ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 961 เสี่ยวเย่จืออายุครบหนึ่งเดือน
ตอนที่ 961 เสี่ยวเย่จืออายุครบหนึ่งเดือน
ลูกของเซี่ยอวี่มีอายุครบหนึ่งเดือนแล้ว แต่ครอบครัวตระกูลเย่ค่อนข้างเก็บตัว ไม่ได้จัดงานเลี้ยงเป็นพิเศษ ทำแค่วางแผนจะรับประทานอาหารร่วมกันระหว่างสองครอบครัว และฉลองกันอย่างสนุกสนานที่บ้านตระกูลเย่
เซี่ยไห่บรรทุกของขวัญนานาชนิดสำหรับหลานสาวมาเต็มคันรถ ส่วนหลินเซี่ยกับหลินจินซานก็ซื้อเสื้อผ้าใหม่มามากมาย รวมถึงซองอั่งเปาสีแดงใบใหญ่ด้วย
ครอบครัวตระกูลเย่รู้สึกผิดที่ไม่ได้จัดงานเลี้ยง เมื่อครอบครัวตระกูลเซี่ยมารวมตัวกันที่บ้านเพื่อรับประทานอาหาร พวกเขาก็รู้สึกว่าต้อนรับได้ไม่ดีพอ
ที่เซี่ยอวี่กับเย่ไป๋ยืนกรานไม่จัดงานฉลองครบรอบหนึ่งเดือนให้ลูก เป็นเพราะพวกเขามีเหตุผลมากกว่านั้น
เซี่ยอวี่เป็นนักแสดง การอุ้มลูกออกมาแสดงตัวในที่สาธารณะถือเป็นเรื่องไม่ค่อยสะดวกนัก นอกจากนี้เซี่ยอวี่จะต้องเข้ากองถ่ายละครในเร็วๆ นี้ จึงจำเป็นต้องพักผ่อนฟื้นฟูร่างกายให้ดี
แน่นอนว่าพวกเขาได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องที่เซี่ยไห่กับลินดาบอกว่าพวกเขาจะไม่จัดงานแต่งงานด้วย
จริงๆ แล้วพิธีรีตองที่เห็นแต่ภายนอกไม่ได้สำคัญขนาดนั้น
ชีวิตเป็นสิ่งที่เราใช้เพื่อตัวเอง สิ่งสำคัญที่สุดคือครอบครัวที่อยู่กันอย่างปลอดภัยและมีความสุข มีความสมบูรณ์พูนสุข สิ่งอื่นๆ ที่เป็นขนบธรรมเนียมภายนอกไม่ได้สำคัญขนาดนั้น
ในจุดนี้ พวกเขาทุกคนไม่ได้เข้าใจชีวิตได้ลึกซึ้งเท่าเซี่ยไห่ ดังนั้นเย่ไป๋กับเซี่ยอวี่จึงปรึกษากันและตัดสินใจยกเลิกงานเลี้ยงฉลองครบรอบหนึ่งเดือนของลูก แต่จะเป็นเพียงการรวมตัวกันของสองครอบครัวเพื่อมาดูเด็กและสร้างความครึกครื้นเท่านั้น
ปัจจุบันทุกคนค่อนข้างยุ่ง เวลาที่จะมารวมตัวกันมีไม่มาก จึงไม่ควรเสียเวลาอันมีค่าไปกับพิธีรีตองที่เป็นเพียงเปลือกนอก
แม้ว่างานเลี้ยงฉลองครบรอบหนึ่งเดือนของเสี่ยวเย่จือจะถูกจัดอย่างเรียบง่าย แต่ความยิ่งใหญ่จากญาติฝ่ายแม่ก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย
ครอบครัวเซี่ยเริ่มวุ่นวายกับการซื้อของให้เซี่ยอวี่และลูกตั้งแต่เซี่ยอวี่อยู่เดือนได้เพียงยี่สิบวัน
พวกเขาใช้เวลาช้อปปิ้งและเดินห้างเต็มสิบวัน ซื้อเสื้อผ้า รองเท้า และรถเข็นเด็กมากมาย ทั้งที่มีประโยชน์และไม่มีประโยชน์ ส่วนเซี่ยเหลยกับเซี่ยไห่ในฐานะลุงและน้าก็มอบซองอั่งเปาที่มีมูลค่าสูง
ในวันพิเศษนี้ เย่เชี่ยนได้พาจางซ่วนมาที่บ้านอย่างเป็นทางการเพื่อรับประทานอาหารร่วมกับทุกคน
จางซ่วนในฐานะแฟนหนุ่มได้แนะนำตัวเองกับครอบครัวของหล่อนอย่างจริงจัง
หลินเซี่ยเคยสังเกตเห็นความสัมพันธ์ของเย่เชี่ยนกับจางซ่วนอยู่บ้าง แต่ด้วยหลักการเคารพความเป็นส่วนตัว เมื่อพวกเขาไม่พูด เธอก็ไม่ได้ถามอะไรมากนัก
จนกระทั่งได้ฟังคำแนะนำตัวของเย่เชี่ยนที่โต๊ะอาหารในวันนี้ เธอจึงเข้าใจ
ที่แท้คนสองคนนี้คบกันมานานแล้ว เพียงแต่พวกเขาเก็บตัว ปกติก็ติดต่อกับคนอื่นน้อย ดังนั้นคนอื่นจึงไม่รู้
“จางซ่วน นายกำลังคบหาดูใจกับอาจารย์เย่จริงๆ หรือ? ถ้าอย่างนั้นต่อไปนายก็จะเป็นน้องเขยของพี่เขยฉันน่ะสิ”
เซี่ยไห่ตกใจสุดขีดที่รู้ว่าพวกเขาได้เป็นญาติกับจางซ่วนก็ตอนนี้
หลินเซี่ยได้ยินคำพูดของเซี่ยไห่แล้วร้องครวญครางว่า “โอ้ย อาจารย์ซานเหย่จะกลายเป็นผู้อาวุโสขั้นที่หนึ่งของฉันไปแล้ว”
เธอกลายเป็นรุ่นน้องของพวกเขาทุกคนไปแล้ว
“ใช่แล้ว” เซี่ยไห่เย้ยหยันอย่างไม่ไว้หน้า “ทีนี้ใครๆ ก็กดหัวเธอกับเจียเหอได้ทั้งนั้น ฮ่าๆ”
หลินเซี่ยทำหน้าเบื่อหน่ายชีวิต เย่เชี่ยนพูดพลางยิ้มว่า “เซี่ยเซี่ย พวกเราล้วนเป็นคนหนุ่มสาวและเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เราก็ปฏิบัติต่อกันตามความสัมพันธ์ของเรา ไม่ต้องสนใจเรื่องอื่น”
หลินเซี่ยพยักหน้าเห็นด้วยอย่างยิ่ง “ถูกต้อง ๆๆ พวกเราล้วนเป็นคนหนุ่มสาว ไม่ต้องสนใจเรื่องรุ่นพี่รุ่นน้องอะไรหรอก”
เธอตอนนี้รู้สึกชาไปหมดจริงๆ
เธอไม่รู้ว่าควรจะเรียกเย่เชี่ยนกับจางซ่วนว่าอะไรดี
เซี่ยเหลยมองเซี่ยไห่ด้วยสายตาดุๆ บอกให้เขาอย่าพูดจาไร้สาระตรงนี้จนทำให้เสียชื่อเสียงน้องเขย
เขาไม่ได้ขาดแคลนอั่งเปาเล็กๆ น้อยๆ แบบนั้นหรอก
เย่ไป๋หันไปถามหลินเซี่ยที่มีสีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “พูดถึงเจียเหอ เขาจะกลับมาเมื่อไหร่ล่ะ? นี่ก็เกือบหนึ่งเดือนแล้วใช่ไหม?”
หลินเซี่ยปิดบังความคิดถึงในดวงตา พยายามยิ้มแย้ม “อาเขย เขาน่าจะกลับมาเร็วๆ นี้แล้วล่ะค่ะ และรถไฟรุ่นใหม่ก็น่าจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้เช่นกัน”
เย่เจิ้งหัวชูนิ้วโป้งขึ้น อดไม่ได้ที่จะชื่นชม “เจียเหอกับทีมของเขาเก่งกันมาก พวกเราทุกคนกำลังตั้งตารอให้รถไฟรุ่นใหม่ที่พวกเขาพัฒนาประสบความสำเร็จในการทดลองและเปิดใช้งานเร็วๆ การเพิ่มความเร็วของรถไฟคือการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ด้วยความพยายามของพวกเขา ในอนาคตการขนส่งทางรถไฟของประเทศเราจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ”
เซี่ยเหลยพยักหน้า “คุณพูดถูก พนักงานทุกคนของโรงงานรถไฟเมืองไห่เฉิงล้วนเก่งกันมาก”
เมื่อพูดถึงหัวข้อนี้ อารมณ์ของทุกคนก็เริ่มฮึกเหิมขึ้น
การเพิ่มความเร็วของรถไฟเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้สึกภาคภูมิใจและตั้งตารออยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น เฉินเจียเหอซึ่งเป็นสมาชิกในครอบครัวของพวกเขายังเป็นหนึ่งในทีมวิจัยและพัฒนา ทำให้ความภาคภูมิใจในใจของพวกเขายิ่งเพิ่มทวีคูณ
ทุกคนนั่งรวมกันพูดคุยและรับประทานอาหาร เซี่ยอวี่ให้ลูกสาวลองเสื้อผ้าใหม่และรองเท้าใหม่ที่ญาติทางฝ่ายหล่อนนำมาให้อย่างไม่รู้จักเบื่อ
เย่เจิ้งหัวและหลี่เหม่ยเฟิ่งไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับแฟนที่เย่เชี่ยนพากลับมา พวกเขาเพียงแค่ต้อนรับอย่างสุภาพ
เซี่ยอวี่รู้จักกับจางซ่วน และยังแนะนำเขาให้รู้จักกับเพื่อนๆ ในวงการ งานปัจจุบันของจางซ่วนก็เป็นงานที่เซี่ยอวี่แนะนำให้ ทุกคนจึงถือว่าเป็นคนคุ้นเคยกัน
เซี่ยอวี่ทราบเรื่องที่จางซ่วนคบหาดูใจกับเย่เชี่ยนแล้วก็รู้สึกประหลาดใจมาก แต่ก็รู้สึกยินดีเป็นธรรมดา
เซี่ยอวี่มีความเห็นที่ดีต่อจางซ่วน ซึ่งทำให้คนในครอบครัวเย่ยอมรับจางซ่วนได้ง่ายขึ้นในระดับหนึ่ง
แม้ว่างานเลี้ยงฉลองครบรอบหนึ่งเดือนของเสี่ยวเย่จือจะไม่ได้จัดอย่างยิ่งใหญ่ แต่ก็อบอุ่นมาก ทั้งสองครอบครัวมารวมตัวกันรับประทานอาหารและพูดคุย ซึ่งยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาลึกซึ้งขึ้น
เซี่ยอวี่ยังต้องพักผ่อนที่บ้านอีกสิบวัน พอครบสี่สิบวันก็จะเข้ากองถ่ายทำภาพยนตร์
เมื่อใกล้ครบหนึ่งเดือน หลินเซี่ยก็ยิ่งคิดถึงเฉินเจียเหอมากขึ้นเรื่อยๆ เธอเริ่มนับวันเพื่อคำนวณว่าเฉินเจียเหอจะกลับมาเมื่อใด
แม้จะไม่รู้วันที่แน่นอน แต่เธอก็ยังคงนับวันที่ผ่านไปอย่างตื่นเต้น
หลินเซี่ยภาวนาให้กับเฉินเจียเหอและคนงานจากโรงงานยานยนต์ทั้งหมดปลอดภัย เธอกังวลว่าจะเกิดอุบัติเหตุหรือความผิดพลาดขึ้น เพราะโครงการสำคัญขนาดนี้ไม่อาจยอมให้เกิดข้อผิดพลาดแม้แต่เพียงเล็กน้อย
“เสี่ยวหลิน เธออดทนรอก่อนเถอะ ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด พวกเราไม่ได้รับโทรศัพท์จากพวกเขาที่นั่นเช่นกัน แต่ไม่มีข่าวก็ถือว่าเป็นข่าวดี เชื่อเถอะว่าเพื่อนร่วมงานของพวกเราครั้งนี้จะต้องกลับมาอย่างมีชัยแน่นอน”
แม้ผู้อำนวยการหวังจะพูดจาเป็นทางการ แต่ก็ทำให้หลินเซี่ยรู้สึกมีกำลังใจ เธอยิ้มและพูดว่า “ผู้อำนวยการหวัง ฉันก็เชื่อมั่นในศักยภาพและเทคโนโลยีของโรงงานรถยนต์เมืองไห่เฉิงของพวกเรา รถไฟด่วนรุ่นใหม่ของเราจะต้องเปิดให้บริการได้สำเร็จแน่นอน”
“เสี่ยวหลิน เธอพูดถูกแล้ว สหายจากโรงงานรถยนต์ของเราได้ทุ่มเทวิจัยและพัฒนามานานขนาดนี้ ความพยายามจะต้องได้รับผลตอบแทนแน่นอน เธอรู้ไหมว่ารถไฟด่วนรุ่นใหม่จะมีความเร็วสูงสุดถึง 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยนะ จากเมืองหนานเฉิงถึงเมืองไห่เฉิง ระยะทางรวม 1,000 กิโลเมตร จะใช้เวลาเดินทางน้อยลงกว่าเดิมมากกว่าหนึ่งชั่วโมง”
เขากล่าวต่อด้วยความกระตือรือร้น “หากการทดลองรถไฟด่วนพิเศษครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ในอนาคตมันจะถูกนำไปใช้งานบนเส้นทางรถไฟสายหลักทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นการก้าวกระโดดครั้งประวัติศาสตร์สำหรับระบบการขนส่งทางรถไฟของประเทศเรา”
หลินเซี่ยฟังแล้วรู้สึกตื่นเต้น แม้ว่าในชาติก่อนเธอจะเคยเห็นรถไฟที่วิ่งเร็วกว่านี้ แต่ในยุคสมัยนี้ เธอก็ยังรู้สึกตื่นเต้นมาก
เพราะนั่นคือรถไฟด่วนพิเศษที่คนรักของเธอมีส่วนร่วมในการวิจัยและพัฒนา
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
จัดงานเล็กๆ ในครอบครัวแบบอบอุ่นมีความสุขมันก็ดีไปอีกแบบนะ
พี่เหอต้องไม่เป็นไร รอพี่เหอกลับบ้านอย่างสบายใจเถอะเซี่ยเซี่ย
ไหหม่า(海馬)