ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 289 อสรพิษปราณช่วยรักษา (1)
ตอนที่289 อสรพิษปราณช่วยรักษา (1)
ตอนที่289 อสรพิษปราณช่วยรักษา (1)
อวี๋เอ๋อร์พยายามยื่นมือไปลูบขนพองฟูฟ่องของเจ้าจี๋จี๋ แต่จู่ๆ มันก็ปั้นหน้ามุ่ยดุ ยกอุ้งเท้าหน้าข้างหนึ่งขึ้นตะปบหลังมือของอวี๋เอ๋อร์ประหนึ่งสายฟ้าไปหนึ่งที รอยข่วนสีแดงห้าเส้นห้อเลือดปรากฏขึ้นบนหลังมือสีขาวนวลของนาง เนื่องด้วยกระแสความเจ็บแสบโฉบแล่นที่ได้รับ อวี๋เอ๋อร์รีบชักมือหดกลับมาอย่างไร พองแก้มจนตุ่ยและบรรจงเป่าใส่บาดแผลที่เพิ่งได้รับมา
ขณะที่อวี๋เอ๋อร์ชักมือกลับ เจ้าจี๋จี๋ก็ส่งเสียงร้องแหลมอย่างไม่พอใจไม่มีเว้นระยะช่องไฟ ทำเหมือนกับว่า มันกำลังยืนด่านางอยู่ก็มิปาน
เสียงกรีดร้องลั่นแหลมสูงเสียดแก้วหูปวดระบมกันเป็นแถบ จนสุดท้ายเซียถงทนไม่ไหวก็รีบยกมือขึ้นหุบปากของมัน จี๋จี๋แยกฟันกัดเข้านิ้วของนางสวนตอบ และกระโดดเข้าประจัญบาน ละเลงกรบเล็บน้อยๆ ขวนนางต่อไปอีกหลายกระบวน…
เสมือนว่าเจ้าจี๋จี๋มันระบายอารมณ์จนหน่ำใจอยากแล้ว เวลานี้มันค่อยยกอุ้งเท้าหน้าชี้ไปที่อสรพิษยักษ์ จากนั้นก็กระดิกนิ้วเรียกให้มันเลื่อยมาหานาง
อสรพิษยักษ์ตนนั้นผงกศีรษะว่าง่ายเชื่อฟัง และร่ายเลื่อยร่างแหวกว่ายตรงมาทางเซียถง หยุดอยู่ตรงหน้าประมาณครึ่งชั่วตัว และฉีกปากขนาดยักษ์อ้าออกมากว้าง ไม่นานก็มีของเหลวสีแดงหนืดไหลออกมาจากปากของมัน กำลังจะหกท่วมบนร่าของนาง
เซียถงแหงนศีรษะเชยมองของเหลวสีแดงหนืดที่กำลังสั่นกระเพื่อมจะไหลตกลงมาแหล่ ถึงแม้นางจะได้พักผ่อนมาสักระยะแล้ว แต่จะให้วิ่งหนีอสรพิษที่เร็วงเป็นกรดตรงหน้าเกรงว่าไม่ไหวเช่นกัน อวี๋เอ๋อร์ที่ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ ถลึงตามองเบิกกว้างด้วยความตื่นตระหนกสุดขีด สองมือน้อยๆ กำลำต้นแน่น รีบตะโกนหน้าซีดเผือดสุดผวาว่า
“คุณหนูเซีย รีบหนีเร็ว!!”
ของเหลวสีแดงหนืดห้อยต่องยืดลงมาอยู่เหนือศีรษะศีรษะเซียถงเล็กน้อย อย่างไร นางกลับไม่ได้กลิ่นเหม็นสาบจำเพาะของงูเลยสักนิด แต่มันเป็นกลิ่นหอมของสมุนไพรมาแทน ถึงจะผวาสั่นกลัวอยู่เล็กน้อย แต่ก็สังเกตเห็นเช่นกันว่า ดวงตาคู่กลมโตของอสรพิษตนนั้นมันดูเป็นมิตรมาก ปราศจากความดุร้ายเดรัจฉานใดๆ เช่นนั้นนางจึงเลือกที่จะยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน
“จี๋จี๋มันบอกกับอสรพิษปราณว่า ขอมันขวนเจ้าจนหน้ำใจก่อน แล้วค่อยก็วานให้ใช้น้ำลายรักษาที”
หลิวซูที่กำลังเล่นอยู่กับอสรพิษน้อย หันมากล่าวอธิบายให้เซียถงฟัง
อสรพิษตนนั้นหันมาพยักหน้าให้เซียถง เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจของมัน
เซียถงชัดแจ้งดีเยี่ยมแล้ว สำหรับสรรพคุณในการรักษาบาดแผลด้านกายภาพของน้ำลายอสรพิษตนนี้ แต่ถึงแบบนั้น นางกลับทำใจยอมร่วมมือรักษาแต่โดยดีมิได้จริงๆ ลองจินตนาการนึกสภาพ ตอนที่น้ำลายสีแดงหนืดเหนียวชุ่มชโลมทั่วร่างกายของนาง แค่คิดได้แบบนั้น นางก็รู้เสียวสั่นชาไปทั้งแผ่นหลังแล้ว นางลังเลอยู่สักครู่จะขยับถอยหนีไปดีหรือไม่
ขณะเดียวกัน จี๋จี๋ก็กระโดดขึ้นเกาะไหล่ของเซียถง เอ่ยเสียงร้องเรียกอยู่หลายที พยายามกระตุ้นให้นางเข้ารับการรักษาแต่โดยดี
หลิวซูเบะปากคว่ำเล็กน้อย ชำเลืองสายตามองเซียถงเจือแววน่าสมเพชดูแคลน ทั้งยังแสยะยิ้มชั่วร้ายกล่าวขึ้นอีกว่า
“น้ำลายอสรพิษตนนี้มีสรรพคุณเหนือกว่าสมุนไพรหายากในหุบเขาซีเยว่ไม่รู้เท่าไหร่ หากไม่ยอมรับการรักษากับด้วยเรื่องไร้สาระเช่นนี้ คำว่าโง่คงยังไม่พอ คิดจะลงแข่งในสภาพที่บาดเจ็บปานนี้ อันดับหนึ่งในงานประลองสี่จักรวรรดิก็เลิกฝันได้เลย”
ถึงคำพูดและน้ำเสียงของหลิวซูจะดูเย่อหยิ่งน่าหมั่นไส้เพียงใด แต่เซียถงทราบดีว่า ลึกๆ แล้วอีกฝ่ายล้วนมีเจตนาดีต่อนางทั้งสิ้น และพึงทราบ นิสัยของนางไม่ชอบให้ใครมากดขี่ดูถูกกัน นั่นจึงเป็นหตุผลที่ต้องพูดจาแบบนี้ออกมา นางครุ่นคิดกับตัวเองอยู่ในใจสักครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้ากล่าวกับอสรพิษที่ชูศีรษะอยู่เหนือหัวตนว่า
“โปรดช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของข้าด้วย!”
อสรพิษตนนั้นพยักหน้า และพ่นของเหลวสีแดงหนืดราดลงใส่ตัวนาง ทำเอาจมหมิดหายไปในก้อนของเหลวอันหนืดเหนียวอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกัน อสรพิษน้อยก็โบกหางลาหลิวซู จากนั้นอสรพิษน้อยใหญ่ทั้งสองตนก็เลื่อยหายเข้าไปในดงป่าลึกในพริบตา
“คุณหนูเซีย! คุณหนูเซีย!!”
อวี๋เอ๋อร์ยังกอดลำต้นไม้ที่หลบซ่อนไว้แน่น ชะโงกศีรษะมองเซียถง ตัดสลับไปทิศทางที่อสรพิษสองตนนั้นหายไป
เพิ่งจะสิ้นเสียงกล่าวจบ นางก็เพิ่งค้นพบว่า ในเวลานี้มีอีกหนึ่งร่างกำลังยืนอยู่เคียงข้าง อวี๋เอ๋อร์หันศีรษะขวับก็พบเข้ากับ เด็กหนุ่มในชุดสีแดงเพลิงก่อนหน้านี้ ซึ่งอีกฝ่ายกำลังจับจ้องมาที่นางเจือแววประหลาดใจ
ต่างฝ่ายต่างยืนจ้องหน้าสบตากันนิ่งสงัด ผ่านไปสักพัก อวี๋เอ๋อร์ชักรู้สึกอึดอัดขึ้นมา นางส่งยิ้มมอบให้ พลางชี้ไปที่ผมยาวสลวยสีเงินของอีกฝ่าย เอ่ยเสียงตะกุกตะกักขึ้นว่า
“สีผมของท่านสวยมาก”
หลิวซูยังคงมองหน้านางอยู่สักพัก และทันใดนั้นเอง ตาของมันพลันเป็นประกายทอแสงระยิบระยับพร้อมส่งยิ้มตอบกลับไป ชั่วขณะทันใด อวี๋เอ๋อร์รู้สึกดั่งว่า บรรยากาศรอบตัวเสมือนมีดอกไม้บุปผาหลากสีสันเบ่งบาน ฤดูใบไม้ผลิที่แสนสุขบังเกิดขึ้นภายในใจดวงน้อยของนาง ความงดงามทั้งหลายบนผืนพิภพ ล้วนแต่ถูกรวบรวมอยู่ในรอยยิ้มบนใบหน้าของเด็กหนุ่มคนนี้
รอยยิ้มที่งดงามเกินพรรณดั่งตรงหน้าควรสรรหาได้เพียงบนฟ้าเท่านั้น แต่ไยเล่า บนผืนแผ่นดินพิภพมนุษย์เฉกเช่นนี้ถึงมีปรากฏให้เห็น?
ภายใต้ภวังค์ความลุ่มหลงในความงดงามของเด็กหนุ่มที่ยืนประจันตรงหน้า ทันใดนั้นเอง ก็มีฝ่ามือสีขาวผ่องเนื้อเนียนละเอียดดุจหิมะพุ่งออกมาจากแสนเสื้อยาวสีแดงเพลิง เข้ากระหน่ำบีบแก้มสีอมชมพูของอวี๋เอ๋อร์ประดุจสายฟ้า ทั้งนวดทั้งคลึงไม่หยุดอย่างมันมือ
ชั่วขณะนั้นเอง อวี๋เอ๋อร์ถึงกับยืนแข็งทื่อเป็นรูปปั้นหินในพริบตา ได้แต่เฝ้าจับจ้องการกระทำของหลิวซูอย่างฉงนใจงุนงง และปล่อยให้อีกฝ่ายบีบคลึงแก้มทั้งสองข้างต่อไปอยู่แบบนั้น
สองเงาร่างประหนึ่งดาวหางสีเขียวสองสาย เคลื่อนพัลวันเลื้อยคลานกันไปมากลางป่าลึกช่างดูน่าพิศวง ทันใดนั้นอสรพิษยักษ์ก็หยุดชะงักลงเล็กน้อย หันไปพยักหน้าให้เซียถงจากทางไกล ราวกับกำลังจะสื่อว่าให้รีบตามมันมา พอนางกับจี๋จี๋ติดตามมันไปก็พบเข้ากับถ้ำลับแลแห่งหนึ่ง เพดานถ้ำเหนือศีรษะเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยอยู่ทั่ว ยามแสงตะวันสาดส่องลอดถ้ำเข้ามา ก็สะท้อนให้เห็นประกายแร่ที่ฉาบเคลือบแสนวิจิตรงดงาม
บริเวณพื้นดินภายในถ้ำหาใช่แผนหินหรือพื้นเปลือยเปล่าแบบถ้ำทั่วไป แต่มีแผ่นหญ้าสีเขียวขจีและสมุนไพรงอกงามต่างๆ สารพัด
อสรพิษยักษ์เบี่ยงศีรษะส่งสัญญาณให้เซียถงเข้ามา
เมื่อนางเดินเข้ามาอยู่ในถ้ำ ก็แลเห็นสมุนไพรทั้งหลายเจริญงอกงามมากมาย โดยเฉพาะกับบริเวณใจกลางของถ้ำที่อุดมสมบูรณ์เป็นพิเศษ เสมือนกับทุ่งสมุนไพรนานาชนิดขนาดย่อม อสรพิษน้อยเลื่อยเข้าไปเล่นบนทุ่งสมุนไพรขนาดย่อมนั่นอย่างชื่นมื่น ท่าทางจะดูมีความสุขอย่างยิ่งที่ได้กลับบ้าน จี๋จี๋เองก็กระโดดลงไปวิ่งเล่นกับมัน มียกใบไม้ขึ้นแอบซ่อนตัวสนุกสนาน
ดูท่าที่แห่งนี้จะเป็นรังของอสรพิษยักษ์ตนนี้ ไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่า สถานที่แบบนี้จะงดงามประดุจสวรรค์บนดิน นี่ทำให้เซียถงรู้สึกประหลาดใจโดยแท้
“เจ้าพาที่นี่เพื่อจะรักษาข้าต่อ?”
เซียถงกวาดสายตามองไปโดยรอบ พลางเอ่ยถามขึ้นคำหนึ่ง
อสรพิษยักษ์พยักหน้าตอบ เช่นนั้นแล้วเซียถงจะไม่เกรงใจอีกต่อไป นางปลดเสื้อแพรพรรณครึ่งท่อนบนออกมาทันที เผยให้เรือนร่างที่เปลือยเปล่า และร่องรอยแผลเป็นจำนวนมากมายจากหลายศึกใหญ่ที่ผ่านมา อสรพิษยักษ์แลบลิ้นยาวสองแฉกออกมา และเริ่มบรรจงเลียบาดแผลเหล่านั้นของนางอย่างระมัดระวัง
จากที่โดนน้ำลายของมันชโลมตัวเมื่อครู่ ทำให้บาดแผลฉกรรจ์จากศึกครั้งล่าสุดหายดีแทบปลิดทิ้ง จะเหลือก็แค่อาการปวดบริเวณบาดแผลจากที่อวัยวะภายในระบมเล็กน้อย และแผลเป็นซึ่งเป็นรอยเย็บสีน้ำตาลอ่อนๆ และเมื่ออสรพิษยักษ์ช่วยเลียนบาดแผลให้อีกรอย ไม่เพียงแต่จะทำให้อาการบาดเจ็บทั้งหมดหายดีเป็นปกติเต็มร้อย แต่นี่ยังช่วยทำให้เรือนร่างของนางขาวเนียนกระจ่างใส่ไร้ที่ติอีกครั้ง รอยแผลเป็นทั้งหลายราวกับอันตรธานหายวับปราศจากร่องรอย เพิ่มความชุ่มชื่นของผิวพรรณให้งดงามยิ่งกว่าเดิม
คล้อยหลังช่วยรักษาเซียถงจนเสร็จสรรพ อสรพิษยักษ์ตนนั้นก็กลับไปขดตัวม้วนเป็นลูกหลังกลมดิ้กบนทุ่งสมุนไพร ณ ใจกลางถ้ำ ดวงตากลมโตสีเขียวมรกตของมันค่อนข้างอ่อนล้าอย่างมาก ดูเหมือนกว่าการใช้น้ำลายในปริมาณมากปานนี้เพื่อรักษาบาดแผล จะกินพลังงานของมันไปค่อนข้างมหาศาลพอตัว