ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 968 เฉินเจียเหอผู้บ้าคลั่ง
ตอนที่ 968 เฉินเจียเหอผู้บ้าคลั่ง
ในที่สุดเด็กน้อยก็ได้หลับไป ทำให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตอยู่ในโลกของเราสอง
ตั้งแต่มีเสี่ยวหู่ ดูเหมือนว่าการอยู่กันสองต่อสองกลายเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เฉินเจียเหอกลับมาอย่างมีชัยหลังจากห่างกันหนึ่งเดือน อารมณ์ของหลินเซี่ยก็สั่นไหวมาก และเธอก็อยากจะอ่อนโยนกับเขาอย่างยิ่ง
เฉินเจียเหอแทบรอไม่ไหวแล้ว พุ่งเข้าหาเธอทันทีที่ไฟดับลง
“ใจเย็นๆ อย่าปลุกลูกนะ”
ทันทีที่หลินเซี่ยเตือนเขา เฉินเจียเหอก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องอ่อนโยน เขาจูบผู้หญิงในอ้อมแขนของเขา ในขั้นตอนสุดท้าย เขาลุกขึ้นและเปิดไฟแล้วอุ้มคนตัวเล็กบนเตียงไปที่เปล
เปลนี้ค่อนข้างเล็ก แต่ก่อนเสี่ยวหู่เคยนอนที่นี่ แต่ตอนนี้โจวลี่หรงพาเขาไปนอนเตียงใหญ่ด้วยกัน ส่วนตอนที่หลินเซี่ยพามาก็ไม่ได้ใช้เปลอีกเลย
แต่คืนนี้เด็กน้อยกลับถูกเฉินเจียเหออุ้มไปวางไว้
เขาปีนขึ้นเตียงแล้วพุ่งเข้าหาเธออีกครั้ง กระซิบข้างหูเธอเบาๆ ว่า “ตอนนี้ก็ไม่ต้องกลัวเสียงดังแล้ว”
ในที่สุด ผู้หญิงที่เคยสนุกสนานกับกิจกรรมนี้ก็ทนไม่ไหวแล้ว เริ่มบ่นว่า “คุณไม่ได้เหนื่อยมากหรอกหรือ? ทำไมถึงมีพลังงานมากขนาดนี้?”
“ผมหลับเต็มอิ่มไปเมื่อตอนกลางวันแล้ว” ชายหนุ่มตอบพลางออกแรงอย่างขยันขันแข็ง เหงื่อไหลโซมกาย “ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน ผมก็ยังมีแรงที่จะมอบความรักให้คุณนะ”
หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็พลิกตัวนอนลงข้างๆ เธอ พร้อมถอนหายใจอย่างพึงพอใจ
“ที่รัก คิดถึงผมไหม?”
“แล้วคุณล่ะคิดถึงฉันไหม?” หญิงสาวที่นอนอยู่ข้างใต้ถามกลับ
“ตอนแรกๆ ผมก็คิดถึงอยู่ แต่หลังจากนั้นก็งานยุ่ง เลยไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องโรแมนติกอีกเลย”
“หลังจากทำงานเสร็จก็เริ่มคิดถึง คิดอยากจะดึงคุณเข้ามาในอ้อมกอดแล้วมอบความรักอย่างดุเดือด”
เขาพูดจบ ลุกขึ้นเช็ดเหงื่อ แล้วก็โน้มตัวเข้าหาเธออีกครั้ง
เธอต่อต้าน “ไม่เอา ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว”
ชายหนุ่มงุนงง “นอนอยู่แบบนี้จะเหนื่อยได้ยังไง?”
“ฉันร้อนจัง ร้อนเหลือเกิน”
“ฉันจะไปเปิดหน้าต่าง”
เขาเพิ่งจะลงจากเตียง หญิงสาวบนเตียงก็โกรธจนเตะเขาทีหนึ่ง
“ไม่เปิด” เฉินเจียเหอมองหญิงสาวที่กำลังลำบากใจ แล้วยิ้มอย่างกำกวม “เสียงอันไพเราะน่าหลงใหลนี้ มีแค่ผมเท่านั้นที่ควรได้ยิน”
เขาเปิดพัดลมแล้วขึ้นเตียง จากนั้นก็เริ่มบรรเลงเพลงรักครั้งใหม่อีกครั้ง
หลินเซี่ยตอนแรกรู้สึกตื่นเต้นมาก แต่ชายคนนี้มีพลังเหลือล้นเกินไป จนสุดท้ายเธอก็อยากจะเตะเขาลงไป
เขากินอิ่มดื่มเต็มที่ แล้วกอดเธอเข้าสู่อ้อมกอดอย่างพึงพอใจ “นอนเถอะ”
ท่าทีของเธอแตกต่างจากตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง เธอผลักเขาออกอย่างรังเกียจ “คุณขยับไปด้านหลังหน่อย ร้อน”
…
เมื่อหลินเซี่ยตื่นขึ้นมา เสี่ยวหู่ก็อยู่ในอ้อมกอดของเธอ เธอตะโกนเรียกชื่อ “เฉินเจียเหอ” แต่ไม่มีเสียงตอบรับ
เธอรีบลุกจากเตียงทันที อุ้มเสี่ยวหู่ออกมาจากห้องนอน
หลินเซี่ยเพิ่งวางลูกลงบนพื้นให้เล่น ประตูก็เปิดออก เฉินเจียเหอเดินเข้ามาพร้อมกับถุงซาลาเปา
“ตื่นแล้วเหรอ?” เขาอธิบาย “ผมพาหู่จือไปส่งที่โรงเรียนมา”
“ไอ้เด็กแสบนั่นวันนี้โอ้เอ้เป็นพิเศษ พอถึงหน้าประตูโรงเรียนก็ไม่รีบเข้าไป ลากผมไปอวดเพื่อนร่วมชั้นอยู่นั่น……..”
เฉินเจียเหอพูดถึงเรื่องนี้ด้วยสีหน้าจนปัญญา
เขาถูกลูกชายจูงไปเหมือนลิงตัวหนึ่งที่หน้าประตูโรงเรียน ให้คนมามุงดู
แต่สิ่งที่ทำให้เฉินเจียเหอรู้สึกประหลาดใจก็คือ หู่จือกลับรู้เรื่องรุ่นของรถไฟมากมาย
เขาแนะนำตัวเองและอธิบายสถานการณ์ทั่วไปของรถไฟด่วนรุ่นใหม่ได้อย่างชัดเจนมาก
นี่อาจเรียกได้ว่าเป็นการซึมซับจากสิ่งแวดล้อม
แม้ว่าเฉินเจียเหอจะถูกลากมาเป็น “ลิง” แต่ในระหว่างทางกลับเขามีความรู้สึกที่ดีมาก
ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือผู้บังคับหมวดผู้ล่วงลับ ตอนนี้เมื่อได้เห็นหู่จือเติบโตแข็งแรง พวกเขาต่างก็รู้สึกภูมิใจอย่างยิ่ง
ด้วยความมุ่งมั่นของเด็กคนนั้นในตอนนี้ ในอนาคตเขาน่าจะสืบทอดอาชีพของพ่อแน่นอน
หลินเซี่ยฟังเฉินเจียเหอเล่าจบแล้วก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ พลางพูดว่า “คุณยังบอกให้เขาเก็บตัวอีก เรื่องแบบนี้เขาจะเก็บตัวได้ยังไงล่ะ? คาดว่าวันนี้เขาคงฟังบทเรียนไม่รู้เรื่องแน่ๆ ความคิดทั้งหมดคงจะอยู่ที่การประชาสัมพันธ์คุณแน่”
“ช่างเขาเถอะ ปล่อยเขาไปตามใจชอบเลย” เฉินเจียเหอพูดแบบนี้ แต่ในใจกลับคิดว่าบ่ายนี้เขาจะไม่ไปรับเจ้าเด็กแสบนั่นแน่นอน
ไม่อย่างนั้นก็ต้องถูกมองอีกรอบแน่ๆ
“ไปล้างหน้าล้างตาแล้วกินอาหารเช้ากันเถอะ”
เฉินเจียเหอเห็นภรรยาสวมชุดนอนบางเบา บริเวณลำคอเต็มไปด้วยรอยที่เขาทำไว้ เขาก็รู้สึกละอายใจเล็กน้อย เมื่อคืนนี้เขาลงมือหนักเกินไปจริงๆ ควบคุมแรงไม่ได้เลย
หลินเซี่ยสังเกตเห็นว่าสายตาของเฉินเจียเหอจับจ้องอยู่ที่คอของเธอ เธอจึงส่งลูกชายให้เขาแล้วเดินเข้าห้องน้ำ จากนั้นก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมา
“เฉินเจียเหอ คุณมันบ้าไปแล้ว”
ครั้งสุดท้ายที่เขาคลั่งขนาดนี้ก็ตอนที่เพิ่งคบกันใหม่ๆ
หลังจากนั้นเขาก็ทำงานหนัก รวมถึงการตั้งครรภ์และคลอดลูก แล้วก็วุ่นวายกับการเลี้ยงลูก จึงแทบไม่ได้…แบบนี้อีกเลย
เฉินเจียเหออุ้มเสี่ยวหู่เข้ามา พิงอยู่ที่ประตูห้องน้ำ พูดด้วยน้ำเสียงเอ็นดู “อาบน้ำสักหน่อยก็จะหายไปเองแหละ”
“พวกเราไม่ได้เจอกันเป็นเดือน คุณกล้าด่าผมแล้วเหรอ?”
เฉินเจียเหออุ้มลูกชายไว้ มองเธอด้วยสายตาน้อยใจ “เดือนนี้ผมลำบากมาก คิดถึงคุณมาก…”
หลินเซี่ย “!!!”
เธอโบกมือด้วยความอึดอัด “ฉันไม่ได้ด่าคุณ พาลูกออกไปข้างนอกเถอะ ฉันจะอาบน้ำ”
เธอไม่อาจทนจ้องเขาได้อีกต่อไป จึงปิดประตูห้องน้ำลง
จริงๆ แล้ว เธอก็ค่อนข้างเพลิดเพลินกับความบ้าคลั่งของเขา…
เธอชอบมากที่เขามีความหลงใหลต่อเธอมากขนาดนั้น
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ก็มีเพื่อนบ้านทยอยเข้ามาเยี่ยมเยียนเฉินเจียเหอที่บ้านอย่างไม่ขาดสาย
มีทั้งเพื่อนร่วมงานที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่พักข้าราชการ รวมถึงเพื่อนร่วมงานเก่าที่เกษียณแล้วที่ไม่ได้ไปร่วมพิธีต้อนรับที่สถานีรถไฟเมื่อวาน
หลังจากที่เฉินเจียเหอกลับมาที่ชุมชนบ้านพักทหาร ตอนเช้าเขาก็ออกไปส่งลูกชาย เพื่อนบ้านเห็นเข้า ตอนนี้จึงทยอยมาเยี่ยมเยียนเขาเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย
“เจียเหอ ไข่นี่เป็นไข่จากไก่ที่พี่สาวฉันในชานเมืองเลี้ยงเอง ฉันยังไม่กล้ากินเลย เธอกับนายช่างหวังแบ่งกันคนละครึ่งนะ เอาไว้บำรุงร่างกายหน่อย”
เฉินเจียเหอปฏิเสธอย่างสุภาพ “ป้าหวัง ผมรับไว้ไม่ได้หรอกครับ”
ป้าหวังยืนกรานอย่างกระตือรือร้น “จะรับไม่ได้ยังไงล่ะ? ดูพวกเธอสิ ผอมกันขนาดไหนแล้ว? ส่วนเพื่อนร่วมงานคนอื่นฉันก็ให้ไม่ได้ เธอกับนายช่างหวังสนิทกับพวกเรา เลยให้พวกเธอสองคนกินบำรุงร่างกายหน่อย”
ลุงหนิวก็ไม่ได้มามือเปล่า “นี่เป็นนมผงที่ลูกชายฉันซื้อมาให้ บอกว่าเป็นนมผงสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ”
ลุงหนิวมองดูเฉินเจียเหอ แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “อายุเจียเหอตอนนี้ก็พอจะนับว่าเป็นวัยกลางคนแล้วนะ ดื่มได้แล้ว นายดื่มเพื่อบำรุงร่างกายเถอะ”
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
พี่เหอไปเอาแรงมาจากไหนมากมายขนาดนั้น เซี่ยเซี่ยตัวช้ำไปหมดแล้ว
เอ่อ ลุงหนิว นั่นมันจุดอ่อนไหวของพี่เหอเขาเลยนะคะ
ไหหม่า(海馬)