ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 332 ช่างตัดเสื้อประหลาด (1)
ตอนที่332 ช่างตัดเสื้อประหลาด (1)
ตอนที่332 ช่างตัดเสื้อประหลาด (1)
“คุณหนูเซีย ท่านกับพี่ชุนหลานทะเลาะกันรึเจ้าค่ะ? แต่ไม่ต้องห่วง เห็นพี่ชุนหลานเป็นคนเย็นชาเฉกเช่นนี้ แท้จริงแล้วเนื้อใจกลับเป็นคนใจดี เย็นนอกอุ่นในน่ะเจ้าค่ะ”
เซี่ยเห่อส่งสายตาลอบมองเซียถง วาจาอ่อนโยนสุภาพ กล่าวปลอบโยนคำหนึ่ง
เซียถงมิได้กล่าวอันใดมากความ ทิ้งตัวนอนลงบนเตียงและกล่าวกับเซี่ยเห่อทิ้งท้ายเพียงว่า
“นำผ้ากองพวกนี้ออกไปได้แล้ว”
“แล้วเนื้อผ้าที่คุณหนูเลือกตักชุดแต่งงาน สรุปแล้วเอาอันไหนรึเจ้าค่ะ?”
ขณะหอบผ้ากองหนึ่งขึ้นในอ้อมอก เซี่ยเห่อเอ่ยถามขึ้น
อย่างไร กลับไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากเซียถงอีกต่อไปแล้ว ได้ยินก็เพียงเสียงกรนที่เล็ดลอดออกมา ปรากฏว่านางผล็อยหลับไปเสียแล้ว
“คุณหนู ท่านยังไม่เลือกผ้าสำหรับชุดแต่งงานเลยรึเจ้าค่ะ!”
เซี่ยเห่ออ้าปากค้างเติ่ง อุทานขึ้นคำโต พลางชำเลืองมองกองผ้าในอ้อมอกอย่างช่วยไม่ได้
เซียถงชักรู้สึกรำคาญขึ้นหนึ่งส่วนกับคำถามตั้งมากมายจากปากอีกฝ่าย ตาคู่นี้เบิกกว้างเปิดออกโดยไว พลิกตัวหันกลับมาจ้องหน้าเซี่ยเห่อที่ยืนรอฟังคำตอบอยู่ข้างเตียง เพียงสบปะทะเข้ากับสายตาอันเย็นยะเยือกของเซียถงแค่หนึ่งปราด เซี่ยเห่อถึงกับเสียวสันหลังวาบ รีบโค้งศีรษะให้และเร่งฝีเท้าจ้ำอ้าวออกจากห้องไปพร้อมกองผ้าในมือ ก้าวย่างข้ามเส้นประตูออกไป สาวรับใช้นางนี้ยังไม่ลืมเอ่ยปากเตือนขึ้นว่า
“คุณหนู อย่าลืมนะเจ้าค่ะ มีขนมเซาปิ่งอบร้อนๆ อยู่บนโต๊ะ!”
สิ้นเสียง ห้องทั้งห้องเงียบสงัดลงในทันใด เซียถงลุกขึ้นจากเตียงกวาดสายตามองไปทางประตูบานนั้นที่ปิดลง ทันใดนั้นก็ปรากฏรอยยิ้มสีจางแสยะกว้างบนมุมปาก ในใจของชุนหลานยังคงเก็บงำเรื่องนี้ไม่เสื่อมคลาย นางจะต้องเดินทางมาพบข้าอีกแน่นอนในไม่ช้า ในระหว่างนี้ เซียถงก็ลุกขึ้นมานั่งเก้าอี้หยิบขนมเซาปิ่งชิ้นหนึ่งบนโต๊ะขึ้นมายัดใส่ปากเต็มคำ แก้มป๋องเคี้ยวอร่อยไปพลาง รอให้ชุนหลานกลับมาหาตน
แสงตะวันทอประกายสีทองระยิบเริ่มอัสดงจมสู่ทิศตะวันตก จนท้ายที่สุดก็ลับขอบฟ้าหายไป บรรยากาศภายนอกหน้าต่างเริ่มมืดลงแล้ว
“คุณหนูเจ้าค่ะ ช่างตัดเสื้อเดินทางมาวัดขนาดตัวเจ้าค่ะ”
ประตูห้องถูกผลักเปิดออก และก็เป็นเซี่ยเห่อที่ชะโงกศีรษะยื่นออกมากล่าวทัก
เซียถงนั่งไขว่ห้างทำสมาธิอยู่บนเตียงตลอดช่วงบ่าย พยายามอย่างสุดกำลังเพื่อดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดินทั้งหลายจากโดยรอบ บรรจงกรอกเทลงสู่จุดตันเถียนเพื่อเติมเต็ม แต่ยิ่งนางพยายามมากเท่าไหร่ กลับยิ่งทำให้รู้สึกอ่อนล้าเกินจินตนาการมากขึ้นเท่านั้น จนท้ายที่สุด นางจำใจต้องยอมแพ้วางมือลง
เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมอง ก็พบเข้ากับชายร่างสูงผอมกำลังเดินเข้ามาภายในห้อง เขาคนนี้สวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบ ถือตลับวัดเส้นยาวพลิ้วนุ่ม และทันทีที่เห็นว่า เซียถงกำลังมองมาทางนี้ เขาก็รีบหยุดฝีเท้ายิ้มแย้มกล่าวขึ้นว่า
“โอ้นายหญิง ขออนุญาตวัดขนาดตัวขอรับ!”
นายหญิง?
เซียถงขมวดคิ้วแทบผูกแน่นเป็นปม ภายในใจรู้สึกขนลุกกับชื่อเรียกนี้มาก นางชำเลืองหางตามองอีกฝ่ายเจือแววรังเกียจ ก่อนจะเคลื่อนสายตาหยุดลงที่สาวรับใช้อีกสองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขา พอสัมผัสได้ถึงสายตาของเซียถงที่มองมา พวกนางก็รีบตบเท้าก้าวออกมาพร้อมโค้งคำนับโดยไว
“ยินดีที่ได้พบเจ้าค่ะนายหญิง!”
ยิ่งได้ฟังดังนั้น นางยิ่งขมวดคิ้วแน่นเข้าไปใหญ่ เฝ้ามองพวกนางเดินตรงเข้าข้างเตียงโดยไม่พูดไม่จาใดๆ สักคำ ยืนสงบนิ่งโดยใช้สองมือถับกันอยู่แบบนั้น คล้ายว่ากำลังรอรับคำสั่งจากนายหญิงของพวกตนอยู่
น่าขยะแขยงอะไรปานนี้! เซียถงปั้นหน้าบูดบึ้ง กระทั่งแต่งงานยังไม่อยากแต่งเสียด้วยซ้ำ แล้วนี่ยังจะมีคนเรียกตัวนางว่า นายหญิงอีก ใครบ้างฟังแล้วไม่กระดากหู?
สังเกตเห็นแววความรังเกียจปรากฏอยู่บนใบหน้าของเซียถง ช่างตัดเสื้อคนนั้นไม่กล้าย่างเท้าก้าวออกไปเบื้องหน้า ทำได้เพียงหันไปชำเลืองเซี่ยเห่อที่ยืนอยู่ข้างประตู
“คุณหนูเจ้าค่ะ ท่านคนนี้คือช่างตัดเสื้อหลี่ผู้มีชื่อเสียงอย่างมากแห่งเมืองซีเยว่ นายน้อยเชื้อเชิญช่างตัดเสื้อหลี่มาเพื่อวีดขนาดและตัดชุดแต่งงานให้ท่านโดยเฉพาะเลยเจ้าค่ะ!”
เซี่ยเห่อคอยยืนกำกับอยู่ไม่ห่าง ขณะเอ่ยอธิบายก็พลางเฝ้าสังเกตสีหน้าท่าทางของเซียถงไปในตัว
เซียถงยังคงหลับตาสนิทราวกับมิได้เห็นใครมาทั้งสิ้น
เห็นสีหน้าไม่แยแสสนใจของเซียถง กอปรกับปล่อยให้ช่างตัดเสื้อหลี่ต้องยืนรออย่างไร้จุดหมาย เซี่ยเห่อก้มศีรษะมองพื้นเล็กน้อยด้วยความอับอาย ขณะเดียวกัน ภายในใจของนางก็พลางคิดไปว่า คุณหนูเซียเป็นคนเย็นชาน่ากลัว หรือจะให้ช่างตัดเสื้อหลี่คาดคะเนขนาดตัวด้วยตาเปล่า แล้วค่อยกลับไปลองตัดดูอีกที?
“ข้าน้อยไม่เคยเห็นอิสตรีนางใดสวยเทียบเคียงท่านมาก่อน ถือเป็นโชคดีจริงๆ ที่ได้มีโอกาสตัดชุดแต่งงานให้ท่าน”
ช่างตัดเสื้อหลี่ก้าวย่างออกไปยืนต่อหน้าเซียถง ส่งยิ้มกล่าวเชยชม
สาวรับใช้ที่ยืนขนาบข้างเตียงทั้งฝั่งซ้ายและขวา เท่านี้มันก็สร้างความรำคาญใจให้เซียถงมากพอแล้ว ตอนนี้ยังจะมีช่างตัดเสื้อหลี่เข้ามาร่วมวงอีกคน นางลืมตาตื่นขึ้นทันใด กำลังจะอ้าปากขับไล่อีกฝ่ายออกไป แต่กลับต้องชะงักไปเสียก่อน เมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังจับจ้องเรือนร่างของตนที่นอนอยู่บนเตียงตาเขม็งอย่างขะมักเขม้น
“ช่างตัดเสื้อหลี่?”
กวาดสายตาขึ้นลงอยู่หลายครา เซียถงเลิกคิ้วถามขึ้นว่า
“ท่านพยายามวัดขนาดตัวข้าอยู่กระมัง?”
ช่างตัดเสื้อหลี่พยักหน้าตอบ กล่าวว่า
“ถูกต้องแล้วขอรับ ชุดแต่งงานที่ต้องสวมใส่ประกอบด้วยผ้าหลายชั้น ยิ่งวัดขนาดตัวได้แม่นยำพอดีเท่าใด ก็ยิ่งทำให้ท่านสวมใส่ได้สบายยิ่งขึ้นในวันงาน”
เซี่ยเห่อรีบกล่าวเสริมเช่นกันว่า
“คุณหนู ท่านคนนี้คือช่างตัดเสื้อที่มีชื่อเสียงที่สุดแล้ว ในด้านประสบการณ์ตัดเย็บออกแบบชุดแต่งงานนับว่าเจนจัดนับไม่ถ้วน ซึ่งแต่ละชุดที่เขาตัดขึ้นมา ล้วนสามารถสะกดทุกสายตาของบรรดาแขกในงานได้ทันที!”
เซียถเหล่หางตามองช่างตัดเสื้อหลี่คนนั้นที่มักจะยิ้มแย้มอยู่เสมอ สุดท้ายก็ยอมลืมตาขึ้นมองอีกฝ่าย ก่อนจะค่อยๆ ถกแขนเสื้อขึ้น ยื่นเหยียดเรียวมือหยกสีขาวผ่องประดุจหิมะเผยแสดงอยู่ต่อหน้าอีกฝ่าย และกล่าวขึ้นว่า
“จะให้วัดขนาดก็ได้ แต่ข้าเคยได้ยินมาว่า ช่างตัดเสื้อผู้มีพรสวรรค์ด้านนี้โดยส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนมีนิ้วก้อยกระดกยาว เช่นนั้นแล้วก่อนจะวัดให้ข้า ต้องขอทดสอบตัวเจ้าเสียหน่อยว่า มีคุณสมบัติมากพอที่จะตัดชุดแต่งงานให้ข้าหรือไม่?”
“แน่นอนขอรับ เชิญดูนิ้วก้อยของข้าน้อยได้เลย”
ช่างตัดเสื้อหลี่ส่งตลับวัดเส้นยาวให้กับสาวรับด้านหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือกางนิ้วออกมาเพื่อเผยแสดงให้เซียงได้เห็น
นิ้วทั้งสิบเรียวยาวเป็นระเบียบไม่บิดเบี้ยวใดๆ ทั้งยังเนียนขาวดูละเอียดลออ อย่างไรเสีย หากสังเกตบริเวณปลายนิ้วมือของเขาให้ดีจะพบตาปลาแข็งเป็นไตอยู่หลายจุด
พินิจมองนิ้วมืออีกฝ่ายอยู่สักครู่ เซียถงค่อยพยักหน้าและลุกจากเตียงขึ้น ยืนเหยียดแขนตึงทั้งสองข้างออก แล้วกล่าวว่า
“เช่นนั้นรบกวนวัดให้ข้าด้วย”