ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 177 ปราบสองพี่น้อง (1)
ตอนที่177 ปราบสองพี่น้อง (1)
แม้ว่าเซียถงจะมีวรยุทธ์ต่อสู้ แต่กลับมิสามารถใช้ประโยชน์เพื่อสร้างความได้เปรียบมากเท่าไหรนัก คล้อยหลังปะทะชนนับหลายสิบกระบวน ทั้งสามคนต่างฝ่ายตรงสะบักสะบอมบาดเจ็บไม่ต่างกัน
ดวงตะวันยามนี้จรัสจ้าท่ามกลางแผ่นฟ้าเป็นที่เรียบร้อย นี่เป็นเวลาเที่ยงวันแล้ว สงสัยเหลือเกินว่าเซี่ยหลู่เฟิงกำลังทำอะไรอยู่ในตอนนี้? แล้วฉีหมิงเยว่จะปลอดภัยดีหรือยัง? ทั้งสองจะกลับออกมาได้อย่างสวัสดิภาพหรือไม่? ความกังวลหลายหลากยังเกิดขึ้นภายในใจ ทันใดนั้นก็หยิบโอสถขึ้นจากใต้แขนเสื้อขึ้นมาเม็ดหนึ่ง และแกล้งทำเป็นหลุดมือตกพื้นไป
เซียะตี้ที่หลบซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นดิน ได้ยินเสียงบางสิ่งอย่างตกกระทบลงพื้น แลเห็นเห็นโอสถเม็ดหนึ่งก็บังเกิดความโลภขึ้นทันใด รีบดำดินทะลวงฝ่าเคลื่อนไปทางนั้นโดยไว พร้อมคว้าโอสถเม็ดนั้นที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาอย่างว่องไว
เมื่อเขาเงยศีรษะโผล่ขึ้นจากพื้นดิน ก็เห็นเพียงเงาคมกระบี่สีเย็นยะเยือกไล่ล่าติดตาม หวังจะฟันศีรษะสังหารภายในคมเดียว แต่ชั่วขณะอึดใจ พลันมีคมดาบยักษ์พุ่งเข้ามาช่วยสกัดกั้นเอาไว้ได้ทันท่วงที ส่งผลให้เซียะตี้มีเวลามุดใต้ดินหลบหนีออกไป
“ขอบใจ!”
เซียะตี้กล่าวจบก็ตบโอสถเม็ดนั้นเข้าปากโดยตรง หันมากล่าวเยาะเย้ยเซียถงที่กำลังเข้าปะทะชนกับเซียะเทียนทิ้งทวนอยู่คำหนึ่ง
คล้อยหลังเห็นว่าเซียะตี้หลบเลี่ยงออกมาได้อยางปลอดภัย เช่นนั้นเซียะเทียนจึงค่อยตีระยะล่นถอยออกมาตั้งตัว
“อ๊าก! พี่ใหญ่!”
จู่ๆ รูม่านตาดำของเซียะตี้พลันเบิกโพลงขยายกว้างฉับพลัน เอื้อมมือไปคว้าชายเสื้อของพี่ใหญ่อย่างยากลำบากยิ่งยวด เงยหน้ามองอีกฝายพร้อมสีหน้าเจ็บปวดทรมานสุดแสน ริมฝีปากเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำในทันที
“ข้า…ข้าเจ็บปวดเหลือเกิน!”
เซียะเทียนรีบเก็บดาบยักษ์ในมือลง หันไปเฝ้าดูอาการของเซียะตี้ สีหน้าการแสดงออกค่อนข้างหมองหม่นเสมือนถูกคมมีดตัดขั้วหัวใจ ท่าทางดูเจ็บปวดแทนน้องชายตนเอง ชั่วขณะอึดใจ เขารีบหันขวับจับจ้องเซียถงตาเขม็งเสมือนจะพ่นไฟออกมา
“เจ้าทำอะไรกับน้องชายข้า?!”
“หาใช่เรื่องใหญ่อันใดไม่ ก็แค่โดนพิษเล่นงาน”
เซียถงเคลื่อนสายตาแลมองเซียะตี้ที่กำลังดิ้นทุรนทุรายทรมานอยู่แวบหนึ่ง และเปล่งเสียงขานตอบอย่างเย็นชา
พิษ?
เซียะเทียนรีบกดสายตามองไปที่ฝ่ามือสำรวจทั่วร่างกายของเซียะตี้โดยไว และเห็นว่าทั่วทั้งฝ่ามือและเนื้อตัวอวบอั๋นของอีกฝ่ายแปรเปลี่ยนกลายเป็นสีม่วงอมดำแล้ว ทั้งยังมีบางจุดที่มีน้ำเหลืองไหลออกมา แสดงให้เห็นถึงระบบร่างกายภายในที่เหลือทรุดโทรมลง
“พี่ใหญ่ ข้าเจ็บ….เจ็บ…”
เซียะตี้ออกแรงบีบแขนเสื้ออีกฝ่ายแน่น ร้องโอดโอยเสมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง
เมื่อได้ยินดังนั้น เซียะเทียนก็สวมกอดอีกฝ่ายแนน กล่าวปลอบโยนน้ำเสียงนุ่มนวลผิดจากก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง
“เสี่ยวตี้! เจ้าอดทนก่อน! ข้า..ข้าจะรีบหายาโอสถถอนพิษให้เดี๋ยวนี้แหละ!”
พูดจบ เขาก็เงยหน้าขึ้นมองเซียถง จะสังเกตเห็นได้ว่าดวงตาคู่นั้นของอีกฝ่ายเห่อแดงขึ้นแล้ว
“น้องชายของเจ้ากลืนโอสถศพสลายของข้าไป หากไมรีบกินโอสถถอนพิษ เกรงว่าร่างกายของเขาจะค่อยๆ เน่าเปื่อย และอีกหนึ่งก้านธูปให้หลังจะถึงแก่ความตายทันที”
ความสัมพันธ์ระหว่างสองพี่น้องคู่นี้เหนียวแน่นเกินความคาดหมายของเซียถงไปมากจริงๆ แรกเริ่มเดิมทีนางแค่ตั้งใจจะลองแผนการนี้ดูเท่านั้น แค่ใครจะไปคิดว่า มันจะได้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมปานนี้
“สาวน้อย มอบโอสถถอนพิษแก่ข้ามา และข้าจะยอมปล่อยเจ้าไป”
เซียะดทียนพยายามระงับเพลิงโทสะภายในใจทั้งหมดลงและกล่าวเสนอกับเซียถงออกไป
“ข้าคิดว่าสามารถช่วยชีวิตของน้องชายเจ้าได้ แต่เจ้าเองก็จำต้องเชื่อฟังคำสั่งของข้าทั้งในตอนนี้และอนาคตต่อไป”
เซียถงแสยะยิ้มตอบอีกฝ่ายกลับไป
“สาวน้อย หากต้องการถึงปานนั้น ข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งตอนนี้ซะและชิงโอสถถอนพิษมาเอง!”
เนื่องด้วยเพลิงโทสะที่สุมทรวงเดือดดาล เซียะเทียนหยิบมีดคร้าขนาดใหญ่ที่เซียะตี้ทำร่วงอยูบนพื้นขึ้นมา และกระโจนเข้าจู่โจมใส่เซียถงด้วยความเร็วสุดขั้ว
ชั่วขณะอึดใจ เซียถงถูกอีกฝ่ายตีล้อมกรอบ วิ่งวนรอบตัวนางเป็นวงกลม เร่งความเร็วครั้งแล้วครั้งเล่าจนก่อเกิดเป็นร่างแยก ร่างแล้วร่างเล่ามากมายเต็มไปหมด อาศัยตาเปล่ากลับไม่สามารถแยกแยะได้เลยว่า ใครคือร่างจริง และใครเป็นภาพลวงตา
เซียะเทียนยังคงเร่งความเร็วต่อเนื่องไม่หยุด สร้างร่างแยกเป็นภาพลวงตานับไม่ถ้วนอยู่รายล้อม พิสัยดวงตาของเขาจับจ้องหญิงสาวซึ่งเป็นขเป้าหมายตาเขม็งไม่มีเว้นวาย กำลังหาจังหวะเหมาะสมที่จะเข้าพิฆาตชีวีตของนางภายในชั่วอึดใจ!
“หากเจ้ายังมัวแต่เล่นอยูเช่นนี้ น้องชายของเจ้าเตรียมกลายเป็นศพเน่าได้เลย”
น้ำเสียงไม่เค็มไม่จืดแผดดังออกจากปากของเซียถงคำหนึ่ง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ประกายเงาซ้อนหลากหลายสิบสายพลันไสววูบ พุ่งเข้าโจมตีฉับพลัน ทว่าเซียถงกลับแสยะยิ้มมุมปากบางๆ ชั่วพริบตาที่ประกายแสงสายหนึ่งปราดพุ่งจู่โจม นางแทงกระบี่ทัณฑ์ฟ้าเสมือนหอกเพลิงสุริยันเสียบสวนกลับไปโดยตรง
เซียะเทียนสัมผัสได้ทันทีถึงภัยอันตรายบางสิ่งที่เสียดพุ่งเข้ามาเพื่อหวังทะลวงคอหอยพิฆาตชีวา ดังนั้นจึงรีบมีดพร้าในมือขึ้นปัดป้อง ทว่าทุกอย่างกลับสายเกินไปแล้ว เห็นเพียงปลายคมกระบี่เย็นยะเยือกลุจ่อติดคอหอยของเขาเสียแล้ว
หนึง่สายตาเบิกกว้างตื่นตะลึงสุดขีด เซียะเทียนจับจ้องหญิงสาวทีอยู่ตรงหน้าเจือแววสยดสยองเกินพรรณนา ไฉน…ไฉนนางถึงแข็งแกร่งขึ้นได้รวดเร็วขนาดนี้ภายในคืนเดียว? ไม่…มันเกินคำว่ารวดเร็วแล้ว นี่มัน…วิปลาสเกินไป! ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วมิใช่รึ เขาเป็นฝ่ายรุกส่วนนางเป็นฝ่ายตั้งรับ แต่ไยสุดท้ายแล้ว กลับเป็นเขาที่ต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้?
ทำไมกัน? เมื่อวานนี้ฝีมือระหว่างเขากับนางยังคงสูสีอยู่เลยมิใช่รึ? แต่นี่คืนเดียว…คืนเดียวเท่านั้น….ฝีมือกลับหางชั้นต่างระดับปานนี้เชียว?!
เซียะเทียนชำเลืองมองไปยังใต้แผ่นเท้าของเซียถง ก็แลเห็นเป็นประกายแสงสีเหลืองปนเขียวสดใสสว่างไสวอยู่
นี่มัน…วรยุทธ์ต่อสู้! วรยุทธ์ต่อสู้ในตำนาน! เพราะนางมีวรยุทธ์ต่อสู้อยู่ในครอบครอง ก็เลยทำให้ตัวเขาหางชั้นกับนางได้ถึงเพียงนี้! เมื่อคิดได้ดังนั้น ดวงตาของเซียะเทียนกพลันเปล่งประกายลุกเป็นไฟอีกครั้งหนึ่ง
“ไม่มีเซียะตี้สักคน เจ้าหาใช่คู่มือของข้าอีกต่อไป! หากต้องการช่วยชีวิตเซียะตี้นัก ก็จงเชื่อฟังคำสั่งของข้า!”
ปรากฏกิริยาท่าทางของเซียะเทียน นางย่อมรู้เห็นทั้งหมด มุมปากพลันกระตุกยิ้มเยาะเหลือบมองอีกฝ่ายพร้อมก่นเสียงเย็นชาออกไป
เซียะเทียนชำเลืองมองไปยังเซียะตี้ที่ร้องอวดครวญอยู่ไม่ห่าง มือซ้ายทั้งข้างของอีกฝ่ายเริ่มเน่าแล้วจริงๆ ร่างอวบอั๋นบิดเกลียวไปมาด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส ใบหน้ามีน้ำเหลืองไหลออกมาทั้งยังส่งกลิ่นเหม็นกระจาย
“เข้าใจแล้ว! ข้าเข้าใจแล้ว! ข้าจะทำตามที่เจ้าสั่งทั้งตอนนี้และในอนาคต!”
เซียะเทียนกัดฟันแน่นหรี่ตาแคบเร้นประกายเจ็บปวดอยู่ภายใน ภายในใจครุ่นคิดกับตัวเองไว้ว่า ยามนี้ตามน้ำให้คำสัญญากับนางก่อน หลังจากที่เซียะตี้หายดี ค่อยกลับมาชำระบัญชีแค้นก็ยังไม่สาย! ไม่ว่ายังไง เขาก็ต้องเอาคัมภีร์วรยุทธ์ต่อสู้จากนางมาให้จงได้!
แต่…คิดหรือว่าเรื่องแค่นี้จะสามารถหลบพ้นไปจากสายตาของเซียถงได้? เพราะนางรู้ว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไรและหาวิธีแก้ทางไว้หมดแล้ว จึงกล้าหยิบใช้แผนการดังกล่าวออกมา