ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 191 ฤทธิ์ของหญ้าเพลิงเมฆาที่ผิดแผก (1)
ตอนที่191 ฤทธิ์ของหญ้าเพลิงเมฆาที่ผิดแผก (1)
“ขอบพระคุณมาก! ขอบพระคุณอย่างยิ่ง!”
เถ้าแก่อ้วนคนนั้นรีบยื่นตั๋วเงินส่งให้เซียถงด้วยความเคารพ ถึงแม้เขาจะพอคาดเดาได้ว่า เซียถงจะต้องทำอะไรบางอย่างในระหว่างที่หยิบตั๋วเงินขึ้นมาจ่ายให้ตน แต่ตัวเขาเองกลับมองไม่ทันหรือจับสังเกตได้เลยสักนิด สุดท้ายนี้จึงไม่สามารถเอาผิดกับนางได้เลย ถึงแม้จะรู้สึกไม่เต็มใจเพียงใดก็ตาม
ใครก็ตามที่มีความโลภเกินไป ไม่เพียงแต่จะไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลย แต่ยังอาจจะเสียสิ่งของๆ ตนไปด้วย เฉกเช่นหญ้าเพลิงเมฆาต้นสุดท้ายต้นนี้
เซียถงรับตั๋วเงินใบนั้นคืนมาและยื่นให้อิ๋งเอ๋อร์ที่กำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า หลังจากนั้นไม่นานเถ้าแก่อ้วนก็เดินจากออกไป อิ๋งเอ๋อร์เหม่อมองอยู่นาน และหันมากล่าวกับเซียถงด้วยความรู้สึกชื่นชมจากใจ
“คุณหนู! ท่านช่างสุดยอด!”
“เช่นนั้นก็จำเอาไว้ด้วย หากครั้งใดที่คุณหนูของเจ้าหยิบใช้เหรียญทองในอนาคต ก็อย่าได้ทำหน้าทำตาไม่พอใจกัน เพราะทุกครั้งที่เคลื่อนไหว คุณหนูของเจ้ามีแผนการรองรับอยู่เสมอ”
เซียถงถือโอกาสนี้สอนสั่งสาวรับใช้ของตนไปในตัว
“เจ้าค่ะ!”
อิ๋งเอ๋อร์พยักหน้ารับคำและเก็บตั๋วเงินไว้ในกระเป๋าดังเดิมอย่างระมัดระวัง นางสาบานกับตัวเองในใจแล้วว่า หากครั้งต่อไปคุณหนูของตนใช้เงินใช้ทองจับจ่ายซื้อของ นางจะไม่ปั้นหน้าบูดบึ้งหรือรู้สึกทุกข์ใจใดๆ อีกแล้ว เพราะเหรียญทองเหล่านั้นจะย้อนกลับมาหาคุณหนูเองในภายหลัง
เซียถงยิ้มแย้มพยักหน้าตอบกลับ และหมุนตัวพาอิ๋งเอ๋อร์เดืนทางไปยังจวนเสนาเซี่ยเป็นจุดหมายต่อไป แต่เพิ่งย่างเท้าออกไปได้ไม่กี่ก้าว นางก็พลันได้ยินสุ้มเสียงตะโกนมาจากด้านหลังว่า
“คุณหนูหยุดก่อน”
เซียถงเหลียวหน้าหันมามอง แลเห็นว่าเป็นเฉียนอวิ๋ง องค์รัชทายาทแห่งจักรวรรดิตะวันตกที่กำลังยืนยิ้มส่งมอบมาให้ นางเลิกคิ้วเผยแววความสงสัยออกมาหนึ่งส่วน เป้าหมายของอีกฝ่ายที่มาหาคงเป็นเพราะหญ้าเพลิงเมฆาไม่ผิดแน่
คล้อยหลังยืนมองหน้ากันสักพัก ก็เป็นฝ่ายเฉียนอวิ๋งที่เอ่ยถามขึ้นก่อนว่า
“สงสัยว่า ต้องทำอย่างไรคุณหนูถึงจะยอมมอบหญ้าเพลิงเมฆา?”
“เกรงว่าไม่มี ขอลา!”
สิ้นเสียงตอบ เซียถงหันหลังและเดินจากไปทันที หากให้ลองคาดการณ์สาเหตุที่เฉียนอวิ๋งต้องการหญ้าเพลิงเมฆา น่าจะเป็นเพราะสัปดาห์ก่อน ไป๋หลี่อวี๋อิงถูกนางโยนไปนอนกลิ้งเกลือกอยู่บนกองถ่านหินร้อนระอุ ชายคนนี้จึงตระเวนไปทั่วทุกหนแห่งในเมืองเฟิงหลี่เพื่อเสาะหาหญ้าเพลิงเมฆามารักษาไป๋หลี่อวี๋อิง และทั้งหมดก็ทำไปเพื่อที่เขาจะได้มีบุญคุณน้ำใจมากพอสำหรับขอโอสถดีๆ จากนาง
หากเป็นคนอื่นที่ต้องการหญ้าเพลิงเมฆา เซียถงไม่คิดที่จะเผชิญหน้ากับเฉียนอวิ๋งถึงขั้นนี้ แต่สำหรับไป๋หลี่อวี๋อิงแล้ว ไม่ว่ายังไง นางก็ไม่มีวันมอบสมุนไพรต้นนี้ให้เด็ดขาด ต่อให้ต้องโยนทิ้งถังขยะ มันก็ยังดีกว่าตกถึงมือของไป๋หลี่อวี๋อิง
“คุณหนู เราคนนี้ต้องการหญ้าเพลิงเมฆาเป็นการเร่งด่วนจริงๆ เช่นนั้นแล้ว…เรายินดีแลกกับกระบี่คู่กาย!”
พอเห็นว่าเซียถงกำลังเดินจากออกไปแล้ว เฉียนอวิ๋งเริ่มปั้นหน้าเป็นกังวลหนักและรีบตะโกนร้องเรียกออกไป
กระบี่? ครั้งล่าสุดเซียถงเพิ่งทำกระบี่สุดรักสุดห่วงของเซี่ยหลู่เฟิงหักไป ซึ่งตลอดที่ผ่านมา นางก็พพยายามครุ่นคิดหาทางนำกระบี่ดีๆ สักเล่มกลับคืนตลอด ดังนั้นแล้ว พอได้ยินข้อเสนอนี้หลุดจากปากของเฉียนอวิ๋ง นางก็อดชะงักฝีเท้ามิได้ และหันมากล่าวน้ำเสียงเรียบว่า
“กระบี่อะไร? ให้ข้าตรวจสอบดูก่อน”
เฉียนอวิ๋งพยักหน้าและคว้ากระบี่เล่มยาวจากเอวของซือโม่ออกมาโดยตรง พร้อมส่งมอบให้แก่เซียถง
“กระบี่เล่มนี้ทำมาจากเหล็กไหลเย็นคุณภาพสูง หากนำหญ้าเพลิงเมฆามาใช้แลกเปลี่ยน นับว่าคุณหนูกำไรแล้ว”
ทว่าในเวลาเดียวกัน ซือโม่ถึงกับหน้าถอดสีซีด พลางกดสายตาจับจ้องกระบี่ของตนที่ถูกส่งมอบให้แก่เซียถงเขม็ง คงไม่มีปัญหาอันใดหรอก หากนายท่านของเขาต้องการจะแลกเปลี่ยนสิ่งของกับหญ้าเพลิงเมฆา แต่ไฉน…ถึงต้องเป็นกระบี่คู่กายของเขาด้วย? พอเห็นเซียถงหยิบกระบี่เล่มนั้นขึ้นมาแช่มมอง เขาก็ใจเต้นแรงเกินควบคุม
เซียถงชักคมกระบี่ออกจากฝักและวาดเหวี่ยงเบาๆ ไปมา แรงเสียดอากาศไอเย็นยะเยือกแผดซ่าน ปะทะเข้ากับใบหน้าของนางทันที ใบกระบี่เผยคมสีฟ้าอ่อนส่องสะท้อนแวววับ เนื้อเรียบเนียนเป็นหนึ่งเดียวกัน และนี่คือกระบี่คุณภาพสูงเล่มหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย และอาจจะเหนือกว่ากระบี่เล่มที่เซี่ยหลู่เฟิงเคยมอบให้ตนด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างไร เซียถงก็ไม่เต็มใจที่จะมอบหญ้าเพลิงเมฆาให้ไป๋หลี่อวี๋อิงใช้รักษาอยู่ดี
เคลื่อนสายตามองกระบี่เล่มยาวในมือ พลางครุ่นคิดอยู่สักครู่หนึ่ง
‘ชวิ้ง’ เสียงสอดเสียบคมกระบี่เก็บเข้าฝักดังขึ้น เซียถงกล่าวกับเฉียนอวิ๋งขึ้นว่า
“หากต้องการหญ้าเพลิงเมฆาจริงๆ เช่นนั้นท่านรออยู้ตรงนี้ก่อนสักครึ่งชั่วยาม”
“เพราะเหตุใดรึ?”
เขาเอ่ยถามเซียถงกลับไปทันทมีเจือแววสงสัย
“ข้ามีธุระเร่งด่วนที่ต้องทำไปก่อน และข้ายังไม่ทันได้ทดสอบกระบี่เล่มนี้เลยว่าดีพอหรือไม่ จึงขอตัวก่อนสักครึ่งชั่วยาม หากรอได้ก็จงรอ หากรอมิได้ข้าเองก็ไม่บังคับ”
กล่าวจบ เซียถงโยนกระบี่เล่มนั้นคืนให้แก่เฉียนอวิ๋ง และหมุนตัวเดินจากออกไป
“ตกลง! ข้าจะรอเจ้าที่นี่ครึ่งชั่วยาม!”
เฉียนอวิ๋งตะโกนไล่หลังตอบกลับไป น้ำเสียงฟังแล้วติดเศร้าเล็กน้อย
“นายท่าน กระบี่เล่มนั้นเป็นของข้านะ!”
ซือโม่หันไปจับจ้องเฉียนอวิ๋งด้วยสีหน้าแสนเศร้าสร้อย
เฉียนอวิ๋งเหลือบสายตามองกระบี่แวบหนึ่ง แสดงสีหน้าอย่างรู้ทันก่อนระบายยิ้มสุดเจ้าเล่ห์กล่าวตอบไปว่า
“เอาน่า ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวข้าจะเสาะหากระบี่ดีๆ ให้เจ้าใหม่เอง”
“แต่นายท่าน เดินทางมายังตงหลี่ครั้งนี้ พวกเราหอบเครื่องบรรณาการมาตั้งมากมาย กับแค่หญ้าเพลิงเมฆาต้นเดียวคงไม่เป็นอะไรกระมัง?”
“ฝ่าบาทแห่งตงหลี่ มิได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องฝีมือการหลอมกลั่นโอสถของไป๋หลี่อวี๋อิงเลยสักนิด นั่นหมายความว่า อีกฝ่ายไม่ต้องการแนะนำนางให้แก่พวกเราได้รู้จัก หรือก็คือไม่ชอบเครื่องบรรณาการที่เราส่งมาให้ แต่ตอนนี้ฟ้ามีตาสวรรค์เข้าข้างเราแล้ว บังเอิญเหลือเกินว่า ไป๋หลี่อวี๋อิงได้รับบาดเจ็บจากแผลไฟไหม้รุนแรง หากเราฉวยโอกาสนี้นำหญ้าเพลิงเมฆาไปมอบให้ นางจะต้องดีใจแน่นอน และฝ่าบาทแห่งตงหลี่ก็จะมีความสุขตามไปด้วย ถึงตอนนั้นเป้าหมายของพวกเราก็จะกลายเป็นจริง!”
เฉียนอวิ๋งกล่าวอธิบาย
ซือโม่ปิดปากเงียบยืนฟังอยู่แบบนั้น และถึงแม้จะเข้าใจแต่กลับอดเศร้าเสียใจมิได้อยู่ดี
“เจ้าลองคิดดู หากไป๋หลี่อวี๋อิงได้หญ้าเพลิงเมฆากลับไปรักษา นางก็จะมีความสุข และเราจะได้มีโอกาสร้องขอโอสถที่ต้องการมาได้ หังจากกลับไป เสด็จพ่อของข้าย่อมต้องประทานรางวัลแก่เจ้ามากมาย และแต่ละอย่างล้วนดีกว่ากระบี่ทั้งสิ้น”
พินิจจากพฤติกรรมการจับจ่ายซื้อของ เซียถงน่าจะมีเงินทองค่อนข้างมากพอตัว ดังนั้นสิ่งที่นางต้องการอาจมิใช่เรื่องพวกนี้อีกต่อไป ดังนั้นเฉียนอวิ๋งจึงลองเสนอกระบี่ของซือโม่ไป และผลลัพธ์ที่ได้ก็ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี
เซียถงรีบเดินทางกลับมาที่จวนเสนาบดีเซี่ยโดยไวพร้อมกับหญ้าเพลิงเมฆาในมือ ตรงดิ่งกลับมายังเรือนพักของตน และขอให้อิ๋งเอ๋อร์ไปเตรียมน้ำในอ่างให้เต็ม จากนั้นก็หยิบสมุนไพรสีน้ำตาลเข้มมาสองชนิด แล้วนำมาแช่ในอ่างน้ำควบคู่ไปกับหญ้าเพลิงเมฆา
“คุณหนู กำลังทำอะไรอยู่รึเจ้าค่ะ?”
อิ๋งเอ๋อร์เอ่ยถามเจือสีหน้าแปลกใจ ยืนมองอยู่เคียงข้างไม่ห่างกาย
“มอบของขวัญดีๆ สักชิ้นให้ไป๋หลี่อวี๋อิง”
เซียถงแสยะยิ้มชั่วร้ายฉีกกว้าง แววแสงน่าสะพรึงจนผิดวิสัยฉายเจิดจรัสออกมาจากดวงตาคู่นั้นของนาง ตราบใดที่หญ้าเพลิงเมฆาถูกแช่รวมกับสมุนไพรสีน้ำตาลทั้งสองชนิดนี้เป็นเวลาครึ่งชั่วยาม จากสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการรักษาแผลไฟไหม้ มันจะกลายมาเป็นสมุนไพรที่ทำให้บาดแผลจากไฟไหม้แย่ลงทันที
“ปรากฏว่าที่คุณหนูพพยายามสู้เพื่อสมุนไพรต้นนี้ ทั้งหมดก็ใช้สำหรับแก้เผ็ดองค์หญิงอวี๋อิงนี่เอง! กล่าวตามสัตย์จริง โฉมหน้าของท่านงดงามเสียยิ่งกว่าองค์หญิงอวี๋อิงไม่รู้กี่สิบเท้า หากเมื่อใดที่ท่านได้เปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา ไม่ว่าใครต่อใครต่างต้องตื่นตะลึงอย่างยิ่งยวดแน่นอน! โดยเฉพาะกับชายสองคนนั้นในร้านสมุนไพร!!”
อิ๋งเอ๋อร์กล่าวขึ้นด้วยความหงุดหงิด ภายในใจของนางยังคงขุ่นเคืองซือโม่ ที่บังอาจสบประมาทคุณหนูของตนว่าอัปลักษณ์ไม่หาย!