ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 320 ไป๋หลี่หานมอบของขวัญ (2)
ตอนที่320 ไป๋หลี่หานมอบของขวัญ (2)
ตอนที่320 ไป๋หลี่หานมอบของขวัญ (2)
องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ณ ตำแหน่งเดิม ส่งสายตาสุดลึกล้ำจับเขม็งไปที่ไป๋หลี่หาน สลับไปกลุ่มชายชุดคลุมดำทั้งห้าที่อยู่เบื้องหลัง ประกายส่องไสวในดวงตาลดทอนเหลือเพียงแสงสลัวจางอ่อนเท่านั้น
ไป๋หลี่หานสืบเท้าย่างเข้าหาเบื้องหน้าเข้าประจัน และยื่นจี้หยกชิ้นนั้นในมือมอบให้แก่องค์จักรพรรดิแห่งซีฉิน โดยกล่าวว่า
“นี่คือหยกคุณภาพยอดเยี่ยมของดินแดนอี้เฉิง ถูกคัดสรรมาอย่างพิเศษเพื่อท่านโดยเฉพาะ”
องค์จักรพรรดิทอดสายตาหรี่เล็กจับจ้องอีกฝ่าย มิได้ยื่นมือไปหยิบจับหรือเอ่ยปากใดๆ เอาแต่จับจ้องด้วยความระมัดระแวง เห็นดังนั้นไป๋หลี่หานกระตุกยิ้มมุมปาก สะบัดแขนเสื้อยาวชักหอบกระแสลมโชยอ่อนขุมหนึ่ง ช่วยพัดพาจี้หยกชิ้นนั้นร่อนลงจอดบนโต๊ะข้างบัลลังก์ขององค์จักรพรรดิแห่งซีฉินที่อยู่ด้านหลัง
“องค์จักรพรรดิซีฉิน ท่านอาจต้องการใช้เวลาพินิจตรวจสอบให้ละเอียดถี่ถ้วนกว่านี้ และหากไม่ชอบจี้หยกดังกล่าว ข้าจะรีบกลับไปคัดสรรหยกที่ดีกว่านี้ส่งไปให้อีกครั้ง”
ชั่วขณะที่ไป๋หลี่หานโบกสะบัดแขนเสื้อยาว องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินพลันเกิดอาการเนื้อตัวสั่นเทาอย่างไร้สาเหตุ สัมผัสได้ถึงรัศมีแรงกดขี่ที่ทับถมร่างกายของตนได้ชัดแจ้งยิ่ง ไม่นานสีหน้าของเขาก็ซีดเผือดลงหลายส่วน ลือกันว่า ระดับพลังความแข็งแกร่งของไป๋หลี่หานนั่นเกินจะหยั่งถึงได้ และนี่ก็เป็นความจริงอย่างไม่ผิดเพี้ยน! ยามชำเลืองสายตาเหลือบมองไปที่จี้หยกชิ้นนั้นบนโต๊ะ เขาก็ระบายยิ้มอ่อนออกมาทันที กล่าวน้ำเสียงสั่นเครือว่า
“มะ-ไม่เลย! ข้า…ข้าผู้นี้รู้สึกถูกใจยิ่งนัก
หลังจากกล่าวจบ เขาก็รีบวางจอกสุราในมือลง และวกเดินกลับไปหยินจี้หยกบนโต๊ะขึ้นมาทำเป็นพินิจมองชื่นชม เหลียวหน้าหันมากล่าวกับไป๋หลี่หานว่า
“ราชาหมาป่าสวรรค์จิตใจช่างกว้างใหญ่ไพศาล ข้าผู้นี้ชอบจี้หยกชิ้นนี้เป็นอย่างมาก!”
“ขอเพียงองค์จักรพรรดิซีฉินชอบมัน ข้าก็รู้สึกดีใจยิ่งแล้ว”
ไป๋หลี่หานพยักหน้า ขณะเดียวกันก็เหลือบสายตาเฉียบคมชำเลืองมองไปทางองค์รักษ์ที่เหลืออยู่ตรงหน้าประตูโถง
“ฮ่าฮ่าฮ่า! จะว่าไปแล้ว หน่วยองค์รักษ์เงาของเจ้านั้นช่างทรงพลังอย่างแท้จริง! ลอบเข้ามาในวังหลวงซีฉินได้โดยไม่มีใครรู้ตัว นับว่าเก่งกาจ! นับว่าเก่งกาจ!”
องค์จักรพรรดิเหลือบสายตามองติดตามไป๋หลี่หาน ก็พึงทราบทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังต้องการสิ่งใด เช่นนั้นเขาจึงรีบโบกมือให้บรรดาองค์รักษ์ที่ปิดบ้อมอยู่หน้าประตูโถงทันที คำรามเสียงดังว่า
“พวกเจ้าถอยออกไปให้หมด!”
เพียงหนึ่งวาจาคำสั่งการ บรรดาองค์รักษ์เหล่านั้นก็รีบถอยทัพสลายตัวหายไปทันที ทุกคนในงานเลี้ยงต่างถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก บ้างที่นั่งเนื้อตัวสั่นเทิ่มบนเก้าอี้ก็หยุดสั่นปลอดโปร่ง ส่วนทางด้านองค์จักรพรรดิทั้งสาม สีหน้าของแต่ละคนดูดีขึ้นมาก
“จักรพรรดิตงหลี่ อนุชาของเจ้าช่างองอาจน่าเกรงขามสมคำร่ำลือ! มีคุณสมบัติเพียบพร้อมสมดั่งราชา!”
องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินหันมากล่าวกับองค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่
ทันทีที่ประโยคคำกล่าวขององค์จักรพรรดิแห่งซีฉินสิ้นสุดลง สีหน้าขององค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่ก็พลันบิดเบี้ยวน่าเกลียดยิ่งยวด ความหมายที่องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินต้องการจะสื่อคือ ไป๋หลี่หานเหมาะที่จะขึ้นครองราชย์เป็นองค์จักรพรรดิเสียยิ่งกว่าตัวเขา! โดยเฉพาะคำกล่าวท้ายประโยคที่เสมือนขีดเส้นใต้เน้นความหมายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น นี่มันไม่ต่างอะไรกับการหักหน้ากันชัดๆ!
สังเกตเห็นสีหน้าการแสดงออกที่แปรเปลี่ยนอย่างฉับพลันขององค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่ แววความเยาะเย้ยก็ผุดปรากฏขึ้นบนรอยยิ้มมุมปากขององค์จักรพรรดิแห่งซีฉิน หากมิใช่เพราะอาศัยพลังความแข็งแกร่งเกินหยั่งรู้ของไป๋หลี่หาน ผนวกกับหน่วยองครักษ์เงาแห่งอี้เฉิง แล้วมีหรือที่เขาจะสั่งถอนกำลังองครักษ์ออกไปโดยง่ายดายเช่นนี้? และเคยได้ยินมาเช่นกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองพี่น้องคู่นี้ไม่ค่อยเป็นในทางดีเท่าไหร่นัก เขาก็อดโยนเชื้อไฟเข้าไปเพิ่มมิได้ คำถากถางนี้อาจทำให้ในสายตาขององค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่มองไป๋หลี่หานเป็นศัตรูเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย
“องค์จักรพรรดิกล่าวล้อเล่นแล้ว ตัวข้าหรือจะเอาไปเปรียบกับฝ่าบาทได้เยี่ยงไร? ภายใต้ความปรีชามากพรสวรรค์ด้านการบริหารจัดการของฝ่าบาท ส่งผลให้จักรวรรดิตงหลี่ทะยานสู่ความรุ่งเรืองมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา”
ไยจะไม่ทราบว่าองค์จักรพรรดิแห่งซีฉินมีเจตนายั่วยุให้องค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่ต้องแตกหักกับตน? และเหตุผลที่ไป๋หลี่หานเลือกตอบเช่นนี้ออกมา เพราะคำพูดเหล่านี้ไม่เพียงจะช่วยรักษาหน้าองค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่เท่านั้น แต่ยังเป็นการป่าวประกาศอีกว่า ตนไม่มีเจตนาแย่งชิงบัลลังก์แห่งจักรวรรดิตงหลี่จากอีกฝ่าย
“พี่น้องย่อมมีจิตใจเป็นหนึ่งเดียว อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้จักรวรรดิตงหลี่รุ่งเรืองได้อย่างวันนี้ก็เพราะเขาเช่นกัน”
องค์จักรพรรดิแห่งตงหลี่ผู้นี้นับว่ามีไหวพริบดีเยี่ยม ทันทีที่รู้ว่าไป๋หลี่หานออกเหรียญหน้าใด เขาก็รีบยิ้มแย้มกล่าวตอบ ทั้งยังเอื้อมมือไปกอดไหล่ของไป๋หลี่หานที่อยู่ข้างเคียง แสร้งทำเป็นสามัคคีปรองดองฉันฑ์พี่น้องห่วงใย
ตั้งแต่ทีแรกเมื่อมาถึงจักรวรรดิซีฉิน เขาก็วางแผนเตรียมที่จะสังหารไป๋หลี่หานให้เบ็ดเสร็จแล้ว แต่ดูเหมือนว่าชื่อเสียงร่ำลือของไป๋หลี่หานในทวีเทียนหลางจะโด่งดังน่าเกรงขามกว่าที่เขาจินตนาการไว้มาก ดังนั้น คงเป็นการดีกว่าที่จะแสร้งทำเป็นพี่น้องที่รักใคร่กลมเกลียวกัน
“ทุกคน! ร้องเล่นเต้นรำกันต่อได้เลย!”
องค์จักรพรรดิแห่งซีฉินตวักมือเรียกเหล่าสาวงามนักร่ายรำให้ออกมาเพื่อขึ้นแสดงต่อ สำหรับพวกนางที่ประกอบอาชีพร่ายรำจนเจนจัดมากประสบการณ์แล้ว แต่ละท่วงท่าเหล่านั้นช่างงดงามน่าหลงใหลอย่างแท้จริง กู้คือบรรยากาศอันเงียบสงัดให้กลับมารื่นเริงได้อีกครั้ง ส่วนจี้หยกที่ไป๋หลี่หานมอบให้ เจ้าตัวก็นำไปเก็บไว้ใต้แขนเสื้อ และสนุกกับการกินดื่มต่อไป
องค์จักรพรรดิแห่งหน่านเฟิงและเป่ยฮั่นต่างยิ้มได้กันอีกครั้ง แต่สีหน้าแววตายังเจือร่องรอยขุ่นเคืองผสมอยู่เล็กน้อย เพราะองค์จักรพรรดิแห่งซีฉินไม่แม้แต่จะปริปากอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย ไฉนจู่ๆ พวกองครักษ์ฝ่ายซีฉินถึงต้องลงมือสังหารทัพทหารด้านนอกพวกเขาด้วย? ทั้งยังหันอาวุธขึ้นมาข่มขู่ทุกคนในงานเลี้ยงอีก? ทว่าอย่างไร สิ่งเดียวที่พวกเขาควรทำให้ขณะนี้คือ ลืมทุกสิ่งอย่างไปให้หมด
ในฐานะผู้ที่อยู่ต่ำต้อยกว่า พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากระงับโทสะในใจและทำเป็นลืมมันไปซะ!
ระหว่างที่งานเลี้ยงดำเนินไปได้ครึ่งทาง องค์จักรพรรดิทั้งสามพระองค์ต่างหยิบยกเหตุผลขึ้นมาอ้าง เพื่อขอปลีกตัวออกจากงานเลี้ยงก่อนกำหนด
เมื่อกลับมาถึงโรงเตี้ยมก็เกือบยามหนึ่งได้แล้ว พอเซียถงมาถึงห้องพักของตนเอง ก็เห็นเจ้าจี้จี้กำลังนอนตัวขดกลมดิ๊กอยู่บนเตียง นางตรงเข้าไปหามันพลางยกมือลูบหัวเบาๆ และกล่าวว่า
“จี้จี้ เจ้าหิวหรือไม่?”
วันนี้นางเองก็แทบจะไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน ตลอดงานเลี้ยงก็ซดแต่สุรา ดังนั้นนางเองก็รู้สึกหิวไม่น้อยเลย