ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 114 เล่ห์มารยาเสน่ห์
ตอนที่114 เล่ห์มารยาเสน่ห์
“ท่านจะพาข้าไปไหน?”
เซียถงฉงนงุนงวยใจต่อพฤติกรรมแปลกๆ ของอีกฝ่าย คำพูดออกจากปากสักคำยังไม่มี เอาแต่ลากตัวนางออกไปไหนต่อไหน ทั้งหมดเพื่ออะไรกัน? คงมิใช่ว่าจะลักพาตัวนางไปทั้งแบบนั้นเพราะเห็นว่าสวยกระมัง?
ชายคนนั้นมิได้สนใจฟังเซียถงเลยแม้สักนิด และยังคงเดินหน้าลากนางต่อไปในป่าสน จนท้ายที่สุดเซียถงเริ่มทนไม่ไหว สะบัดมือปัดออกในทันใด นี่คิดว่าช่วยชีวิตกันแล้วจะทำอะไรตามใจกับตัวนางก็ได้รึไงกัน? ถึงกระนั้นนางก็ได้แต่ข่มกั้นความหงุดหงิดใจกล้ำกลืนลงในท้อง หยุดนิ่งจ้องหน้าอีกฝ่ายที่หันมองอยู่สักครู่หนึ่ง
ชายคนนั้นเหลือบแลหันกลับมาสบสายตากับเซียถง ยกนิ้วชี้ไปที่ลำธารสายน้อยใสสะอาดเบื้องหน้า กล่าวปนน้ำเสียงสั่งการขึ้นว่า
“ล้างหน้าซะ”
เซียถงยังคงยืนมองอีกฝ่ายอยู่ตรงข้าม ปราศจากปฏิกิริยาเคลื่อนไหวใดๆ สำหรับน้ำเสียงที่เปล่งดังออกมาของอีกฝ่าย มันสร้างความไม่พอใจแก่นางมิใช่น้อย อนึ่ง ตัวนางไม่ใช่ลูกน้องใต้บัญชาของชายคนนี้ ดังนั้นแล้ว เขาเองก็ไม่มีสิทธิ์มาพูดจากับนางโดยใช้น้ำเสียงแบบนี้เช่นกัน
“ที่เจ้าไม่กล้าหน้าล้าง หรือเป็นเพราะไม่กล้าเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงอันแสนน่ารังเกียจของตัวเองกระมัง?”
เห็นว่าเซียถงยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว ชายหนุ่มลึกลับสวมหน้ากากคนนั้นก็เชิดสายตาขึ้นสูง เอ่ยถามหยั่งเชิงด้วยท่าที่สุดหยิ่งผยอง
ตัวเซียถงเองนั้นไม่เคยสนใจในรูปลักษณ์หน้าตาของตนเองอยู่แล้ว มันไม่สำคัญเลยว่า ตัวนางจะน่าเกลียดอัปลักษณ์หรืองดงาม เพราะท้ายที่สุดนี้ ความแข็งแกร่งเท่านั้นคือราชา ส่วนความอ่อนแอคืออาชารับใช้นาย ซึ่งรูปลักษณ์หน้าตาก็มิใช่สัญญาลักษณ์ที่แสดงถึงความแข็งแกร่งเลย
และแน่นอนว่าตัวนางในขณะนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับอาชา ต่อหน้าชายลึกลับสวมหน้ากากผู้นี้ นางอ่อนแอกว่าอย่างเห็นได้ชัด และสิ่งที่ทำให้ตัวเซียถงรู้สึกหงุดหงิดที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องนี้ ยิ่งอีกฝ่ายพูดจาถากถางได้อย่างใจอิสระ ทั้งหมดเป็นเพราะความอ่อนแอของนาง และนี่เป็นอะไรที่น่าหงุดหงิดใจที่สุด
คิดได้เช่นนั้น นางชำเลืองหางตาปราดใส่ชายคนนั้นไปทีหนึ่ง จำใจเดินไปที่ริมฝั่งลำธารชักสีหน้าเกรี้ยวโกรธ ใช้สองมือกวักน้ำล้างคราบเลือดบนใบหน้าจนสะอาดเกลี้ยงเกลา จากนั้นค่อยหันไปมองชายคนดังกล่าวอีกครั้ง ปั้นหน้ายั่วยุปั่นประสาทเล็กน้อย
ทันทีที่ชายคนนั้นเคลื่อนสายตาหยุดนิ่งบนใบหน้าของหญิงสาวที่หันหน้ามาหาตน พลันรู้สึกดั่งว่า ผืนพิภพแห่งนี้สว่างสดใสขึ้นในทันใด ความงดงามทั้งหลายแลทั่วสารทิศ เกรงว่าคงถูกรวบรวมเก็บไว้บนใบหน้าของนางจนหมดสิ้นแล้ว! และบนผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ไพศาล ไม่มีสตรีงามนางใดสามารถเทียบเคียงรัศมีความสวยของหญิงสาวนางนี้ได้อีกต่อไป!
ทุกระเบียบนิ้วบนใบหน้าล้วนถูกจัดวางและสรรค์สร้างจากสรวงสวรรค์ได้อย่างลงตัวสมบูรณ์แบบ อย่าว่าแต่พิภพมนุษย์เลย ต่อให้เป็นพิภพบนฟากฟ้ายังมีเทพธิดาองค์ใดครอบครองความงดงามเช่นนี้ได้อีก?
คล้อยหลังพบเจอกับภาพฉากที่ไม่คาดฝันอยู่สักครู่ เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย บังเกิดความสงสัยหนึ่งขึ้นในใจ ได้ความว่า สาวน้อยขี้เหร่นางนั้นคือหญิงสาวเบื้องหน้าของเขาจริงๆ ใช่หรือไม่? เพราะก่อนหน้านี้ เขาบังเอิญผ่านมาเห็นคมกระบี่เล่มยาวในมือของเย่หลีเทียนกำลังเข้าเผด็จศึกใส่เซียถง เพราะครั้งล่าสุดที่เขาไปจับสัตว์อสูรปราณวิญญาณร่วมกับนาง อีกฝ่ายก็เคยทุ่มสุดตัวช่วยเหลือตนเองครั้งหนึ่งเช่นกัน ดังนั้นในคราวนี้ เขาจึงไม่ลังเลที่จะโดดเข้าไปช่วยเหลือ
แต่ใครจะไปคิดไปฝันกันว่า คนที่เข้าช่วยเหลือกลับเป็นสตรีรูปงามถล่มเมือง แต่ในด้านอุปลักษณ์นิสัยและสายตาอันแสนเย็นชาคู่นั้น ไม่ว่าจะมองยังไงก็คล้ายกับสาวน้อยขี้แหร่นางนั้นมากจริงๆ ทันทีทันใด หลายหลากข้อสงสัยต่างๆ นานาพลันผุดขึ้นในหัวของชายคนนั้นโดยกะทันหัน
ผ่านไปสักครู่ใหญ่พึงได้สติกลับคืน เขามองไปทางเซียถงแน่วแน่ เอ่ยถามน้ำเสียงเบาว่า
“เจ้าชื่ออะไร?”
“เทพธิดาเก้าสวรรค์!”
เซียถงเลิกคิ้วเชิงปั่นประสาทตอบกลับไป แต่ด้วยใบหน้าโฉมงามปานนี้ กลับมิใช่เรื่องเกินจริงเช่นกันที่จะอวดอ้าง บอกว่าตนเองคือเทพธิดาเก้าสวรรค์ที่จุติลงมายังผืนพิภพ
ได้ยินเช่นนั้น รอยยิ้มหนึ่งก็ผุดปรากฏขึ้นในดวงตาของชายคนนั้น พริบตาต่อมา เงาร่างของชายคนนั้นสั่วไสวกลายเป็นเงาสายหนึ่ง พุ่งโฉบเข้ามาหยุดต่อหน้าเซียถง กุมข้อมือขวาของนางเอาไว้แน่น ใช้มืออีกข้างแตะสัมผัสพวงแก้มสีขาวผ่องดุจหิมะนุ่ม กล่าวพรรณนาเนื้อหาช่างไร้จุดหมายขึ้นว่า
“เช่นนั้นแล้ว ยามที่เทพธิดาพบเจอกับมนุษย์ทั้งที มนุษย์ผู้โลภมากเฉกเช่นข้าคนนี้ไม่ควรปล่อยละหลุดมือ จับเจ้าทำเป็นภรรยาเคียงกายของข้าเลยดีหรือไม่?”
เซียถงที่ได้ฟังแบบนั้นก็เดือดจัด เอียงศีรษะผละใบหน้าออกจากมืออีกฝ่าย ยกเข่ากระทุ้งใส่กล่องดวงใจของอีกฝ่ายสุดแรงเกิดโดยไม่มีลังเลใดๆ กระบวนท่านี้มักจะใช้ได้ผลดีอยู่เสมอ ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีระดับพลังลมปราณสูงส่งเพียงมด แต่หากถูกโจมตีเข้าจุดตายของบุรุษเพศ เกรงว่าต้องเสียท่าแต่พ่ายไปเสียทุกราย กระทั่งตอนลงมือใส่เย่หลีเทียน ยังสามารถหยุดการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายได้พักหนึ่ง และตัวเซียถงเองก็มีความสุขอย่างมากกับทุกครั้งที่ได้หยิบใช้มัน
แต่ชายผู้นี้กลับคาดเดาการเคลื่อนไหวของเซียถงได้หมดแล้ว เพียงเรียบเรียงเปลี่ยนท่าเพื่อเบี่ยงทิศทาง ก็สามารถเลี่ยงหลบได้อย่างง่ายดายนัก ทั้งนี้ยังเผยรอยยิ้มกระหยิ่มใจผุดขึ้นบนใบหน้าของเขาเล็กน้อย เพราะท่าโจมตีนี้คือเอกลักษณ์โดดเด่นของสาวน้อยขี้เหร่คนนั้น! ปรากฏว่าเป็นนางจริงๆ! ในขณะเดียวกัน มือข้างที่เข้าสัมผัสพวงแก้มของเซียถงก่อนหน้า ยามนี้รีบชักเก็บกลับมาโดยไว ตีระยะห่างจากตัวนางออกไป
ยิ่งเห็นแบบนี้ เซียถงยิ่งหงุดหงิดงุ่นง่านนัก ไฟโทสะถูกจุดขึ้นภายในจิตใจ นางกระชับจับมีดสั้นในมือชูขึ้นสูง ดิ่งสะท้านแทงลงใส่ชายคนนั้นโดยตรง
“ไม่ว่าเมื่อก่อนหรือตอนนี้ เจ้าก็ยังมิใช่คู่ต่อสู้ของข้าอยู่ดี”
เผยรอยยิ้มทรงสง่าขึ้นบนริมฝีปากของชายคนนั้น ใช้มือขวาหยุดมีดสั้นสังหารคามืออีกฝ่ายเอาไว้ได้โดยง่าย จับกุมไว้แน่นหนาไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยออกใดๆ
เฝ้ามองโฉมงามผู้ทรงเสน่ห์อยู่ต่อหน้า แม้เขายังมีข้อสงสัยติดตราตรึงใจอยู่บ้าง แต่ตราบใดที่เป็นนาง ไม่ว่าจะสวยหรือน่าเกลียด หญิงสาวนางนี้ก็ยังคงน่าสนใจในสายตาของเขาอยู่ดี
เซียถงกัดฟันแน่น พยายามออกแรงดึงมือชักเก็บกลับมา แต่ไม่ว่าจะพยายามสักแค่ไหนกลับไม่เป็นผล สายตาคู่สวยเคลื่อนเข้าจับจ้องอีกฝ่าย ปั้นหน้าไม่ค่อยพอใจนัก ก่นเสียงดุร้ายคำรามขึ้นว่า
“ปล่อย!!”
ชายคนนั้นลอบยิ้มไม่คลายอ่อนภายใต้หน้ากาก ส่ายศีรษะกล่าวว่า
“หากปล่อยไป เกรงว่าเจ้าจะใช้มีดสั้นเล่มนี้แทงใส่ข้าอีก เช่นนั้นแล้วคงปล่อยไม่ได้”
เสมือนกับว่าดวงตาคู่คมภายใต้หน้ากากกำลังยิ้มแย้มเปี่ยมความสุข โค้งคว่ำลงเป็นทรงจันทร์เสี้ยวเผยแสดงออกมาชัดเจน
เซียถงหัวเสียไม่น้อยที่เขามีสายตาเช่นนี้กับตนเอง จะเห็นได้ทันทีว่า อีกฝ่ายกำลังจงใจหยอกล้อปั่นประสาทนางเล่นชัดๆ แต่ในเมื่ออีกฝ่ายเล่นมาเช่นนี้ นางเองก็ขอใช้เล่ห์มารยาเสน่ห์ตอบโต้กลับไป! ชั่วขณะเดียวกัน ใบหน้าที่บูดบึ้งก็กลับกลายมาเป็นความหวานซึ้ง รอยยิ้มแสนละมุนละไมส่งมอบแก่อีกฝ่ายผ่านใบหน้าสวย
“คุณชายท่านนี้…ได้โปรดปล่อยมือเถิด ข้าสัญญาจะเก็บมีดสั้นลงทันที”
รอยยิ้มน่าหลงใหลใคร่ลุ่มหลงเบ่งบานสวยสด ความงดงามถล่มเมืองปานนี้กระทั่งทั่วแผ่นฟ้านภาลัยยังถูกบดบังจนมิด!
ชายผู้นั้นตกสู่ภวังค์ห้วงเสน่ห์หาไปชั่วขณะ ดวงตาเปล่งประกายแวววาวในทันใด ทอแสงเจิดจรัสจ้าเกินปกปิดได้
“ข้าสัญญาจะไม่แทงท่านแน่นอน”
พอเห็นท่าทีคล้อยตามของอีกฝ่ายพร้อมปราการป้องกันที่อ่อนลงชั่วขณะ มุมปากเซียถงพลันเชิดสูงลอบยิ้มบางเล็กน้อย ความงดงามภายใต้แสงจันทร์เจ้าสว่างไสวเฉกเช่นยามนี้ ไม่ว่าชายใดล้วนต้องจิตใจสับสนกันทั้งสิ้น!