ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 962 รถไฟด่วนพิเศษรุ่นใหม่เริ่มให้บริการ ....................
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80
- ตอนที่ 962 รถไฟด่วนพิเศษรุ่นใหม่เริ่มให้บริการ ....................
ตอนที่ 962 รถไฟด่วนพิเศษรุ่นใหม่เริ่มให้บริการ
ในขณะที่ทุกคนรอคอยด้วยความตื่นเต้นและกระวนกระวาย ในที่สุดก็มีข่าวดีส่งมาจากทางรถไฟ
รถไฟด่วนพิเศษรุ่นใหม่ที่พัฒนาและประกอบโดยโรงงานรถไฟเมืองไห่เฉิง ประสบความสำเร็จในการทดลองวิ่ง รถไฟขบวนนี้วิ่งระยะทางทั้งหมด 1,000 กิโลเมตร ผ่าน 85 สถานี และทำความเร็วได้ถึง 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นับเป็นรถไฟด่วนพิเศษที่เร็วและทันสมัยที่สุดในประเทศ ณ ขณะนี้
เมื่อข่าวดีนี้ส่งมาถึงโรงงานรถไฟ หลินเซี่ยก็กำลังนอนหลับสนิทอยู่
การก่อสร้างอาคารเรียนของโรงเรียนเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว กำลังติดตั้งประตูและหน้าต่าง เธอไปที่หน้างานเกือบทุกวันเพื่อติดตามความคืบหน้า และเริ่มจัดการนำโต๊ะเก้าอี้และอุปกรณ์อื่นๆ เข้ามาในพื้นที่
ทุกวันเป็นงานที่หนักหน่วง หลังจากกินอาหารเย็นเสร็จ เธอก็เข้าห้องและนอนลง
โจวลี่หรงคอยคุมหู่จือทำการบ้านจนเสร็จ แล้วหู่จือก็ไปนอน
มีเพียงโจวลี่หรงกับเสี่ยวหู่ที่เล่นอยู่ในห้องนั่งเล่น
โจวลี่หรงนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นก็ยังได้ยินเสียงอึกทึกจากภายนอก ในขณะที่เธอกำลังจะปิดหน้าต่าง จู่ๆ ก็มีเสียงผู้ชายตะโกนอย่างตื่นเต้นดังขึ้นมาจากชั้นล่าง พร้อมกับเสียงตีฆ้อง
โจวลี่หรงชะงักกึก หล่อนโน้มตัวไปที่หน้าต่างเพื่อฟังเสียง จากนั้นก็ได้ยินเสียงประทัดดังขึ้น
เสี่ยวหู่ที่นอนหลับตอนกลางวันและตื่นตอนกลางคืนกำลังนอนเล่นของเล่นอยู่บนพื้น เมื่อได้ยินเสียงฆ้องกลองและประทัดที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เด็กน้อยที่กำลังเล่นปืนของเล่นอยู่ก็ถึงกับสะดุ้งตกใจ รีบซุกหัวลง
โจวลี่หรงเองก็ตกใจกับเสียงที่ดังขึ้นมาอย่างไม่คาดคิดเช่นกัน หล่อนรีบปิดหน้าต่างแล้วไปอุ้มเสี่ยวหู่ขึ้นมาทันที
เสี่ยวหู่เป็นเด็กชายที่กล้าหาญมาก เขาไม่ได้ร้องไห้เพราะความกลัว เพียงแต่ใช้นิ้วมือเล็กๆ ชี้ไปทางหน้าต่าง แล้วพูดกับโจวลี่หรงอย่างไม่เป็นภาษา “ยิงพลุ พลุ…..”
“เสี่ยวหู่ไม่ต้องกลัวนะ ย่าอยู่นี่” โจวลี่หรงอุ้มเสี่ยวหู่ขึ้นมา แล้วไปดูหู่จือในห้องของเขา กลัวว่าหู่จือจะตื่นตกใจในความฝัน
หู่จือหลับสนิทมาก เพียงแค่พลิกตัวแล้วก็หลับต่อ
ส่วนหลินเซี่ยที่เพิ่งหลับตาลงก็ต้องตื่นเพราะเสียงตีฆ้องลั่นกลองจากข้างนอก เธอลุกขึ้นนั่ง ขยี้ตาแล้วลงจากเตียงเดินไปเปิดหน้าต่าง เสียงความเคลื่อนไหวจากชั้นล่างดังขึ้นมาอย่างชัดเจน
ในบริเวณที่พักอาศัยมีผู้คนมากมายมารวมตัวกันแล้ว ครั้นได้ยินเสียงตะโกนด้วยความตื่นเต้นของผู้อำนวยการหวัง สีหน้าของเธอก็สดใสขึ้นทันที รีบสวมรองเท้าแล้ววิ่งออกไปข้างนอก
หลินเซี่ยเอ่ยปากด้วยความดีใจ “แม่คะ การทดลองเดินรถไฟความเร็วสูงพิเศษประสบความสำเร็จแล้ว ฉันได้ยินผู้อำนวยการหวังกำลังรายงานข่าวดี พวกเขาทำสำเร็จแล้วค่ะ!”
“จริงหรือ?” โจวลี่หรงได้ยินข่าวดีที่น่าตื่นเต้นนี้ ใบหน้าของหล่อนก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจและดีใจเช่นกัน
หลินเซี่ยกำลังจะวิ่งออกไปข้างนอก แต่แล้วก็หันกลับมาที่ห้องของหู่จือ และปลุกเขาให้ตื่น
“หู่จือ ตื่นเร็ว พ่อกำลังจะกลับมาอย่างมีชัยแล้ว พวกเราไปต้อนรับเขากันเถอะ”
หลินเซี่ยคิดว่าการที่ผู้อำนวยการหวังกำลังตะโกนอยู่ข้างนอก เฉินเจียเหอและคนอื่นๆ ต้องกำลังจะกลับมาแน่นอน หัวใจของเธอเต้นรัวด้วยความตื่นเต้น อยากจะเหาะลงไปต้อนรับเฉินเจียเหอทันที
หู่จือลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงีย ยังคงอยู่ในภวังค์
หลินเซี่ยรีบดึงตัวเขา “ลุกเร็ว พวกเราไปดูที่ชั้นล่างกัน”
“งืม” หู่จือตอบรับอย่างงัวเงีย
หู่จือนอนเปลือยกาย ทำให้ต้องรอเขาสวมเสื้อผ้า แต่หลินเซี่ยรอไม่ไหว เธอตื่นเต้นและกระตือรือร้นมาก อยากรีบลงไปดูสถานการณ์ข้างนอกทันที
หลินเซี่ยวิ่งออกจากห้องของหู่จือ รับเสี่ยวหู่มาจากมือของโจวลี่หรง แล้วพูดกับหล่อนว่า “แม่ รอให้หู่จือออกมาแล้วลงมาพร้อมกันนะ ฉันจะลงไปดูก่อน”
หลินเซี่ยอุ้มเสี่ยวหู่ไว้ข้างตัว แล้ววิ่งออกจากบ้านอย่างรวดเร็ว
โจวลี่หรงมองท่าทางที่เธออุ้มเด็กแล้วอดขมวดคิ้วไม่ได้ หล่อนตั้งใจจะบอกให้หลินเซี่ยไปดูคนเดียว ไม่ควรพาเด็กออกไปข้างนอกดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ ที่สำคัญคือข้างนอกเสียงดังมาก ทั้งเสียงประทัด ฆ้อง กลอง อาจทำให้เด็กตกใจได้
หลินเซี่ยวิ่งออกจากบ้านเร็วเหมือนลมพัด โจวลี่หรงจึงต้องไปเรียกหู่จือและช่วยใส่เสื้อผ้าให้
เมื่อหลินเซี่ยอุ้มเสี่ยวหู่วิ่งลงบันได ในลานหน้าบ้านพักสวัสดิการก็มีคนรวมตัวกันหลายสิบคนแล้ว ทุกคนต่างตื่นเต้น
เมื่อเห็นหลินเซี่ยลงมา พี่สาวหลิวก็วิ่งเข้ามาหาและร้องอย่างดีใจว่า “เซี่ยเซี่ย สำเร็จแล้ว พวกเขาทำสำเร็จแล้ว รถไฟของเราเริ่มวิ่งแล้ว”
“พี่สาวหลิว ดีจังเลยค่ะ” หลินเซี่ยตอบ
แม้หลินเซี่ยจะรู้ตั้งแต่แรกว่าต้องสำเร็จแน่นอน แต่ตอนนี้เมื่อเธอเห็นรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าของทุกคน เห็นพวกเขาเต้นรำด้วยความยินดี ผู้อำนวยการหวังตีฆ้องกลองอย่างเมามัน ความรู้สึกของเธอก็พลุ่งพล่านไม่ต่างจากพวกเขา
“สหายแรงงานของเราได้เอาชนะอุปสรรคมากมาย และในที่สุดก็ประสบความสำเร็จในการวิจัยและพัฒนารถไฟด่วนพิเศษรุ่นใหม่ นี่เป็นก้าวกระโดดทางประวัติศาสตร์ โรงงานรถไฟของเราจะเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศและทั่วโลก ผลงานของพวกเราจะถูกจดจำโดยประเทศชาติและประชาชนอย่างแน่นอน พนักงานทุกคนในโรงงานรถไฟของเราล้วนทำได้ดีมาก”
“ถ้าคุณอยากนั่ง อีกไม่กี่วันก็ขอลาแล้วไปนั่งได้เลย” ผู้อำนวยการหวังตอบพร้อมรอยยิ้ม “มันจอดที่สถานีเมืองไห่เฉิงของเรา พวกเราไปนั่งได้สะดวกมาก”
“แล้วพวกเราคนในจะได้นั่งฟรีไหมครับ?”
“พอแล้วๆ อย่าเพิ่งคิดถึงเรื่องฟรีๆ ก่อนเลย”
ผู้อำนวยการหวังเห็นว่าตอนนี้ทุกคนในหมู่บ้านพักอาศัยส่วนใหญ่ถูกเรียกลงมาแล้ว เขามองทุกคนด้วยท่าทางจริงจังและกล่าวว่า “สหายร่วมงานและครอบครัวทุกท่าน รถไฟโดยสารด่วนพิเศษรุ่นใหม่ที่พัฒนาโดยโรงงานยานยนต์เมืองไห่เฉิงของเราได้เปิดให้บริการสำเร็จแล้ว วีรบุรุษของเราจะกลับมาอย่างมีชัยชนะในอีกสองวัน พวกเราต้องต้อนรับพวกเขากลับมาด้วยวิธีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”
ชายหนุ่มหลายคนพูดขึ้นว่า “ผู้อำนวยการหวัง พวกเราจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ คุณบอกว่าจะทำอย่างไรก็ทำอย่างนั้นครับ”
“ใช่ๆ พวกเราจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่แน่นอนค่ะ”
ผู้อำนวยการหวังแสดงความชื่นชมต่อการตอบรับของทุกคนอย่างมาก “ดีมาก พรุ่งนี้เราจะประชุมกันเพื่อหารือกันสักหน่อย พวกเราทั้งชายหญิง ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ต้องไปต้อนรับพวกเขาที่สถานีรถไฟนะ”
“ได้ครับ/ค่ะ”
สามีของเธอแทบจะไม่ได้ช่วยอะไรที่บ้านเลย ปกติก็จะอยู่แต่ในโรงงานหรือไม่ก็ไปทำงานนอกสถานที่
ภาระทั้งหมดในบ้านจึงตกอยู่กับหลินเซี่ย หญิงสาววัยยี่สิบต้นๆ ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ไม่ร้องไห้โวยวาย และสนับสนุนเฉินเจียเหออย่างเต็มที่ ถือเป็นเรื่องที่หาได้ยากมาก
ในโรงงาน ผู้หญิงที่อายุมากกว่ามักจะมาอาละวาดเพราะสามีไม่กลับบ้านหลายวันเนื่องจากงาน
หลินเซี่ยยิ้มเบาๆ แล้วพูดว่า “ผู้อำนวยการหวัง ฉันไม่เหนื่อยหรอกค่ะ”
หลินเซี่ยสังเกตเห็นว่าผู้อำนวยการหวังจ้องมองเด็กน้อยที่เธอหนีบกระเตงไว้ใต้รักแร้ตลอดเวลา เธอจึงรีบอุ้มเด็กให้ดีขึ้น
“งั้นก็ได้ พวกคุณไปพักผ่อนกันแต่หัวค่ำเถอะ พรุ่งนี้เราจะจัดการกันสักหน่อย ถ้าเป็นไปได้ก็ซ้อมการแสดงสักชุด โรงงานของเราจะออกค่าใช้จ่าย จัดให้ยิ่งใหญ่หน่อย” ผู้อำนวยการหวังบอก แต่ในตอนนี้ทุกคนต่างรู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่มีใครอยากกลับบ้าน อีกทั้งอากาศในบ้านช่วงกลางคืนฤดูร้อนก็อบอ้าว ทุกคนจึงรวมตัวกันอยู่ข้างนอกและพูดคุยกัน
โจวลี่หรงจูงหู่จือเดินมา แล้วอุ้มเสี่ยวหู่จากอ้อมแขนของหลินเซี่ย ให้หลินเซี่ยไปปรึกษากับญาติพนักงานคนอื่นๆ เรื่องการจัดกิจกรรม
พี่สาวหลิวพูดกับหลินเซี่ยว่า “เซี่ยเซี่ย พวกเราไปเต้นรำกันเถอะ”
ก่อนหน้านี้หลินเซี่ยได้สอนการเต้นลีลาศในลานกว้างให้พวกเขา เมื่อมีเวลาว่างพวกเขาก็มักจะเต้นกันบ่อยๆ
พอได้ยินว่าจะมีการเต้นลีลาศในลานกว้าง บรรดาคุณลุงคุณป้าในหมู่บ้านและญาติๆ ก็ตื่นเต้นกันใหญ่
คุณลุงหลี่บอกให้ทุกคนรอสักครู่ เขาจะไปเอาอุปกรณ์มา ไม่นานก็กลับมาพร้อมกับเครื่องเล่นเทปและลำโพง
หลินเซี่ยแต่เดิมรู้สึกเหนื่อยมาก แต่ตอนนี้ความเหนื่อยล้าได้หายไปเพราะความตื่นเต้น เธอจึงกระโดดเข้าร่วมไปกับทุกคนอย่างกระตือรือร้น
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
วาระสำคัญของชาติเลยล่ะ ไม่แปลกใจที่ทุกคนตื่นเต้นกันขนาดนั้น
ไหหม่า(海馬)