ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 189 สู้เพื่อสมุนไพร (1)
ตอนที่189 สู้เพื่อสมุนไพร (1)
อิ๋งเอ๋อร์ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธจัดจนจุกแผ่นอก นางจ้องตาซือโม่ที่กำลังหัวเราะเยาะเขม็งและกล่าวว่า
“นี่เจ้าหัวเราะอันใด? เดิมทีคุณหนูของข้าเป็นสตรีงามคนหนึ่งเพียงถูกพิษ…”
“อิ๋งเอ๋อร์! กลับ!”
เซียถงกล่าวแทรกขัดจังหวะ คว้าข้อมือเรียวขาวของอิ๋งเอ๋อร์กลับเข้ามา ส่วนมืออีกข้างหยิบหญ้าเพลิงเมฆาขึ้นมาไว้กับตนแน่นหนา
“คุณหนู!”
อิ๋งเอ๋อร์คว้าแขนเสื้อของเซียถงด้วยความไม่เต็มใจนัก จับจ้องอีกฝ่ายพร้อมดวงตาสีแดงก่ำ ตอนนี้มีแต่ความขุ่นเคืองเปี่ยมล้นอยู่ทั่วใบหน้าของนาง
ก็เห็นได้ชัดเจนว่า ในความเป็นจริงคุณหนูมีใบหน้าที่งดงามเพียงใด แต่ด้วยสถานการณ์หลายๆ อย่างในขณะนี้ ทำให้คุณหนูของนางจำเป็นต้องปลอมตัวภายใต้โฉมหน้าอัปลักษณ์ ถึงอย่างไร ต้องมาถูกผู้คนโดบรอยหัวเราะเยาะสบประสาทขนาดนี้ อิ๋งเอ๋อร์ไม่สสามารถทำใจยอมรับได้จริงๆ
เซียถงตระหนักดีว่า อิ๋งเอ๋อร์กำลังคิดและรู้สึกอย่างไรอยู่ และหากนางต้องการจริงๆ แค่ล้างร่องรอยจุดด่างดำบนใบหน้าออกให้เวลานี้ และเผยแสดงโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาต่อหน้าสาธารณชน ย่อมสามารถทำให้ผู้คนทั้งหมดทั้งมวลตกตะลึงได้ก็จริงอยู่ แต่…ทำไปแล้วได้ประโยชน์อันใดนอกจากความสะใจล่ะ?
ดวงตาคู่สวยของเซียถงค่อยๆ เคลื่อนมาหยุดลงตรงใบหน้าที่เปี่ยมล้นความโกรธของอิ๋งเอ๋อร์ จากนั้นก็เดินหมุนตัวจากออกไป ตรงไปยังที่โต๊ะจ่ายเงินหน้าทางเข้าร้านทันที เหลือบหางตาพลางเห็นยว่าอิ๋งเอ๋อร์ยังไม่เดินตามมาเสียที จึงตะโกนขึ้นว่า
“อิ๋งเอ๋อร์! รีบจ่ายเงินแล้วกลับกัน!”
อิ๋งเอ๋อร์ขมวดคิ้วแน่นจ้องหน้าเฉียนอวิ๋งและซือโม่ด้วยสายตาเดือดดุ จากนั้นค่อยเดินติดตามเซียถงไปยังโต๊ะหน้าร้านเพื่อจ่ายเงิน และยังไม่วายคำรามทิ้งท้ายไว้อีกว่า
“เตรียมเบิกตาสุนัขของวกเจ้าได้เลย! แล้วรอวันที่คุณหนูได้เปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริง!”
ทว่าทันทีที่สิ้นเสียงกล่าวจบ อิ๋งเอ๋อร์พลันสัมผัสได้ถึงไอเย็นยะเยือกจากตรงหน้าของนางได้ฉับพลัน พอเงยหน้าติดตามมองก็พบว่าเป็น เซียถงที่กำลังมองมาทางนี้ แววตาสีเข้มขลับเผยร่องรอยไม่พอใจราวกับกำลังตำหนิ อิ๋งเอ๋อร์รีบก้มหน้าก้มตาเดินตามไปอย่างเงียบๆ พอมาถึงโต๊ะหน้าร้าน ก็พลางหยิบแหรียญทองจำนวนหนึ่งออกมาจากกระเป๋า และเอ่ยถามเถ้าแก่ร้านไปว่า
“ต้องการขายที่ราคาเท่าไหร่?”
“สามสิบเหรียญทอง”
เถ้าแก่ร้านร่างอ้วนเงยหน้ามองอิ๋งเอ๋อร์แล้วค่อยกล่าวตอบ
“สามสิบเหรียญทอง? สมุนไพรต้นเดียวราคาแพงลิบลิ่วปานนี้ นี่คิดจะโกงกันกระมัง?”
อิ๋งเอ๋อร์ตกใจอย่างมากเมื่อได้ยินราคา หรี่สายตาแคบจับจ้องเถ้าแก่ร่างอ้วนคนนั้นชักสีหน้าไม่ค่อยพอใจนัก
“หญ้าเพลิงเมฆาต้นนี้ในมือท่านเป็นต้นเดียวที่เหลืออยู่ในเมืองเฟิงหลี่แห่งนี้แล้ว ขายให้ในราคาสามสิบเหรียญทองนับว่าถูกมาก”
เถ้าแก่ร่างอ้วนกล่าวอธิบายออกไปตามตรง
“สามสิบเหรียญทองน่ะรึถูก? คุณหนูของข้าอุตส่าห์มาด้วย ยี่สิบเหรียญทองแล้วกัน จะได้แยกย้ายกันกลับเสียที”
อิ๋งเอ๋อรคว้าเงินจำนวนยี่สิบเหรียญทองออกมาวางไว้ตรงหน้า พร้อมส่งยิ้มจับจ้องไปที่ใบหน้าของเถ้าแก่ร่างอ้วน
“อิ๋งเอ๋อร์ เอาตั๋วเงินมาให้ข้า ต่อจากนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง หญ้าเพลิงเมฆาต้นนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันต้องใช้รักษาบาดแผลที่ถูกไฟคลอกของพี่ชายข้า”
เซียถงขมวดคิ้วเล็กน้อย ยื่นมือเรียวขาวผ่องออกไปตรงหน้าพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย อิ๋งเอ่อร์ที่ได้ยินดังนั้นก็ไม่มีทางเหลืออื่นนอกจากหยิบตั๋วเงินที่เก็บไว้ในกระเป๋า ส่งมอบให้แก่เซียถงไปเจือสีหน้าร่องรอยความเสียดายอยู่หนึ่งส่วน
แต่ขณะที่อิ๋งเอ๋อร์กำลังส่งมอบตั๋วเงินให้อยู่นั้นเอง จู่ๆ ซือโม่ก็แทรกตัวเข้ามายืนข้างๆ และวางถุงเหรียญทองกองหนึ่งไว้บนโต๊ะต่อหน้าต่อตา กล่าวกับเถ้าแก่ร่างอ้วนขึ้นว่า
“เถ้าแก่ เราให้หนึ่งร้อยเหรียญทองเลยสำหรับหญ้าเพลิงเมฆาต้นนี้!”
“โอ้…”
เสียงโหร้องตื่นตะลึงดังขึ้นจากรอบข้าง เนื่องจากปากถุงเงินกองนั้นถูกมัดไว้ล้วมๆ พอก้นถุงกระแทกกับโต๊ะจึงมีเหรียญทองจำนวนหนึ่งปริล้นออกมา ซึ่งภาพฉากดังกล่าวได้สร้างความตื่นเต้นให้แก่ผู้คนรอบข้างอย่างยิ่ง
“ได้เลย! ได้เลย! เช่นนั้นขายให้ท่านแล้ว”
มองดูเหรียญทองจำนวนมากมายที่ล้นทะลักออกมาจากปากถุง ประกายตาคู่นั้นของเถ้าแก่ร่างอ้วนพลันฉายแววโลภออกมาทันที พยักศีรษะรัวแรงอย่างมีความสุข
“สินค้ายิ่งมีคุณภาพสูงและหายาก ย่อมมีราคาที่สูงกว่าปกติเป็นธรรมดา เช่นนั้นข้าขอคืนด้วย”
เถ้าแก่ร่างอ้วนยิ้มแย้มแจ่มใส กวักมือไปทางเซียถงเพื่อขอรับหญ้าเพลิงเมฆาคืนจากนาง
“เถ้าแก่กล่าวได้ถูกต้องแล้ว ยิ่งของดียิ่งราคาแพง เช่นนั้นข้าให้สองร้อยเหรียญทอง”
เซียถงกล่าวสวนตอบกลับไปทันที
ได้ฟังดังนั้น อิ๋งเอ๋อร์ลมแทบจับ ดวงตาน้อยๆ ทั้งสองข้างเบิกกว้าง หัวใจบีบเกร็งด้วยความเจ็บปวดสุดแสน ราคาสองร้อยเหรียญทอง นี่เกือบจะเท่ากับราคาโอสถที่คุณหนูหลอมกลั่นแล้ว!
“สองร้อยเหรียญทองรึ? อืม…คุณชายท่านนี้เกรงว่าทางเราไม่สามารถขายหญ้าเพลิงเมฆาให้ในราคาหนึ่งร้อยเหรียญทองได้แล้ว เช่นนั้ต้องขออภัยด้วย”
เถ้าแก่ร่างอ้วนหันไปมองทางเฉียนอวิ๋งเจือรอยยิ้มแห้ง
“ห้าร้อยเหรียญทอง”
เฉียนอวิ๋งเหลือบสายตาปรายมองเซียถงเล็กน้อย และชูนิ้วห้านิ้วขึ้นมา
“เอ่อ…คุณหนูต้องการเสนอราคาเพิ่มเติมหรือไม่?”
เถ้าแก่อ้วนหันขวับไปถามเซียถงต่อเนื่องทันที ภายในใจเร่งระงับความตื่นเต้นลงโดยไว
อันที่จริงแล้ว หญ้าเพลิงเมฆาหาใช่สมุนไพรที่หายากอะไรปานนั้น กล่าวได้ว่า สามารถพบเห็นได้เกือบทุกหนเห็นภายใต้อาณาเขตของจักรวรรดิหนานเฟิง สามารถรับซื้อกันได้ผ่านกองคาราวานข่นส่งสินค้าข้ามแดนระหว่างจักรวรรดิหน่านเฟิงและจักรวรรดิตงหลี่ แต่ช่วงระยะนี้ เนื่องด้วยสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างทั้งสองจักรวรรดิที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จึงเกิดกฎหมายห้ามซื้อขายสินค้าข้ามดินแดนกันชั่วคราว ดังนั้นแล้ว หญ้าเพลิงเมฆาจึงกลายเป็นของหายากในทันทีสำหรับผู้คนที่ต้องการในจักรวรรดิตงหลี่
ถึงอย่างไรก็ตาม ถึงจะกลายเป็นของหายากจนดันให้ราคาสูงขึ้นเล็กน้อย แต่มันก็ไม่คุ้มกับราคาห้าร้อยเหรียญทองแม้สักนิดเดียว เพราะในราคาห้าร้อยเหรียญทองนี้ มันสามารถนำไปซื้อโอสถได้แล้ว
จ่ายห้าร้อยเหรียญทองเพื่อหญ้าเพลิงเมฆาแค่ต้นเดียว จะเห็นได้ชัดแจ้งว่า ต่างฝ่ายต่างต้องการซื้อสมุนไพรชนิดนี้อย่างเร่งด่วนที่สุด ตัวอย่างก็เช่นเซียถงที่ต้องการซื้อหญ้าเพลิงเมฆาไปใช้รักษาอาการของเซี่ยหลู่เฟิงที่โดยไฟเผาเท้าจนไหม้เกรียม และหากปล่อยไปนานกว่านี้ เกรงว่าอาการจะมีแต่ทรุดตัวเลวร้ายลงไปอีก ซ้ำร้ายอาจถึงขั้นต้องตัดเท้าทิ้งเลย ดังนั้นแล้ว ไม่ว่ายังไง เซียถงไม่มีทางปล่อยให้หญ้าเพลิงเมฆาต้นนี้หลุดมือไปแน่นอน
เซียถงครุ่นคิดกับตนเองอยู่สักครู่พร้อมกับหญ้าเพลิงเมฆาที่ยังถืออยู่ในมือ ทันใดนั้นเอง นางก็เชิดหน้าขึ้นจับจ้องเถ้าแก่อ้วนตรงหน้าเป็นประกาย และกล่าวน้ำเสียงเด็ดขาดขานขึ้นว่า
“ข้าให้หนึ่งพันเหรียญทอง!”
หนึ่งพันเหรียญทองสำหรับหญ้าเพลิงเมฆา… ผู้คนโดยรอบต่างอ้าปากค้างเติ่งตะลึง ส่วนอิ๋งเอ๋อร์ได้แต่ข่มตาหลับอย่างทรมานปวดใจเหลือเกิน
หนึ่งพันเหรียญทองมันสามารถนำไปซื้อชุดแพรพรรณผ้าไหมดีๆ ไม่รู้กี่สิบชุด!
และเงินจำนวนหนึ่งพันเหรียญทองนี้ มันก็เพียงพอแล้วที่จะให้นางใช้ชีวิตอยู่กินอย่างสุขสบายไปตลอดสามถึงสี่ปีเต็ม!
ยิ่งไปกว่านั้น เงินจำนวนหนึ่งพันเหรียญทองมันสามารถนำไปซื้อสมุนไพรดีๆ ได้อีกมากมาย สำหรับรักษาพี่ใหญ่ของคุณหนูนาง ดังนั้นอิ๋งเอ๋อร์จึงไม่เข้าใจว่า ไฉนคุณหนูถึงยังยืนกรานจะเอาหญ้าเพลิงเมฆาต้นนี้มาให้ได้? และดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว ฝ่ายตรงข้ามเองก็ไม่น่าจะยอมเช่นกัน และราคาน่าจะไม่หยุดกันแค่นี้แน่นอน
“ข้าให้สองพันเหรียญทอง”
เฉียนอวิ๋งเหลือบสายตามองไปทางเซียถงและชูสองนิ้วขึ้นมา ภายในใจพลางคาดเดาไปว่า หญิงสาวนางนี้น่าจะมีความจำเป็นต้องใช้สมุนไพรต้นนี้เหมือนกับเขาเช่นกัน และดูจากเสื้อผ้าที่ใส่แล้วน่าจะเป็นคุณหนูจากตระกูลมั่งคั่งประมาณหนึ่ง ดังนั้น เงินหนึ่งพันเหรียญทอง น่าจะเป็นขีดจำกัดที่นางจะสามารถจ่ายได้ไหวแล้ว?
“สามพัน!”
แต่ใครจะไปรู้ ทันทีที่สิ้นเสียงของเขา เซียถงก็เอ่ยปากสวนกลับไปทันที
เฉียนอวิ๋งอดตะลึงมิได้ หญิงสาวนางนี้ชักจะเหนือการคาดหมายของเขาเกินไปแล้ว อาศัยเงินจำนวนสามพันเหรียญทอง ไฉนนางถึงไม่เอาไปซื้อโอสถที่มีค่ายิ่งกว่าหญ้าเพลิงเมฆาไปเลย? หรือที่นางพยายามดิ้นรนเพื่อหญ้าเพลิงเมฆาขนาดนี้ ทั้งหมดก็แค่ต้องการจะเอาชนะ? คิดได้ดังนั้น เฉียนอวิ๋งจึงเหลือบหางตามองเซียถงไปอีกปราดหนึ่ง ชูสี่นิ้วเสนอขึ้นว่า
“สี่พันเหรียญทอง!”