ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 34 ระเบิดพลัง (2)
ตอนที่34 ระเบิดพลัง (2)
สีหน้าของไป๋หลี่เย่ซีดเซียวหนัก เลือดกำเดาไหลทะลักออกมา กระแสลมปราณที่คลุมเคลือบคมกระบี่ยาวเริ่มเสียทรงไร้เสถียร ทั้งที่เซียถงอยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่ไม่ว่าจะพยายามกวักแกว่ง ฟาดฟันออกไปมากเพียงใด กลับหวดลมหวืดไม่โดนเป้าหมาย เสี้ยวพริบตาต่อมา ร่างเซียถงอันตรธานหายไปต่อหน้าต่อตาอีกครั้ง กว่าจะรู้สึกฟื้นตัวได้ทัน ไป๋หลี่เย่ก็สัมผัสได้ถึง ระลอกความเจ็บปวดแสนสาหัสที่เสียดแทงเข้ากลางหลังอย่างจัง
เขาเลื่อนสายตาก้มมองร่างกายอันสะบักสะบอม ทรงตัวจวนเจียนจะไม่อยู่ โซซัดโซเซไปมา ทั้งยังธารเลือดที่หยาดไหลรินหยดเป็นสายๆ กลายมาเป็นกองเลือดอยู่ใต้เท้า สภาพในปัจจุบันช่างน่าสยดสยองสิ้นดี คลื่นความหวาดผวาขุมใหญ่แพร่สะพัด กระจายทั่วแขนขาจนอ่อนยวบปวกเปียก
เจ้าของร่างดังกล่าวที่ห้อมล้อมไปด้วยธารแสงสีครามฟ้าระยิบระยับนั่น…ใช่เซียถงจริงๆ งั้นรึ?
หลังจากที่นางถูกวางยาพิษ มันก็ควรจะสูญเสียลมปราณไปโดยสิ้นแล้วมิใช่รึ?
สภาพร่างสะบัดสะบอม เนื้อตัวชุ่มเลือดสุดแสนสยดสยองคนนี้ เผยแววเย็นชาสาดสะท้อนออกมา ดูแล้วไม่ต่างไปจากซากผีห่าจากขุมนรกเลย
ทันทีทันใด กระแสความเจ็บปวดรุนแรงในช่องท้องน้อยพลันแสดงอาการออกมา ไป๋หลี่เย่รีบยกมือขึ้นกลัดกุม ขดตัวลงด้วยความทรมานแทบหายใจไม่ออก ยามนี้ปราการด่านป้องกันทั้งหมดของเขาได้หายไปโดยสิ้น เปิดจังหวะให้เซียถงยกบาทาขึ้นถีบยอดอกสุดแรง ทำเอาร่างของอีกฝ่ายร่วงออกจากนอกสนามประลองโดยตรง
แต่ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เซียถงกระโดดติดตามลงมา ยกเท้าข้างหนึ่งขึ้นเหยียบที่กลางอกอีกฝ่าย ออกแรงยันกดร่างอีกฝ่ายติดพื้นดินอยู่เช่นนั้นมิให้ดีดดิ้นไปไหน
“ไป๋หลี่เย่ กรรมใดก่อแก่ข้า กรรมนั้นข้าสนองคืนแล้ว”
น้ำเสียงเยียบเย็นดังก้องขึ้นในหูของไป๋หลี่เย่ ใบหน้าของหญิงสาวเบื้องหน้าชัดเจนปรากฏชัดเต็มสองตา และยังเป็นใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบเลือด เคียงคู่ไปกับแววตานักล่าดั่งเดรัจฉาน น่าสยองสุดกู่ เส้นผมปลิวไสวแผดรัศมีจิตสังหารสุดข้นคลั่กออกมา เปรียบได้กับนางมารร้ายจากขุมนรกชั้นลึกสุดมิปาน พอเห็นแบบนั้น ไป๋หลี่เย่ก็อดสั่นสะท้านไม่ได้ และสิ่งที่น่าระทึกขวัญตกใจยิ่งกว่าคือ คมมีดสั้นเคลือบลมปราณสีครามฟ้าชั้นบางเฉียบที่จ่อกลางคอหอยของเขาในขณะนี้
“เช่นนั้น ข้าจะให้เจ้าลองลิ้มชิมความทรมานเสียยิ่งกว่าความตาย!”
สุ้มเสียงเย็นชาแผ่ซ่าน คมแสงสีครามฟ้าบนใบมีดในมือหญิงสาวปะทุเดือดคลั่ง รัศมีกลิ่นอายจิตสังหารยิ่งทวีความสยดสยอง ปริมาณมหาศาลซะจนล้นทะลักออกมาจากอณูร่างกาย ยกคมมีดขึ้นเล็กน้อยและ พุ่งเสียบใส่ไป๋หลี่เย่ด้วยความเร็วประดุจสายฟ้า หวังจะทะลวงลูกกระเดือกของมันให้ทรมานถึงขีดสุด!
ชั่วขณะเดียวกัน ไป๋หลี่เย่กรีดร้องลั่นสุดเสียง ดูความน่าสังเวชยิ่งยวด ไม่กล้าแม้แต่จะมองคมมีดที่กำลังปลิดชีพตน หลับตาปี๋วิสัยทัศน์ดำมืด จิตใจและห้วงสมองขาวโพลนว่างเปล่าไปหมด
“ทิ้งมีดในมือลงบัดเดี๋ยวนี้!!”
ยอดฝีมือผู้คุมสนามประลอง รีบกระโจนโดดลงจากการตำแหน่งเฝ้ามอง ปราดพุ่งเข้าใส่เซียถง เร่งเร้าความเร็วสูงสุดเสมือนสายอัสนีลั่น
“ถงถง หยุด!”
เซี่ยหลู่เฟิงเพิ่งมีปฏิกิริยาตอบสนองขึ้นมา รีบวิ่งเข้าไปห้ามปรามมเซียถงเช่นกัน ไม่ว่าจะกรณีใด ต้องห้ามมิให้องค์รัชทายาทถูกสังหารเด็ดขาด!
สัมผัสได้ถึงรัศมีจิตสังหารขุมหนึ่งพวยพุ่งเข้าใส่ข้างกาย สังหรณ์ใจสุดอันตรายอยู่เพียงเบื้องหลังของนางนี้เอง เซียถงหันหลังขวับ กระโดดหลบเลี่ยงคมกระบี่ของยอดฝีมือคนดังนั้นที่เข้าจู่โจม ก่อนลาจาก นางยังไม่ลืมทิ้งทวนบาดแผลสุดท้ายให้แก่ไป๋หลี่เย่ เซียถงกระชับมีดสั้นระเบิดพลังแห่งขอบเขตเสาหลักฟ้า ฟันฟาดใส่กลางอกของอีกฝ่ายไปอีกแผลใหญ่
ไป๋หลี่เย่กรีดร้องลั่นระงม โอดครวญจนเสียงหลง สีหน้าซีดเผือดราวกับไร้เลือดหล่อเลี้ยง สภาพบัดนี้ไม่ต่างอะไรจากสุนัขข้างทางที่ใกล้ตายเต็มทน
“สาวน้อย ข้าเกรงว่า ปัญญาแค่ตัวเจ้าคงมิสามารถรับผิดชอบโทษทัณฑ์ฐานสังหารองค์รัชทยาทได้ เช่นนั้นแล้วรีบวางอาวุธในมือลงและมอบตัวซะ!”
ยอดฝีมือผู้นั้นเป็นชายวัยกลางคนในชุดคลุมยาวสีน้ำเงิน ระดับชั้นลมปราณอยู่ที่ขอบเขตเสาหลักฟ้าชั้นต้น
เซียถงเหลือบสายตาแลมองชายวัยกลางคนในชุดคลุมน้ำเงินคนนั้น รัศมีจิตสังหารทั่วกายาของนางโหมกระพือขึ้น ก่อเกิดเป็นคลื่นกระแทกวงแหวน แผ่กระจายออกไประลอกแล้วระลอกเล่า และทันใดนั้นนางก็ระเบิดพลังโหมสะพัดขึ้นอีกครั้ง!
ประกายแสงสีครามฟ้าที่โอบล้อมทั่วร่างของนาง ยิ่งเพิ่มทวีความระอุขึ้นสูงเสียดฟ้า!
ลมปราณสีครามฟ้าบริสุทธิ์ทอแสงพราวระยับสดใส ห่อหุ้มปกคลุมรัศมีรอบกายาเซียถง
บรรดาฝูงชนทั้งหลายทั่วอัฒจันทร์ ถึงกับนั่งไม่ติดที่ โห่ร้องอุทานลือลั่นออกมาในทันทีทันใด
ขอบเขตเสาหลักฟ้าชั้นกลาง!
ยอดฝีมือขอบเขตเสาหลักฟ้าชั้นกลาง กล่าวว่าหาได้ยากยิ่งในจักรวรรดิตงหลี่ ทว่าหญิงสาวในวัยเพียงสิบห้าปีบนสนามประลองนางนี้…กลับบรรลุถึงขอบเขตเสาหลักฟ้าชั้นกลางแล้วจริงๆ!
สถานการณ์เร่าร้อนถึงขีดสุด ทุกคนทั่วทั้งบริเวณแหกปากตะโกนลั่น ขานชื่อเซียถงดังแซ่ซ้อนอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน
เซี่ยหลู่เฟิงที่ซึ่งก่อนหน้ากำลังจะวิ่งไปหยุดเซียถง ถึงกับชะงักฝีเท้าหยุดลงทันที จ้องมองภาพฉากเบื้องหน้า สีหน้าการแสดงออกสุดจะเหลือเชื่อ
ชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีน้ำเงินเผยสีหน้าตะลึงงันเกินบรรยาย เขาทั้งฝึกปรือและบำเพ็ญตบะอย่างหนักตลอดช่วงยี่สิบหรือสามสิบปีที่ผ่านมา แต่แล้วพลังลมปราณของเขากลับเพิ่งจะทะลวงขึ้นสู่ขอบเขตเสาหลักฟ้าชั้นต้นเมื่อไม่นานนี้เอง แต่เขาไม่อยากเชื่อสามยตาตนเองเลยสักนิด สาวน้อยผู้อ่อนวัยตรงหน้า แท้จริงแล้วนางจะเป็นยอดฝีมือขอบเขตเสาหลักฟ้าชั้นกลาง! นางเพิ่งอายุเท่าไหร่เอง? น่าเหลือเชื่อเกินไป!!
พอลอบสบสายตาเจอเข้ากับดวงตาคู่เย็นยะเยือกของเซียถง มือข้างที่กระชับจับกระบี่พลันสั่นเทาโดยมิตั้งใจ สาวน้อยที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่บัดนี้ ทั่วใบหน้าเปรอะเปื้อนคราบเลือด เผ้าผมยาวกระเซอะกระเซิงปลิวไสว ผนวกเข้ากับดวงตาคู่เย็นดังกล่าวอีก มันดูราวกับปีศาจกระหายเลือดที่ใครสักคนทำหลุดจากส่วนลึกที่สุดในนรก!
“ไสหัวไป!”
เซียถงจ้องอีกฝ่ายตาเขม็ง สุดทางแววประกายสายตาอันลึกล้ำ ปรากฏแค่เพียงไอเย็นเยือกจับขั้วกระดูกอยู่เท่านั้น
มือข้างที่จับกระบี่แน่นของชายวัยกลางคนผู้นั้นยังคงสั่นเทาไม่หยุด แต่เขาก็ยังยืนขวางทางไม่ให้เซียถงเข้าถึงตัวไป๋หลี่เย่ได้อยู่ดี กล่าวด้วยสีหน้าท่าทางจริงจังว่า
“การสังหารองค์รัชทายาทนั้นถือเป็นอาชญากรรมครั้งใหญ่หลวง ผู้ใดกระทำย่อมต้องรับโทษสูงสุด คือการประหารชีวิตเจ็ดชั่วโคตร! ข้าเพียงหวังดีขอแนะนำ อย่าให้เรื่องทุกอย่างไปไกลเกินกว่านี้เลย”
เซียถงยังคงจับจ้องอีกฝ่ายตาเขม็ง แววตาหม่นประกายมืดลงหนึ่งส่วน เสี้ยวอึดใจขณะ รูม่านตาดำพลันตีบตันหดลง นางกระชับจับมีดสั้นให้มั่น พุ่งเสียบทะลวงใส่ชายวัยกลางคนประดุจกระสุนปืนใหญ่
ชายวัยกลางคนโพล่งตาโตตื่นตกใจ รีบเร่งยกคมกระบี่เข้าสกัดต้านรับ รัศมีประกายแสงสีครามฟ้าสองสายโหมปะทะ ก่อนผงะร่นถอยออกกันไป
เซียถงยังคงดูปกติสุขดี สีหน้ายังคงรักษาความเยือกเย็น บริเวณปลายมีดสั้นเคลือบลมปราณครามฟ้าชั้นบาง คล้ายจะมีเศษผ้าไหมสีน้ำเงินชิ้นหนึ่งติดอยู่ และนั่นเป็นชุดลายเดียวกับที่ชายวัยกลางคนใส่
ตัดสลับมาอีกด้าน สภาพของชายวัยกลางคนในขณะนี้ดูแย่กว่ามาก บริเวณหน้าอกมีรอยคมมีดถูกตัดผ่าน เสื้อผ้าบริเวณนั้นขาดรุ่งริ่ง เหม่อมองเศษเสื้อผ้าบนคมมีดสั้นของเซียถง ในยามนี้กระหนักทราบ รู้ซึ้งถึงแก่นทันที หากเปิดช่องโหว่ให้นางอีกเพียงครั้งเดียว คมมีดสั้นใบนั้นย่อมสามารถเจาะทะลวงขั้วหัวใจของเขาได้ไม่ยากเลย
ทุกครั้งที่เซียถงออกกระบวนเคลื่อนไหว ไม่มีครั้งใดคงไว้ซึ่งความเมตตาปรานี ล้วนกระทำลงไปด้วยความเหี้ยมทั้งสิ้น แต่ก็ใช่ว่าจะเลือกสังหารทุกคนโดยไม่เลือกปฏิบัติสักทีเดียว
ชายวัยกลางคนผู้นี้เพียงทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และไม่มีเจตนาสร้างปัญหาแก่นางแต่แรก ดังนั้น นางเองย่อมไม่มีเจตนาเอาให้ตายโดยไม่ให้โอกาสเช่นกัน และเมื่อครู่เป็นเพียงการสั่งสอนบทเรียนเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น
ฝูงชนทั้งหมดต่างตื่นตะลึงสุดขีด ยามนี้ไม่มีใครนั่งอีกต่อไป ล้วนแต่ลุกขึ้นจับจ้องภาพฉากตรงหน้า แทบไม่อยากเชื่อสายตากัน สาวน้อยนางนี้…ดูเหมือนว่าจะทรงพลังแกร่งกล้าพอที่จะสังหารชายวัยกลางคนผู้นั้น ที่เป็นถึงยอดฝีมือขอบเขตเสาหลักฟ้าชั้นต้นได้ภายในหนึ่งกระบวนจริงๆ?
หากนางประสงค์ที่จะฆ่า นางฆ่าได้แน่นอน…
ชั่วครู่ต่อมา จากบรรยากาศเงียบสงัดดุจป่าช้า กลายมาเป็นว่า เหล่าฝูงชนทั้งหลายต่างปรบมือให้เซียถงอย่างอบอุ่น
ร่างเพรียวบางผู้ยืนตระหง่านเบื้องหน้า กลับแข็งแกร่งเกินกว่าใครจะจินตนาการได้!