ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 247 องค์หญิงแห่งซีฉิน (1)
ตอนที่247 องค์หญิงแห่งซีฉิน (1)
ตอนที่247 องค์หญิงแห่งซีฉิน (1)
ขณะที่เซียถงกำลังอ้าปากจะกล่าว จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงอรชรนุ่มนวลของอิสตรีนางหนึ่งลอยพริ้มขึ้นมา
“องค์ชายไป๋หลี่มาถึงแล้ว? เช่นนั้นรีบขึ้นเรือกันดีกว่าเจ้าค่ะ”
เมื่อหันศีรษะเหลียวมอง เซียถงก็พบเข้ากับองค์หญิงแห่งจักรวรรดิซีฉินกำลังวิ่งลงเรือตรงมาทางนี้ ทิศทางเป็นที่ชัดแจ้งคือวิ่งไปหาไป๋หลี่หานประดุจสายลมโชยอ่อน องค์หญิงนางนี้มีรูปร่างหน้าตาสง่างดงาม มุมปากขวามีไฝสีดำเม็ดจิ๋วติดอยู่ เรียวคิ้วคู่เป็นทรงเรียวดั่งคันธนูได้รูป พินิจโดยรวมเป็นช่างทรงเสน่ห์เย้ายวนเกินบรรยาย นางมาในชุดแพรพรรณเนื้อไหมสีชมพูอ่อน บริเวณหน้าอกทรงโตอันน่าภาคภูมิเปิดเว้าเล็กน้อย จนเผยให้เห็นเนินอกสีขาวนวลเนื้อละเอียดราวกับหิมะ ทรวงทรงเพรียวน่าค้นหา จากที่ดูแล้ว นางเป็นหญิงสาวที่ใฝ่หาความรักคนหนึ่ง
องค์หญิงซีฉินวิ่งตรงมาหาไป๋หลี่หาน หยุดยืนอยู่ห่างจากอีกฝ่ายประมาณหนึ่งช่วงตัว ระบายยิ้มหวานฉ่ำแสนเย้ายวน กล่าวขึ้นว่า
“ข้าก็กังวลเสีย คิดว่าตัวท่านจะไม่มาแล้ว!”
ขณะปริปากกล่าว นางก็เอนกายออกไปเบื้องหน้าเล็กน้อย เผยแสดงหน้าอกอวบอั๋นที่เปิดเว้า แทบจะชิดใกล้ติดแนบกับร่างของไป๋หลี่หาน เซียถงที่เห็นแบบนั้นพลันเลิกคิ้วขึ้นทันที องค์หญิงแห่งซีฉินนางนี้ดูไม่กระเหี้ยนกระหือรือไปหน่อยรึ?
ไป๋หลี่หานเอนหลังหลบทันที พยายามตีตัวออกหากจากองค์หญิงซีฉิน ยิ้มตอบอย่างอบอุ่นว่า
“ในเมื่อสัญญากับองค์หญิงแล้ว ข้าย่อมมาตามนัดหมาย”
“เช่นนั้นองค์ชายรีบขึ้นเรือมาเถิด ข้าเตรียมงานแสดงไว้ให้….”
กล่าวได้ครึ่งจังหวะพลันชะงักหยุดทันควัน พอกวาดสายตามอง นางก็เห็นเซียถงยืนอยู่เคียงข้างไม่ห่างกายไป๋หลี่หาน สีหน้าจากหวานชื่นเปี่ยมสุขกลายเป็นหม่นหมองทันควัน เชิดหน้ามองเซียถงตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่รอบหนึ่ง จนท้ายที่สุด สายตาของนางก็เคลื่อนหยุดลงตรงมือของเซียถงที่ไป๋หลี่หานกำลังกุมจับไว้แน่น
“องค์ชายไป๋หลี่ นางคนนี้เป็นใคร?”
องค์หญิงแห่งซีฉินเอ่ยถามพร้อมสีหน้าบูดบึ้งไม่พอใจ
“นางชื่อเซียถง เป็นหญิงสาวผู้มากพรสวรรค์จากตงหลี่”
ไป๋หลี่หานยิ้มตอบอย่างไม่ดูทุกข์ร้อน ขณะเอ่ยตอบองค์หญิงแห่งซีฉินออกไป เซียถงเองก็พยายามสะบัดมือผละออก ทว่าอย่างไรกลับถูกไป๋หลี่หานบีบกระชับจับแน่นหนา จนท้ายที่สุดนางต้องถอดใจยอมแพ้ไป
“แล้วไฉนองค์ชายถึงต้องจับมือนางด้วย?”
องค์หญิงยิงคำถามต่อทันที สายตาคู่สวยจับจ้องไปที่มือของเซียถงเขม็ง
คนเรามักจะโกรธในเรื่องไร้สาระเสมอ
เซียถงเหลือบสายตาสังเกตการณ์ทีท่าขององค์หญิงแห่งซีฉินตรงหน้าเล็กน้อย ภายในใจได้แต่หวังว่า องค์หญิงนางนี้จะไม่งี่เง่าหรือปัญญาอ่อนอย่างองค์หญิงบางนาง ไป๋หลี่หานชำเลืองมององค์หญิงแห่งซีฉินเล็กน้อยพร้อมระบายยิ้มอ่อน ทว่ากลับไม่ปริปากตอบใดๆ และจูงเซียถงลากขึ้นเรือโดยทันที
เจอไป๋หลี่หานเมินใส่ตัวเอง องค์หญิงแห่งซีฉินก็รีบเดินจ้ำติดตามไปด้วยความโกรธเกรี้ยวหนัก มุมปากสั่นทิ่มคล้ายกับว่ากำลังจะระเบิด
เซียถงเดินตามหลังไป๋หลี่หานขึ้นเรืออย่างช่วยไม่ได้ ในขณะเดียวกันก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีสังหารจากเปลวเพลิงในดวงตาขององค์หญิงแห่งซีฉินจากด้านหลังได้อย่างชัดเจน องค์หญิงนางนี้ตั้งใจจะจ้องนางให้ตายไปข้างเลยกระมัง?
วิธีเช่นนี้ไม่ทำร้ายจิตใจกันไปหน่อยรึ? ตั้งใจยั่วโมโหองค์หญิงแห่งซีฉินต่อหน้าต่อตากันปานนี้? เซียถงพยายามอย่างไรก็ไม่สามารถสะบัดมือของไป๋หลี่หานที่กุมจับให้หลุดได้เลย ดังนั้นจึงใช้เล็บทั้งห้านิ้วจิกเข้าเนื้อมืออีกฝ่ายแทนอย่างแรง
นางหาได้แสดงความเมตตาปรานีใดๆ ให้แม้สักนิด หยิบใช้พละกำลังทั้งหมดกดเล็บทั้งห้านิ้วจิกเข้าเนื้อมือของไป๋หลี่หานจนเป็นแผลลึก ปฏิกิริยาแรกที่อีกฝ่ายรู้สึกคือความเจ็บปวด จึงเผลอคลายแรงปล่อยมือเซียถงออกไป และนางก็ฉวยจังหวะนั้นรีบกระชากมือของตนออกมาให้พ้นทันที
คิดใช้ข้าเป็นโล่ ก็ต้องเจ็บตัวกันหน่อย
องค์หญิงแห่งซีฉินรีบใช้โอกาสนี้ วิ่งเข้าไปแทรกกลางระหว่างทั้งสองคน เอื้อมมือขึ้นควงแขนของไป๋หลี่หานซบศีรษะแนบชิดในทันที เบียดร่างของเซียถงจนเซถอยออกห่าง
ทว่าไป๋หลี่หานกลับเร่งฝีเท้าโดยไว ลอบออกแรงสะบัดร่างขององค์หญิงแห่งซีฉินจนพ้นตัวออกห่าง จากนั้นก็กระโดดขึ้นเรือทันที
องค์หญิงแห่งซีฉินกระทืบเท้ากระแทกพื้นแรงหลายทีด้วยความโกรธจัด หันศีรษะขวับจับจ้องเซียถงตาเขม็ง และยังกล่าวข่มขู่อีกว่า
“ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเป็นใคร แต่เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ฝันกลางวัน คิดเกินเลยกับองค์ชายไป๋หลี่หานไปมากกว่านี้! มิเช่นนั้น เจ้าจะมิได้มีชีวิตก้าวออกจากเมืองซีเยว่แน่นอน!”
“องค์หญิง เรื่องรักๆ ใคร่ๆ เช่นนี้ สุดแท้แล้วแต่ความสามารถขององค์หญิงทั้งสิ้น ถูกอีกฝ่ายเมินใส่ก็หาใช่ว่ามาโทษคนอื่น”
เซียถงปรายเสียงตอบอย่างแผ่วเบา เจ้าไป๋หลี่หานดันหาปัญหามาให้แล้วจริงๆ แต่จะอย่างไร ตอนนี้ก็สายเกินกว่าที่นางจะหลบซ่อนตัว หรือหนีจากสิ่งตรงหน้าได้แล้วเช่นกัน
องค์หญิงแห่งซีฉินได้ยินแบบนั้นก็กัดริมฝีปากแน่น จ้องตาเซียถงเขม็งด้วยความหงุดหงิดใจ ก่อนจะยกเท้าก้าวขึ้นเรือตามไป๋หลี่หานไปติดๆ ส่วนทางด้านเซียถงที่อยู่ปิดท้ายได้แต่ส่ายหัวอาน ตัวนางไม่อยากสร้างศัตรูเพิ่มไปมากกว่านี้แล้วจริงๆ แต่เมื่อนึกถึงสมุนไพรหายากนานาชนิดบนหุบเขาซีเยว่ ก็คงไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว นอกจากตามน้ำไปให้จบๆ
ติดตามไป๋หลี่หานและองค์หญิงแห่งซีฉินขึ้นเรือนโดยสารลำหรู ทันทีที้เข้าไปยังส่วนโดยสารภายใน สิ่งแรกที่เห็นคือม่านขนาดใหญ่สีชมพูที่ปิดคลุมบริเวณที่นั่งด้านในเอาไว้มิให้คนนอกมองเข้ามาได้ ภายในนี้ยังมีกลิ่นสุคนธรสหอมจางๆ ที่คอยสร้างบรรยากาศ ได้เห็นภาพฉากดังนี้ เซียถงถึงกับขมวดคิ้วขึ้นทันที ไฉนองค์หญิงแห่งซีฉินนางนี้ถึงจัดห้องโดยสารที่ดูคลุมเครือเช่นนี้ขึ้นมาด้วย?
เหลือบมองแผ่นหลังของไป๋หลี่หาน พลางกับตัวเองภายในใจว่า ไป๋หลี่หานคนนี้แท้จริงแล้วเคยมีข่าวลือหนาหูว่า โฉมหน้าที่แท้จริงของเขาอัปลักษณ์เป็นอย่างยิ่ง และไม่น่าจะมีสตรีนางใดปรารถนาจะแต่งงานด้วย ทว่า…องค์หญิงแห่งซีฉินนางนี้กลับทำตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง
ขณะครุ่นพินิจกับตัวเองอยู่อย่างนั้น ป็หลี่หานก็เดินเข้าไปทางโต๊ะไม้จันทร์หอมแล้วนั่งลง กวาดสายตามองโดยรอบก็พบแค่เพียงที่นั่งอีกเพียงตัวเดียวที่อยู่เคียงข้างติดกัน ดังนั้นเขาจึงชี้มาที่ตำแหน่งดังกล่าวและกล่าวกับเซียถงว่า
“เจ้ามานั่งตรงนี้”
“องค์ชายไป๋หลี่ ที่นั่งตำแหน่งนั้นเป็นของข้า”
สิ้นเสียงกล่าวจบ องค์หญิงแห่งซีฉินก็รีบแทรกตัวเข้ามานั่งข้างไป๋หลี่หานโดยไว สำหรับตำแหน่งที่นั่งตัวนี้ นางออกแบบมาเพื่อให้ตนและไป๋หลี่หานได้นั่งชิดใกล้กันและกัน หวังให้ความสัมพันธ์ระหว่างเราสองสนิทสนมกันมากขึ้น แล้วมีหรือที่นางจะปล่อยให้เซียถงคว้าที่นั่งตำแหน่งนี้ไปได้อย่างไร?
ไป๋หลี่หานปิดปากเงียบนิ่งไม่พูดอันใด ทว่าช้อนสายตาเงยมองไปที่เซียถง พินิจวิเคราะห์จากสายตาของเขา ราวกับกำลังจะถามว่านาง ต้องทำอะไรต่อดี? หรือจะให้พูดกันตรงๆ ก็คือ เขากำลังสื่อสารกับเซียถงว่า จะไล่องค์หญิงแห่งซีฉินนางนี้ออกไปอย่างไร?
เซียถงลอบพยักหน้าส่งให้ไป๋หลี่หานอย่างลับๆ และตรงเข้ามาใกล้ในบัดดล โน้มตัวกระซิบข้างหูองค์หญิงแห่งซีฉินอยู่คำสองคำ ทันใดนั้นองค์หญิงพลันสะดุ้งโหย่งลุกขึ้นจากตำแหน่งที่นั่งในทันใด คว้าแขนเสื้อยาวสีชมพูป้องปิดใบหน้าของตน และรีบวิ่งไปยังส่วนท้ายเรืออย่างรวดเร็ว
“นี่เจ้าบอกอะไรกับนางไป?”
ไป๋หลี่หานเงยหน้ามองเจือแววฉงนสงสัย เอ่ยถามเซียถงด้วยความอยากรู้อยากเห็น สามารถทำให้องค์หญิงแห่งซีฉินลุกออกไปได้ในชั่วพริบตาภายในไม่กี่คำพูด อยากรู้เสียจริงว่า เซียถงพูดอะไรกับนางกันแน่?
“บอกแค่ว่า ท่านลืมเติมหน้า”
เซียถงกล่วาตอบไปคำหนึ่ง ชำเลืองมองไปทางองค์หญิงแห่งซีฉินที่กำลังวิ่งจากไปท้ายเรือพร้อมตลับแป้งในมือที่ควักออกมาอย่างเร่งรีบ แทรกตัวเข้าไปในนั่งที่ว่างด้านข้างไป๋หลี่หาน พลางอดมุ่นคิ้วเอ่ยถามด้วยความสงสัยมิได้ว่า
“ไยท่านถึงต้องตอบรับคำเชิญขององค์หญิงด้วยล่ะ?”
เพราะหากว่าไป๋หลี่หานไม่ตอบรับคำเชิญล่องเรือมาตั้งแต่แรก ปัญหาเช่นนี้คงไม่เกิดขึ้นแน่นอน
“ก็เพราะองค์หญิงนางนี้นี่แหละ ที่มอบป้ายตราอนุญาตเดินทางขึ้นหุบเขาซีเยว่ ข้าเองก็รับของจากอีกฝ่ายมาแล้ว จะให้ตระบัดสัตย์ได้เยี่ยงไร? ส่วนที่นางดูสนใจข้า คงเพราะชอบของแปลกอย่างที่ลือกันจริงๆ”
ไป๋หลี่หานกล่าวตอบ พลางหยิบจอกสุราหนึ่งขึ้นจิบ
ชอบของแปลก? นี่หมายความว่าอย่างไร?
ทีแรกเซียถงค่อนข้างรู้สึกสงสัยในประโยคคำพูดนี้ แต่สักพักก็เริ่มจะเข้าใจได้แล้วเช่นกัน สำหรับข่าวลื่อเกี่ยวกับไป๋หลี่หานท่าจะเป็นความจริง ที่อีกฝ่ายสวมหน้ากากอยู่ตลอดเวลา ก็น่าจะเป็นเพราะต้องการปิดบังรูปโฉมอัปลักษณ์ของตน นึกได้ดังนั้น นางจึงชำเลืองสายตามองอีกฝ่ายที่กำลังจิบสุราในจอกอย่างสบายอารมณ์ แลเห็นเช่นนั้น นางก็อดพูดจาประชดประชันมิได้ว่า
“องค์หญิงชื่นชอบสิ่งหายาก และอีกอย่าง นางก็ทั้งงดงามและเป็นถึงองค์หญิงแห่งจักรวรรดิซีฉิน นี่นับเป็นพรจากสวรรค์แล้ว ดังนั้นท่านควรจะรับไว้ด้วยความยินดี มิใช่ผลักไสนางเช่นนี้จริงหรือไม่?”