ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 937 มาถึงจุดนี้ก็จำเป็นต้องทำแบบนี้
ตอนที่ 937 มาถึงจุดนี้ก็จำเป็นต้องทำแบบนี้
หลังจากจัดการเอกสารเสร็จ เซี่ยไห่ลุกขึ้นยืน ตั้งใจจะพาลู่เจิ้งอวี่และนักบัญชีหลิวออกไป
“ลุงเฉิน ขอโทษด้วยนะครับ จริงๆ แล้วผมไม่อยากให้มันดูแย่แบบนี้ และยิ่งไม่อยากรบกวนชีวิตของคุณกับน้า” เซี่ยไห่มองวังซูเฟินด้วยหางตา “ที่มาถึงจุดนี้ เป็นเพราะความจำเป็นจริงๆ”
“ขอโทษที่รบกวนนะครับ พวกเราขอตัวก่อน”
เซี่ยไห่เดินออกไปอย่างรวดเร็วและมีพลัง บรรยากาศรอบตัวเขาดูน่าเกรงขาม ตามหลังด้วยลูกน้องสองคนที่ดูเฉียบขาด
บรรยากาศนั้นดูยิ่งใหญ่มาก
เฉินเจียเหอเห็นเซี่ยไห่จะไป เขาก็กล่าวลาผู้เฒ่าแล้วตามไปด้วย
โจวลี่หรงบอกว่าต้องไปดูหลาน ก็หาข้ออ้างออกไปเช่นกัน
แต่ก่อน เวลาครอบครัวเฉินเจิ้งกั๋วมาเมืองไห่เฉิง หล่อนจะต้อนรับพวกเขาอย่างอบอุ่นเสมอ
แม้จะทำงานอยู่ กลับมาถึงบ้านก็จะลงครัวทำอาหารอร่อยๆ ให้พวกเขากิน
เพราะว่าพวกเขาอยู่ต่างเมือง นานๆ ถึงจะมาที
วังซูเฟินกินอาหารที่หล่อนทำ แต่ยังต้องกินไปบ่นไป แสดงท่าทีรังเกียจพวกเขา รังเกียจลูกชายของหล่อน
แต่ก่อนหล่อนถือตัวว่าสูงส่ง ไม่อยากไปคิดมากกับคนธรรมดาสามัญพวกนี้
แต่ตอนนี้ความคิดของหล่อนเปลี่ยนไปแล้ว
หล่อนจะไม่ตามใจพวกเขาอีกต่อไป
อย่าคิดว่าจะได้ให้หล่อนคอยรับใช้พวกเขาอีก
เฉินเจียวั่งเห็นพี่ใหญ่กับแม่ออกไปแล้ว เดิมทีคิดจะไปกับพวกเขาด้วย แต่เมื่อเขามองไปที่คนแก่ที่นั่งอยู่ตรงนั้น ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอย ดูเก่าแก่และเศร้าสร้อย เขาก็หยุดฝีเท้าไว้
เขาเดินกลับมาเทน้ำให้ปู่ย่า ให้พวกท่านดื่มน้ำแล้วไปพักผ่อนในห้อง
ตราบใดที่เขาอยู่ที่นี่ เขาจะไม่ยอมให้พวกปลวกทั้งครอบครัวนี้มาทำให้คนแก่โกรธอีกเด็ดขาด
………
หลังออกมาจากชุมชนบ้านพักทหาร เซี่ยไห่เห็นเฉินเจียเหอเดินตามหลังมา เขาหันไปถามเขาว่า “การกระทำของฉันแบบนี้ ปู่ของนายจะไม่โกรธใช่ไหม?”
เฉินเจียเหอยิ้มพลางส่ายหัว “ไม่หรอก คนแก่ยังไม่สับสน”
“ฉันก็คิดแบบนั้น คุณปู่น่าจะแยกแยะถูกผิดได้”
เฉินเจียเหอหันไปถามเซี่ยไห่ “อารอง คุณจะกลับบ้านไหม ผมจะไปรับเซี่ยเซี่ยกับลูก”
“กลับ กลับบ้านสิ”
หลังจากกำจัดวังซูเฟินเนื้อร้ายนั่นออกไปแล้ว เซี่ยไห่ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก
เขาหันไปพูดกับลู่เจิ้งอวี่และนักบัญชีหลิว “พวกเธอสองคนกลับไปพักผ่อนเถอะ วันนี้เหนื่อยมาก”
เฉินเจียเหอนั่งรถของเซี่ยไห่ กลับบ้านตระกูลเซี่ย
โจวลี่หรงได้โดยสารรถไปด้วยอีกครั้ง เซี่ยไห่ไปส่งหล่อนที่อพาร์ตเมนต์สำหรับครอบครัวพนักงาน แล้วปล่อยหล่อนลง
เขาเป็นคนที่รู้จักแยกแยะถูกผิด เหมือนกับโจวลี่หรงที่ปรับปรุงตัวเองจากท่าทางเจ้าหน้าที่รัฐอันเย่อหยิ่งนั่น ก็ย่อมได้รับความเคารพจากเขาเป็นธรรมดา
เมื่อเซี่ยไห่และเฉินเจียเหอ มาถึงบ้านตระกูลเซี่ย หลินเซี่ยกำลังพาลูกเล่นกับคุณแม่เซี่ยอยู่ที่บ้าน ตอนนี้กำลังรับประทานอาหารกันอยู่พอดี
เซี่ยไห่พอเข้ามาในลานบ้านก็ร้องตะโกนว่าหิวจะตายแล้ว
เมื่อเห็นเฉินเจียเหอกับเซี่ยไห่กลับมาด้วยกัน หลินเซี่ยก็รีบถามว่าเรื่องของวังซูเฟินจัดการเสร็จหรือยัง
เซี่ยไห่พูดว่า “ฉันนี่บุกไปทำเรื่องที่บ้านตระกูลเฉินเลย”
เมื่อได้ยินคำพูดของเซี่ยไห่ หลินเซี่ยก็ชูนิ้วโป้งให้เขา “อารอง คุณเจ๋งจริงๆ สมแล้วที่เป็นเจ้านาย จัดการงานได้รวดเร็ว ไม่ยืดเยื้อ น่าเอาเป็นแบบอย่างจริงๆ”
คุณแม่เซี่ยกลับสนใจในจุดที่ต่างจากพวกคนหนุ่มสาว “เซี่ยไห่ แกใจร้อนเกินไปแล้ว ไปทำธุระที่บ้านคนอื่นแบบนี้ คงรบกวนการพักผ่อนของคุณปู่คุณย่าเจียเหอแน่ๆ”
นางก็เป็นหญิงชราคนหนึ่ง ลองคิดสลับที่กัน ถ้าลูกหลานของตัวเองทำตัวไม่ดี ทำผิดอะไรไว้ แล้วมีคนไล่ตามมาถึงบ้าน ในใจคงจะรู้สึกแย่มาก
“แม่ครับ ผมก็ไม่อยากทำแบบนี้หรอก” เซี่ยไห่ยักไหล่อย่างจนปัญญา “เมื่อวานวังซูเฟินแกล้งป่วย บอกว่าวันนี้ค่อยมาทำเรื่อง ผลคือลู่เจิ้งอวี่กับนักบัญชีหลิวรอจนถึงสิบโมงก็ไม่เห็นตัว ผมจะทำยังไงได้ล่ะครับ?”
“ผมรู้ดีว่าวังซูเฟินคิดอะไรอยู่ ผมไม่มีทางให้โอกาสหล่อนแน่นอน ถ้าวันนี้ไม่ไล่เธอออก ผมก็ไม่มีทางส่งคนอื่นไปรับช่วงต่องานที่ยุ่งเหยิงในเมืองหนานเฉิงได้”
เซี่ยไห่ก็กลัวว่าถ้าครอบครัววังซูเฟินหาคนช่วยไม่ได้ พวกเขาอาจจะกลับไปเมืองหนานเฉิงเลย
ถ้าไม่ได้จัดการเรื่องเอกสารให้เรียบร้อย หล่อนก็ยังเป็นผู้จัดการห้องเต้นรำอยู่ ถ้ากลับไปทำอะไรตามใจชอบที่นั่นอีก อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายที่ใหญ่กว่าเดิม
เซี่ยไห่โทรศัพท์ไปหาผู้จัดการห้องเต้นรำที่เมืองหนานเฉิง แจ้งเรื่องการไล่ออกของวังซูเฟิน
และสั่งให้อีกฝ่ายปิดห้องเต้นรำชั่วคราวตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป
ให้พนักงานหยุดพักสองวัน
หลินเซี่ยทำน้ำซุปไว้สำหรับบะหมี่เครื่องผัดมากไป ตอนนี้เฉินเจียเหอไปต้มบะหมี่ให้พวกเขาสองคนเอง แล้วยกออกมา
“อารอง แล้วต่อไปจะทำยังไง?” หลินเซี่ยถามเซี่ยไห่ “วังซูเฟินถูกไล่ออกแล้ว งั้นต้องส่งคนรับผิดชอบคนใหม่ไปที่เมืองหนานเฉิงสินะ?”
เซี่ยไห่กินข้าวไปพลางตอบว่า “พรุ่งนี้ฉันจะไปเมืองหนานเฉิงเอง จัดการปรับปรุงใหม่หน่อย พนักงานที่นั่นก็มีคนที่วังซูเฟินพาเข้ามา ต้องไล่ออกให้หมด ฉันจะไปดูสถานการณ์ก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
คุณแม่เซี่ยกำลังเล่นกับเสี่ยวหู่ ได้ยินว่าเซี่ยไห่จะไปเมืองหนานเฉิง นางก็กำชับด้วยความห่วงใย “งั้นเวลาไปเมืองหนานเฉิงต้องระวังตัวให้ดีนะ เรื่องมันเป็นแบบนี้แล้ว ระวังพวกนั้นจนตรอกแล้วทำอะไรบ้าๆ”
นางไม่ได้หวังให้ลูกชายทำธุรกิจใหญ่โตอะไร แต่เรื่องความปลอดภัยต้องรับประกันให้ได้
เซี่ยไห่หัวเราะเบาๆ “แม่ วางใจเถอะ ผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย”
เรื่องของวังซูเฟินจัดการเสร็จแล้ว เซี่ยไห่จะไปเมืองหนานเฉิง หลินเซี่ยต้องคอยดูแลที่ก่อสร้าง
เธอกับเฉินเจียเหออุ้มลูกชายกลับบ้าน ขณะที่โจวลี่หรงกำลังทำความสะอาดบ้าน
ครอบครัวใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
โจวลี่หรงยังคงกังวลว่าวังซูเฟินและพวกเขาจะอยู่ที่บ้านไม่ยอมไป ซึ่งจะทำให้คนแก่ทั้งสองโกรธ
หล่อนจึงโทรไปที่สำนักงานของเฉินเจิ้นเจียง บอกให้เขารีบกลับบ้านหลังเลิกงานเพื่อดูสถานการณ์ที่บ้าน
เฉินเจียเหอพูดว่า “แม่ อย่ากังวลไปเลย อารองเป็นลูกชายแท้ๆ ของคุณปู่ ถึงพวกเราไม่อยู่ คุณปู่ก็อธิบายให้พวกเขาเข้าใจได้ดี”
แต่เฉินเจียเหอก็กังวลเช่นกันว่าคุณปู่ของเขาจะถูกน้ำตาจระเข้ของเฉินเจียหมิงหลอก และจะหางานให้เฉินเจียหมิงในเมืองไห่เฉิงจริงๆ
เขาไม่สนใจว่าเฉินเจียหมิงจะทำงานที่ไหน แต่เขากลัวว่าถ้าเฉินเจียหมิงหางานในเมืองไห่เฉิงได้ ต่อไปคงต้องอาศัยอยู่ที่บ้าน
นอกจากนี้ ด้วยนิสัยของเฉินเจียหมิง เขาคงจะก่อเรื่องวุ่นวายเป็นครั้งคราว ซึ่งจะทำให้ทุกคนไม่มีความสงบสุข
พวกเขาอาจจะบอกว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเขา
แต่ถ้าเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ ในฐานะที่เป็นญาติกัน พวกเขาคงหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน
พ่อของเขาจะกลับบ้านตอนกลางคืน น่าจะเตือนคุณปู่ไม่ให้ท่านทำอะไรสับสน
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
จัดการโละพนักงานทั้งชุดเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เซี่ยไห่เด็ดขาดมาก
ไหหม่า(海馬)