ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 965 พวกคุณคือวีรบุรุษ
ตอนที่ 965 พวกคุณคือวีรบุรุษ
ที่เมืองไห่เฉิง ขบวนรถจากโรงงานยานยนต์เคลื่อนขบวนอย่างยิ่งใหญ่ ส่วนรถของผู้นำรัฐบาลก็ตามมาด้านหลัง
พิธีต้อนรับถูกจัดขึ้นอย่างอลังการ
ผู้สื่อข่าวจากสถานีโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ต่างออกมาทำข่าวกันอย่างคับคั่ง
พวกเขาสัมภาษณ์ผู้รับผิดชอบทีมวิจัยและพัฒนาที่หน้างาน
รองผู้จัดการโรงงานหยางแนะนำสถานการณ์ก่อน จากนั้นก็ดันตัวเฉินเจียเหอออกมา ให้เขารับการสัมภาษณ์
เฉินเจียเหอไม่รู้สึกประหม่าเลยแม้แต่น้อยเมื่อเผชิญหน้ากับผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ เขาแนะนำต่อหน้ากล้องถึงการวิจัยและพัฒนารถไฟด่วนพิเศษรุ่นใหม่ของพวกเขา รวมถึงความยากลำบากที่พวกเขาเผชิญและผลสำเร็จที่ได้รับในที่สุด
เขากล่าวทุกประโยคได้อย่างชัดเจน กระชับ และแม่นยำ
แน่นอนว่า เมื่อถึงปัญหาเทคโนโลยีหลักที่ต้องเก็บเป็นความลับ เขาก็หลีกเลี่ยงได้อย่างแยบยล
หลังจากถามคำถามเกี่ยวกับงานเสร็จแล้ว นักข่าวหญิงก็มองไปที่เฉินเจียเหอ แล้วยิ้มพูดว่า “คุณเฉิน พวกเราสังเกตเห็นภาพที่คุณกอดกับภรรยาเมื่อสักครู่ ทุกคนต่างประหลาดใจมาก ไม่คิดว่าในชีวิตจริงคุณจะมีด้านที่กระตือรือร้นและเปิดเผยขนาดนี้”
เฉินเจียเหอมองไปทางที่หลินเซี่ยอยู่ด้วยสายตาอ่อนโยน ดวงตาเต็มไปด้วยความรักลึกซึ้ง “หล่อนคือคนรักของผม ไม่ว่าจะเมื่อไหร่หรือที่ไหน ผมก็จะกอดหล่อน”
หลังจากพูดจบ เฉินเจียเหอก็กลับมามีสีหน้าจริงจังอีกครั้ง พยักหน้าอย่างสุภาพให้กับนักข่าวหญิงเป็นการจบการให้สัมภาษณ์
หลังจากสัมภาษณ์เฉินเจียเหอแล้ว ก็เป็นการสัมภาษณ์พนักงานคนอื่นๆ อีกหลายคนที่มีส่วนร่วมในโครงการนี้
จากนั้น ขบวนแห่อันยิ่งใหญ่ก็มุ่งหน้าไปยังโรงงานยานยนต์
พนักงานเหล่านี้ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่มาเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้ว ตอนนี้พวกเขาต้องการนอนหลับพักผ่อนอย่างเร่งด่วน
หลังจากที่ผู้นำเมืองได้ต้อนรับพวกเขาแล้ว ก็ได้จัดการให้ทุกคนกลับบ้านไปพักผ่อนก่อน โดยอีกสองวันจะจัดงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จให้กับพวกเขา
เฉินเจียเหอนั่งรถประจำตำแหน่งของผู้เฒ่าเฉินกลับไปยังชุมชนบ้านพักทหาร
พอมาถึงชุมชนบ้านพักทหาร เพื่อนบ้านแถวนี้ก็พากันมาล้อมรอบ พร้อมส่งเสียงชื่นชมเฉินเจียเหอกันระงม
“เจียเหอ เธอทำได้ดีมาก”
“โรงงานยานยนต์เมืองไห่เฉิงของพวกเธอสร้างคุณูปการอย่างใหญ่หลวงให้กับการพัฒนาประเทศของเราจริงๆ พวกเธอคือวีรบุรุษของประชาชนโดยแท้”
ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในชุมชนบ้านพักทหารนี้ล้วนเป็นผู้เกษียณจากหน่วยงานทหารและการเมือง แม้พวกเขาจะเกษียณแล้ว แต่ก็ยังคงห่วงใยการพัฒนาประเทศและความสุขของประชาชน
เมื่อได้ยินข่าวดีเช่นนี้ว่ารถไฟด่วนพิเศษรุ่นใหม่ได้เปิดให้บริการแล้ว พวกเขาก็รู้สึกตื่นเต้นจากก้นบึ้งของหัวใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเฉินเจียเหอเป็นคนรุ่นหลังของพวกเขาและเป็นเพื่อนบ้าน การที่คนหนุ่มสาวรอบตัวได้มีส่วนร่วมในการวิจัยและพัฒนาโครงการสำคัญเช่นนี้ ทำให้ความรู้สึกภาคภูมิใจของพวกเขาแสดงออกมาอย่างชัดเจน
คุณปู่เจิ้งมองดูคนหนุ่มสาวในลานบ้านใหญ่ แล้วพูดอย่างจริงจังว่า
“พวกเธอคนหนุ่มสาวทั้งหลายควรเรียนรู้จากเจียเหอพี่ชายของพวกเธอนะ เขาเป็นแบบอย่างของพวกเธอ เป็นความภาคภูมิใจของชุมชนบ้านพักทหารของพวกเรา พวกเธอาทุกคนควรเอาอย่างเขา”
พูดจบ ก็หันไปเน้นย้ำกับหลานชายของตน “โดยเฉพาะเธอ อย่าเอาแต่เกเรไร้สาระ ตั้งใจเรียนหนังสือให้ดี อนาคตจะได้เป็นคนแบบพี่ชายเจียเหอ”
หลานชายคนโตของคุณปู่เจิ้ง สวมกางเกงยีนส์ขากว้าง หวีผมแสกข้าง มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า ยืนพิงต้นอู๋ถงอย่างไม่เอาไหน “คุณปู่ครับ อย่าสร้างความกดดันให้พวกหลานเลยนะ ทั้งชุมชนบ้านพักทหาร หรือแม้แต่ทั้งเมืองไห่เฉิง จะมีคนแบบเฉินเจียเหอสักกี่คนกัน? พวกหลานมีเป้าหมายของตัวเอง ต่อไปขอแค่เลี้ยงตัวเองได้ก็พอแล้ว คุณปู่อย่าได้มีความคาดหวังที่สูงเกินไปเลยนะครับ”
“เธอ…”
ผู้เฒ่าเฉินพูดพลางหัวเราะว่า “พอแล้วๆ เจิ้งข่ายพูดถูก พวกเขาเป็นคนหนุ่มสาว มีความใฝ่ฝันของตัวเอง คุณไม่ควรกดดันคนหนุ่มสาวแบบนั้น
เฉินเจียซิ่งที่ก่อนหน้านี้ยังมีสีหน้าภาคภูมิใจ “…”
ผู้เฒ่าเฉินเอาเฉินเจียซิ่งมาเป็นตัวอย่างในแง่ลบ เมื่อเห็นสีหน้าของเฉินเจียซิ่งไม่ค่อยดี จึงหยุดพูดอย่างเหมาะสม “พอแล้วๆ ให้เจียเหอกลับบ้านไปพักผ่อนก่อนเถอะ พวกคุณดูสิว่าเขาผอมไปขนาดไหนแล้ว เดือนกว่าที่ผ่านมาเขาเครียดมาตลอด แทบไม่ได้พักผ่อนเลย ตาแดงก่ำไปหมด”
“เจียเหอ เหนื่อยมากแล้ว รีบกลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ พวกเราจะไปเยี่ยมเธออีกทีหลัง”
“ได้”
เฉินเจียเหอตอนนี้ต้องการนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่จริงๆ เหมือนที่คุณปู่ของเขาพูดไว้ ในช่วงเดือนกว่าที่ผ่านมานี้ พวกเขาทุกคนอยู่ในสภาวะตึงเครียดทางจิตใจอย่างมาก แต่ละวันนอนไม่เกิน 5 ชั่วโมง
พวกเขาทำการทดสอบซ้ำแล้วซ้ำเล่า แม้แต่น็อตตัวเล็กๆ ก็ต้องตรวจสอบและขันให้แน่นซ้ำหลายครั้ง
ตอนนี้ ยานพาหนะขนาดใหญ่นั้นได้เปิดใช้งานแล้ว พวกเขาโดยสารรถไฟขบวนนี้ไปกลับสองเที่ยว พูดคุยแลกเปลี่ยนการทดสอบกับเพื่อนร่วมงานในแผนกรถไฟ เพื่อให้แน่ใจว่ารถไฟไม่มีข้อบกพร่องใดๆ และทำงานได้ตามปกติ
ในที่สุดก็ยกภูเขาออกจากอกได้เสียที พวกเขาสามารถลาหยุดชั่วคราวแล้วกลับไปพักผ่อนยาวๆ ที่บ้านได้อย่างสบายใจแล้ว
หลังจากพักฟื้นสักระยะหนึ่ง ก็จะกลับเข้าสู่การทำงานในขั้นตอนต่อไป
ทันทีที่ถึงบ้าน โจวลี่หรงก็รีบทำอาหาร
หลินเซี่ยขึ้นไปชั้นบนเพื่อปูเตียง
โจวลี่หรงทำบะหมี่ผัดเครื่องซึ่งเป็นอาหารที่ทำง่ายและสะดวกรวดเร็ว เพื่อให้เฉินเจียเหอได้กินข้าวและพักผ่อนเร็วขึ้น
เฉินเจียเหอกินบะหมี่หมดสองชามในคราวเดียว เมื่อกลับถึงบ้าน เขาก็มองดูครอบครัวของตัวเอง รู้สึกว่ากินอะไรก็อร่อยไปหมด
เมื่ออยู่ข้างนอก พวกเขาทุ่มเทความคิดทั้งหมดให้กับงาน การกินข้าวเป็นเพียงการเติมพลังให้ร่างกาย ทุกวันพวกเขาอยู่ในสภาวะที่กินโดยไม่รู้รสชาติ ผลัดกันกินข้าวตามเวลา รีบกวาดอาหารเข้าปากอย่างรวดเร็วแล้วก็เริ่มยุ่งอีกครั้ง
พูดโดยไม่เกินจริงเลยว่า หลังจากกินข้าวเสร็จ เขาแทบจะจำไม่ได้เลยว่าวันนั้นตัวเองกินอะไรไป
หลังจากกินข้าวเสร็จ ผู้เฒ่าเฉินบอกให้เขารีบกลับห้องไปนอนพักสักหน่อย
เฉินเจียเหอรับคำ แล้วเรียกลูกชายทั้งสอง “หู่จือ เสี่ยวหู่ ไปนอนกับพ่อกันเถอะ”
หู่จือตื่นเต้นอยากจะตามขึ้นไป โจวลี่หรงจึงพูดว่า “เด็กสองคนนี้ไม่เคยนอนในเวลานี้มาก่อน ถ้าขึ้นไปก็จะไปรบกวน ให้พวกเขาเล่นอยู่ชั้นล่างเถอะ ลูกไปพักผ่อนให้สบายๆ พอตื่นแล้วค่อยมาอยู่กับพวกเขา”
แต่เสี่ยวหู่กลับมุดเข้าไปในอ้อมกอดของเฉินเจียเหอและไม่ยอมออกมา เจ้าตัวน้อยไม่ได้เจอพ่อมาเดือนหนึ่งแล้วแต่ไม่ได้เขินอายเลยสักนิด นั่งอยู่ในอ้อมกอดของเฉินเจียเหอ มองเขาด้วยสายตาน้อยใจ ราวกับกำลังตัดพ้อว่าทำไมเขาถึงหายไปตั้งหนึ่งเดือน
“ไม่เป็นไร ผมจะอุ้มเขาขึ้นไป”
“หู่จือ อยากขึ้นไปไหม?” เฉินเจียเหอมองไปทางหู่จือที่ถูกโจวลี่หรงเอ่ยห้ามและกำลังทำหน้าไม่เต็มใจ
เขาเรียกเสียงดัง ทำให้หู่จือวิ่งตึงตังเข้ามา
“พ่อครับ ผมอยากอยู่เป็นเพื่อนพ่อ ผมจะไม่รบกวนพ่อหรอก ผมจะนั่งอยู่ข้างๆ กับน้องชายคอยดูพ่อ พวกเราคิดถึงพ่อมากนะ แม่ด้วย แม่คิดถึงพ่อมากเหมือนกัน ตอนกลางคืนแม่มักจะดูรูปของพ่อบ่อยๆ”
หลินเซี่ยได้ยินคำพูดของหู่จือ ก็กระแอมเบาๆ อย่างเขินอาย “ไอ้ตัวแสบ ลูกอย่าพูดเหลวไหลนะ”
แต่หู่จือกลับไม่เห็นท่าทางกระอักกระอ่วนของเธอเลย พูดต่อด้วยเสียงใสๆ “ผมไม่ได้พูดเหลวไหลสักหน่อย แม่เอาแต่จ้องมองรูปแต่งงานของแม่กับพ่อทุกวันจริงๆ บางครั้งแม่ก็ยิ้ม บางครั้งก็เช็ดน้ำตาด้วย”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เห็นสภาพพี่เหอแล้วยิ่งสงสาร พี่นอนเยอะๆ เถอะค่ะ ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักนะคะ
เจียซิ่งรับจบอีกแล้ว เอาใจช่วยให้หลุดพ้นจากภาพลักษณ์ไม่เอาไหนนะคะ
ไหหม่า(海馬)
………………..