ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 308 องค์หญิงซีฉินหน้าแตกครั้งใหญ่ (2)
ตอนที่308 องค์หญิงซีฉินหน้าแตกครั้งใหญ่ (2)
ตอนที่308 องค์หญิงซีฉินหน้าแตกครั้งใหญ่ (2)
ไม่ว่าตอนนั้น นางจะมึนเมาเพราะฤทธิ์สุราอำพันทิพย์เพียงใด แต่ก็พึงตระหนักดีว่า ต้องมีอะไรบางอย่างที่ผิดปกติถูกใส่ลงไปในจอกสุรา ทั้งนี้เอง องค์หญิงซีฉินก็ยังจำได้แม่นถึงสิ่งที่เซียถงทำกับตนในวันนั้น บัญชีแค้นทั้งเก่าและใหม่ถูกผนวกรวมกันสลักฝังลึกอยู่ในจิตใจ พอยิ่งมาเห็นทีท่าการแสดงออกอันแสนเบื่อหน่ายของเซียถงในปัจจุบัน สีหน้าการแสดงออกของนางก็พลันบิดเบี้ยวน่าเกลียดขึ้นมาโดยมิทันรู้ตัว
เซียถงกำลังแกว่งจอกสุราในมือเล่นด้วยความเบื่อหน่ายสุดแสน และเมื่อสัมผัสได้ว่า องค์หญิงซีฉินกำลังจับจ้องมองมาทางนี้ นางก็ค่อยๆ ถอดถอนสายตาออกจากถ้วยจอก เงยศีรษะเข้าสบสายตาเย็นชากับอีกฝ่าย ชำเลืองมองตัวของอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไม่แยแสใดๆ จากนั้นค่อยกระดกสุราในจอกจนหมดในรวดเดียว และเบี่ยงหน้าหันมองทางอื่น ทำราวกับองค์หญิงซีฉินเป็นเพียงอากาศธาตุไร้ตัวตน
มันกล้าเมินข้าผู้นี้? หนึ่งความคิดโฉบแล่นขึ้นในหัว ยิ่งปลุกปะทุเพลิงโทสะในใจขององค์หญิงซีฉินจะลุกโหม นางที่กำลังร่ายรำกัดฟันกรอดแน่นด้วยความจงเกลียดจงชัง ทันใดนั้นก็หยุดเต้นลงในเสี้ยวอึดใจต่อมา และยืนจ้องหน้าเซียถงใจกลางโถงต่อหน้าผู้นับทั้งหลายในงานเลี้ยงอยู่เช่นนั้น
“เยวี่ยเอ๋อร์ มีอะไรรึเปล่า?”
องค์จักรพรรดิซีฉินที่กำลังร่วนสนทนาอยู่กับองค์จักรพรรดิทั้งสามพลันชะงักหยุดไป เห็นองค์หญิงตัวน้อยของตนจู่ๆ ก็หยุดเต้นไปเสียดื้อๆ ทั้งยังปั้นหน้าใส่เซียถงด้วยทีท่าบูดบึ้ง เช่นนั้นเขาก็ขมวดคิ้วถักหนา เห็นท่าทางการแสดงออกอันไร้ซึ่งมารยาทขององค์หญิง สีหน้าท่าทางของเขาเองก็เผยแววไม่พอใจออกมาเช่นกัน
ณ งานเลี้ยงใหญ่ที่มีแขกผู้มีเกียรติเป็นถึงองค์จักรพรรดิจากสามอาณาจักรและบรรดาขุนนางชั้นสูง องค์หญิงแห่งซีฉินไม่ควรพึงกระทำกิริยามารยาทที่หยาบคายเช่นนี้ออกมา!
ในอีกด้านหนึ่ง องค์หญิงซีฉินมิได้สังเกตเห็นแววความไม่พอใจที่ปรากฏขึ้นบนสีหน้าขององค์จักรพรรดิแห่งซีฉินเลย แต่นางยังคงจับจ้องไปที่เซียถงตาเขม็งประหนึ่งจะฆ่าแกงกันให้ตาย ขณะเดียวกัน สาวงามนักร่ายระบำนางอื่นๆ เองต่างหยุดการแสดงลงเช่นกันเมื่อเห็นว่าองค์หญิงของพวกตนหยุดไปเสียดื้อๆ ซึ่งภาพฉากดังกล่าวได้ดึงดูดความสนใจของทุกคนในงานเลี้ยงทันที
องค์หญิงซีฉินรีบสาวเท้าก้าวฉับมาหยุดลงต่อหน้าองค์จักรพรรดิแห่งซีฉิน และกล่าวน้ำเสียงนอบน้อมขึ้นว่า
“เสด็จพ่อ ฟังว่าหญิงสาวนางนี้ที่มาจากตงหลี่มีความสามารถนักหนา เช่นนั้นข้าขอรับชมการร่ายรำของนางเสียหน่อย!”
เมื่อฟังสิ่งที่องค์หญิงซีฉินกล่าวออกมา ทุกคนต่างหันขวับจับจ้องไปที่เซียถงโดยพร้อมเพรียง ในขณะที่ตัวเซียถงเองกลับนั่งนิ่งไม่ทุกข์ร้อนใดๆ เพียงยกจอกสุรากระดกดื่มอีกคราวอย่างใจเย็น
“เซียถง เจ้ากล้าแข่งร่ายรำกับข้าหรือไม่?”
แลเห็นว่าเซียถงมิได้ให้ความสนใจกับตัวนางเอง องค์หญิงซีฉินก็เชิดหน้าสูง จับจ้องอีกฝ่ายด้วยท่าทางภาคภูมิใจประดุจนกยูงลำพองหาง
“เยวี่ยเอ๋อร์ หยุดทำตัวหยาบคาย!!”
พอได้ยินดังนั้น องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินก็ตะคอกเสียงดังลั่นด้วยความโกรธจัด มองหน้าองค์หญิงซีฉินที่ยืนท้าทายเซียถง สีหน้าการแสดงออกดูไม่พอใจอย่างยิ่งยวด สำหรับงานเลี้ยงในวันนี้ ตัวเขาย่อมมีจุดประสงค์ นั่นก็คือพยายามทำดีให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้กับเซียถง โดยหวังว่าสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้จะออกดอกออกผลให้แก่เขาในวันหน้า แต่ใครจะไปคิดว่า ทุกอย่างที่พยายามทำมาทั้งหมด กลับถูกองค์หญิงซีฉินผู้ซึ่งเอาแต่ใจทำลายลงไม่เหลือดี!
“หมายถึงว่า องค์หญิงต้องการให้หม่อมฉันเต้นรำกระมัง?”
ในคราวนี้ เซียถงมิได้ชักสีหน้าเบื่อหน่ายอีกต่อไป นางหันไปกล่าวกับองค์หญิงซีฉินพร้อมรอยยิ้ม
“นั่นแหละ! เจ้ากล้าเต้นหรือไม่!?”
องค์หญิงซีฉินสืบเท้าก้าวเข้าไปประจันหน้ากับเซียถงระยะเผาขน พร้อมเชิดหน้าสูงเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง
เซียถงเบะปากคว่ำลงเล็กน้อย พลางเขย่าจอกสุราในมือและกล่าวตอบองค์หญิงซีฉินไปว่า
“หม่อมฉันได้ยินมาว่า ลีลาเวลาองค์หญิงรินสุราช่างงดงามเสียยิ่งกว่าเวลาร่ายรำยิ่งแล้ว หากได้เห็นลีลาท่ารินของท่านสักคราให้เป็นขวัญตา หม่อมฉันผู้อัปลักษณ์คนนี้อาจโชคดีมีชายมาหลงรักบ้าง มิทราบว่าท่านจะช่วยสอนวิธีรินสุราให้หม่อมฉันได้หรือไม่? นี่นับเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิตหม่อมฉันยิ่งแล้ว!”
เนื้อความคำกล่าวของเซียถงเห็นได้ชัดเจนว่า จงใจสร้างความเสียหายแก่ภาพลักษณ์ขององค์หญิงซีฉินอย่างมาก อนึ่งตีความได้ว่า ทักษะฝีมือการร่ายรำขององค์หญิงค่อนข้างธรรมดา ขนาดท่าตอนรินสุรายังน่าดูชมเสียยิ่งกว่า แต่น่าเสียดายนักที่องค์หญิงกลับมิได้ฟังประโยคเหล่านั้นเลย มัวแต่สนใจกับคำชมที่เซียถงพร่ำพรูเยินยอ เพียงชั่วพริบตาเดียว ร่องรอยความเกลียดชังของนางพลันทุเลาลง แทนที่มาด้วยความภาคภูมิใจของผู้ที่อยู่เหนือกว่า องค์หญิงเชิดศีรษะสูงกล่าวกับเซียถงอย่างเย่อหยิ่งว่า
“องค์หญิงผู้นี้งดงามทุกอากัปกิริยา หญิงอัปลักษณ์เฉกเช่นเจ้ากลับลืมไปได้เลย!”
บรรดาขุนนางชั้นสูงที่นั่งอยู่ด้านหลังบัลลังก์ถึงกับกระแอมไอออกมา บ้างถึงกับสำลักสุราที่ดื่มไปเมื่อได้ยินคำตอบอันสุดแสนจะไร้เดียงสาขององค์หญิง ส่วนพวกขุนนางและผู้ร่วมประลองจากอีกสามจักรวรรดิที่เหลือต่างมองไปที่องค์หญิงซีฉิน ทั้งสีหน้าแววตาพวกเขาเหล่านั้นมองมาด้วยความเยาะเย้ยขำขัน ราวกับว่ากำลังรอชมเรื่องตลกอยู่
ยังมีใครโง่กว่านี้อีกหรือไม่ ที่ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังโดนหลอกด่า?
ยกเว้นแค่เพียงองค์จักรพรรดิแห่งซีฉิน องค์จักรพรรดิอีกสามพระองค์ที่เหลือต่างหันมามองหน้า ส่งสายตายิ้มแย้มให้กัน แววตาของแต่ละคนเผยแสดงแววเยาะเย้ยดูแคลนในความโง่บริสุทธิ์ขององค์หญิงแห่งซีฉินผู้นี้อยู่
ขณะเดียวกัน สีหน้าการแสดงออกขององค์จักรพรรดิแห่งซีฉินมืดทมิฬลงยิ่งกว่าต้นหม้อไหม้ ชั่วพริบตาที่กำลังจะปริปากกล่าว ทันใดนั้นสุ้มเสียงของเซียถงก็ดังขึ้นอีกครั้งว่า
“อันเนื่องมาจากความงดงามขององค์หญิงเสียนี่เอง จึงทำให้หม่อมฉันไม่สามารถเรียนรู้สิ่งนี้กับท่านได้ แต่งานเลี้ยงใหญ่เช่นนี้ที่สี่ปีจะมีครั้งหนึ่ง องค์หญิงไม่อยากแสดงวิธีรินสุราอันทรงสง่าแก่ทุกคนได้เห็นเป็นขวัญตาหน่อยรึ?”
กล่าวจบ นางก็ยื่นจอกสุราในมือลงบนโต๊ะข้างที่นั่ง และกล่าวต่อว่า
“ถึงแม้หม่อมฉันจะไร้ซึ่งบุญวาสนาให้องค์หญิงสั่งสอน แต่เพื่อทุกคนในงานเลี้ยงวันนี้ โปรดแสดงให้เป็นขวัญตาได้หรือไม่เจ้าค่ะ?”
ทุกวาจาคำกล่าวที่เซียถงได้เปล่งออกมาเปี่ยมล้นไปด้วยความจริงใจ และหากมิใช่เพราะคำพูดประโยคก่อนหน้านี้ของนาง ผู้คนในงานเลี้ยงทั้งหลายคงหลงเชื่อไปแล้วว่า เซียถงรู้สึกชื่นชมและเถิดถูนองค์หญิงซีฉินนางนี้จริงๆ ทันทีที่ได้ยินดังนั้นผนวกเข้ากับทุกสายตาที่จับจ้องเข้ามา องค์หญิงซีฉินก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เอื้อมมือไปคว้าจอกสุราและเหยือกสุราจากโต๊ะข้างที่นั่งเซียถงขึ้นทันที พร้อมเปล่งเสียงดังอย่างภาคภูมิขึ้นว่า
“ย่อมได้! เช่นนั้นองค์หญิงผู้นี้จะแสดงให้ดูเป็นขวัญตา!”
เมื่อเห็นว่าองค์หญิงกำลังบรรจงรินสุราให้เซียถง บรรดาขุนนางชั้นสูงแห่งซีฉินทั้งหลายถึงกับหน้าเสีย รีบหันขวับมองไปทางองค์จักรพรรดิแห่งซีฉินกันโดยพร้อมเพรียง ราวกับต้องการจะถามว่า เหตุการณ์กลายมาเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเราควรทำอย่างไรต่อ? ทว่าทางฝั่งองค์จักรพรรดิแห่งซีฉินกลับนั่งนิ่ง ถึงแม้สีหน้าการแสดงออกจะดูหม่นทมิฬ ทว่าเขาก็มิได้แสดงเจตนาห้ามปรามหรือหยุดมือใดๆ
“องค์หญิง ท่านช่างสง่างามยิ่งนักเวลารินสุรา! เช่นนั้นโปรดเป็นเกียรติแก่หม่อมฉัน ได้รินสุราให้ท่านบ้าง”
เซียถงกล่าวตอบพร้อมรอยยิ้มหวาน
หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งองค์หญิงและเซียถงต่างก็ซักสุราจอกแล้วจอกเล่ากระดกเข้าปากอย่างเมามัน สำหรับเซียถงในสายตาของทุกคน นางเป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่ง จึงไม่แปลกที่จะดื่มหนัก แต่นี่หาใช่เรื่องสมควรไม่สำหรับองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ ไม่นาน บรรดาขุนนางแห่งซีฉินทั้งหลายชักจะทนมองต่อไปไม่ไหว และทยอยกันยกมือเข้าปิดตาเอาไว้ ภายในใจได้แต่ร้องอุทาน อัปยศ! อัปยศ! อัปยศสิ้นดี! ไม่เพียงแต่องค์หญิงของพวกเขาจะรินสุราให้สาวน้อยธรรมดาคนหนึ่ง แต่ทั้งสองยังนั่งร่ำสุราด้วยกันอย่างเป็นกันเอง นี่เป็นเรื่องไม่เหมาะสมอย่างแรง! แล้วเหตุการณ์นี้ดันเกิดขึ้นในงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยคนนอกจากอีกสามจักรวรรดิ เช่นนี้แล้วพวกเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน? แล้วฝ่าบาทของพวกเขาอีก?
นี่ช่างเป็นการกระทำที่ไร้สาระเหลือเกิน… ภายในใจของบรรดาขุนนางแห่งซีฉินทั้งหลายแทบแตกสลายเมื่อเห็นภาพฉากนี้ บ้างถึงขั้นแอบกรงด่าสาปแช่งฝ่าบาทของพวกเขาอยู่ลึกๆ ที่ปล่อยให้องค์หญิงผู้แสนงี่เง่านางนี้ออกมาเต้นรำในงานเลี้ยงสำคัญเช่นนี้!