ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 233 ปะทะหลินเยวี่ยน (1)
ตอนที่233 ปะทะหลินเยวี่ยน (1)
ตอนที่233 ปะทะหลินเยวี่ยน (1)
“พวกเจ้ายังไม่วางเยว่อวี๋ลงอีกงั้นรึ?”
สาดสายตาคู่เย็นชาเข้าใส่ เซียถงจ้องเขม็งไปที่สาวรับใช้ตัวน้อยทั้งสองที่กำลังจับตัวเยว่อวี๋เอาไว้ มิทราบเพราะเหตุใด พวกนางทั้งคู่จู่ๆ รู้สึกเสียวสันหลังวาบ รีบคล้ายมือปล่อยเยว่อวี๋ทันทีด้วยความกลัว
“ไม่สิ ไม่ได้… ข้า…ข้ารับเงินของหลินเยวี่ยนมาแล้ว…”
หญิงชราตบต้นขาดังฉะใหญ่ บ่นพึมพำกับตัวเอง สีหน้าท่าทางดูเสียอกเสียใจอย่างยิ่ง ก่อนวางตั๋วเงินใบนั้นลงบนโต๊ะทานข้าว กล่าวกับเซียถงต่อว่า
“คุณชายเจ้าค่ะ ทางเราต้องขออภัยอย่างสุดซึ้ง เนื่องด้วยตัวบ่าวเก็บเงินกับหลินเยวี่ยนมาแล้ว ก็เท่ากับเป็นการจองตัวเยว่อวี๋ในคืนนี้ หากไม่ว่าอะไร…ทางเรายินดีต้อนรับคุณชายในวันพรุ่งนี้พร้อมบัตรกำนัลส่วนลดหนึ่งครึ่ง หากท่านสนใจสามารถวางเงินกับเราได้เลยจำนวนหนึ่งหมื่นเหรียญทอง…”
เซียถงมิได้ปริปากตอบใดๆ ทั้งสิ้น จ้องหน้าอีกฝ่ายตาเขม็งเย็นชา จนหญิงชรารู้สึกราวกับว่าตนกำลังถูกขังอยู่ในคุกน้ำแข็งรึเปล่าก็มิทราบ สักครู่ต่อมา เนื้อตัวถึงกับสั่นทิ่มไม่หยุดด้วยความหวั่นเกรง
“นะ-นายท่าน…พรุ่งนี้…พรุ่งนี้ท่านสามารถกินดื่มเคร้านารีได้เต็มที่ในราคาห้าร้อยเหรียญทองเท่านั้น!”
หญิงชรากล่าวเสียงตะกุกตะกักแทบไม่เป็นภาษาแล้ว อย่างไรเสีย ถึงแม้นางจะรู้สึกว่า คุณชายที่อยู่ต่อหน้าในขณะนี้น่ากลัวปานใด แต่เมื่อนึกถึงหลินเยวี่ยนคนนั้น นางกลับรู้สึกหวาดผวาสั่นกลัวยิ่งกว่า
ใบหน้าซีดขาวของหญิงชราค่อยๆ เลื่อนหันไปมองสาวรับใช้ตัวน้อยทั้งสอง พยักหน้างึกงักด้วยความสั่นกลัว เป็นสัญญาณให้พวกนางรีบพาตัวเยว่อวี๋ออกไปโดยเร็ว
“คุณชาย! ช่วยข้าด้วย!!”
เยว่อวี๋ดิ้นรนสุดกำลัง เปล่งเสียงลั่นตะโกนไปทางเซียถง
“ตั๋วเงินของข้า ในเมื่อเจ้าเอาไปแล้ว กลับไม่มีที่ว่างให้ส่งคืน”
หนึ่งเสียงแผดดัง หนึ่งรัศมีแรงกดดันขุมยักษ์เข้าทับถมร่างของหญิงชราหนาแน่น
ทันทีที่สัมผัสได้ถึงรัศมีแรงกดดันสุดน่าสะเทือนขวัญจากตัวเซียถง หนังศีรษะของหญิงชราก็ถึงกับลุกซู่วชูชัน รอยยิ้มที่ประดับประดาฉาบใบหน้าแข็งทื่อเป็นรูปปั้นหิน
“คะ-คุณชาย ท่าน…ท่านจะทำอะไรเจ้าค่ะ…”
เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น ตั้งแต่เมื่อใดไม่ทราบ แต่พอหญิงชรารู้ตัวอีกทีก็มีคมมีดสั้นจ่ออยู่ที่คอหอยของตนเสียแล้ว
“ข้าต้องการหญิงนางนี้”
ปลายคิ้วเลิกขึ้นเล็กน้อย สีหน้าอารมณ์บนใบหน้าของเซียถงกลับแสดงถึงความไม่แยแสใดๆ ทั้งยังกวาดสายตาจับจ้องไปทางสาวรับใช้ตัวน้อยทั้งสองที่กำลังลากตัวเยว่อวี๋ออกไป เมื่อรู้สึกถึงสายตาคู่เย็นเยียบที่จ้องเขม็งเข้าใส่ พวกนางถึงกับหยุดทุกการเคลื่อนไหว แม้แต่หายใจยังแทบไม่กล้า
“คะ-คุณชาย หาใช่ว่าบ่าวมิอยากบริการท่าน ตะ-แต่…แต่หลินเยวี่ยนผู้นั้นกลับยากที่จะ…”
หญิงชรายืนตัวแข็งทื่อไม่กล้าขยับเขยื้อนใดๆ หยาดเหงื่อเย็นเปียกชุ่มไปทั่วหน้าผาก ริมฝีปากสั่นทิ่ม กล่าวไปได้ครึ่งทางกลับรู้สึกกลัวจัดจนพูดไม่ออก คมมีดลุจ่อที่คอหอยค่อยเคลื่อนตัวปักจมลงไปเบาบาง ธารเลือดสายน้อยไหลซิบออกมา
“ข้าว่า เจ้ารับตั๋วเงินใบนี้แล้วไปใช้ชีวิตหลังเกษียณให้มีความสุขเสีย หรือคิดจะตายในหน้าที่ล่ะ?”
ทุกพยางค์คำกล่าวล้วนถูกสะกดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบเยือกแข็ง ดั่งก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ยักษ์ที่หลุดออกจากปากของเซียถง ถาโถมถล่มกดทับลงบนหัวใจของหญิงชรา ไอเย็นแทรกซึม แช่แข็งเลือดเนื้อของนางทีละเล็กทีละน้อย
“ตะ-แต่…หลินเยวี่ยนคนนั้นกลับรับมือได้ยากยิ่ง หะ-หาก…หากคืนนี้มิใช่หลินเยวี่ยที่มา ข้าคงยกนางให้กับท่านไปนานแล้ว!”
หญิงชราส่งสายตาน่าสงสารให้เซียถงราวกับกำลังขอความเห็นใจสารกันบ้าง
“นั่นเป็นเรื่องของเจ้า ส่วนตัวข้านั้นได้ตัดสินใจแล้ว คืนนี้ต้องมีเยว่อวี๋เคียงกายเท่านั้น!”
ใบหน้าฉาบรังสีเลือดเย็นดูน่าสะพรึงขวัญสุดขีด เซียถงในยามนี้ได้แผดไอเย็นยะเยือกออกมาจากร่าง อุณหภูมิโดยรอบบริเวณลดฮวบต่ำลงในพริบตา เสมือนแช่แข็งร่างของหญิงชราจับขั้วกระดูกดำ ได้เห็นแววตาเย็นยะเยือกคู่นั้นของคุณชายตรงหน้า นางเชื่อสนิทใจเลยว่า อีกฝ่ายไม่ลังเลแน่นอนหากต้องการลงมีดตัดคอกันจริงๆ
“เยว่อวี๋…เป็นของข้าคนเดียวเท่านั้น!”
น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่เด็ดขาดสุดแสนเปล่งดัง เซียถงเคลื่อนคมมีดบาดลึกเข้าคอหอยอีกฝ่ายอย่างช้าๆ ซึ่งครั้งนี้หากหญิงชราตัดสินใจช้าคือ ตาย!
“ยะ-อยู่…อยู่ต่อ! อยู่ต่อเจ้าค่ะ! เยว่อวี๋อยู่กับท่านต่อเจ้าค่ะ!!”
หญิงชราร้องอุทานลั่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แป้งประทินผิวชั้นหนาบังเกิดรอยแตกระแหงร่วงหล่น นัยน์ตาที่ส่องสะท้อนออกมาเปี่ยมล้นไปด้วยแววความสยดสยอง อย่าว่าเพียงไม่กล้าขวับตัว กระทั่งหายใจยังไม่กล้า ขวัญเสียเหลือเกินว่า คมมีดนี้จะปาดฆ่ากันทิ้งกันจริงๆ หรือไม่
ได้ยินเช่นนั้น เยว่อวี๋สะบัดตัวอย่างแรง หลุดพ้นออกจากพันธนาการของสาวรับใช้ตัวน้อยทั้งสองออกมา สิ่งไปหลบหลังเซียถงโดยเร็ว
“ก็ดี เช่นนั้นก็เอาตั๋วเงินไปได้แล้ว”
เซียถงเก็บมีดสั้นลงดังเดิม เหลือบสายตาปราดมอง กล่าวกับหญิงชราวาจาหนึ่ง
“ดะ-ได้เจ้าค่ะ แต่บ่าวควรต้องอธิบายลักษณะนิสัยของหลินเยวี่ยนให้ท่านฟังก่อน เขาเป็นพวกอารมณ์รุนแรง สามารถฆ่าคนโดยไม่กะพริบตาด้วยซ้ำ…”
ทันทีที่เซียถงถอดถอนคมมีดออกจากคอหอย หญิงชราก็ถึงกับทรุดตัวลงกับพื้นทันที เร่งกล่าวอธิบายถึงชายที่ชื่อหลินเยวี่ยนให้ฟังโดยสังเขป
เซียถงไม่ค่อยอยากฟังเรื่องพวกนี้เท่าไหร่นัก ขมวดคิ้วจับจ้องหญิงชราเหนื่อยหอบบนพื้น สีหน้าแววตาปานจะฆ่าคน รู้สึกได้ถึงไอเย็นที่แผ่ซ่านออกจากร่างของเซียถง หญิงชรากับสาวรับใช้ตัวน้อยทั้งสองก็รีบเผ่นหนีจากประตูออกไป
หลังจากพวกนั้นออกไปแล้ว หญิงชราก็ไม่ลืมที่จะทิ้งท้ายกล่าวกับเซียถงด้วยความหวังดี
“คุณชาย โปรดจำเอาไว้ หากท่านต้องการจะอยู่กับเยว่อวี๋จริงๆ ตลอดค่ำคืนนี้ จงระวังหลินเยวี่ยนบุกเข้ามาสร้างปัญหา ในส่วนนั้นทางเรามิอาจรับผิดชอบความสูญเสียที่เกิดขึ้นได้!”
เซียถงเบี่ยงศีรษะหาได้สนใจหญิงชราอีกต่อไป ส่วนทางนั้นเองก็ไม่รีรอ วิ่งฝุ่นตลบหายวับไปจากหน้าประตูห้องอย่างไร้ร่องรอย
“ขอบพระคุณอย่างยิ่งที่คุณชายช่วยชีวิตบ่าวคนนี้”
ทันทีที่หญิงชราลาจากไป เยว่อวี๋ก็รีบคุกเข่าลงต่อหน้าเซียถงโดยไม่มีลังเล
“ร่ายรำต่อสิ”
เซียถงชำเลืองมองเย่วอวี๋เล็กน้อย ก่อนจะกลับไปนั่งที่โต๊ะอาหารดังเดิม
คราบน้ำตาสองสายนองหน้าเปรอะเปื้อน เยว่อวี๋กลับหาได้สนใจไม่ ส่งยิ้มให้เซียถงและกล่าวว่า
“หลินเยวี่ยนคนนี้ช่างมีนิสัยโหดเหี้ยมนัก ฆ่าคนราวกับผักปลา มันจะต้องปรากฏตัวมาสร้างปัญหาแก่ท่านในภายหลังแน่นอน เช่นนั้นแล้ว…”
“ในเมื่อข้าบอกว่าต้องการเจ้า ข้าจะอยู่ดูแลปกป้องเจ้าตลอดทั้งคืนนี้เอง”
เซียถงกล่าวจบก็หยิบตะเกียบขึ้นมา คีบอาหารตักเข้าปากรับประทานต่ออย่างเอร็ดอร่อย แลเห็นอีกฝ่ายยังคงนิ่งจึงกล่าวเสริมว่า
“แค่ร่ายรำต่อไปเถอะ”
ถึงเซียถงจะไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับเรื่องชาวบ้านชาวช่องเท่าไหร่นัก แต่เวลาเห็นคนที่อ่อนแอกว่าถูกรังแกเฉกเช่นนี้ โดยเฉพาะกับผู้ชายที่รังแกผู้หญิง ในฐานะที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง นางก็ทนดูอยู่เฉยๆ มิได้เช่นกัน ดังนั้นแล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เยว่อวี๋นางนี้จะต้องปลอดภัย!
“ขอบพระคุณอย่างยิ่ง! บ่าวคนนี้เป็นหนี้ชีวิตคุณชายแล้ว!”
เยว่อวี๋โค้งคำนับโขกศีรษะกระแทกพื้นอยู่หลายที จากนั้นก็ลุกขึ้น ปาดเช็ดคราบน้ำตาเล็กน้อยและเริ่มร่ายรำต่อไป
จากบุปผาที่เหี่ยวเฉา ยามนี้เริ่มกลับมาเบ่งบานและงดงามประจักษ์ต่อสายตาของเซียถงอีกครั้งหนึ่ง ถึงอย่างนั้นเอง แม้กระบวนท่าร่ายรำของหญิงสาวนางนี้จะดูสวยงาม แต่ก็ยังเร้นแฝงรสขื่นขมอยู่หนึ่งส่วน
อิสตรียิ่งงามยิ่งเผชิญพบอันตราย!
เซียถงทอดสายตามองท่าร่ายรำสง่าเรียบง่ายตรงหน้า ลอบถอดถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ถึงคืนนี้จะสามารถช่วยเยว่อวี๋ได้ก็จริง แต่แล้วคืนพรุ่งนี้ล่ะ? ทั้งยังคืนมะรืนอีก? ตราบใดที่เยว่อวี๋จะอยู่ในหอนางโลมเช่นนี้ ชีวิตของนางยังคงตกอยู่ในอันตรายทุกเมื่อ
เพิ่งคิดเช่นนั้นได้ไม่ทันไร ปัญหาก็ประเคนถึงที่! เสียงถีบประตูอย่างแรงดังปัง ตามมาด้วยสุ้มเสียงชายหนุ่มผู้เดือดดาลดังมาติดๆ วาจามีแต่ความหยาบคายว่า
“ไอ้บัดซบที่ไหนมากล้าแย่งเยว่อวี๋ไปจากข้า!!?”