ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 957 เฉินเจียซิ่งอยากเปลี่ยนงาน
ตอนที่ 957 เฉินเจียซิ่งอยากเปลี่ยนงาน
………………..
ตอนที่ 957 เฉินเจียซิ่งอยากเปลี่ยนงาน
เฉินเจียซิ่งพูดคุยทักทายอยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว จึงลองถามหยั่งเชิงดู
“อาจารย์ครับ แล้วที่ทำงานของคุณยังต้องการคนอยู่ไหมครับ?”
จางซ่วนกำลังจะไปขึ้นรถประจำทางที่ป้ายรถ ไม่ได้สนใจเฉินเจียซิ่งที่พูดจาเสียงดังรบกวน เพียงแค่เดินไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย ตอบคำถามเมื่อถูกถาม
ตอนนี้เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเจียซิ่ง เขาก็หยุดฝีเท้าลงทันที เหลือบมองเฉินเจียซิ่งด้วยหางตา เอ่ยกับเฉินเจียซิ่งด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “หมายความว่ายังไง? นายอยากหางานหรือ?”
เฉินเจียซิ่งสบตากับจางซ่วนที่มองมาอย่างสงสัย เขายิ้มแหยๆ อย่างอึดอัด “ผมแค่อยากถามดูน่ะครับ ถ้ามีงานที่เหมาะสมจริงๆ และผมทำได้ ผมก็อยากจะย้ายงาน คนเรามันก็ต้องก้าวหน้าบ้างใช่ไหมครับ คุณเคยบอกอยู่ว่าตอนนี้ฝีมือถ่ายภาพของผมใช้ได้แล้ว ผมเลยคิดว่าตัวเองน่าจะออกไปลองเผชิญโลกภายนอกบ้าง”
จางซ่วนมองเขาด้วยสีหน้าจริงจังและถาม “เรื่องนี้พี่สะใภ้ของนายรู้หรือเปล่า? นายจะลาออกจากร้านของหล่อนหรือ?”
เฉินเจียซิ่งหลบสายตาของจางซ่วน เกาหัวแกรกๆ และตอบอย่างไม่มั่นใจนัก “ผมคิดว่า ถ้ามีงานที่เหมาะกับผมจริงๆ ผมอาจจะขอให้พี่สะใภ้หาคนมาแทนล่วงหน้า ผมเองก็อยากก้าวหน้าเหมือนกับคุณ”
“อาจารย์ครับ ช่วยผมหน่อยได้ไหมครับ ที่ทำงานคุณต้องการผู้ช่วยหรือตำแหน่งอะไรแบบนั้นไหมครับ? ผมยินดีเริ่มจากระดับล่างสุด ขอให้ท่านช่วยสอนผมหน่อย ผมสัญญาว่าจะตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ทำให้คุณขายหน้าแน่นอนครับ” เฉินเจียซิ่งพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนและท่าทางน่าสงสาร
จางซ่วนได้ยินคำพูดของเฉินเจียซิ่งแล้ว สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ไม่ได้ตอบรับคำขอของเฉินเจียซิ่งในทันที
“ฉันต้องไปก่อนแล้ว”
ตอนนี้จางซ่วนมาถึงป้ายรถประจำทางแล้ว เขาไม่ได้ไปทางเดียวกับเฉินเจียซิ่ง เฉินเจียซิ่งจึงจำต้องแยกจากเขา
จางซ่วนไม่ได้ให้คำตอบที่แน่นอนกับเขา ทำให้เฉินเจียซิ่งรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง
แต่ในใจยังคงเต็มไปด้วยความคาดหวัง หวังว่าจางซ่วนจะคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์และศิษย์ของพวกเขา และนึกถึงเขาบ้างหากมีงานดีๆ
หลังจากที่เซี่ยไห่และลินดาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เซี่ยไห่ก็เสนออย่างมีความสุขว่าให้หลินเซี่ยกลับบ้านไปกับพวกเขาด้วย เขาต้องการประกาศข่าวดีนี้ให้คนในครอบครัวรู้
ตอนเย็นเขาจะเลี้ยงอาหาร พาทั้งครอบครัวออกไปกินข้าวข้างนอก
โจวลี่หรงพาเสี่ยวหู่กลับไปที่ชุมชนบ้านพักทหาร ในเวลานี้หลินเซี่ยกำลังจะไปรับหู่จือ เซี่ยไห่จึงบอกว่าเขาจะขับรถไปรับหู่จือมาเอง แล้วทุกคนจะได้กลับบ้านพร้อมกัน
เซี่ยไห่จินตนาการได้ว่าแม่ผู้ชราจะดีใจมากแค่ไหนเมื่อรู้ว่าเขากับลินดาได้ถ่ายรูปพรีเวดดิ้งแล้ว
เขารับหู่จือมาแล้วก็รีบบอกข่าวดีนี้กับหู่จือเป็นคนแรก และบอกหู่จือว่าต่อไปนี้ลินดาจะเป็นยายรองของเขาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ต้องเรียกให้ดีๆ
หู่จือพูดว่า “อารอง ตารอง น้าลินดาไม่ชอบให้ผมเรียกหล่อนแบบนั้นนะครับ”
เมื่อก่อนเขาก็เคยเรียกแบบนั้น แต่น้าลินดาซื้อลูกอมให้เขาเป็นพิเศษ และบอกให้เขาเรียกหล่อนว่าน้า
เซี่ยไห่อธิบายให้หู่จือฟังด้วยความมั่นใจว่า “ตอนนี้มันต่างจากเดิมแล้ว พวกเราถ่ายรูปพรีเวดดิ้งกันแล้ว หล่อนกำลังจะแต่งงานกับฉันอย่างเป็นทางการ หลังจากนี้หล่อนก็จะเป็นภรรยาของฉัน ดังนั้นเธอห้ามเรียกหล่อนว่าน้าอีก เข้าใจไหม?”
เมื่อหู่จือได้ยินว่าตารองของเขาถ่ายรูปพรีเวดดิ้งแล้ว ดวงตาของเขาเป็นประกายมองไปที่เขา แล้วถามด้วยความดีใจว่า “ตารอง คุณจะแต่งงานมีลูกกับยายรองแล้วเหรอครับ?”
“อะแฮ่ม” เซี่ยไห่ไม่คิดว่าเจ้าตัวแสบนี่จะถามคำถามตรงๆ แบบนี้ เขาพยักหน้า “อืม ต่อไปเราจะคลอดน้าเล็กให้เธอ”
“เฮ้อ” หู่จือที่แต่เดิมรู้สึกดีใจได้ยินคำพูดของเซี่ยไห่แล้วก็ถอนหายใจ “ทั้งน้ากับน้าชายก็เด็กกว่าผมตั้งเยอะ ผมเสียเปรียบจังเลย”
“เธอนี่โง่หรือไง ถึงพวกเขาจะเด็กกว่าก็ยังมีฐานะเป็นผู้อาวุโสนะ ตอนปีใหม่ก็ต้องให้อั่งเปาเธอด้วย” เซี่ยไห่พูดคำปลอบใจที่ทำให้หู่จือรู้สึกดีขึ้นทันที สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสดใสขึ้นมาในทันใด
อาจารย์เคยสอนว่า ทุกสิ่งล้วนมีสองด้านเสมอ
แม้เขาอาจจะเสียเปรียบในเรื่องลำดับอาวุโส แต่ต่อไปกระเป๋าสตางค์ของเขาและน้องชายจะเต็มไปด้วยเงินนะ
เหมือนกับพ่อของเขาที่ยังคงเรียกอารองอย่างร่าเริงว่า “อารอง” และเรียกลุงของเขาว่า “พ่อตา”
ทั้งที่ก่อนหน้านี้พวกเขาล้วนเป็นพี่น้องกันทั้งนั้น
หู่จือรู้สึกยินดีปรีดาขึ้นมาทันที ต่อไปเขาก็จะเรียนรู้จากพ่อ เรียนรู้ที่จะพูดจาหวานหูขึ้นอีกนิดหน่อย
เซี่ยไห่รับหู่จือมาแล้ว ขับรถพาพวกเขากลับบ้านด้วยกัน
ระหว่างทางกลับ เขาได้โทรหาพี่ใหญ่แล้ว สอบถามว่าพวกเขาจะปิดร้านเมื่อใด บอกว่าจะไปกินข้าวข้างนอก
ผลคือโดนเซี่ยเหลยด่าทางโทรศัพท์ยกใหญ่
เซี่ยเหลยบอกว่าบ้านของพวกเขาเองก็เปิดร้านอาหารอยู่แล้ว แค่ฝีมือของเขากับหลิวกุ้ยอิงเท่านั้นจะทำอาหารอะไรไม่ได้เหรอ? ต้องไปใช้เงินข้างนอกทำไม?
ยังถามอีกว่าเซี่ยไห่ไม่ชอบกินอาหารที่เขาทำหรือ?
อย่างไรก็ตาม เซี่ยเหลยกลับดื้อรั้นไม่ยอมฟังคำอธิบายของเซี่ยไห่เลย
เขาไม่ให้เซี่ยไห่ใช้เงินฟุ่มเฟือย บอกว่าถ้ารู้สึกว่ากินข้าวที่บ้านไม่มีบรรยากาศ ก็ให้พวกเขามาที่ร้านอาหาร ตอนนี้ร้านอาหารกำลังจะปิดแล้ว พวกเขากำลังเตรียมอาหารให้คนในครอบครัว พอดีตอนนี้คุณแม่เซี่ยก็อยู่ที่ร้านอาหารด้วย
เซี่ยไห่ไม่สามารถปฏิเสธพี่ใหญ่ได้ จึงจำใจขับรถไปที่ร้านอาหาร พร้อมกับส่งข้อความเพจเจอร์ไปเรียกหลินจินซานมาด้วย
ปัจจุบันชุนฟางและหลินเยี่ยนไม่อยู่บ้าน ทำให้คนในบ้านน้อยลง อีกทั้งยังกระจัดกระจายอยู่หลายที่ ทำให้ครอบครัวมีโอกาสรวมตัวกันอย่างคึกคักน้อยลง
เซี่ยไห่โทรศัพท์ไปหาเซี่ยอวี่ด้วย เพื่อบอกเรื่องที่เขาและลินดาได้ถ่ายรูปพรีเวดดิ้งแล้ว
เซี่ยอวี่กำลังอยู่ในช่วงอยู่เดือนหลังคลอดที่บ้าน ไม่สามารถกลับมาร่วมงานรวมญาติได้ แต่เรื่องสำคัญขนาดนี้ จำเป็นต้องแจ้งให้หล่อนทราบทันที
ถ้าไม่ใช่เพราะพี่สาวของเขา ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับลินดาคงไม่มีความคืบหน้ามากขนาดนี้
เซี่ยอวี่เดิมทีรู้สึกสบายใจมากที่ได้อยู่บ้านพักฟื้นหลังคลอดและดูแลลูก ไม่รู้สึกกระวนกระวายเลยแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินโทรศัพท์จากเซี่ยไห่ ได้ยินเขาบอกว่าขอแต่งงานสำเร็จแล้ว แถมยังถ่ายรูปพรีเวดดิ้งด้วย หล่อนก็รู้สึกตื่นเต้นมาก
“พระเจ้า นายนี่เก่งจริงๆ ทำยังไงถึงโน้มน้าวให้หล่อนไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งได้?” เซี่ยอวี่ทำหน้าไม่อยากเชื่อ แทบจะสงสัยในชีวิตตัวเอง
เซี่ยไห่ทำยังไงถึงหลอกล่อหล่อนไปที่ร้านเช่าชุดแต่งงานได้?
เด็กคนนี้เห็นเงียบๆ ไม่ทำอะไร แต่พอลงมือขึ้นมาก็ทำให้คนตกใจ
เขาเก่งจริงๆ
สำหรับปัญหานี้ เซี่ยไห่มองหลานสาวที่ฉลาดหลักแหลมแล้วยิ้มอย่างลึกลับ “พี่สาว เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ พวกเรามาถึงร้านอาหารแล้ว ต้องกินข้าวแล้ว”
เซี่ยไห่วางสาย เซี่ยอวี่ก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที
มองเด็กน้อยที่นอนอยู่บนเตียงแล้วถอนหายใจ
“ที่รัก เมื่อไหร่พวกเราจะได้ไปสนุกสนานที่บ้านลุงกันล่ะ?”
เมื่อเซี่ยไห่พาลินดาและหลินเซี่ยไปที่ร้านอาหาร ในร้านก็ไม่มีลูกค้าแล้ว คุณแม่เซี่ยตั้งใจจะกลับบ้าน แต่เมื่อได้ยินว่าเซี่ยไห่และคนอื่นๆ จะมากินข้าว นางจึงต้องอยู่รอ
ตอนนี้เห็นว่าพวกเขามากันหมดแล้ว หญิงชราจึงยิ้มและถามว่า “พี่ใหญ่แกบอกว่าแกตั้งใจจะไปเลี้ยงอาหารที่ร้านข้างนอก ตอนนี้ไม่ใช่วันปีใหม่หรือเทศกาลอะไรนี่ ไปกินข้าวที่ร้านทำไมล่ะ? สิ้นเปลืองเงินเปล่าๆ”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เจียซิ่งอย่าลังเลนะ วางแผนให้ดีๆ งานใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ
เดี๋ยวก็จะมีงานมงคลอีกน่ะค่ะคุณแม่ รอลูกชายคนเล็กบอกข่าวดีได้เลย
ไหหม่า(海馬)