ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 945 ไปสำรวจเมืองเซี่ยงไฮ้
ตอนที่ 945 ไปสำรวจเมืองเซี่ยงไฮ้
วันรุ่งขึ้น หลังเฉินเจียเหอไปเยี่ยมเซี่ยอวี่และลูกที่โรงพยาบาลแล้ว เขาจึงออกเดินทางไปทำงานนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ
หลินเซี่ยและโจวลี่หรงจัดเตรียมกระเป๋าเดินทางให้เขาแล้วเรียบร้อย และไปส่งเขาที่ทำงานด้วยตัวเอง
ผู้เฒ่าเฉินและคนอื่นๆ ตั้งใจจะมาส่งด้วย แต่ถูกเฉินเจียเหอห้ามไว้
เขาบอกว่าตนเองแค่ไปทำงานนอกสถานที่เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องให้ทุกคนมาส่ง ขอให้พวกเขารอจนรถไฟเริ่มวิ่งอย่างเป็นทางการค่อยเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ในสถานที่ทำงานของพวกเขาจะดีกว่า
เฉินเจิ้นเจียงก็เห็นด้วย บอกว่าตอนนี้ญาติไม่ควรกดดันพวกเขา ให้พวกเขาจากไปอย่างเงียบๆ จะดีกว่า
“เซี่ยเซี่ย ผมขอโทษจริงๆ ที่ไม่ได้อยู่ดูแลคุณและลูก” เฉินเจียเหอมองภรรยาและลูก ดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและอาลัยอาวรณ์
หลินเซี่ยยิ้ม “อย่าพูดแบบนั้นสิคะ งานของคุณยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ขนาดนี้ พวกเราภูมิใจในตัวคุณมาก หวังว่ารถไฟรุ่นใหม่ที่พัฒนาความเร็วแล้วจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ พวกเราจะไปนั่งเป็นคนแรกให้ได้”
เฉินเจียเหอลูบหัวเธอ ให้คำมั่นสัญญา “ตกลง รอตอนนั้นผมจะพาคุณและลูกๆ ไปเที่ยวเอง”
“ผมเข้าใจแล้ว”
“มา หู่จือ เสี่ยวหู่ มาบอกลาพ่อกันอีกครั้งสิจ๊ะ”
เสี่ยวหู่ที่อยู่ในอ้อมแขนหลินเซี่ยยังเล็กอยู่ ไม่เข้าใจอะไรทั้งสิ้น พอเห็นพี่ชายโบกมือให้พ่อ เขาก็เลยโบกมือน้อยๆ เลียนแบบท่าทางของพี่ชาย
เฉินเจียเหอจูบภรรยา แล้วหอมลูกชายทั้งสองคนกันคนละฟอด พูดกับแม่ของเขาอีกคำหนึ่ง แล้วหันหลังเดินเข้าไปในหน่วยงาน
โจวลี่หรงกับหลินเซี่ยมองดูร่างของเขาหายลับไปที่ประตูหน่วยงาน แล้วจึงค่อยๆ หันหลังจากไปอย่างอาลัยอาวรณ์
พอเฉินเจียเหอจากไป ในบ้านก็เหลือแค่พวกเขาสี่คน
โจวลี่หรงอยู่บ้านดูแลเสี่ยวหู่ ส่วนหลินเซี่ยก็เริ่มต้นชีวิตอันยุ่งวุ่นวาย
ในขณะเดียวกัน หลินเยี่ยน ชุนฟาง และหยางหงเสียก็กำลังจะเดินทางไปเซี่ยงไฮ้ เพื่อเข้ารับการฝึกอบรมเป็นเวลาสามเดือน
เดิมทีหลินเซี่ยตั้งใจจะไปส่งพวกหล่อนทั้งสามคนที่เซี่ยงไฮ้ จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วค่อยกลับมา แต่ตอนนี้เฉินเจียเหอไปทำงานนอกเมือง ถ้าเธอไปด้วย ก็จะเป็นห่วงแม่สามีกับลูก
เซี่ยไห่รู้เรื่องเข้าก็อาสาทันที “เซี่ยเซี่ย เรื่องนี้ให้ฉันจัดการเอง”
เขากล่าว “ฉันจะไปส่งพวกเธอที่เซี่ยงไฮ้ พอดีฉันเองก็อยากไปเที่ยวรอบๆ เซี่ยงไฮ้ด้วย เมื่อหลายปีก่อนฉันเคยไปดูงานที่นั่น ตอนนั้นเงินทองฝืดเคือง ไม่มีโอกาสได้ดูอะไรดีๆ เลยถือโอกาสนี้จะไปดูสักหน่อย ไปดูว่าห้องเต้นรำของเซี่ยงไฮ้เป็นอย่างไร จะได้เอามาเป็นแบบอย่างบ้าง”
ตอนนี้เซี่ยไห่ไม่ได้ยึดติดอยู่แค่เมืองไห่เฉิงกับเมืองเซินเจิ้นอีกต่อไป เขาอยากออกไปข้างนอก ไปดูเมืองแห่งแฟชั่น หวังว่าห้องเต้นรำของตัวเองจะสามารถก้าวทันเมืองใหญ่ และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
“อารอง คุณจะไปจริงๆ เหรอคะ” หลินเซี่ยมองเซี่ยไห่ด้วยความประหลาดใจ และถามเพื่อความแน่ใจ
“ฉันไปไม่ได้หรือไง” เซี่ยไห่ย้อนถาม
“ได้สิ แน่นอนว่าได้ ดีมากเลยค่ะ อาเป็นอารองที่ดีของฉันจริงๆ ช่วยแบ่งเบาภาระทุกอย่างให้หลายอย่าง มีคุณเป็นอารองนี่นับว่าเป็นโชคดีของฉันจริงๆ”
มีเซี่ยไห่ เป็นหัวหน้าทีมแบบนี้ เธอก็วางใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
เรื่องนี้ทำให้เธอรู้สึกมั่นใจยิ่งกว่าการที่เธอไปเอง
เซี่ยไห่เป็นคนที่มีประสบการณ์มากมาย
“พอเถอะ อย่ามายกยอฉันมากนักเลย” เซี่ยไห่บอกปัด “วันมะรืนออกเดินทางใช่ไหม จะได้บอกให้พวกหล่อนเตรียมตัวกันหน่อย”
หลินเซี่ยพยักหน้าด้วยความดีใจ “ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปบอกพวกหล่อนเอง”
สำหรับหญิงสาวทั้งสามคน การเดินทางครั้งนี้ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น พวกเธอไม่เคยเดินทางไกลขนาดนี้มาก่อน การได้เซี่ยไห่ผู้มากประสบการณ์คอยดูแลและไปส่งถึงที่ ยิ่งทำให้พวกหล่อนรู้สึกสบายใจมากขึ้น
หลังเลิกงาน เซี่ยไห่ไปพบกับลินดาเพื่อบอกข่าวเรื่องการเดินทางนี้ให้หล่อนฟัง ทว่าลินดากลับไม่ได้แสดงท่าทีตื่นเต้นอะไรนัก ทำเพียงพยักหน้ารับเบาๆ ว่า “อือ ไปสิ”
“คุณไม่มีอะไรจะพูดกับผมมากกว่านี้แล้วเหรอ?” เซี่ยไห่รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยกับท่าทีและคำตอบของลินดา
ลึกๆ แล้วเขาอยากให้ลินดาแสดงความเป็นห่วงเป็นใยเขาบ้าง ทุกครั้งที่เขาพูดเรื่องอะไร หล่อนมักจะตอบสนองอย่างเย็นชา ทำให้เขารู้สึกน้อยใจอยู่เสมอ
ลินดากวาดตามองเขาแวบหนึ่ง สีหน้ายังคงเรียบเฉย ”คุณก็แค่ไปไม่กี่วัน ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน ปกติก็ไปเซินเจิ้นบ่อยๆ ไม่ใช่หรือไง?”
ลินดาเองก็เป็นคนทำงานที่ต้องเดินทางไปสถานที่ต่างๆ อยู่เป็นประจำ ดังนั้นการเดินทางไกลจึงไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับหล่อน ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ถ้าต้องไป หล่อนก็พร้อมจะไปเสมอ
ขณะที่เซี่ยไห่พูด ลินดากำลังสนใจบทละครเรื่องใหม่ที่เซี่ยอวี่จะแสดง หล่อนพลิกอ่านบทอย่างตั้งใจ จนไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเซี่ยไห่นัก
เซี่ยอวี่กำลังอยู่ในช่วงพักฟื้นหลังคลอด เมื่อครบกำหนดก็จะต้องเข้ากองถ่ายละครโทรทัศน์ที่ดัดแปลงจากงานชองเย่เจิ้งหัว ซึ่งได้เริ่มถ่ายทำไปแล้ว โดยเซี่ยอวี่รับบทเป็นหว่านหลิน นางรองผู้แสนลึกลับ
ในฐานะผู้จัดการส่วนตัว ลินดาผู้มีสายตาเฉียบแหลมชอบบทบาทนี้มาก หากเซี่ยอวี่ถ่ายทอดออกมาได้ดี บทบาทนี้จะต้องโดดเด่นอย่างแน่นอน
ช่วงนี้หล่อนจึงยุ่งอยู่กับการประสานงานกับผู้กำกับ นักเขียนบท และทีมงานคนอื่นๆ เพื่อจัดตารางการถ่ายทำของเซี่ยอวี่อยู่ตลอด เพราะเซี่ยอวี่ยังต้องพักฟื้นอีกอย่างน้อยสี่สิบวันก่อนจะเข้ากองถ่ายอย่างเป็นทางการ
เย่เจิ้งหัวในฐานะผู้เขียนต้นฉบับและนักเขียนบทดัดแปลง ย่อมมีอำนาจในการตัดสินใจอย่างมาก การถ่ายทำจึงเริ่มจากฉากของนักแสดงคนอื่นๆ ก่อน ส่วนฉากของเซี่ยอวี่จะเลื่อนออกไปอีกนิดหน่อย
“ที่รัก” เซี่ยไห่เข้าไปใกล้ลินดาพร้อมกับหยิบบทละครออกจากมือหล่อน พลางมองด้วยสีหน้าประจบประแจง
ลินดาผลักเขาเบาๆ “มีอะไร? ขยับไปหน่อยสิ ร้อนจะตายอยู่แล้ว”
แต่เซี่ยไห่กลับไม่ขยับ แถมยังเข้าไปใกล้หล่อนมากขึ้น
“ที่รัก คุณได้ยินที่ผมบอกว่าจะพาสาวสามคนไปเซี่ยงไฮ้ไหม คุณไม่มีอะไรจะพูดเลยเหรอ?”
ลินดาช้อนตามอง “จะให้พูดอะไรล่ะ ก็ไปสิ”
“ผมหมายความว่า คุณไปกับผมด้วยกันสิ” ในเมื่อแฟนของเขาเป็นสาวเถรตรงไม่รู้จักอ้อมค้อม การพูดอ้อมๆ คงไม่ได้ผล
“ให้ฉันไปทำไม” ลินดาปฏิเสธทันที “ฉันไม่มีเวลา”
“ทำไมจะไม่มีเวลา” เซี่ยไห่รู้สถานการณ์การทำงานของหล่อนเป็นอย่างดี พี่สาวของเขายังอยู่ในช่วงอยู่เดือน ไม่สามารถเข้ากองถ่ายได้ ลินดาช่วงนี้ก็แค่วิ่งไปมาระหว่างกองถ่าย พูดคุยกับผู้กำกับเกี่ยวกับงานหลังจากพี่สาวของเขากลับมาทำงาน
การสละเวลาสักสองสามวันเพื่อไปกับเขาก็น่าจะทำได้ ก็ดูว่าหล่อนจะเต็มใจหรือไม่เท่านั้นเอง
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
รอดูเลยว่าไปเซี่ยงไฮ้แล้วจะเผชิญอะไรบ้าง บางทีอาจได้สิ่งใหม่ๆ มาก็ได้นะ
ไหหม่า(海馬)
………………..