ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 931 ไล่ออกจากบ้าน
ตอนที่ 931 ไล่ออกจากบ้าน
วังซูเฟินดึงเฉินเจิ้งกั๋วเข้ามา ส่งสัญญาณให้เขาเป็นคนพูดก่อน
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นน้องชายแท้ๆ ของเฉินเจิ้นเจียง พี่ชายของเขาต้องไว้หน้าเขาบ้างอย่างแน่นอน
เฉินเจิ้งกั๋วจำใจต้องเอ่ยปากด้วยสีหน้าลำบากใจ “พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่ เถ้าแก่เซี่ยจะไล่ซูเฟินออก พวกคุณช่วยพูดให้หน่อยได้ไหม ให้เถ้าแก่เซี่ยให้โอกาสซูเฟินอีกครั้ง ต่อไปหล่อนจะบริหารจัดการห้องเต้นรำให้ดี ไม่ทำอะไรเลอะเทอะอีกแล้ว”
“อะไรเลอะเทอะ? ใครทำเลอะเทอะ?” วังซูเฟินมองเฉินเจิ้งกั๋วด้วยสายตาดุดัน แล้วเบียดเขาออกไป ก้าวไปข้างหน้าอธิบายกับเฉินเจิ้นเจียงเอง “พี่ใหญ่ เหตุการณ์แบบนี้เป็นเหตุสุดวิสัย ฉันมีความสามารถในการทำงาน เถ้าแก่เซี่ยเองก็ยืนยันในเรื่องนี้ ฉันหวังว่าคุณจะช่วยฉัน ขอโอกาสให้ฉันอีกครั้ง”
“ฉันช่วยพวกเธอไม่ได้” เฉินเจิ้นเจียงสีหน้าเคร่งขรึม น้ำเสียงแข็งกร้าว “ฉันไม่ได้มีความสามารถขนาดนั้น”
“ฉันเคยบอกแล้วว่าอย่ามาหาฉันในเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลทั้งหมด”
วังซูเฟินไม่ยอมแพ้ พยายามโน้มน้าวเฉินเจิ้นเจียง “นี่ไม่ใช่เรื่องงานนะคะ มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่องานของพี่เลย ก็แค่ช่วยพูดในฐานะญาติเท่านั้นเอง ถ้าพี่เป็นคนพูด เถ้าแก่เซี่ยจะต้องฟังแน่นอน คนในครอบครัวเดียวกันควรช่วยเหลือกันบ้าง พี่ใหญ่ หลายปีมานี้พวกเราก็ไม่เคยรบกวนพี่ คราวนี้ช่วยฉันหน่อยเถอะ ถ้าฉันตกงาน ต่อไปทั้งครอบครัวของเราต้องดื่มลมตะวันตกเฉียงเหนือแล้ว”
“น้องสะใภ้รอง เธอประเมินเหล่าเฉินสูงเกินไปแล้ว” โจวลี่หรงพูด “เซี่ยไห่เป็นคนแบบไหน เธอน่าจะรู้ดี เขาไม่เกรงใจใครทั้งนั้น”
ถึงแม้เหล่าเฉินของหล่อนจะตกลงช่วยเรื่องนี้ แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้
พวกเขาไม่มั่นใจถึงขนาดที่ว่าเซี่ยไห่จะให้เกียรติพวกเขาหรอก
“เขาจะต้องไว้หน้าเซี่ยเซี่ยแน่นอน” วังซูเฟินมีความคิดที่ฉลาดและชัดเจนในช่วงเวลาสำคัญ “ตระกูลเซี่ยติดหนี้บุญคุณเซี่ยเซี่ยอยู่ แค่เซี่ยเซี่ยเอ่ยปาก เซี่ยไห่ก็จะต้องยอมและให้หน้าหล่อนแน่นอน”
“เรื่องนี้ให้เซี่ยเซี่ยออกหน้าช่วยฉันหน่อยได้ไหม?” ดวงตาวังซูเฟินเป็นประกาย มองเฉินเจิ้นเจียงและโจวลี่หรงอย่างเต็มไปด้วยความหวัง
“พอได้แล้ว!”
เฉินเจิ้นเจียงฟาดตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างแรง “หัดมียางอายหน่อยสิ อย่าคิดว่าพวกเราไม่รู้นะว่าเธอทำให้ห้องเต้นรำล้มละลายได้ยังไง”
“อย่าฝันที่จะทำธุรกิจหาเงินเลย พยายามชักนำลูกชายของพวกแกกลับสู่เส้นทางที่ถูกต้องจะดีกว่า ต่อให้หาเงินได้มากเท่าไหร่ ถ้าลูกชายไม่เอาไหน ก็มีแต่จะใช้จ่ายฟุ่มเฟือยจนหมด สุดท้ายก็ไม่เหลืออะไร”
คำพูดของเฉินเจิ้นเจียงโจมตีจุดอ่อนของพวกเขาอย่างแม่นยำ
พูดถึงเรื่องนี้ เฉินเจิ้งกั๋วก็ถอนหายใจอย่างหมดหนทาง “พี่ใหญ่ แต่ก่อนเฉินเจียหมิงเชื่อฟังเรามาก ตอนนี้ยิ่งโตยิ่งไม่เอาไหน ฮือ ผู้หญิงดีๆ ก็มาทิ้งไป ปีนี้เขาน่าจะแต่งงานได้แล้ว แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นแบบนี้ เขาตกงาน แฟนเขาก็ขอเลิก ซูเฟินก็รักษางานในห้องเต้นรำไว้ไม่ได้ ครอบครัวนี้คงอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว”
เขามีสีหน้าหมดอาลัยตายอยาก อยู่มาถึงอายุขนาดนี้ ยังต้องมากังวลเรื่องของลูกชาย รู้สึกว่าตัวเองล้มเหลวในชีวิตจริงๆ
แต่เฉินเจิ้นเจียงกลับไม่มีท่าทีเห็นใจแม้แต่น้อย “ทุกคนมีเส้นทางชีวิตเป็นของตัวเอง แกไม่ต้องมาบอกพวกเรา”
ย้อนกลับไปตอนนั้นที่พวกเขามีเงินแล้วเที่ยวยกหางอวดไปทั่วเมืองไห่เฉิง เห็นได้ว่าพวกเขาไม่คิดเลยว่าตนเองจะมีวันนี้
เฉินเจิ้งกั๋วได้ยินคำพูดของพี่ใหญ่แล้วถอนหายใจอย่างหนักหน่วง
จริงด้วย ทุกคนต่างมีเส้นทางชีวิตเป็นของตัวเอง
ทุกอย่างล้วนเป็นผลจากการกระทำของตน
คิดแล้วเขาก็หันไปมองวังซูเฟินอย่างฮึดฮัด “ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของคุณ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณดันอยากไปทำงานกับเถ้าแก่เซี่ย จะเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาหรือ?”
วังซูเฟินถูกเฉินเจิ้งกั๋วกล่าวหาดังนั้นก็ตกตะลึง “ทำไมคุณต้องโทษฉันด้วย?”
เฉินเจิ้งกั๋วรวบรวมความกล้า ชี้แจงข้อเท็จจริง “ตั้งแต่ที่คุณไปเป็นผู้จัดการที่ห้องเต้นรำ เฉินเจียหมิงก็เริ่มเหลิง ไม่รู้จักทำงานให้ดี วันๆ เอาแต่พาเพื่อนฝูงไปร้องเพลงเต้นรำที่ห้องเต้นรำ แถมพวกคุณแม่ลูกก็มีนิสัยชอบอวดรวย พบใครก็บอกว่าห้องเต้นรำเป็นของตัวเอง ไม่โทษคุณแล้วจะโทษใคร?”
“เฉินเจิ้งกั๋ว คุณไม่มีจิตสำนึกเลยหรือ? ที่ฉันทำทั้งหมดนี่ก็เพื่อใคร? ก็เพื่อครอบครัวนี้ไม่ใช่หรือ ถ้าคุณมีความสามารถนัก ฉันจะต้องออกหน้าออกตาหาเงินแบบนี้หรือ?” วังซูเฟินคิดว่าตัวเองทำงานหนักเพื่อครอบครัว แต่สุดท้ายเฉินเจิ้งกั๋วก็ไม่เข้าใจและสงสาร กลับมาตำหนิเธอเสียอย่างนั้น
เฉินเจิ้งกั๋วก็โมโหเช่นกัน ก่อนเล่าความคับข้องใจของตัวเอง “ตั้งแต่คุณแต่งงานกับผม คุณก็ลุ่มหลงในชื่อเสียงหน้าตา ผมทำอะไรคุณก็ไม่พอใจ ไม่ให้ผมจัดการเรื่องในบ้าน ผมไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรในบ้านเลย ตอนนี้กลับมาโทษผมว่าไม่จัดการอะไรเลยเนี่ยนะ ถึงอย่างไรคำพูดของคุณก็เป็นเอกสิทธิ์อยู่แล้วนี่”
เฉินเจิ้งกั๋วมีสีหน้าหมดอาลัยตายอยากและอับจนปัญญา หันไปบ่นกับวังซูเฟินไม่หยุดต่อหน้าพี่ใหญ่และพี่สะใภ้ใหญ่
เมื่อวังซูเฟินที่เป็นคนเข้มแข็งผู้ทำงานหนักแต่ไม่ได้รับคำขอบคุณถูกเฉินเจิ้งกั๋วผู้กินแรงบ่นใส่ หล่อนก็โกรธจนแทบระเบิด ทำท่าจะข่วนเขา
เฉินเจิ้งกั๋วหลบหลีกอย่างว่องไว
“พอได้แล้ว” เฉินเจิ้นเจียงตวาดเสียงดัง “พวกเธอกลับไปเถอะ อย่ามาอาละวาดที่นี่ เด็กๆ ยังอยู่ในบ้าน”
“พี่ใหญ่ แล้วเรื่องนี้พี่จะปล่อยไปเฉยๆ จริงหรือ” เฉินเจิ้งกั๋วมองเฉินเจิ้นเจียง น้ำเสียงสั่นเครือ มองเขาด้วยสายตาวิงวอน
“ฉันจัดการไม่ได้หรอก อย่าคิดเอาเองว่าฉันจะจัดการเรื่องยุ่งๆ พวกนี้ของพวกแก”
“อีกอย่าง ถ้าพวกแกคิดไปรบกวนเซี่ยเซี่ย ก็อย่าโทษฉันว่าไม่ไว้หน้าพวกแกนะ”
เฉินเจิ้นเจียงรู้สึกผิดหวังและเกลียดชังครอบครัวน้องชายคนรองอย่างที่สุด
ตอนที่มีชีวิตก็ยกหางชี้ฟ้า ไม่สนใจญาติพี่น้อง ทุกครั้งที่มาเมืองไห่เฉิงก็คุยโวโอ้อวดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เขากับโจวลี่หรงที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายมักถูกวังซูเฟินเยาะเย้ยและดูถูก
ถ้าเป็นแค่เรื่องพวกนี้ ด้วยวิสัยทัศน์และความเข้าใจของคู่สามีภรรยา พวกเขาคงไม่ใส่ใจมากนัก
แต่ในเรื่องของลูกๆ พวกเขาถูกวังซูเฟินทำร้ายจิตใจอย่างแท้จริง
หล่อนล้อเลียนว่าเจียวั่งมีร่างกายพิการ จะแนะนำสาวที่มีปัญหาทางการได้ยินให้เขาไปเป็นเขย
ตอนที่ยังไม่เข้าใจภูมิหลังของหลินเซี่ย พวกเขาก็เยาะเย้ยเธออย่างไม่ไว้หน้า
สิ่งเหล่านี้ทำร้ายจิตใจพวกเขาอย่างลึกซึ้ง
เฉินเจิ้นเจียงไล่เฉินเจิ้งกั๋วและภรรยาออกจากบ้าน
โจวลี่หรงบอกว่าเมื่อปฏิเสธพวกเขาต่อหน้าแล้ว คืนนี้ก็ให้เฉินเจิ้นเจียงมาพักที่นี่
ให้หู่จือนอนกับเฉินเจียเหอ ส่วนพวกเขาสองคนจะนอนเบียดกันในห้องรอง
เฉินเจิ้นเจียงบอกว่าพักที่นี่ไม่สะดวก หลังกินข้าวเสร็จก็ขี่จักรยานเก่าๆ ของเขากลับไปพักที่ห้องเวรในที่ทำงาน
โจวลี่หรงก็เหนื่อยใจมาก แต่เดิมชีวิตผ่านไปอย่างสงบสุข แต่พอครอบครัวนั้นมาวุ่นวาย ทุกอย่างก็วุ่นวายไปหมด
หล่อนอยากจะกลับไปชุมชนบ้านพักทหารเพื่อจับตาดูครอบครัวนั้น เผื่อพวกเขาจะไปดักหลินเซี่ย ติดที่หู่จืออยู่บ้านคนเดียว หล่อนจึงต้องอยู่เฝ้า
ตอนที่เฉินเจียเหอทำงานล่วงเวลากลับมาก็เกือบสามทุ่มแล้ว เมื่อได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นที่บ้าน และภรรยาของเขาพาลูกหนีไปอยู่กับพ่อตาแล้ว เขาก็โกรธมาก
“แม่ พรุ่งนี้ผมหยุด ผมจะไปคุยกับอารองและอาสะใภ้รอง ให้พวกเขารีบกลับเมืองหนานเฉิงไป เรื่องนี้พวกเราจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ยิ่งไม่มีทางที่จะช่วยพูดให้หล่อนด้วย”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
คิดว่าพี่ชายกับเซี่ยเซี่ยมีอำนาจมากขนาดนั้นเลยเหรอบ้านรอง ทำผิดก็หยุดแค่นี้เถอะ อย่าเดินต่อเลย ยิ่งเดินต่อยิ่งหลงทางนะ
ไหหม่า(海馬)