ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 310 งานอภิเษกในซีฉิน (2)
ตอนที่310 งานอภิเษกในซีฉิน (2)
ตอนที่310 งานอภิเษกในซีฉิน (2)
ทันทีที่ได้ยินองค์หญิงกล่าวเช่นนี้ออกมา เหล่าขุนนางชั้นสูงทั้งหลายของซีฉินก็ไม่สามารถนั่งติดเก้าอี้ได้อีกต่อไป มีจำนวนคนประมาณสองถึงสามรีบลุดขึ้น ประสานมือทมูลกับองค์จักรพรรดิแห่งซีฉินทันทีว่า
“องค์หญิงในเวลานี้เมามากแล้วพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทควรพานางกลับไปพักผ่อน!”
หากนางยังอยู่ต่อไป มีหวังองค์จักรพรรดิแห่งซีฉินของพวกเขาคงหน้าแตกไม่เหลือดี!
องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินจับจ้องไปยังใบหน้าขององค์หญิงสีหน้าดูมืดทมิฬน่ากลัว ก่อนจะชักพานำเก็บกลับมา และทันใดนั้นเองเขาก็ระบายยิ้มอ่อนบนมุมปาก หันมากล่าวกับองค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่ที่นั่งข้างๆ ว่า
“ข้าเคยได้ยินมาเนินนานแล้วว่า แท้ที่จริงราชาหมาป่าสวรรค์เป็นอ๋องแห่งจักรวรรดิตงหลี่ของท่าน เนื่องด้วยพรสวรรค์และคุณธรรมที่แสนโดดเด่นของเขา ข้าผู้นี้ต้องการจะจัดงานอภิเษกสมรสระหว่างบุตรสาวของข้ากับราชาหมาป่าสวรรค์ จะอย่างไรบุตรสาวของข้าเองก็ชอบพออีกฝ่ายมาสักพักใหญ่แล้ว แล้วทำไมเราไม่เชื่อมสัมผัสระหว่างสองจักรวรรดิด้วยงานอภิเษกเฉกเช่นนี้เสียล่ะ? จักรพรรดิตงหลี่ ท่านคิดเห็นเยี่ยงไร?”
แต่เดิมที่ให้องค์หญิงออกมาแสดงงานร่ายรำ องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินเองก็มีจุดประสงค์เร้นแฝงเอาไว้ภายในใจ ฟังว่าราชาหมาป่าสวรรค์ผู้นี้เป็นเจ้าเมืองแห่งดินแดนอี้เฉิงที่กำลังเจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดด หากสามารถทำให้องค์หญิงอภิเษกสมรสกับเขาได้ องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินก็จะสามารถช่วยกอบกู้ดินแดนอี้เฉิงให้เป็นเอกราชต่อจักรวรรดิตงหลี่ได้ ทั้งยังแอบกุมอำนาจมาเป็นของตนทีหลัง เพราะถึงแม้ว่าดินแดนอี้เฉิงจะเป็นเพียงหัวเมืองเหนือแห่งหนึ่งก็ตาม แต่ด้วยศักยภาพของมันในตอนนี้ ยังสามารถเติบโตได้อีกไกลโข!
แต่มีหรือที่องค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่จะมิทราบถึงเจตนาความคิดขององค์จักรพรรดิแห่งซีฉิน? ตัวเขาเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องการเรืองอำนาจของดินแดนอี้เฉิงที่อาจส่งผลกระทบต่อจักรวรรดิตงหลี่มาสักพักใหญ่แล้ว และหากไป๋หลี่หานได้เข้าอภิเษกสมรสกับองค์หญิงแห่งซีฉินเมื่อใด ในเวลานั้น ดินแดนอี้เฉิงจะมีจักรวรรดิซีฉินคอยหนุนหลังทันที และสามารถบุกโจมตีจักรวรรดิตงหลี่ได้ทุกเมื่อเนื่องด้วยความได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ จักรวรรดิตงหลี่อยู่ใต้ดินแดนอี้เฉิงอยู่เหนือเยื้องขึ้นไป นั่นหมายความว่า จักรวรรดิตงหลี่มีภัยอันตรายครั้งใหญ่หลวงถูกแขวนอยู่บนศีรษะตลอดเวลา เช่นนั้นแล้ว ในฐานะองค์จักรพรรดิ เขาหรือจะยอมได้เยี่ยงไร?
จะมีก็เพียงองค์จักรพรรดิแห่งซีฉินเท่านั้นที่กล้าเสนอเรื่องอภิเษกสมรสขึ้นมาอย่างไม่อายฟ้าอายดิน ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่สามารถหาข้อแก้ตัวที่เหมาะสมพอได้เลย ในขณะที่องค์จักรพรรดิตงหลี่กำลังครุ่นคิดอย่างหนักว่า ตนจะปฏิเสธอีกฝ่ายอย่างไรดี ทันใดนนั้นก็เห็นไป๋หลี่หานหยุดฝีเท้าลง และหันมาทูลกับองค์จักรพรรดิแห่งซีฉินว่า
“ข้าพเจ้ามีรูปโฉมอัปลักษณ์น่าเกลียด คงเป็นเรื่องไม่เหมาะสมอย่างยิ่งยวด หากต้องมาอภิเษกสมรสกับองค์หญิงผู้แสนงดงามเฉกเช่นนาง โปรดพินิจไตร่ตรองให้จงดี และเลือกชายคนใหม่ที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมกว่านี้เถิด”
พอได้ยินคำตอบของไป๋หลี่หาน องค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งใจ ตราบใดที่ไป๋หลี่หานไม่เห็นด้วย อีกฝ่ายก็ไม่สามารถรวบหัวรวบหางกันได้เช่นกัน
“ที่เจ้าปฏิเสธเฉกเช่นนี้ หรือเพราะคิดว่าบุตรสาวของข้าไม่คู่ควรกับตัวเจ้า?”
องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินมิได้มีโทสะพิโรธใดๆ เพียงหรี่สายตาเรียวแหลมยิงใส่ทางไป๋หลี่หาน
“องค์หญิงแห่งซีฉินทั้งงดงามและมากกุลสตรีเพรียงพร้อม หากบุรุษชายใดได้อภิเษกสมรสกับนางนับเป็นพรอันประเสริฐ แต่น่าเสียดายนักที่ข้าพเจ้าคนนี้มีหญิงในดวงใจแล้ว เจตนาความหวังดีขององค์จักรพรรดิซีฉิน เกรงว่าจะรับไว้ไม่ได้”
ไป๋หลี่หานเชิดศีรษะมองไปทางองค์จักรพรรดิแห่งซีฉิน ภายใต้สายตาของอีกฝ่ายที่เพ่งมองเขม็ง เขาสามารถกล่าวอธิบายตอบได้อย่างใจเย็น
แต่ละวาจาที่ท่งอสะกดออกมาล้วนเปี่ยมล้นความแน่วแน่
องค์หญิงซีฉินดีใจอย่างมาก ทันทีที่ได้ยินเสด็จพ่อของตนเสนอเรื่องงานอภิเษกสมรสกับนางออกมา แต่ก็คาดไม่ถึงเช่นกันที่จะถูกไป๋หลี่หานตอบปฏิเสธกลับมาทันที แถมเจ้าตัวยังบอกอีกว่า มีหญิงในดวงใจแล้ว
ทันทีทันใด ประกายตาคู่นั้นของไป๋หลี่หานพลันแข็งค้างน่าสะพรึงกลัวทันควัน เสมือนมีเกลียวพายุหมุนโคจรอยู่ในดวงตา รัศมีจิตสังหารอันทรงพลังแรงกล้าแผดขยายครอบคลุมไปทั่วโถงงานเลี้ยงในพริบตา เขากล่าวว่า
“และใครก็ตามที่กล้าแตะต้องนาง มันตาย!”
รัศมีจิตสังหารระลอกใหญ่ที่เดือดปะทุขึ้นในตัวฉับพลัน ส่งผลให้องค์หญิงซีฉินหน้าถอดสีซีดเซียวลงทันทีด้วยความตกใจ เสียงกรีดร้องดังสนั่น และหมดสติทรุดฮวบลงกับพื้นทันที แต่โชคยังดีที่มีสาวงามนักร่ายรำอยู่เคียงข้างคอยช่วยพยุงตัวเอาไว้
การแสดงกิริยาไม่เคารพต่อองค์หญิงซีฉินเฉกเช่นนี้ต่อหน้าทุกคนในงานเลี้ยงนับว่า หักหน้าองค์จักรพรรดิซีฉินไม่น้อย สีหน้าการแสดงออกของแต่ละคนในงานเลี้ยงพลันแปรเปลี่ยน พวกเขาทั้งหมดต่างมุ่งสายตาจับจ้องมาทางองค์จักรพรรดิแห่งซีฉินจนเป็นตาเดียว
สีหน้าท่าทีขององค์จักรพรรดิทรุดฮวบดำมืดสนิททันที เพ่งสายตามองไป๋หลี่หานที่อยู่เบื้องหน้า เขากล่าวคำชนคำอย่างแช่มช้าขึ้นว่า
“หากเจ้าไม่ชอบพอองค์หญิง เช่นนั้นก็อย่าทำให้นางเป็นเหือนตัวตลก ถึงข้าผู้นี้มิทราบว่า ตัวเจ้ากำลังมองหาหญิงใดอยู่ แต่ไม่ว่านางคนนั้นจะเป็นใครมาจากไหน แต่เมื่อเทียบกับศักดิ์สถานะของบุตรสาวข้าที่เป็นถึงองค์หญิงแห่งซีฉิน ก็ไม่มีสตรีนางใดบนผืนพิภพที่สูงส่งยิ่งกว่า ดังนั้น หากเจ้าอภิเษกสมรสกับบุตรสาวข้า ถึงเวลานั้นเจ้าย่อมหาสตรีอื่นมาเป็นสนมข้างกายได้ทุกเมื่อ”
ดูท่าแล้ว ไม่ว่ายังไงวันนี้เขาก็จะเอาไป๋หลี่หานมาเป็นลูกเขยของตนให้จงได้!
แต่ทันใดนั้นเอง องค์จักรพรรดิตงหลี่ที่นั่งเงียบอยู่นานก็เอ่ยขึ้นว่า
“โอ้? จักรพรรดิซีฉินกลับไม่รู้อะไรเลยกระมัง? อนุชาคนนี้กับบุตรสาวของข้าองค์หญิงอวี๋อิง ทั้งคู่มีสัญญาหมั่นหมายกันไว้นานแล้ว และหญิงในดวงใจที่เขากำลังกล่าวถึงก็คือ ไป๋หลี่อวี๋อิง บุตรสาวของข้าเอง”
เสมือนอสนีบาตฟาดสะบั้นผ่าลงมา ณ ใจกลางงานเลี้ยง ก่อเกิดคลื่นความโกลาหลวุ่นวายขยายตัวออกเป็นวงกว้างในทันใด
สีหน้าการแสดงออกของบรรดาผู้คนจากจักรวรรดิตงหลี่ชักจะตกตะลึงหนักที่สุดแล้ว แต่ละคนเหลียวมองไปทางไป๋หลี่หานโดยพร้อมเพรียง ราชาหมาป่าสวรรค์ผู้นี้ไปมีสัญญาหมั้นหมายกับองค์หญิงอวี๋อิงตั้งแต่เมื่อใด? หรือนี่เป็นข่าววงในที่เป็นความลับสุดยอดกัน? แต่ถึงแบบนั้น…พวกเขาทั้งคู่มิใช่ว่าเป็นอาหลานกันหรอกรึ? เรื่องเช่นนี้ก็มีด้วย?!
อย่างไรเสีย หากเป็นตามที่องค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่กล่าวไปจริง ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่ ไฉนไป๋หลี่หานยังไม่แต่งงานจวบจนปัจจุบัน ที่แท้ก็กำลังรอไป๋หลี่อวี๋อิงอยู่นี่เอง!
ก็สงสัยอยู่แล้วเช่นกัน ไป๋หลี่หานที่มักจะทำตัวเฉยเมยประดุจน้ำแข็ง แต่เหตุไฉนถึงมักปฏิบัติตัวกับไป๋หลี่อวี๋อิงอย่างนุ่มนวลถึงเพียงนั้น ทุกคนจากตงหลี่พึงตระหนักทราบได้พร้อมกันทันที ปรากฏว่าเรื่องราวมันเป็นเช่นนี้นี่เอง!
เซียถงเดินติดตามฝูงชนเหล่านั้นเพื่อเฝ้ามองไป๋หลี่หาน นางยังจดจำสิ่งที่ไป๋หลี่หานเคยกล่าวกับตนเมื่อไม่กี่วันก่อนได้แม่นยำ เกี่ยวกับเรื่องการอภิเษกสมรสกับนางในฐานะพระชายาเอก และยังหวนนึกไปถึงตอนนั้น ที่ไป๋หลี่หานเคยลั่นวาจาขู่นางไว้ว่า ห้ามทำอันตรายอันใดกับไป๋หลี่อวี๋อิงโดยเด็ดขาด ทั้งๆ ที่เขากับไป๋หลี่อวี๋อิงมีสัญญาหมั้นหมายกันอยู่แล้ว จึงเป็นที่ชัดเจนว่า การที่เขามาเอ่ยข้อเสนออภิเษกสมรสกับนางเช่นนี้ ทั้งหมดก็เพื่อจงใจสร้างปัญหาให้แก่กันเท่านั้น และหากตอนนั้นเซียถงเผลอตอบรับไป เกรงว่าไม่ต่างอะไรจากรนหาที่ตายเลย
แต่โชคดียิ่งนักที่นางปฏิเสธไป
ไป๋หลี่หานถึงกับยืนนิ่งประหลาดใจไปชั่วขณะ โดยผิวเผินแม้จะดูคล้ายว่าองค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่เป็นห่วงเป็นใยตัวเขา แต่ในความเป็นจริง อีกฝ่ายก็แค่กังวลว่า งานอภิเษกสมรสระหว่างตัวเขากับองค์หญิงแห่งซีฉินจะส่งผลกระทบร้ายแรงกับจักรวรรดิตงหลี่ เพราะเหตุนั้น อีกฝ่ายจึงตัดสินใจ โยนไป๋หลี่อวี๋อิงออกมาเพื่อขัดขวางงานอภิเษกสมรสนี้อย่างไม่ลังเลเลยสักนิด