ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 311 สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก (1)
ตอนที่311 สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก (1)
ตอนที่311 สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก (1)
“หากมิเชื่อก็ถามเจ้าตัวได้ บุตรสาวของข้าไป๋หลี่อวี๋อิงมีหมั้นหมายกับเจ้าจริงหรือไม่?”
คล้ายมองเห็นข้อครหาสงสัยจากผู้คนรอบตัวว่า องค์จักรพรรดิตงหลี่กุเรื่องนี้ชั่วคราวเพื่อปฏิเสธข้อเสนอขององค์จักรพรรดิแห่งซีฉิน ดังนั้นเจ้าตัวจึงหันไปถามไป๋หลี่หานเป็นการพิสูจน์ทันที
ไป๋หลี่หานชำเลืองหางตาแสนเยียบเย็นมองไปที่องค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่เล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าตอบเบาๆ
ทุกคนต่างคิดไปว่า วาจาคำกล่าวเมื่อครู่ขององค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่เป็นเพียงเรื่องที่เพิ่งปั้นน้ำเป็นตัวขึ้นสดๆ ร้อนๆ หวังเพื่อยุติแผนการอภิเษกสมรสระหว่างองค์หญิงซีฉินและไป๋หลี่หาน แต่เมื่อทุกคนได้เห็นไป๋หลี่หานพยักหน้ายืนยัน เรื่องสัญญาหมั้นหมายระหว่างตัวเขากับไป๋หลี่อวี๋อิงก็ดูมีน้ำหนักเป็นจริงขึ้นทันที พอเห็นเจ้าตัวพยักหน้ายืนยันเช่นนี้ องค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่ก็เริ่มคิดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวจริงจังมากขึ้น เพราะตราบใดที่ไป๋หลี่อวี๋อภิเษกสมรสกับไป๋หลี่หานได้จริงๆ ดินแดนอี้เฉิงก็จะตกอยู่ในการควบคุมของเขาไปโดยปริยาย
ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องการลอบสังหารซึ่งถูกคิดขึ้นโดยเย่หลีเทียนที่เพิ่งล้มเหลวไปในครั้งล่าสุด ในจุดนี้ ไป๋หลี่หานต้องเริ่มสงสัยแล้วแน่นอนว่า ตัวตั้งตัวตีก็คือเขา ดังนั้น หากเจ้าตัวยอมอภิเษกสมรสกับไป๋หลี่อวี๋อิง ก็เท่ากับว่าบัญชีแค้นทั้งหมดก็จะถูกขจัดทิ้งไป และไม่ต้องมานั่งกังวลเกี่ยวกับเรื่องการถูกลอบโจมตีอีกต่อไป
เมื่อคิดได้ดังนั้น องค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่ก็ริเริ่มปริปากกล่าวต่ออีกว่า
“ราชาหมาป่าสวรรค์มีสัญญาหมั้นหมายกับองค์หญิงไป๋หลี่อวี๋อิงของข้าตั้งแต่เนิ่นนานแล้ว ดังนั้นเรื่องแผนการอภิเษกของจักรพรรดิซีฉินเกรงว่าจะเป็นไปมิได้ อนึ่ง ทั้งคู่ต่างมีศักดิ์สถานะเป็นถึงองค์หญิงเหมือนกัน คงไม่มีใครเต็มใจยอมลดตัวมาเป็นสนมแน่นอน องค์จักรพรรดิซีฉิน ท่านอย่าได้เศร้าเสียใจไป สำหรับองค์หญิงซีฉินที่ทั้งสวยและเปรียบพร้อมความเป็นกุลสตรี อีกไม่นานจักต้องเสาะแสวงหาคู่ครองที่เหมาะสมได้อย่างแน่นอน”
หากเป็นสตรีคนอื่นกล่าวคือยังพอหาข้อแก้ตัวได้ แต่สำหรับองค์หญิงไป๋หลี่อวี๋อิงนั้นแตกต่างออกไป นางเป็นองค์หญิงที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงอย่างมากในทวีปเทียนหลางแห่งนี้ ด้วยสถานะราชาโอสถของนางก็ดี เรื่องความงดงามถล่มเมืองของนางก็ดี ไม่ว่าจะมองทางใด ไป๋หลี่อวี๋อิงอยู่เหนือชั้นกว่าองค์หญิงซีฉินทุกทาง เช่นนั้น องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินจึงไม่สามารถกล่าวแย้งอันใดได้อีกต่อไป เพียงพยักหน้ากล่าวว่า
“หากเช่นนั้นก็หาไม่เป็นไร แต่อย่างไร ข้าผู้นี้กลับต้องการผูกมิตรที่ดีกับจักรวรรดิตงหลี่ด้วยใจจริง ฮ่าฮ่า…”
องค์จักรพรรดิยิ้มตอบสีหน้าเริงร่าขึ้นว่า
“ฮ่าฮ่า หาได้ยากยิ่งที่จักรพรรดิซีฉินมองตงหลี่ของเราในแนวทางที่ดี ตราบเท่าที่ท่านมิได้หมายปองคู่หมั้นของบุตรสาวข้า จักรพรรดิซีฉินสามารถเลือกใครก็ได้ในตงหลี่ให้มาอภิเษกเพื่อสายสัมพันธ์อันดีระหว่างสองจักรวรรดิ”
“ไม่! เป็นข้าเท่านั้นที่ต้องได้อภิเษกสมรสกับท่านราชาหมาป่าสวรรค์! ไม่อนุญาตให้ใครหน้าไหนอภิเษกกับเขาทั้งนั้น!”
องค์หญิงซีฉินกระทืบเท้าโวยลั่นด้วยความหงุดงหงิด
“เยวี่ยเอ๋อร์ หยุดทำตัวเอาแต่ใจได้แล้ว! รีบออกไปจากที่นี่เสีย!”
แลเห็นบุตรสาวตัวเองยังคงดื้อดึงทำตัวงี่เง่า สีหน้าการแสดงออกขององค์จักรพรรดิซีฉินหมองหม่นลงอีกครา ปริปากตวาดใส่นางด้วยความโมโหจัด ตลอดงานเลี้ยงในวันนี้ บุตรสาวคนนี้ทำให้เขาขายหน้าไม่รู้เท่าไหร่แล้ว
“แต่ว่าเสด็จพ่อ! ข้าเพียงปรารถนาที่จะอภิเษกสมรสกับท่านราชาหมาป่าสวรรค์เสียเท่านั้น ไม่ยอมให้นังบัดซบหน้าไหน…”
องค์หญิงซีฉินยังคงกัดฟันกรอดไม่ยอมแพ้ สวนตอบออกไปพร้อมสีหน้าที่เริ่มซีดเผือด ทว่าก่อนที่จะได้เอ่ยกล่าวอันใดเพิ่มเติม นางก็ถูกองค์รักษ์ทั้งสองนายหิ้วปีกลากออกไปจากงานเลี้ยงโดยตรง
“องค์หญิงซีฉินช่างเป็นสาวน้อยที่น่ารักอะไรปานนี้ ซื่อสัตย์กับความรักถึงขนาดป่าวประกาศจุดยืนของตนกลางสาธารณะอย่างกล้าหาญ”
องค์จักรพรรดิแห่งเป่ยฮั่นยิ้มกล่าวขึ้นประโยคหนึ่ง
“ถูกต้องแล้ว ถูกต้อง จะว่าไปองค์หญิงซีฉินก็เหมือน…คนที่ควบคุมอารมณ์ตนเองได้ไม่ดีนัก นี่เป็นครั้งแรกก็ว่าได้กระมังที่ได้พบกับอิสตรีที่ซื่อสัตย์กับความรักปานนี้ นับว่าหายากแท้”
องค์จักรพรรดิแห่งหน่านเฟิงระบายเสียงหัวเราะออกมา
องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินจ้องหน้าทั้งคู่ชักสีหน้าไม่พอใจนัก แต่ก็เลือกที่จะไม่สนใจกิริยาท่าทางใดๆ ของพวกเขาอีก
ส่วนทางด้านองค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่แค่ระบายยิ้มบางๆ มิได้เอ่ยกล่าวอะไรออกมา สาเหตุแรกเริ่มเดิมทีที่ทำให้สถานการณ์มันพัฒนาไปไกลปานนี้ก็มาจากคนจากจักรวรรดิตัวเอง ดังนั้น หากยังกล่าวซ้ำเติมกันเกรงว่าจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่
เมื่อเซียถงเห็นว่า ไป๋หลี่หานพยักหน้ายอมรับเรื่องหมั้นหมายกับไป๋ฆลี่อวี๋อิงแต่โดยดี ภายในใจของเขาก็เปี่ยมล้นเพลิงโทสะปะทุ ในเมื่อเขามีสัญญาหมั้นหมายกับไป๋หลี่อวี๋อิงอยู่แล้วตั้งแต่แรก นี่ก็เป็นที่ชัดเจนว่า ตอนที่ยื่นข้อเสนออภิเษกสมรสให้เป็นพระชายาเอก อีกฝ่ายเพียงต้องการยั่วประสาทนางเล่นเท่านั้น หรือมันคิดว่า ตัวข้านั้นง่ายต่อการรังแกปานนี้?
ระรอกคลื่นอารมณ์ความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดของนางล้วนถูกสั่งสมไว้ในดวงตาคู่นั้น ก่อผนึกกลายเป็นเพลิงพิโรธที่โหมปะทุอย่างบ้าคลั่ง
ไป๋หลี่หานชำเลืองสายตาสบกับเซียถง มุมปากที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากของเขากระตุกยิ้มขึ้นบางๆ ประการแรก ในตอนนี้สามารถขจัดปัญหาเรื่ององค์หญิงซีฉินที่คอยตามตื้อได้แล้ว และประการที่สอง ยามเห็นประกายเพลิงโทสะที่ปะทุเดือดดาลในดวงตาคู่ใสบริสุทธิ์ของเซียถง เขาก็รู้สึกยินดีปรีใจ เพราะอย่างน้อยที่สุดนางก็ยังพอมีเยื่อใยกับตัวเขาอยู่บ้าง หากไม่รู้สึกอะไรกันเลยจริงๆ มีหรือที่จะแสดงท่าทีโมโหใส่กันเฉกเช่นตอนนี้?
พอเซียถงยิ่งเห็นสายตาที่จับจ้องมาหาของไป๋หลี่หาน ความโกรธเกรี้ยวภายในใจก็ยิ่งโหมทวีรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มันภูมิใจนักกระมังที่ได้กลั่นแกล้งข้า? โชคดีจริงๆ ที่ตอนนั้นเลือกที่จะปฏิเสธไป มิฉะนั้นคงหลงกลไอ้บัดซบนี่ไปเต็มเปา แต่ถึงจะรู้เช่นนี้แล้ว แต่มันทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจนัก และไม่ช้าก็เร็ว เซียถงจะต้องหาโอกาสเอาคืนมันให้จงได้!
นึกขึ้นได้ดังนั้น นางก็พ่นลมหายใจออกมาคำโตอย่างเย็นชา และละความสนใจกลับมายังงานเลี้ยงดังเดิม ทว่าขณะที่นางกำลังครุ่นพินิจหาวิธีเอาคืนไป๋หลี่หาน จู่ๆ ก็ได้ยินองค์จักรพรรดิแห่งซีฉินกล่าวขึ้นว่า
“จะว่าไปแล้ว ยังมีแผนอภิเษกสมรสอีกหนึ่งงานที่ต้องการจะกล่าวถึง บุตรชายบุญธรรมของข้า ชิงเยวี่ย มีความปรารถนาที่จะอภิเษกสมรสกับเซียถงในฐานะชายา หวังว่าครั้งนี้จักรพรรดิตงหลี่คงไม่คัดค้านอีกกระมัง?”
เสี้ยวอึดใจขณะ สุราในจอกของเซียถงพลันกระฉอกเลอะหกออกมา นางถึงกับชะงักค้างไปสักครู่ใหญ่
ชิงเยวี่ยอยากจะแต่งงานกับข้า?
นางเบิกตาโตแทบถล่นไหล หันไปจ้องหน้าชิงเยวี่ยที่นั่งอยู่เคียงข้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ แลเห็นเพียงชิงเยวี่ยที่นั่งส่งยิ้มให้แก่ตนอยู่แบบนั้น ไม่นาน เซียถงก็ได้เข้าใจในทันใด ว่าไฉนองค์จักรพรรดิแห่งซีฉินถึงเชิญให้นางขึ้นนั่งบนเก้าอี้ตำแหน่งนี้ ปรากฏว่ามีเจตนาแฝงซ่อนอยู่!
คนที่ตกตะลึงกับคำพูดประโยคนี้ขององค์จักรพรรดิแห่งซีฉินไม่น้อยไปกว่าเซียถงก็คงเป็น องค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่ที่ตอนนี้นั่งอ้าปากค้างไปแล้ว ทีแรก เห็นจากท่าทีการกระทำขององค์จักรพรรดิแห่งซีฉินที่มีต่อเซียถง ก็คิดว่าต้องการจะหยอกล้อกันเท่านั้น แต่ใครจะไปคาดฝัน อีกฝ่ายจ้องจะจับเซียถงมาปองดองกับบุตรชายบุญธรรมของตัวเองเช่นนี้! ราวกับว่า ตละเตรียมแผนการทุกอย่างมาก่อนงานเลี้ยงไว้อยู่แล้ว เมื่อข้อเสนอการอภิเษกสมรสขององค์หญิงซีฉินถูกปัดตกไป เจ้าตัวก็ยิ่งแผนการใหม่มาโจมตีต่อเนื่องทันที
อาศัยพรสวรรค์ด้านการต่อสู้ที่น่ากลัวของเซียถง องค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่ไม่ยอมปล่อยนางให้ไปปรองดองกับฝ่ายจักรวรรดิซีฉินแน่นอน แต่เนื่องจากเมื่อครู่ ตนเพิ่งจะปฏิเสธการอภิเษกสมรสขององค์หญิงซีฉินไปหมาดๆ ดังนั้นจึงไม่สามารถเอ่ยปากปฏิเสธได้ซ้ำสองแล้วในขณะนี้
องค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่ถึงกับสำลัก พูดไม่ออกไปชั่วขณะ
เมื่อได้ยินวาจาคำกล่าวเช่นนั้นขององค์จักรพรรดิแห่งซีฉิน นัยน์ตาคู่ลึกล้ำประดุจบ่อน้ำบรรพกาลของไป๋หลี่หานพลันบังเกิดเกลียวคลื่นพายุระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่ง นิ้วทั้งสิบสองข้างผสานบีบกำแน่นหนาสั่นเทา ถึงแม้ตัวเขาจะพอคาดเดาจุดประสงค์ที่แท้จริงขององค์จักรพรรดิแห่งซีฉินได้อยู่แล้ว แต่เมื่อตอนนี้มาได้ยินจริงๆ เขากลับรู้สึกอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก เสมือนกับโดนคมมีดนับพันเล่มกระหน่ำทิ่มแทง ชั่วขณะหนึ่ง เขาเกือบจะยับยั้งอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ แทบจะคว่ำโต๊ะแถวนั้นให้พังครืนลงมา
เป็นเพราะคำพูดประโยคนี้ขององค์จักรพรรดิแห่งซีฉิน จึงทำให้ไป๋หลี่หานรู้ว่า เซียถงมีความสำคัญสำหรับใจดวงนี้ของตนมากเพียงใด และเบื้องลึกในจิตใจดวงนี้ของเขาก็รู้สึกหวาดกลัวเหลือเกิน กลัวว่าสักวันนางจะไปตกหลุมรักใครอื่นเข้า อิสตรีผู้เย็นชาดั่งน้ำแข็ง ทั้งยังมากด้วยศักดิ์ศรีและความหยิ่งผยองถือดีคนนี้ มันได้ถูกสลักจารึกอยู่ในหัวใจของเขานานแล้ว
โชคยังดีที่ไป๋หลี่หานสวมหน้ากากอยู่ ใครต่อใครจึงไม่เห็นคลื่นความโกรธเกรี้ยวที่เผยปรากฏอยู่บนใบหน้า
“หรือเซียถงเองก็มีสัญญาหมั้นหมายกับชายอื่นอีก?”
เมื่อเห็นว่าองค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่ไม่ยอมพูดไม่ยอมจาสักที องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินจึงถามจี้ซ้ำใส่ และเริ่มชักสีหน้าไม่พอใจกล่าวต่อว่า
“จักรวรรดิซีฉินของข้ารุ่งเรืองมั่งคั่ง ข่าวการอภิเษกสมรสกับใครสักคนในตงหลี่คงมิได้สร้างความขายหน้าแก่ท่านเกินไปกระมัง ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงกับคู่สมรสของนางที่เป็นถึงบุตรชายบุญธรรมของข้าผู้มีศักดิ์เป็นถึงองค์รัชทายาท การที่เขาอภิเษกสมรสกับบุตรสาวจวนเสนาบดีในตงหลี่นับเป็นเกียรติยศสูงสุด!”
หนึ่งวาจาคำรนซัดกระแทกอัดใส่ องค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่ถึงกับใจหายใจคว่ำ คาดไม่ถึงเลยว่า องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินผู้นี้ได้กระทำการตรวจสอบภูมิหลังของเซียถงมาแล้วอย่างลับๆ ยิ่งไปกว่านั้นเอง ในงานประลองสี่จักรวรรดิครั้งนี้ เซียถงยังตัดแขนตัดขาหลินเฟยผู้เป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งซีฉินซะจนไม่เหลืออนาคตให้เฉิดฉาย ดังนั้น องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินจึงยิ่งต้องการตัวเซียถง เพื่อมาเสริมทัพให้แก่จักรพรรดิซีฉินจนกล้าแกร่งดังเดิม แทนตัวหลินเฟยที่ขาดหายไป