ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 315 จงใจสร้างปัญหา (1)
ตอนที่315 จงใจสร้างปัญหา (1)
ตอนที่315 จงใจสร้างปัญหา (1)
องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินเริ่มสงบลงเล็กน้อย แต่ก็ยังส่งสายตาอึมขรึมไปทางขุนนางชั้นสูงเหล่านั้น เสมือนใบหน้าทั่วทั้งแผ่นปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งเย็นจัด จวบจนบัดนี้ เจ้าพวกขุนนางแก่ชราทั้งหลายยังคิดอยู่อีกไหมว่า เซียถงเป็นเด็กสาวเสมือนลูกพลัมที่สามารถบีบเข้นรังแกกันโดยง่าย? ผลจากการยั่วยุโทสะของนาง ทำให้คนพวกนี้ต้องมีอันเสียหน้าครั้งใหญ่ชนิดแทบไม่เหลือ แต่เรื่องนี้กลับโทษใครไม่ได้ นอกจากพวกเขาเอง…
แสงสว่างวาบฉาดฉายผ่านดวงตาขององค์จักรพรรดิแห่งซีฉิน เขามองหน้าเซียถงและเอ่ยน้ำเสียงขึงขังขึ้นว่า
“เซียถง หากโจทย์ปัญหานี้ไม่มีคำตอบ จะถือว่าเจ้าได้กระทำความผิดโทษฐานหลอกลวงองค์จักรพรรดิ และโทษก็คือประหาร!”
หากนางกล้าที่จะใช้เหตุผลนี้เพื่อปฏิเสธงานอภิเษกสมรสจริงๆ เขาก็จะกำจัดนางทิ้งซะ เพราะในเมื่อไม่สามารถควบคุมนางได้ เช่นนั้นก็ต้องฆ่าทิ้งสถานเดียว!
“ในเมื่อหม่อมฉันเอ่ยถามออกมา แสดงว่าย่อมมีคำตอบรองรับไว้แล้วเช่นกัน”
เซียถงยืดเหยียดแผ่นหลังตั้งตรง น้ำเสียงที่เปล่งดังเป็นคำตอบฟังดูแล้วค่อนข้างมั่นใจมาก ในทางกลับกัน นัยน์ตาลึกล้ำของนางพลันสั่นไสวเล็กน้อย ไม่รู้จริงๆ ว่า องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินกำลังวางแผนอะไรอยู่กันแน่?
“เป็นเช่นนี้! ข้าหาวิธีได้แล้ว!”
ทันใดนั้นเอง ชิงเยวี่ยที่กำลังจมอยู่กับวังวนความคิดเสียนานก็ตบเข่าเสียงดังฉะใหญ่ ร้องอุทานเสียงลือลั่น
“ข้าผู้นี้เองก็คิดหาวิธีได้แล้วเช่นกัน!”
แต่ทันทีทันใด อีกเสียงหนึ่งก็เปล่งดังขึ้นออกมาแทบจะพร้อมเพรียง ไป๋หลี่หานวางจอกสุราในมือลง สีหน้าเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข แต่เมื่อได้ยินเสียงร้องอุทานของชิงเยวี่ย ใบหน้าภายใต้หน้ากากของเขาก็เย็นยะเยือกลงอีกครั้งในบัดดล
“ทำอย่างไรรึ?”
ร่องรอยความไม่พอใจที่แขวนค้างอยู่บนใบหน้าขององค์จักรพรรดิแห่งซีฉินอันตรธานหายสิ้น หันไปร้องถามชิงเยวี่ยด้วยความฉงนสงสัย
เมื่อเห็นว่าทุกคนเอาแต่ให้ความสนใจอยู่กับชิงเยวี่ย ไป๋หลี่หานก็ลอบแบะปากคว่ำเจือสีหน้าหยาดเหยียด ทั้งเขาและชิงเยวี่ยต่างหาวิธีแก้ไขโจทย์ข้อนี้ได้พร้อมกัน แต่ไยทุกคนกลับมุ่งความสนใจอยู่กับแค่ชิงเยวี่คนเดียว? ทันใดนั้น ภาพฉากอภิเษกสมรสของเซียถงที่นึกจินตนาการก็ปรากฏขึ้นในหัวของเขา แววความโศกเศร้าแผ่ขยายปกคลุมไปทั่วทั้งดวงตา ก่อนที่ท้ายที่สุดมันจะจางหายไป และถูกแทนที่ด้วยแววความเย็นชาดังเดิม
หากชิงเยวี่ยตอบโจทย์ปัญหาได้ถูกทั้งสองข้อ เมื่อถึงตอนนั้น ไป๋หลี่หานย่อมเลือกที่จะกำจัดชิงเยวี่ยทิ้งโดยไม่มีลังเล! ไม่มีใครทั้งสิ้นบนผืนพิภพแห่งนี้ที่จะได้แต่งงานกับเซียถง ยกเว้นเขา!
ชิงเยวี่ยรู้สึกได้ถึงสายตาคู่เฉียบเย็นที่จับจ้องเข้ามา มันทอดมองอยู่บนแผ่นหลังของเขาไม่ไปไหน ราวกับคมกระบี่น้ำแข็งเล่มยาวที่แทงทะลุหลังปักเข้าถึงขั้วหัวใจ ทำเอาเจ้าตัวเหงื่อเย็นแตกพลั่กไม่น้อย
“ฝ่าบาท โปรดรอสักครู่! แล้วจะรีบกลับมาตอบปัญหาข้อนี้ทันที!”
ชิงเยวี่ยละความสนใจออกจากตัวไป๋หลี่หาน พยายมข่มกลั้นจิตใจให้สงบนิ่งลงอีกครั้ง เขาหันไปส่งยิ้มให้เซียถงอย่างมีความสุข ก่อนจะรีบวิ่งออกจากโถงงานเลี้ยงไป
เซียถงทอดมองติดตามแผ่นหลังของอีกฝ่ายพลางหรี่ตาลงเล็กน้อย จากนั้นก็เคลื่อนมองไปทางไป๋หลี่หานอีกครา เห็นแค่เพียงอีกฝ่ายกำลังแหว่งจอกสุราในมือเล่นไปมาทำเป็นไม่สนใจแยแส แต่หารู้ไม่ว่า ตัวเองในปัจจุบันไม่ต่างอะไรกับเครื่องผลิตน้ำแข็งที่ส่งเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจใส่ผู้คนโดยรอบ ทำเอาบรรดาคนอื่นๆ ทั้งหลายที่นั่งอยู่ข้างเคียง ต่างลากเก้าอี้ถอยหนีห่างออกมานานแล้ว
สมญานามของราชันหมาป่าสวรรค์เลื่องลื่อในด้านความโหดเหี้ยมเลือดเย็น และเจ้าอารมณ์เป็นที่สุด ทีแรกคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ข้างเคียงก็มิได้สนใจอะไร แต่หลังจากผ่านไปสักพัก พวกเขาต่างสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายมรณัที่แผ่ซ่านออกจากตัวเขาได้จนขวัญผวารีบลากเก้าอี้หนีออกห่างกัน ในขณะเดียวกัน องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินเองก็ชำเลืองมองไปทางไป๋หลี่หานเช่นกัน พลางนึกถึงเรื่องอภิเษกสมรสกับองค์หญิงซีฉินก่อนหน้าที่เพิ่งโดนปฏิเสธไป จู่ๆ แววความไม่พอใจก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งในดวงตา แอบคิดกับตัวเองพลางว่า จะทำอย่างไรถึงจะได้ทั้งเซียถงและไป๋หลี่หานมาเก็บไว้กับตัว?
สังเกตจากสายตาของไป๋หลี่หานได้สักพัก องค์จักรพรรดิตงหลี่คล้ายจะค้นพบความเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง ถึงสายตาของเขาจะแสร้งทำเป็นนิ่งสงบ แต่ลึกลงไปกลับดูเหมือนว่ากำลังโมโหอะไรสักอย่าง ก็มิทราบหรอกว่า ใครกันที่ดันสะกิดโทสะให้โกรธเกรี้ยวเข้า ถึงแบบนั้น สัญญาณเฉกเช่นนี้ก็ทำให้องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินรู้สึกกังวลใจหนักข้อขึ้นเช่นกัน เกี่ยวกับเรื่องคิดหาวิธีควบคุมอีกฝ่ายในกำมือ เพราะกระทั่งอยู่ต่อหน้าองค์จักรพรรดิแห่งซีฉินที่ทรงอำนาจที่สุดในทวีปเทียนหลาง แต่ไป๋หลี่หานกลับไร้ซึ่งความละอาย แสดงกิริยาท่าทางความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน ด้วยความเย่อหยิ่งลำพองตนปานนี้ จะทำเยี่ยงไรถึงได้เขามาอยู่ในกำมือ?
องค์จักรพรรดิอีกสองพระองค์ที่เหลือเองก็สังเกตเห็นถึงคลื่นอารมณ์บางอย่างที่กำลังปะทุลึกลามผ่านดวงตาภายใต้หน้ากากเช่นกัน คนที่กล้าพอที่จะเผยแสดงอารมรณ์ส่วนตัวออกมาท่ามกลางงานเลี้ยงใหญ่ในวังหลวงซีฉินได้ จำต้องเป็นบุตรที่มีทุนรอนสูงส่ง หรือก็คือทรงพลังแกร่งกล้าซะจนไม่กล้าใครหน้าไหน และจะว่าไปแล้ว ก็มีข่าวลือค่อนข้างหนาหูเช่นกันว่า ไป๋หลี่หานผู้นี้มีสายสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะดีกับองค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่ หากพวกเขาสามารถดึงเอาบุคคลที่ทรงพลังปานนี้ให้มาเข้าร่วมกับฝั่งตัวเองได้ การจะยึดครองจักรวรรดิตงหลี่ก็หาใช่เรื่องยากอีกต่อไป
องค์จักรพรรดิทั้งสี่ต่างจ้องหน้ากันไปกันมา แอบหวังที่จะเสาะหาโอกาสทองเข้ากลืนกินจักรวรรดิอื่นๆ ถึงแม้ความมั่งคั่งของทั้งสี่จักรวรรดินี้จะติดทำเนียบสี่จักรวรรดิอันใหญ่เกรียงไกรสุดที่แห่งทวีปเทียนหลาง ทว่าความห่างชั้นก็มิได้แตกต่างกันมากนัก และทางเดียวที่จะขึ้นกลายเป็นจ้าวทวีปเทียงหลานได้คือ การควบรวมจักรวรรดิอื่นๆ ให้อยู่ใต้การปกครองของตนเอง ดังนั้น ยามใดที่มีโอกาส พวกเขาก็ไม่ลังเลเลยที่จะหยิบมีดมาแทงข้างหลังจักรวรรดิอื่นๆ และยึดครองมาเป็นของตัวเอง
ทั่วโถงงานเลี้ยงบังเกิดบรรยากาศเงียบสงัดไปครู่ใหญ่ เหล่าองค์จักรพรรดิทั้งสี่ต่างจมอยู่กับความคิดของแต่ละคน สายตาแต่ละคู่ล้วนจับจ้องอยู่ที่ร่างของไป๋หลี่หานด้วยความปรารถนาบางอย่าง ในทางด้านของไป๋หลี่หานเองยังคงนั่งนิ่งดูปกติสุข พลางยกจอกสุราลวดลายวิจิตรหรูหราขึ้นกระดกดื่มในรวดเดียว
สะบัดแขนเสื้อโบกให้เข้าที่เข้าทางเล็กน้อย จากนั้นค่อยวางจอกสุราในมือลงบนโต๊ะข้างที่นั่ง และอดที่จะชำเลืองสายตามองไปทางประตูโถงใหญ่มิได้ ภ่ายใต้ทุกสายตาที่เฝ้ารอ ทันใดนั้นก็เห็นร่างๆ หนึ่งเดินตรงเข้ามาอย่างเร่งรีบ ไป๋หลี่หานเห็นดังนั้นก็ถึงกับขมวดคิ้วแน่น ลอบใช้กำลังบีบจอกสุราในมือเบาๆ ลวดลายวิจิตสวยงามบนจอกสุราแก้วเกิดรอยแตกร้าวปรากฏขึ้นเล็กๆ แววตาทอประกายลึกล้ำบังเกิดไฟแห่งโทสะลุกโชติช่วง
ชิงเยวี่ยหันมาส่งยิ้มให้ไป๋หลี่หาน เดินผ่านหน้าอีกฝ่ายตรงเข้าไปใจกลางโถงอย่างสบายอารมณ์ ทุกคนที่กำลังมุ่งความสนใจจับจ้องมาทางเขา ล้วนสังเกตเห็นอย่างหนึ่งที่ผิดปกติออกไป เพราะชิงเยวี่ยกลับมาพร้อมกับมดน้อยตัวหนึ่งห้อยต่องแต่งโดยมีนิ้วโป้งกับนิ้วชี้คอยจีบจับมิให้หนีไปไหน แต่ละคนต่างปั้นสีหน้างุนงงกันใหญ่ สงสัยเหลือเกินว่า เขาจะจับมดมาทำไม?
พอเห็นอีกฝ่ายนำมดกลับมา นัยน์ตาเซียถงพลันสั่นไสวเล็กน้อยและส่งยิ้มบางมอบให้แก่ชิงเยวี่ย
มาถึงโต๊ะที่วางปิ่นเงินเก้าลวดลาย ชิงเยวี่ยก็หยิบปลายด้ายเส้นบางและมดตัวน้อยที่กำลังดื้นหนีออกจากนิ้วของเขามามัดไว้เข้าด้วยกัน
เพียงเท่านั้นเอง ทุกคนต่างรู้แจ้งร้องอ๋อกันในทันใด นี่เป็นวิธีที่เหนือความคาดหมายอย่างแท้จริง! เพียงผูกด้ายไว้กับมดตัวน้อย และให้มันวิ่งลอดไปตามรูปิ่นเงินเก้าลวดลาย เพียงเท่านี้ก็สามารถแก้ปัญหาในเรื่องเส้นด้ายที่ไม่สามารถบังคับได้แล้ว เพราะเวลาที่มดน้อยเดิน โดยสัญชาตญาณของมันจะต้องพยายามค้นหาทางไปต่อ ซึ่งก็คือตามช่องรูทั้งเก้าบนปิ่นปักผมแท่งนี้!
“วิเศษมาก! จะมีก็เพียงองค์รัชทยาทชิงเยวี่ยเท่านั้นที่คิดเรื่องเช่นนี้ได้!”
ไม่นานก็มีสุ้มเสียงเอ่ยชมเชยดังขึ้น
“สมแล้วที่องค์รัชทยาทชิงเยวี่ยเป็นบุคคลที่ชาญฉลาดที่สุดแห่งจักรวรรดิซีฉินของพวกเรา!”
สุ้มเสียงชื่นชมแซ่ซ้องดังขึ้นตามมากันถ้วนหน้าจากทั้งด้านข้างและหลัง หากไม่หยิบมาจับวางให้ดูกันซึ่งหน้าเช่นนี้ ก็ไม่มีใครนึกวิธีเช่นนี้ออกได้เลย