ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 232 สาวงามตามตื๊อ (2)
ตอนที่232 สาวงามตามตื๊อ (2)
ตอนที่232 สาวงามตามตื๊อ (2)
เลื่อนบานประตูเปิดออก ใบหน้าที่มีเครื่องแป้งประทินชั้นหนาของหญิงชราก็ปรากฏขึ้นสู่สายตา ยิ้มกล่าวขึ้นว่า
“ทางเรามีบริการผลไม้หวานเย็นหลังมื้ออาหารมาให้เจ้าค่ะ”
กล่าวจบ ก็มีสาวรับใช้ร่างน้อยสองคนเดินผ่านออกมาจากด้านหลังหญิงชรา ในมือถือจานผลไม้แกะสลักฝีมือประณีตหรูหราตรงเข้ามาวางบนโต๊ะ
ทันทีที่เห็นหญิงชรานางนี้ปรากฏตัว สีหน้ายิ้มแย้มของเยว่อวี๋ก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองโดยพลัน ร่องรอยความกลัวที่เกินจะปกปิดเผยแสดงผ่านสีหน้าท่าทางชัดเจน
นำอาหารเข้ามาคงเป็นการจัดฉาก อันที่จริงเพราะต้องการเรียกคนนี่เอง! เซียถงกระตุกยิ้มเชิดมุมปากไปทีหนึ่ง เมื่อได้เห็นสีหน้าการแสดงออกที่ผันเปลี่ยนไปของเยว่อวี๋
“อ่ะอ้าว… เยว่อวี๋ ไยเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ? รีบตามข้าออกมาได้แล้ว คุณชายหลินกำลังรอ…”
หญิงชราก้าวย่างไปใกล้สองก้าว เยว่อวี๋รีบถอยหลังทิ้งห่างทันทีสองก้าวเช่นกัน หญิงชรากำลังจะปริปากกล่าวอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้นก็พึงนึกขึ้นได้ว่ามีแขกคนอื่นอยู่ เหลือบสายตามองเซียถงเล็กน้อย เอ่ยน้ำเสียงนุ่มนวลต่อว่า
“คุณชายหลินมาถึงที่นี่แล้ว เจ้าควรรีบออกไปต้อนรับ เขารออยู่ในห้องประจำสักพักใหญ่แล้ว”
“แต่…แต่ข้ายังต้องบริการคุณชายท่านนี้ต่อ…”
เยว่อวี๋เหลือบสายตามองไปทางเซียถง ดวงตาสั่นไสวรวนเร กล่าวขึ้นอ้างอีกฝ่ายทันที
ชัดเจนพอแล้ว หญิงสาวคนนี้กำลังฉุดดึงตัวนางลงบ่อโคลนไปด้วยกัน
“เอ่อ…”
หญิงชราหันศีรษะจับจ้องไปทางเซียถง คล้ายต้องการจะกล่าวอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่ ดูมีท่าทางค่อนข้างอึดอัดใจ
ในท้ายที่สุด หางจิ้งจอกก็โผล่ออกมาให้เห็น ปรากฏว่า เยว่อวี๋กำลังใช้ตัวเซียถงเป็นโล่กำบัง เพื่อจะได้ไม่ต้องไปรับแขกคนอื่น พยายามทำทุกวิถีทางหวังให้ตนเองดูเหมือนว่ากำลังยุ่ง ทราบถึงจุดประสงค์ดังกล่าว นางก็หันไปจับจ้องเยว่อวี๋ด้วยสายตาไม่แยแสใดๆ
“เมื่อครู่เยว่อวี๋ร่ายระบำเป็นอย่างไรบ้างเจ้าค่ะ? หากท่านชื่นชอบ จะให้บ่าวแสดงต่อก็ได้นะเจ้าค่ะ”
เยว่อวี๋จ้องหน้าเซียถงไม่มีคลายอ่อน ดวงตาคู่สวยของนางส่องประกายสว่างไสว อัดแน่นไปด้วยแววความขอร้องเห็นใจ
“ไม่จำเป็น”
ทว่าเซียถงกลับสะบั้นความหวังสุดท้ายของนางทิ้งอย่างไม่ไยดี กล่าวปฏิเสธสวนตอบอย่างไม่แยแสใดๆ
ประโยคคำกล่าวนี้ของเซียถงเสมือนคมมีดแหลมที่ปักทะลุขั้วหัวใจของเยว่อวี๋ในพริบตา สีหน้าถึงกับขาวซีดยิ่งกว่าแผ่นกระดาษบาง คู่เข่าอ่อนนุ่ม ร่างทั้งร่างทรุดฮวบลงกับพื้น ดวงตากลมโตงดงามยังคงเหม่อค้างอยู่ที่ใบหน้าของเซียถง
“เยว่อวี๋ รีบไปเถอะ คุณชายท่านนี้มิได้ต้องการเจ้ามาดูแล เพียงต้องการนั่งทานอาหารเงียบๆ เท่านั้น ส่วนเจ้าก็รีบไปหาคุณชายหลินได้แล้ว หากอีกฝ่ายเกิดหมดความอดทนขึ้นมา เจ้าไม่ตายดีแน่!”
หญิงชราคว้าแขนเยว่อวี๋ขึ้นมาพยายามฉุดลากขึ้นจากพื้น
“นายหญิง ข้าไม่อยากไปรับแขกคุณชายหลินอีกต่อไปแล้ว ท่านเองก็ตกลงกับข้าแล้วมิใช่รึ? ไยตอนนี้ถึงกลับคำกัน?”
ชั่วครู่ต่อมา น้ำไหลสองสายก็ไหลอาบแก้ม ใครได้เห็นต่างต้องรู้สึกเห็นอกเห็นใจสงสารทั้งสิ้น
“เยว่อวี๋ คุณชายหลินเดินทางมาในคราวนี้ก็เพราะอยากฟังเจ้าบรรเลงพิณเจ็ดสายเสียเท่านั้น หาได้มีความหมายอื่นใดแอบแฝง รีบไปก่อนจะเกิดเรื่องเถิด ทั้งหมดก็เพื่อเจ้าทั้งนั้น”
กล่าวจบ หญิงชราก็ออกแรงฉุดลากเยว่อวี๋ออกไปทางประตู แต่เนื่องด้วยเยว่อวี๋ยังสาวและมีพละกำลังแข็งแรงกว่า จึงพยายามขัดขืนไม่ยอมลุกไปไหนทั้งสิ้น หลังจากยื้อยุดฉุดกระชากกันได้สักครู่ ก็มีสาวรับใช้ร่างน้อยสองคนนั้นที่เข้าช่วยหญิงชราอีกแรง
ด้วยความช่วยเหลือจากสาวรับใช้ทั้งสอง เยว่อวี๋ก็ถูกลากออกไปจากห้องอย่างง่ายดาย ปล่อยให้เซียถงนั่งจิบชาอย่างสบายอารมณ์ ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนใดๆ
“นายหญิง คุณชายหลินคนนี้พยายมลวนลามข้าก็หลายครั้งแล้ว หาใช่ว่าท่านเองก็มิทราบ แต่ก็ยังบังคับให้ข้าต้องไปรับแขกดูแลอีกฝ่าย!”
ชั่วอึดใจสุดท้ายก่อนที่ทั้งตัวจะถูกลากออกจากห้อง เยว่อวี๋รีบเอื้อมสองมือไปคว้าจับบานประตูไว้อย่างเหนียวแน่น ราวกับสิ่งนี้เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่จะช่วยเหลือตนให้ปลอดภัยได้
หญิงชรายิ้มเยาะ ยกมือเท้าสะเอวกล่าวกับเยว่อวี๋ว่า
“เยว่อวี๋ ตั้งแต่ที่เจ้าเข้ามาในหอนางโลม ก็ควรเตรียมตัวเตรียมใจให้ดีแล้ว ตลอดที่ผ่านมา ก็มิใช่ว่าข้าจะไม่ช่วยเหลืออะไรเจ้า ข้าปกป้องเจ้ามาหลายครั้งแล้ว และนี่ก็ถึงเวลาที่ต้องตอบแทนข้าเสียที”
“นายหญิง! จะเฆี่ยนใช้ข้าเยี่ยงหมูเยี่ยงม้าก็ยังได้ แต่ได้โปรดคงรักษาพรหมจรรย์ของข้าด้วย!”
มือทั้งสองที่กุมเกาะบานประตูไว้แน่นหนา ถูกสาวรับใช้ตัวน้อยทั้งสองแกะจนหลุดในท้ายที่สุด นิ้วทั้งสิบขูดลากไปตามพื้นไม้เสียงดังแกรก เยว่อวี๋ถึงหญิงชราลากขาออกไปด้วยสภาพที่น่าสังเวชมาก
“เยว่อวี๋ คืนนี้ข้าช่วยเจ้าไม่ได้อีกแล้ว คุณชายหลินจ่ายเงินให้ข้ามากถึงหนึ่งหมื่นเหรียญทอง ไม่ว่าวันนี้เจ้าจะเต็มใจหรือไม่ สุดท้ายกลับไม่อาจหนีพ้น!”
หญิงชรากล่าว
“นายหญิง! ได้โปรด! ปล่อยข้าไปเถอะได้โปรด!”
เยว่อวี๋พยายามยกมือปีนป่ายตะเกียกตะกายสุดชีวิตทั้งน้ำตา
“เยว่อวี๋ นี่ก็เพื่องประโยชน์ของตัวเจ้าทั้งนั้น ลองคิดดูสิ หากได้ออกเรือนกับคุณชายหลิน ชั่วชีวิตนี้เจ้าจะไม่ต้องกังวลเรื่องที่ซุกหัวนอน อาหารหรือเสื้อผ้าใดๆ อีกเลย ต้องการผลาญเงินทองเท่าไหร่ก็ได้ตามต้องการ”
หญิงชรายกมือขึ้นลูบผมเยว่อว็พยายามเกลี้ยกล่อม ถึงแม้น้ำเสียงจะฟังดูอ่อนโยนเพียงใด ทว่าสายตาคู่นั้นกลับเปี่ยมแววชั่วร้าย พยักหน้าส่งสัญญาณให้สาวรับใช้ตัวน้อยทั้งสองพานางออกไปจากตรงนี้เสียที
“คุณชาย! ได้โปรดช่วยข้าด้วย!”
เยว่อวี๋ปราศจากทางเลือกอื่นใดอีกต่อไป ตะโกนสุดเสียงใส่เซียถงทั้งน้ำตาที่ยังคลอเบ้า แต่เมื่อเผชิญพบกับสายตาอันไม่แยแสสนใจของเซียถง นางถึงกับสิ้นหวังลงทันที ใบหน้าหม่นทมิฬมืดขรึม ปล่อยให้สาวรับใช้ตัวน้อยทั้งสองพาตัวออกไป
“คุณชายเจ้าค่ะ ทางเราต้องขอโทษอย่างสุดซึ้งที่รบกวน ผลไม้จานนี้ถือเป็นสิ่งชดเชยความผิด ท่านไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพิ่มแต่ประกายใด”
หญิงชราหันมากล่าวกับเซียถงอีกครั้ง เสมือนร่ายมนตร์ก็มิปาน จากสีหน้าที่เปี่ยมความชั่วร้าย ยามนี้กลับมายิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร
เห็นเซียถงยังคงไม่มีปฏิกิริยาสนใจใดๆ หญิงชราก็รีบโค้งคำนับอีกครั้งและเตรียมเดินจากประตูออกไป แต่เพียงครึ่งก้าวที่เพิ่งเยื้องย่าง สุ้มเสียงเย็นยะเยือกก็แผดดังจากด้านหลังว่า
“ข้าต้องการให้เยว่อวี๋อยู่กับข้าในค่ำคืนนี้ สองหมื่นเหรียญทองเพียงพอหรือไม่?”
หญิงชราตะลึงงันไปชั่วขณะ เท้าขวาที่เยื้องย่างข้ามฟากประตูออกไปแล้วถึงกับแข็งค้าง หันศีรษะขวับไปทางเซียถง สาวรับใช้ตัวน้อยทั้งสองก็ตกใจไม่ต่าง ยิ่งเป็นเยว่อวี๋ถึงขั้นอ้าปากค้างไม่หุบ และเป็นนางเช่นกันที่ได้สติตื่นขึ้นจากภวังค์ความตกใจ รีบกล่าวกับหญิงชราขึ้นทันทีว่า
“นายหญิง คุณชายท่านนี้เสนอราคาตั้งสองหมื่นเหรียญทอง! เช่นนั้นท่านก็ควบเก็บข้าให้แก่เขา!”
“นี่เป็นตั๋วเงินจำนวนสองหมื่นเหรียญทอง สามารถนำไปขึ้นเงินได้ตลอด”
เซียถงหยินตั๋วเงินใบหนึ่งจากใต้แขนเสื้อตน โบกเล่นเล็กน้อยต่อหน้าหญิงชรา ภายในใจพลางคิดกับตัวเองไปว่า คิดถูกต้องจริงๆ ที่แอบจิ๊กตั๋วเงินมาจากอิ๋งเอ๋อร์ก่อนออกเดินทาง
หญิงชรารีบวิ่งมาดูตั๋วเงินในมือเซียถง ดวงตาเป็นประกายสว่างไสวขึ้นทันใด โค้งศีรษะประคองสองมือรับไว้อย่างสุภาพ ยิ่งเห็นตัวเลขบนตั๋วเงินใบนั้น ก็ถึงกับยิ้มกริ่มออกมาทันที