ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 312 สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก (2)
ตอนที่312 สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก (2)
ตอนที่312 สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก (2)
แต่เดิมทีงานประลองสี่จักรวรรดิถูกก่อตั้งขึ้นมาก็เพื่อกำจัดต้นกล้ามากพรรสวรรค์จากอีกสามจักรวรรดิ แต่ในเวลานี้ อัจฉริยะแห่งจักรวรรดิซีฉินที่อุตส่าห์ฟูมฟักขึ้นมาอย่างหลินเฟยกลับถูกตัดแขนตัดขากลายมาเป็นคนพิการโดยสมบูรณ์ เป็นเช่นนี้แล้ว มีหรือที่องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินจะยอมปล่อยไปง่ายๆ? เขาไม่ยอมให้เซียถงต้องเติบโตกลายมาเป็นก้างชิ้นโตที่คอยมาขัดขวางความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิซีฉินแน่นอนในอนาคต ดังนั้น หากเอานางมาเป็นพวกไม่ได้ เช่นนั้นต้องการรีบกำจัดทิ้งไปโดยเร็วที่สุด
ณ ช่วงเวลานี้ องค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่ตกสู่สภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกโดยสมบูรณ์ หากตนไม่มีปัญญาควบคุมเซียถงเอาไว้ใช้งานได้ คงเป็นการดีกว่าที่จะตัดไฟตั้งแต่ต้นลม สังหารนางทิ้งไปเสีย แต่หากตัดสินใจทำเช่นนั้น เขาก็จะไม่มีโอกาสได้พบเจอกับเฒ่าประหลาดลึกลับที่เซียถงพูดถึงอีกชั่วชีวิต
เมื่อเห็นองค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่ครุ่นคิดกับตัวเองอย่างหนัก ร่องรอยความไม่พอใจบนใบหน้าขององค์จักรพรรดิซีฉินก็ยิ่งปรากฏชัดเจนยิ่งขึ้น
“จักรพรรดิตงหลี่ไยมีสิ่งใดต้องลังเล? สำหรับเซียถง บุตรสาวแห่งจวนเสนาบดีคนหนึ่ง บุญชายบุญธรรมของข้าที่เป็นองค์รัชทยาทแห่งซีฉินกลับไม่มีคุณสมบัติเพียงพองั้นรึ? องค์หญิงแห่งซีฉิน ท่านก็ปฏิเสธ มาถึงตอนนี้องค์รัชทายาทแห่งซีฉินเอง ท่านก็จะปฏิเสธอีกคราว?”
หันศีรษะชำเลืองมอง พลางเห็นประกายแสงพิฆาตโฉบแล่นออกมาจากดวงตาของอีกฝ่าย ทันทีทันใด องค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่พลันตรัสรู้เข้าใจได้ในบัดดล ที่แท้เรื่องงานอภิเษกสมรสขององค์หญิงซีฉินก็เป็นเพียงข้ออ้าง เพื่อให้ตัวเขาหมดสิทธิ์ในการปฏิเสธข้อเสนอใดๆอีก และเป้าหมายสูงสุดของจักรพรรดิแห่งซีฉินก็คือ การฉกชิงตัวเซียถงให้มาอยู่ในอำนาจการควบคุมของตน!
องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินวางแผนเตรียมการมาอย่างดิบดีแล้ว เพราะเขาเป็นกังวลว่า หากยกเรื่องงานอภิเษกสมรสของเซียถงขึ้นมาเสนอก่อน จะมีโอกาสถูกปฏิเสธได้สูงมาก ดังนั้นก็ยกเรื่องงานอภิเษกสมรสระหว่างองค์หญิงแห่งซีฉินและไป๋หลี่หานขึ้นมาเป็นตัวล้อ แล้วค่อยหยิบเรื่องเซียถงมาเสนอต่อทันที เมื่อมาถึงจุดนี้ ต่อให้องค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่จะไม่เต็มใจยอมรับแค่ไหนก็ตาม แต่เขาจะไม่มีสิทธิ์ได้คัดค้านอีกต่อไปแล้ว
กล่าวคือ ณ ปัจจุบันเซียถงเป็นคนเดียวที่ยังพอมีสิทธิ์จะปฏิเสธงานอภิเษกสมรสในครั้งนี้ เช่นนั้น องค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่จึงรีบโยนภาระความรับผิดชอบนี้ให้แก่นางโดยไว หวังเพียงว่า เซียถงจะเลือกตอบปฏิเสธ
“วัฒนธรรมพื้นเมืองของชาวตงหลี่ เน้นให้อิสระกับในการตัดสินใจกับเจ้าตัวเป็นหลัก ไม่ว่าเซียถงจะเต็มใจอภิเษกสมรสกับบุตรชายบุญธรรมของท่านหรือไม่ ทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับนางทั้งสิ้น”
กล่าวจบ องค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่รีบชำเลืองไปที่นางอย่างมีความหมาย และยิ้มกล่าวน้ำเสียงอบอุ่นใจดีขึ้นว่า
“เซียถง หากเจ้ายินดีอภิเษกสมรสกับองค์รัชทายาทแห่งซีฉิน นี่ถือเป็นเรื่องดีที่จะได้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองจักรวรรดิ ส่วนเรื่องครอบครัวของเจ้า ข้าผู้นี้จะเป็นธุระดูแลเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ…แม่ของเจ้า”
องค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่จงใจเน้นเสียงหนักคำว่า แม่ ให้เซียถงได้รู้ตัว ถึงรอยยิ้มที่ฉาบคลุมบนใบหน้าจะดูเป็นมิตรสุดแสน แต่เบื้องลึกในแววตากลับฉายประกายข่มขู่อย่างชัดเจน
คล้อยหลังครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง องค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่ก็ลุกขึ้นไปหาชิงเยวี่ยที่นั่งอยู่ด้านหลังองค์จักรพรรดิแห่งซีฉิน และเอ่ยถามน้ำเสียงขึงขังจริงจังว่า
“เซียถงมีรูปโฉมที่อัปลักษณ์และสถานะยังเป็นเพียงบุตรสาวเสนาบดีชั้นรองคนหนึ่งเท่านั้น องค์รัชทายาทชิงเยวี่ยยังอยากจะอภิเษกสมรสกับนางอยู่กระมัง?”
“แม่นางเซียมากด้วยสติปัญญาชาญฉลาด และพรสวรรค์รอบด้าน ชิงเยวี่ยคนนี้รู้สึกประทับจับใจยิ่งแล้ว ต่อให้ใบหน้าของนางจะเละเหลือแต่กระดูกก็ตามที ความรู้สึกของข้าที่มีต่อนางก็ยังไม่แปรเปลี่ยนชั่วนิรันดร์”
ในเวลานี้ สีหน้าแววตาของชิงเยวี่ยดูอ่อนโยนมากกว่าปกติทั่วไป รอยยิ้มที่ส่งมอบให้แก่เซียถงช่างดูอบอุ่นกว่าครั้งใดๆ
“ฝ่าบาท หากองค์รัชทยาทชิงเยวี่ยปรารถนาอภิเษกสมรสกับหม่อมฉันจริงๆ ตัวหม่อมฉันเองก็ยินดีเช่นกัน”
วาจาเพียงไม่กี่คำเปล่งออกจากปากเซียถงประดับคู่รอยยิ้มบางสวย นางหันไปพยักหน้าแสดงท่าทีว่ายินยอมรับข้อเสนอให้กับทางองค์จักรพรรดิแห่งซีฉินอย่างว่าง่าย
สีหน้าการแสดงออกขององค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่มืดทมิฬลงในทันใด หรือเป็นไปได้ไหมว่า นางจะไม่ได้ยินคำขู่ของเขา? หรือตั้งใจจะว่าวางแผนทอดทิ้งครอบครัวรวมไปถึงแม่ของตน และออกมาสร้างชีวิตใหม่ไว้แล้ว?
ตอนที่ข้าเสนอให้นางขึ้นเป็นพระชายาเอกขององค์รัชทยาทแห่งตงหลี่ กลับถูกเจ้าตัวตอบปฏิเสธในฉับเดียวโดยไม่มีทีท่าลังเลใดๆ แต่พอมาวันนี้ กลับตอบตกลงที่จะเข้าอภิเษกสมรสกับบุตรชายบุญธรรมขององค์จักรพรรดิแห่งซีฉินในคำเดียว นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน? สายตาคู่นั้นที่จับจ้องไปทางเซียถงยิ่งทวีความหม่นหมองลงเรื่อยๆ
เมื่อได้ยินคำตอบจากปากเซียถง ไป๋หลี่หานพลันใจสั่นระรัวรุนแรงแทบพุ่งทะลุลำคอออกมา เขาหันศีรษะมองหน้าเซียถงด้วยความเหลือเชื่อ
นาง…นางตอบตกลงได้เยี่ยงไรกัน? นางยอมแต่งงานกับชายคนนั้นได้ยังไง!!
เซียถงเป็นหญิงสาวที่มีศักดิ์ศรีสูงส่งประหนึ่งจันทราเหนือฟ้า แล้วคนอย่างนางหรือจะมีเห็นดีเห็นงามด้วยกับงานอภิเษกสมรสอันไร้ความจริงใจเช่นนี้?
วันนั้น เขาเคยถามนางด้วยใจจริงที่มีให้ว่า อยากเป็นพระชายาเอกของข้าหรือไม่? แต่ในวันนั้นนางกลับตอบปฏิเสธโดยไม่แม้แต่จะคิด ทว่าพอมาตอนนี้ กลับตอบตกลงที่จะอภิเษกสมรสกับชิงเยวี่ยโดยไม่คิดเช่นกัน ความแตกต่างดั่งฟ้ากับเหวเช่นนี้มันคืออะไรกัน? หรือเป็นไปได้ไหมว่า…นางจะชอบเจ้าหนุ่มอ่อนแออย่างชิงเยวี่จริงๆ? ทันใดนั้นเอง กระแสความเจ็บปวดเกินพรรณาก็ได้แผ่ซ่านไปทั่วทั้งหัวใจดวงนี้ของเขา ดวงตาคู่ลึกล้ำดั่งน้ำวนเคลื่อนขยับไปทางชิงเยวี่ย เผยร่องรอยจิตสังหารอาฆาตออกมาอย่างชัดเจน
ชิงเยวี่ยเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ตะลึงงันไม่ต่าง เจ้าตัวเบิกตาโตมองไปทางเซียถงด้วยความเหลือเชื่อ ช่วงเช้าวันนี้ยังเกือบจะโดนนางฆ่าทิ้งเพื่อช่วงชิงเกราะเต่าศึกอยู่เอง แต่ไฉนปัจจุบัน ถึงยอมตกลงที่จะอภิเษกสมรสกับเขาโดยง่ายเช่นนี้?
ตอนที่องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินกล่าวข้อเสนอการอภิเษกสมรสนี้ขึ้นมาให้แก่ตน ชิงเยวี่ยยอมรับเลยว่า ตัวเองแทบไม่มีความหวัง และไม่คิดที่จะคาดหวังด้วย เพราะรู้ดีอยู่แก่ใจ เซียถงผู้เย็นชานางนี้ มิได้ต้องการจะอภิเษกสมรสกับเขาเพราะอำนาจหรือเงินทอง กระทั่งอภิสิทธิ์พิเศษใดๆ
หญิงสาวผู้จองหองและมากด้วยศักดิ์สิทธิ์ความหยิ่งผยองประดุจจันทราอย่างนางหรือ…จะมาเหลียวมองผู้ชายอย่างเขา?
ถึงแม้ชิงเยวี่ยจะรู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่เบื้องลึกในใจของเขาก็ยังแอบมีความหวังว่า หญิงสาวผู้แสนเย็นชานางนี้จะเผื่อปันใจแลเหลียวมาทางเขาบ้าง ต่อให้ต้องรู้ว่า เหตุผลที่นางยอมอภิเษกกับเขาก็เพื่อผลประโยชน์ ชิงเยวี่ยก็มีความสุขเหลือล้นแล้ว อย่างไรก็ตาม..เซียถงในเวลานี้มีอิสระในการตัดสินใจ กระนั้นนางก็ยังเต็มใจที่จะเลือกเขาเป็นคู่ครองจริงๆ!
ได้ทราบเช่นนี้ ความปีติดีใจก็เข้าท่วมท้นล้นหัวใจดวงนี้ของชิงเยวี่ย มุมปากพลางกระตุกยิ้มบางๆด้วยความปลาบปลื้มยิ่งยวด
แต่ทันใดนั้นเอง ชิงเยวี่ยก็สัมผัสได้ถึงสายตาคู่เย็นยะเยือกมองตรงมาที่เขา และเมื่อลองชำเลืองสายตาสบตามกลับไปก็ค้นพบว่าเป็น ไป๋หลี่หานที่ยืนอยู่ ณ มุมหนึ่งในโถงงานเลี้ยง จู่ๆใจของเขาก็สั่นระรัวไม่เป็นจังหวะ สายตาที่ชายคนนี้มองมาช่างน่าสยดสยองเสียนี่ประไร ชักจะเป็นกังวลจริงๆแล้วว่า อีกฝ่ายจะกระโดดมาบีบคอตัวเองให้ตายเมื่อใด
ชิงเยวี่ยรู้สึกดั่งว่าตนเองเป็นมดตัวเล็กตัวน้อยโดยไม่ทันรู้ตัว ความหวาดผวาที่ไม่เคยสัมผัสพลันปรากฏขึ้นมาในจิตใจ
ห่วงเหลือเกินว่า…ไป๋หลี่หานจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ แล้วพุ่งเข้ามาเชือดเขาทิ้งในคราเดียว?
ทางฝั่งองค์จักรพรรดิแห่งซีฉิน ทีแรกก็เป็นกังวลว่า เซียถงจะปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวไป แต่ใครจะไปคาดคิด สาวน้อยนางนี้กลับตอบตกลงเห็นด้วยอย่างง่ายดาย ทำให้เขาระเบิดหัวเราะลั่นออกมาทันทีอย่างสุขอกสุขใจ