงก็แค่โม้มาทั้งนั้น ไม่มีความเป็นมืออาชีพเลย ต่อไปนี้ฉันจะไม่มาอีกแล้ว”
“ตอนนี้เราจะทำยังไงดี? พวกเราต้องแสดงตอนบ่ายนี้นะ”
หลินเยี่ยนเพิ่งแต่งหน้าให้หญิงสาวอีกคนเสร็จ เมื่อได้ยินคำพูดของหญิงสาว หล่อนขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วเดินมาพร้อมรอยยิ้มเพื่อปลอบอารมณ์ของหญิงสาว “น้องสาว อย่าโมโหไปเลยค่ะ ช่างแต่งหน้าคนนี้วันนี้ไม่สบายนิดหน่อย มาทำงานทั้งที่ป่วย อาจจะมือสั่นนิดหน่อย พี่จะแต่งหน้าให้น้องใหม่เอง”
หลินเยี่ยนพาหญิงสาวไปนั่ง ล้างเครื่องสำอางแล้วแต่งหน้าให้ใหม่ พร้อมกับยิ้มและคุยกับหล่อน พยายามกู้ภาพลักษณ์ของร้าน “น้องสาว น้องวางใจได้ เทคนิคของพวกเรามืออาชีพแน่นอน น้องดูเพื่อนๆ ของน้องสิ แต่งหน้าออกมาดีทั้งนั้นใช่ไหม? เพื่อนๆ ของพวกน้องก็มาแต่งหน้าที่ร้านเราใช่ไหม? แต่วันนี้มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดกับพี่คนนี้จริงๆ”
หญิงสาวแค่นเสียงอย่างไม่พอใจ “ถ้าไม่สบายก็ไม่ต้องมาทำงานสิ ทำออกมาไม่ดี คนที่เสียประโยชน์ก็ลูกค้าอย่างพวกเราน่ะสิ”
หลินเยี่ยนยิ้มพลางพูดว่า “ดูพวกน้องแล้วคงยังไม่ได้เข้าสู่สังคมการทำงานสินะ?”
“โลกของผู้ใหญ่ จะพักก็พักไม่ได้หรอก ถ้าพวกเราปิดร้านพักเพราะปัญหาเล็กๆ น้อยๆ พวกน้องที่มาที่นี่ก็เสียเที่ยวน่ะสิ?”
“ก็ได้ งั้นฉันจะไม่ถือสาละ เธอแต่งหน้าฉันให้สวยๆ หน่อยล่ะ”
โจวลี่หรงมองดูหลินเยี่ยนจัดการกับสถานการณ์วิกฤตนี้อย่างสงบเยือกเย็นอยู่ข้างๆ ไม่อาจห้ามตัวเองไม่ให้มองหลินเยี่ยนเป็นพิเศษ
เด็กคนนี้เปลี่ยนไปมากจริงๆ
ตอนที่เจอกันครั้งแรก หล่อนยังพูดภาษาจีนกลางไม่ได้ด้วยซ้ำ มักจะก้มหน้าลดการมีตัวตน ไม่กล้าทักทายใครอย่างประหม่า
ตอนนี้ หล่อนกลับกลายเป็นคนมีมารยาทและฉลาดเฉลียว
การเปลี่ยนแปลงของหลินจินซานก็น่าทึ่งเช่นกัน
ต้องยอมรับว่าสภาพแวดล้อมที่คนเราอยู่นั้นสำคัญมาก
แน่นอนว่าเด็กๆ เหล่านี้ก็มีความมุ่งมั่น มีไหวพริบ กระตือรือร้น และพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเอง
สหายพี่น้องของเด็กสาวก็จ้องมองอยู่ข้างๆ เห็นหลินเยี่ยนมีเทคนิคชำนาญ แต่งหน้าได้เร็ว และแต่งออกมาสวยมาก พวกหล่อนก็พยักหน้าอย่างพอใจ และไม่ได้ถือสาหยางหงเสียอีก
เมื่อหลินเยี่ยนแต่งหน้าให้เด็กสาวเสร็จ ตอนที่พวกหล่อนจะไป หยางหงเสียก็ยิ้มแหยๆ พูดขอโทษ และส่งพวกหล่อนไปที่ประตู
“ขอบคุณมากนะ เสี่ยวเยี่ยน” โจวลี่หรงพูดกับหยางหงเสีย “หงเสีย เรามาคุยกันข้างนอกกันเถอะ”
หยางหงเสียยังรู้สึกเกรงกลัวและเกรงขามแม่สามีอย่างโจวลี่หรงอยู่จนถึงตอนนี้
ปกติเวลาอยู่บ้านมีคนเยอะ ความรู้สึกนี้ก็ไม่รุนแรงนัก
แต่ตอนนี้ต้องอยู่กันตามลำพัง อีกทั้งสีหน้าของโจวลี่หรงดูจริงจังมาก หยางหงเสียจึงรู้สึกประหม่าจนต้องกุมนิ้วมือตัวเอง
“แม่ มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
จริงๆแล้วหล่อนรู้ดีว่าทำไมโจวลี่หรงถึงมาหาตน แต่ก็ยังแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจและถามออกไป
“อืม มีเรื่องนิดหน่อย”
โจวลี่หรงทักทายหลินเยี่ยนแล้วพาหยางหงเสียออกจากร้านเช่าชุดแต่งงาน เดินไปที่หัวถนนตรงที่ไม่มีคน มองหยางหงเสียและถามว่า “พี่สะใภ้ของเธอสมัครให้พวกเธอไปอบรมที่เซี่ยงไฮ้ ทำไมเธอถึงไม่ไปล่ะ? เป็นเพราะเจียซิ่งไม่เห็นด้วยหรือเปล่า?”
หยางหงเสียรีบปฏิเสธ “ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะแม่ เจียซิ่งสนับสนุนฉันมาก แต่ตัวฉันเองไม่อยากไปต่างหาก”
“หงเสีย เธอบอกเหตุผลให้ฉันฟังได้ไหม?” โจวลี่หรงจ้องมองหล่อนอย่างจริงจังและถามว่า “โอกาสดีๆแบบนี้ ทำไมถึงไม่อยากคว้าเอาไว้ล่ะ? มีอะไรกังวลใจหรือเปล่า?”
หยางหงเสียก้มหน้าลง แล้วพูดความคิดของตัวเองออกมา “แม่ ฉันแค่ไม่ค่อยอยากไป ทักษะที่พี่สะใภ้สอนฉันมาก็เพียงพอแล้ว การไปเรียนเพิ่มเติมก็แค่ได้ใบรับรอง ซึ่งฉันคิดว่าไม่มีประโยชน์อะไร นิสัยแบบฉันก็เป็นครูไม่ได้หรอก ฉันแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว”
“แต่วันนี้งานของเธอผิดพลาดไปหมด” โจวลี่หรงยืนเผชิญหน้ากับหล่อน ชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดของหล่อนอย่างไม่ไว้หน้า “วันนี้เธอทำงานผิดพลาด ซึ่งฉันคิดว่ามีสองสาเหตุ หนึ่งคือฝีมือของเธอยังไม่ถึง”
“ฝีมือฉันดีอยู่แล้วค่ะ” หยางหงเสียก้มหน้าลง แย้งเสียงอ่อยๆ อย่างไม่ยอมรับ
“สองคือในใจเธอมีเรื่องกังวล จิตใจไม่อยู่กับงาน ฉันเดาว่าในใจเธอก็ขัดแย้งอยู่ เธออยากไปเรียนเพิ่มเติม แต่เลือกที่จะยอมแพ้เพราะเหตุผลบางอย่าง ใจเธอปล่อยวางไม่ได้จริงๆ เลยเอาอารมณ์มาใส่ในงาน”
ดูเหมือนว่าตอนนี้ หยางหงเสียยังขาดทั้งเทคนิคการแต่งหน้าและสภาพจิตใจในทุกด้าน
หล่อนจำเป็นต้องออกไปเรียนเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาความสามารถของตัวเองในทุกด้าน
……………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
เพราะแบบนี้แหละถึงต้องไปอบรมไงหงเสีย วันนี้เกิดวิกฤตแต่มีหลินเยี่ยนมาแก้สถานการณ์เลยรอดไปได้ แต่ถ้าวันหน้าเธอต้องจัดการวิกฤตแบบนี้คนเดียวล่ะ?
ไหหม่า(海馬)