ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 955 เปลี่ยนมาเรียกอาสะใภ้รอง
ตอนที่ 955 เปลี่ยนมาเรียกอาสะใภ้รอง
จริงๆ แล้วเซี่ยไห่ก็กำลังเสี่ยงดวงเช่นกัน เขารวบรวมความกล้าที่จะตัดสินใจแบบนี้ เพราะต้องการเสี่ยงดวงกับความรู้สึกระหว่างพวกเขา
เขาทำถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าลินดายังไม่ยอมตกลงแต่งงานกับเขา งั้น…
เขาอาจจะสูญเสียความมั่นใจในความรักครั้งนี้จริงๆ
ในตอนนี้ เขาทำเพียงมองหล่อนอยู่อย่างนั้น รู้สึกราวกับว่าเวลาหยุดนิ่งไป
ลินดาลังเลที่จะเอ่ยปาก จนหลินเซี่ยที่อยู่ข้างๆ ยิ่งรู้สึกร้อนใจ เธอกังวลว่าการกระทำของอารองวันนี้อาจจะรุนแรงเกินไป ไม่ได้ให้เวลาลินดาเตรียมใจ หล่อนจึงรู้สึกงุนงงไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ทำให้แสดงสีหน้าแบบนั้นออกมา
จริงๆ แล้วตอนแรกเซี่ยไห่ตั้งใจจะชวนคนมาเยอะๆ เรียกญาติพี่น้องเพื่อนฝูงของพวกเขามาร่วมเป็นกำลังใจ เพื่อที่จะขอลินดาแต่งงานต่อหน้าทุกคน จะได้ดูยิ่งใหญ่และคึกคักมากขึ้น
แต่หลินเซี่ยได้เสนอความคิดเห็นของตัวเองเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ไม่ว่าจะเป็นการขอแต่งงานหรือการแต่งงานก็ตาม ล้วนเป็นเรื่องของพวกเขาสองคน
แต่ถ้าลินดายังไม่ได้คิดให้ดี แล้วจู่ๆ มีคนมากมายโห่ร้องสนับสนุน หล่อนอาจจะถูกบังคับให้ตัดสินใจโดยไม่เต็มใจ
หรือไม่หล่อนก็อาจจะปฏิเสธเซี่ยไห่ต่อหน้าทุกคน ทำให้เซี่ยไห่เสียหน้า
เซี่ยไห่เป็นคนรักชื่อเสียงหน้าตามาก ถ้าเกิดสถานการณ์แบบนั้นขึ้นจริงๆ เขาจะเสียใจมากเลยเขาเคยมีความอ่อนไหวและเปราะบางในเรื่องความรักมาก่อนเพราะเหตุผลต่างๆ ทำให้ขาดความมั่นคงทางจิตใจ
ตอนนี้เขาพยายามอย่างมากที่จะเปิดใจคุยกับแฟน หากเกิดถูกปฏิเสธต่อหน้าคนอื่นอีกครั้ง เกรงว่าชาตินี้เขาคงต้องมีชะตากรรมเป็นคนโสดไปตลอดชีวิต
เซี่ยไห่ได้ฟังการวิเคราะห์ของหลินเซี่ยแล้วรู้สึกว่ามีเหตุผลมาก
หากแฟนสาวตอไม้ของเขาไม่เข้าใจความรู้สึกจริงๆ และปฏิเสธคำขอแต่งงานของเขาต่อหน้าทุกคน เขาก็คงอยากตายไปเลย
มันคงเป็นการเสียหน้าอย่างถึงที่สุด
เซี่ยไห่จึงทำตามคำแนะนำของหลินเซี่ย เพียงแค่ให้หลินเซี่ยเรียกลินดามาและให้หล่อนสวมชุดแต่งงานโดยไม่บอกใครทั้งสิ้น เขาคิดว่าลินดาที่สวมชุดแต่งงานอยู่ในบรรยากาศของร้านเช่าชุดแต่งงานแบบนี้น่าจะรู้สึกซาบซึ้งได้ง่ายขึ้น
แต่ในขณะนี้ เวลาได้ผ่านไปแล้วหลายนาทีหลายวินาที ลินดากลับยังคงไม่เอ่ยปากพูดอะไรเลย
ลินดายังคงไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
“พี่ลินดา พูดอะไรสักหน่อยสิ” หลินเซี่ยทนบรรยากาศอึดอัดไม่ไหว จึงกระซิบเตือนอยู่ข้างๆ
แต่ลินดาเหมือนไม่ได้ยินอะไร ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ ทั้งสิ้น
หัวใจของเซี่ยไห่ จมดิ่งลงสู่ก้นเหว
มือที่ถือแหวนของเขาราวกับไร้ความรู้สึก เข่าข้างที่ยันอยู่บนพื้นก็เริ่มชาไปหมด
เขาหลุบตาลงมองแหวนในมือ รู้สึกแต่เพียงความขมขื่นในขณะนั้นเอง เสียงอันไพเราะของหญิงสาวก็ดังขึ้นเหนือศีรษะของเขา “สวมแหวนให้ฉันสิ”
“อะไรนะ?”
“สวมแหวนให้ฉัน” ลินดาดูเหมือนจะไม่มีอารมณ์อะไรบนใบหน้า แต่ใบหูที่แดงก่ำของหล่อนบ่งบอกว่าอารมณ์ในตอนนี้ไม่ได้สงบนิ่งอย่างที่เห็นภายนอก
หลินเซี่ยเห็นเซี่ยไห่ตอบสนองช้าเหลือเกิน เธอไม่สนใจอย่างอื่นแล้ว รีบเตือนเสียงดัง “อารอง พี่ลินดาตอบรับคำขอแต่งงานของคุณแล้ว รีบสวมแหวนให้หล่อนสิ”
“ที่รัก คุณตอบตกลงจริงๆ หรือ? คุณยอมแต่งงานกับผมแล้วใช่ไหม?” ดวงตาของเซี่ยไห่ที่เคยหม่นหมองพลันเปล่งประกายวาววับ มองหล่อนด้วยสีหน้ายินดีและตื่นเต้นเพื่อยืนยันคำตอบ
ลินดาสบตากับเขาแล้วยิ้มบางๆ “อืม”
คำตอบสั้นๆ เพียงคำเดียวของหล่อนทำให้หัวใจของเซี่ยไห่พลุ่งพล่าน เขาตื่นเต้นจนอุ้มลินดาขึ้นมาทันที
เขาจูบที่แก้มของหล่อนอย่างลึกซึ้ง ดวงตาแดงก่ำด้วยความรู้สึก
อดไม่ได้ที่จะสูดจมูก
“คุณร้องไห้ทำไม?”
“แค่รู้สึกซาบซึ้งใจน่ะ”
ในตอนที่ลินดาเห็นเซี่ยไห่น้ำตาไหล หล่อนไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้อีกต่อไป กอดเขาไว้แน่น แล้วเงยหน้าขึ้นเพื่อไม่ให้น้ำตาของตัวเองหยดลงมา
แล้วหล่อนจะไม่รู้สึกซาบซึ้งใจได้อย่างไร? หล่อนไม่คิดจริงๆ ว่าเซี่ยไห่จะทำแบบนี้อย่างกะทันหัน
เมื่อเขาแสดงความรู้สึกอย่างจริงใจเช่นนี้ หล่อนจะใจร้ายปฏิเสธเขาได้อย่างไร?
หลินเซี่ยมองดูภาพนี้ ใบหน้าเผยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ เธอรู้กาลเทศะดีที่จะไม่อยู่เป็นก้างขวางคอ จึงเดินไปอีกห้องหนึ่ง
“เซี่ยเซี่ย ออกมาเร็ว”
ผ่านไปสักพัก เสียงร้องเรียกอย่างร่าเริงของเซี่ยไห่ดังมาจากด้านนอก
หลินเซี่ยกำลังจัดเก็บชุดแต่งงาน เมื่อได้ยินเซี่ยไห่เรียกเธอ จึงเดินออกไปพร้อมกับยิ้มและพูดว่า “อารอง พวกคุณจะกลับแล้วหรือ?”
หลินเซี่ยสังเกตเห็นว่าลินดายังคงสวมชุดแต่งงานอยู่
หล่อนยังไม่ได้เปลี่ยนชุดจนถึงตอนนี้
สองคนนี้กอดกันอยู่นานขนาดนี้เลยหรือ?
“ไม่กลับหรอก”
เซี่ยไห่มองหญิงสาวข้างกายด้วยสายตาอ่อนโยน เขาพูดกับหลินเซี่ยอย่างตื่นเต้นว่า “รีบไปเรียกเฉินเจียซิ่งมาเร็ว วันนี้พวกเราจะถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกัน”
“หา?” หลินเซี่ยได้ยินคำพูดของเซี่ยไห่แล้วสีหน้าแปลกๆ เธอมองพวกเขาแล้วถามเพื่อความแน่ใจว่า
เซี่ยไห่พยักหน้าอย่างมั่นใจ “ถูกต้อง วันไหนก็ไม่ดีเท่าวันนี้ ถ่ายตอนนี้เลย”
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง ต้องรีบตีเหล็กตอนร้อนและถ่ายรูปพรีเวดดิ้งเสีย หลังจากนั้นอีกไม่กี่วันก็ค่อยเตรียมงานแต่งงานได้อย่างจริงจัง
อีกเหตุผลหนึ่งคือ ตอนนี้ความรู้สึกของพวกเขาทั้งสองคนเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ถ้าถ่ายรูปพรีเวดดิ้งตอนนี้ พวกเขาจะสามารถเข้าสู่สภาวะที่ดีได้ และถ่ายออกมาได้อย่างน่ารักกลมเกลียวแน่นอน
ถ้ารอให้ผ่านช่วงนี้ไป เขากลัวว่ายัยตอไม้ในบ้านของเขาจะถ่ายรูปออกมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์เหมือนถูกจับเป็นตัวประกัน
“ได้ ฉันจะโทรหาเขา”
หลินเซี่ยส่งข้อความเพจเจอร์ไปหาเฉินเจียซิ่ง แต่รอนานมากแล้วก็ยังไม่ได้รับโทรศัพท์ตอบกลับ
หลินเซี่ยมองดูเวลา เธอเสนอว่า “หรือฉันจะโทรหาจางซ่วนดูว่าเขามีเวลาไหม เฉินเจียซิ่งน่าจะกำลังทำงานอยู่”
โดยปกติแล้วการถ่ายรูปพรีเวดดิ้งที่ร้านจะต้องจองเวลาล่วงหน้า ส่วนใหญ่คนจะมาถ่ายรูปกันในวันหยุดสุดสัปดาห์
วันนี้เป็นวันทำงาน ในเวลานี้โดยทั่วไปแล้วเฉินเจียซิ่งคงไม่สามารถมาได้
เมื่อจางซ่วนได้ยินชื่อของลินดา เขาก็รีบบอกทันทีว่าจะมาถึงในไม่ช้า
ช่างภาพมาถึงอย่างรวดเร็ว หลินเซี่ยจึงตั้งใจจะใช้เวลาอย่างคุ้มค่า ไม่ทำให้เสียเวลาอันมีค่าของทุกคน
เธอหันไปพูดกับลินดาว่า “ซานเหยียกำลังจะมาถึงแล้ว พี่ลินดา มานี่สิ ฉันจะแต่งหน้าให้พี่ก่อน”
เซี่ยไห่ที่อยู่ข้างๆ แก้ไขอย่างจริงจังว่า “เซี่ยเซี่ย ตั้งแต่นี้ไปเธอจะเรียกพี่ลินดาไม่ได้แล้วนะ มันผิดลำดับอาวุโส”
หลินเซี่ยหัวเราะพลางมองไปที่ลินดา “งั้นฉันเรียกอาสะใภ้รองดีไหม?”
“อาสะใภ้รอง” เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน มองตรงไปที่ลินดาแล้วเรียกออกมาดังๆ
ลินดาหันหน้าหนีด้วยความอึดอัด
“อาสะใภ้รอง ทำไมไม่ตอบล่ะคะ?”
หลินเซี่ยติดใจการเรียกแบบนี้ เรียก “อาสะใภ้รอง” ซ้ำๆ หลายครั้ง
ลินดาถูกเรียกแบบนั้น ใบหน้าที่เคยเย็นชากลับแดงก่ำในทันทีถูกคนอื่นเรียกว่าอาสะใภ้รอง
หล่อนไม่อายหรอก แต่พอนึกถึงว่าต่อไปไม่ใช่แค่หลินเซี่ย หลินจินซานและคนอื่นๆ จะเรียกหล่อนว่าอาสะใภ้รอง แม้แต่เฉินเจียเหอที่อายุเท่ากับหล่อนก็จะเรียกหล่อนแบบนั้นด้วย คิดแล้วก็รู้สึกว่ามันชวนกระดากพิลึก
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ใจหายใจคว่ำหมด ลุ้นอยู่นานว่าลินดาจะตกลงไหม แต่ในที่สุดก็สมหวัง
ลำดับญาติครอบครัวนี้ยุ่งเหยิงหมดแล้ว ต้องทำใจค่ะ
ไหหม่า(海馬)