ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 230 ทานข้าวในซ่อง
ตอนที่230 ทานข้าวในซ่อง
ตอนที่230 ทานข้าวในซ่อง
“จะ-เจ้า…เจ้าต้องการจะทำอะไรข้ากันแน่?”
หลิวซูเพ่งมองเซียถงสีหน้าหวาดหวั่น มือทั้งสองข้างกุมเสื้อคลุมสีแดงเพลิงของตนเองแน่นหนา สีหน้าแดงระเรื่อ กล่าวค้านเสียงแข็งราวกับกำลังโดนขื่นใจว่า
“ถึงแม้ข้าจะชอบดูเจ้าอาบน้ำเพียงใด แต่ก็มิเคยมีความคิดสกปรกร่วมเพศกับเจ้า! อย่าลืมไปเสีย ข้าเป็นจิตวิญญาณแห่งกระบี่ จะไม่ยอมให้เจ้าข่มขื่นเด็ดขาด!”
ถุย! ใครจะอยากข่มขืนไอ้เด็กแก่แดดนี่กัน?
“หลิวซู มาตรงนี้!”
เซียถงยกเรียวนิ้วยาวกวักเรียกอีกฝ่ายเบาๆ
“ไม่! ถึงแม้เจ้าจะเป็นเจ้านายของข้า แต่ก็หาใช่ว่าจะล่วงละเมิดกันได้เช่นนี้!”
หลิวซูส่ายหน้าอย่างแรง กล่าวตัดปฏิเสธเด็ดขาด ราวกับว่าต่อให้ต้องตาย เขาจะไม่มีวันเสียตัวให้สตรีนางนี้!
ทว่าชั่วอึดใจที่สิ้นเสียง เงาร่างของเซียถงพลันแปรสภาพลายเป็นประกายแสงสายหนึ่ง เสี้ยวพริบตาต่อมาก็ปรากฏกายต่อหน้าต่อตาหลิวซูเสียแล้ว นางยกบั้งมือตบใส่หลังคอของอีกฝ่ายโดยตรง
สิบนาทีต่อมาเห็นจะได้ เซียถงในเวลานี้อยู่ในชุดคลุมสีแดงเพลิง ล้างหน้าขจัดร่องรอยจุดด่างดำไปหมดสิ้น มัดผมเป็นทรงหางม้าสูงดูคล้ายคลึงบุรุษชายหน้าสวยคนหนึ่ง เดินตรงออกไปเข้าร่วมกับฝูงชนที่คับคลั่งท่ามกลางถนนมากสีสันแห่งย่านโคมแดง ปล่อยทิ้งให้หลิวซูนั่งปั้นหน้าบูดบึ้งพร้อมกับกองเสื้อผ้าผู้หญิงหย่อมหนึ่ง
หลิวซูสื่อจิตเปล่งเสียงดังลั่นผ่านห้วความคิดของเซียถง ดูเหมือนว่ามันจะหงุดหงิดอย่างมากในเวลานี้
“บัดซบ! เจ้าบังอาจขโมยเสื้อผ้าข้า! ขอให้สวรรค์ลงโทษในสักวัน!”
เซียถงหาได้สนใจไม่เลย เดินเข้าไปผสมปะปนกับธารฝูงชนที่กำลังท่องราตรี ทุกอากัปกิริยาช่างสง่างดงามประดุจชายหนุ่มหน้าหยก นัยน์ตาใสบริสุทธิ์เหนือราคี กลิ่นกายหอมหวนน่าหลงใหล ทั้งหล่อและสวยในเวลาเดียวกัน กระทั่งบุรุษชายด้วยกันยังต้องเหลียวมอง ทันทีที่นางเดินผ่านประตูหอสูงตระหง่านสามชั้นที่เต็มไปด้วยแสงสี ก็มีสาวน้อยหลายต่อหลายคนหันมาให้ความสนใจกันโดยพร้อมเพรียง แววตาของแต่ละนางสว่างไสวเป็นประกายขึ้นทันใด
“โอ้? คุณชายรูปงามผู้นี้มาจากแห่งหนใดกัน? ไยถึงหล่อเหลาได้ปานนี้? ไม่สิ…หากคุณชายท่านนี้เป็นหญิง เขาคงงดงามเสียยิ่งกว่านางโลมอันดับหนึ่งแห่งหอเทียนเซียงของเราเสียอีก!”
หญิงชรานางหนึ่งบิดเอวตรงเข้ามาทักทาย ทั่วใบหน้าประดับประดารอยยิ้ม กล่าวออกมาเช่นนั้นพลางยกมือทั้งสองคว้าจับแขนเสื้อของเซียถงเอาไว้
ประกายสายตาสาดสะท้อนวาบหนึ่ง เซียถงเบี่ยงตัวหลบเลี่ยงมือปลาไหลของแม่เล้าได้อย่างง่ายดาย ยื่นฝ่ามือเนียนนุ่มสีขาวผ่องขึ้นต่อหน้าต่อตาอีกฝ่าย และกล่าวว่า
“เตรียมอาหารดีๆ ให้ข้าสักชุด”
“ได้เลยเจ้าค่ะ!”
หญิงชราจับจ้องเหรียญทองจำนวนหนึ่งบนฝ่ามือของเซียถง ดวงตาเบะคว่ำเป็นทรงจันทร์ยิ้มอย่างสุขใจ รีบคว้าเหรียญทองเหล่านั้นดังหมับเก็บเข้ากระเป๋าโดยไว โบกสะบัดผ้าเช็ดหน้าอยู่หลายที ตะโกนไปหาบรรดาสาวๆ ที่อยู่ด้านหลังว่า
“สาวๆ มานี่! รีบมาต้อนรับคุณชายท่านนี้เร็ว!”
เซียถงขมวดคิ้วขึ้นทันใดเมื่อได้กลิ่นหอมจากตัวผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นที่เคลื่อนกระพือ ถึงกับสืบเท้าถอยหลังไปหลายก้าวอย่างอดมิได้
หญิงชรานางนั้นโบกผ้าเช็ดหน้าได้ไม่นาน เพียงพริบตาต่อมาก็มีสาวงามจำนวนสามคนในชุดแพรพรรณสีแดงเร่าร้อน ช่วงเอวค่อนข้างรัดรูปจนเผยให้เห็นทรวดทรงโค้งเว้าน่าค้นหา เดินบิดพลิ้วตรงเข้าหาปราศจากท่าทีเหนียมอาย ทันทีที่เห็นหน้าเซียถง พวกนางถึงกับรุมล้อมเข้าควงแขน นางทั้งสามคือนางโลมระดับแถวหน้าของสถานที่แห่งนี้ มีชื่อว่า ถิงถิง อิ๋งอิ๋ง และหยานหยาน
“คุณชายรูปงามมาเถอะ พวกเรามา…สนุกกันดีกว่าเจ้าค่ะ”
“แล้วคุณชายรูปงามท่านนี้มาจากแห่งหนใดรึเจ้าค่ะ? ไยพวกเราไม่เคยเห็นหน้าคราตากันมาก่อนเลย? หรือเพิ่งเคยมาที่เมืองซีเยว่เป็นครั้งแรก?”
“คุณชายสุดหล่อ มาเล่นกับพวกเราเถอะ!”
หญิงงามทั้งสามต่างคนต่างยือยุดฉุดกระชากเสื้อคลุมสีแดงเพลิงของเซียถงกันไปมา และจู่ๆ ก็เป็นอิ๋งอิ๋งกับหยานหยานที่เซถอยออกไป ยกมืกุมศีรษะราวกับเกิดอาการวิงเวียน พอเชยหน้าเงยขึ้นมาก็พลันสบปะทะกับสีหน้าอันเย็นยะเยือกของเซียถง เห็นเพียงเรียวนิ้วยาวสะบัดดีดออกไปอย่างลวกๆ สาวงามทั้งสามก็กระเด็นออกห่างจากร่างของเซียถงในพริบตา
พวกนางล้มระนาวนอนหมอบอยู่กับพื้นอย่างสิ้นท่า
สาวงามทั้งสามเบิกตาโตตื่นตกใจยิ่งยวด ยามสัมผัสได้ถึงรัศมีแรงกดดันขุมเย็นเยียบที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างของเซียถง พวกนางเร่งพยุงตัวขึ้นอย่างยากลำบาก จับจ้องอีกฝ่ายมีสีหน้าท่าทีกล้าๆ กลัวๆ กำผ้าเช็ดหน้าในมือแน่น เอ่ยเสียงวิตกกังวลถามขึ้นว่า
“คุณชายเป็นอะไรไปรึเจ้าค่ะ? ไม่พอใจพวกเราตรงไหน? หรือ…หรือต้องการจะเปลี่ยนคนก็ได้เจ้าค่ะ…”
“คุณชายท่านนี้มิทราบว่ามีปัญหาตรงไหนรึไหม?”
หญิงชราสืบเท้าก้าวเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว ยิ้มถามออกไป
“ข้าไม่ต้องการผู้หญิง แค่จัดห้องส่วนตัวกับอาหารดีๆ สักชุดก็เพียงพอแล้ว”
เซียถงกล่าวน้ำเสียงเรียบเย็น ปรายสายตามองนางโลมทั้งสาม สีหน้าท่าทางไม่อยากจะแยแสเท่าไหร่
“ท่าน…ท่านมาที่นี่เพียงเพื่อรับประทานอาหารรึเจ้าค่ะ?”
รอยยิ้มที่ประดับประดาบนใบหน้าของหญิงชราถึงกับแข็งค้าง ลอบมองเซียถงเจือแววฉงนสงสัยอยู่หลายส่วน คุณชายท่านนี้ป่วยจิตกระมัง? ถึงมารับประทานอาหารค่ำในหอนางโลม?
แต่…ประกายสายตาพราวไสวกลับมิทานต้านทานความเย้ายวนของเหรียญทองอีกจำนวนหนึ่งที่เซียถงหยิบออกมามิได้ หญิงชรากล่าวตอบพร้อมสีหน้ายิ้มแย้มในทันใด
“ได้เลยเจ้าค่ะ โปรดตามข้ามาทางนี้ อาหารของเราสามารถกินได้ตามต้องการ”
สิ้นเสียงเอวอรชรบิดพลิ้วเดินนำ นิ้วทั้งห้ากรีดกรายโบกสะบัดผ้าเช็ดหน้าในมืออีกหนึ่งครา พาเซียถงเดินขึ้นไปยังชั้นบน
ตราบเท่าที่ในตัวยังมีเงินมากพอ อย่าว่าแต่มาหาข้าวกินในซ่องเลย กระทั่งฆ่าใครสักคนหมดซ่องก็ยังไม่มีใครว่าสักคำ
เซียถงเดินตามหญิงชราที่เป็นแม่เล้านางนั้นขึ้นบันไดไป ทว่าทันทีทันใด พลันสัมผัสได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่กำลังจับจ้องมองมาจากทางไกล ปรายหางตาเหลือบแลไปปราดหนึ่ง ก็บังเอิญเห็นร่างอรชรในชุดสีเหลืองยืนอยู่ตรงทางเดินบนชั้นสอง เซียถงสัมผัสได้ว่า สายตาคู่ดังกล่าวหาได้เป็นปรปักษ์ใดๆ เช่นนั้นจึงไม่สนใจอันใดอีก และเดินตามแม่เล้าขึ้นสู่ชั้นที่สามต่อไป
ภายในห้องส่วนตัวของหอนางโลมเทียนเซียง เซียถงนั่งอยู่คนเดียวแค่ลำพัง โต๊ะเบื้องหน้าอัดแน่นไปด้วยอาหารจานหรูมากมาย เมื่อได้ลิ้มรสชาติเพียงเท่านั้น นางถึงกับตาลุกวาว รสมือของพ่อครัวในซ่องแห่งนี้ ไฉนถึงดีเลิศเสียยิ่งกว่าร้านอาหารมากชื่อเสียงภายนอกเหลือคนา!
เซียถงซัดอาหารและข้าวในชามอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน อย่างไรเสีย ค่ำคืนรัตติกาลมักเป็นไปด้วยสิ่งไม่รู้มิอาจเข้าใจ ดังนั้นแล้ว ทุกจานก่อนรับประทานเข้าปาก นางล้วนต้องพิสูจน์ดมกลิ่นโดยละเอียดถี่ถ้วนสักก่อนว่ามีพิษหรือไม่ และเมื่อทุกอย่างล้วนปกติดี นางจึงเริ่มสวาปามดุเดือด คิดไปคิดมา…ตั้งแต่ทะลุมิติมายังทวีปเทียนหลาง ก็ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้ลิ้มรสชาตอาหารจานอร่อยมาเนิ่นนานยิ่งแล้ว วันนี้ยังดีที่มีสักมื้อให้เยียวยาจิตใจ เช่นนั้นนางจึงไม่เกรงใจใดๆ
“ครืด…”
เสียงบานประตูเลื่อนถูกเปิดอย่างแช่มช้า ถึงแม้สุ้มเสียงจะเบามาก แต่ก็มิอาจรอดพ้นจากหูของเซียถงได้ เสี้ยวอึดใจนั้น นางวางตะเกียบในมือลงทันที หันศีรษะเหลียวมองสักครึ่งองศาได้ หางตาปรายเกี่ยวไปทางบานประตูที่อยู่ด้านนอก
แลเห็นบานประตูถูกใครบางคนเลื่อนเปิดออกจริงๆ เงาร่างอรชรงดงามค่อยๆ ย่องเบาเข้ามาจากทางประตูเข้าใกล้ มีท่าทางพยายามจะชะโงกหน้ามามองบริเวณห้องรับแขกที่ซึ่งนางกำลังรับประทานอาหารอยู่
ทันทีที่อีกฝ่ายกำลังเยื้องย่างเข้ามา เซียถงก็หันขวับฟันศอกเข้าใส่ใบหน้าอันงดงามที่อยู่ด้านหลังอย่างเดือดดุ ไม่มีเก็บออมแรง ร่างอรชรสวยถึงกับหงายล้มคะมำลงกับพื้น ยกมือไม้ปิดป้องใบหน้า ร้องครวญเจ็บปวดสุดแสนอย่างอดมิได้ว่า
“อุ๊ย!!”
“ท่านนี่ช่างใจคอโหดเหี้ยมโดยแท้!”
คนที่ลอบเข้ามาในห้องรีบพยุงตัวลุกขึ้นทันใด จ้องหน้าเซียถงเขม็งด้วยความโกรธจัด