ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 354 ต่อแถวขอหมั้นหมาย (2)
ตอนที่354 ต่อแถวขอหมั้นหมาย (2)
ตอนที่354 ต่อแถวขอหมั้นหมาย (2)
“คุณหนูเซีย เลื่องชื่อขึ้นมาในศึกเดียว ท่านในตอนนี้กลายมาเป็นจุดสนใจของทุกคนโดยปริยาย คงไม่แปลกที่มีคนลอบติดตามเฝ้าดูพฤติกรรม”
เย่หลีเทียนชำเลืองมองไปที่หน้าร้านอาหารริมทางตรงนั้นเช่นกัน จึงเอ่ยเตือนขึ้นเสียงแผ่วเบา และแน่นอน เนื่องด้วยตัวเขาเดินติดตามเซียถงอยู่ท้ายหลังตลอด ย่อมเห็นภาพฉากที่นางปะทะกับชายลึกลับคนนั้นอย่างชัดเจน
“นี่หมายความว่าเยี่ยงไร?”
เซียถงเหลียวหน้ามองเย่หลีเทียนในบัดดล คราวนี้นางเองก็ยังรู้สึกว่า อีกฝ่ายมองมาที่นางด้วยสายตาแปลกๆ
“คุณหนูเซียย่อมทราบเองเมื่อกลับไป”
เย่หลีเทียนยิ้มตอบอย่างอ่อนละมุน
เซียถงก่นเสียงเย็นคำโต ชักหน้าหันกลับมาดังเดิมและคุมม้าเดินต่อไป
“อัครมหาเสนาบดีเย่ ระหว่างงานเลี้ยงใหญ่ครั้งสุดท้ายในวังหลวงซีฉิน ไฉนถึงไม่เห็นหน้าเจ้าเลย? หรือเป็นไปได้มิว่ากำลังมีธุระยุ่งอยู่?”
ไป๋หลี่หานเปล่งเสียงดังเอ่ยถามอีกฝ่ายที่อยู่ด้านหลัง
พอได้ยินเช่นนั้น เซียถงก็จำขึ้นมาได้ว่า ตนไม่ได้เห็นหน้าเย่หลีเทียนในงานเลี้ยงครั้งนั้นเลย หรือเป็นไปได้ไหมว่า ชายคนนี้จะล่วงรู้ถึงแผนการลอบโจมตีขององค์จักรพรรดิซีฉินอยู่ก่อนแล้ว จึงเป็นเหตุผลที่เขาไม่ไป?
“ในงานเลี้ยงใหญ่ครั้งนั้น ข้าเกิดไม่สบายขึ้นมา จึงรายงานกับฝ่าบาทไปตามตรงก่อนงานจะเริ่มอยู่ก่อนแล้ว”
เย่หลีเทียนคลี่ยิ้มตอบกลับอย่างสบายๆ
“ป่วยได้จังหวะดีจริงๆ”
“หากทราบแต่แรกว่า ในงานเลี้ยงครั้งนั้นองค์จักรพรรดิซีฉินมีอแผนซุ่มโจมตี ข้าคงเลือกที่จะติดตามฝ่าบาทและปกป้องจวบจนลมหายใจสุดท้าย มิฉะนั้นแล้ว ความดีความชอบทั้งหมดในวันนั้นจะบังเอิญตกใส่หัวท่านได้เยี่ยงไร?”
“ก็ต้องขอบคุณที่วันนั้นอัครมหาเสนาบดีเย่ป่วย จึงทำให้ฝ่าบาทมองข้าผู้นี้แตกต่างไปจากเดิม และได้รับความดีความชอบไปเต็มๆ”
พอเย่หลีเทียนได้ยินดังนั้นก็ถอดถอนหายใจเสียงใดใส่อย่างจงใจ และไม่พูดอะไรต่ออีกเลย
เมื่อได้ยินบทโต้เถียงระหว่างทั้งสอง เซียงก็ขมวดคิ้วรำคาญ เร่งฝีเท้าม้าให้ควบเดินเร็วขึ้น พยายามทิ้งห่างจากทั้งคู่ให้มากที่สุด เพราะนางไม่อยากมีส่วนเกี่ยวพันกับศึกโค้คารมระหว่างไป๋หลี่หานกับเย่หลีเทียน
ความตั้งใจเดิมของเย่หลีเทียนคือ นำส่งไป๋หลี่หานกลับวังหลวงไปเสียก่อน ทว่าด้านไป๋หลี่หานกลับต้องการพาเซียถงไปส่งยังจวนเสนาบดีเซี่ยก่อน สรุปสุดท้าย ขบวนนำส่งเหล่านั้นจึงเปลี่ยนมาเป็นส่งเซียถงกลับจวนเสนาบดีเซี่ยก่อนเป็นอันดับแรก
พอเลี้ยวผ่านทางแยกถนนสายหนึ่งที่นำมาสู่จวนเสนาบดีเซี่ย เซียถงถึงกับตะลังงันในทันใด เบื้องหน้าของนางเต็มไปด้วยรถม้าที่แบกบรรทุกกองสมบัติและเงินทองกองกันเป็นภูเขา! และโดยรอบก็ยังมีเล่าบรรดาชายหนุ่มนับไม่ถ้วนและผู้คุ้มกันส่วนตัวยืนรออยู่
เซียถงหันขวับ จับจ้องไปที่เย่หลีเทียนอย่างว่างเปล่า ไฉนบนถนนสายนี้ที่พาไปยังจวนเสนาบดีเซี่ย ถึงมีรถม้ากับธารฝูงชนสุดคนานับจอดขวางทางกันเช่นนี้?
“ก็ทั้งหมดนี้มาเพื่อที่จะขอคุณเซี่ยหมั่นหมายสู่ขอ ทุกคนที่อยู่ตรงหน้าต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า ท่านคือสตรีงามอันดับหนึ่งแห่งทวีปเทียนหลาง เอ่ยถามหาแต่ชื่อเซียถงแห่งตงหลี่”
เย่หลีเทียนมองค้อนใส่ทางเซียถง สายตาคมกริบประดุจคมดาบ ราวกับกำลังสงสัยอย่างแรงว่า เซียถงกลายมาเป็นสตรีงามอันดับหนึ่งแห่งทวีปเทียนหลางไปได้อย่างไร?
พยายามมุ่งสายตาจับจ้องโดยละเอียดอยู่สักพักใหญ่ เซียถงก็ค้นพบว่า รูปแบบการแต่งกายของคนพวกนี้ดูไม่เหมือนคนจากตงหลี่เลย แต่เหมือนกับอีกสามจักรวรรดิอื่นๆ ที่เคยพบเจอมา แต่สิ่งที่เหมือนกันทุกคนคือ พวกเขาดูคล้ายกับคุณชายจากตระกูลร่ำรวย พินิจได้จากเสื้อผ้าหรูหราที่ใส่กัน และยังมีเหล่าผู้คุ้มกันส่วนตัวคอยเฝ้าอารักขา หรือว่าคนพวกนี้อุตส่าห์ออกเดินทางมาแสนไกลมาที่ตงหลี่ ทั้งหมดก็เพื่อขอนางแต่งงาน?
เอ่อ…ครั้งล่าสุดในเมืออู่ถงข้าเคยพูดว่าอะไรไปบ้าง? บอกว่าอยากแต่งงาน และใครก็ตามที่หยุดไป๋หลี่หานมิให้ตามตื๊อได้จะถูกพิจารณาเป็นพิเศษ? แน่นอนว่าในตอนนั้น นางไม่คิดอยากแต่งงานจริงๆ แต่ก็มิทราบเช่นกันว่า กลุ่มชายเหล่านี้จะมีความมุ่งมานะสูงส่งเกินจินตนาการปานนี้เช่นกัน! ดูท่านางจะประเมินเสน่ห์ความงามของตัวเองต่ำเกินไป
“เป็นเยี่ยงไรล่ะ? สมปรารถนาเจ้าเลยกระมัง?”
น้ำเสียงเสียดแสดของไป๋หลี่หานดังขึ้นจากด้านหลัง ฟังดูค่อนข้างแดกดันปนขุ่นเคืองกันไม่น้อย
“คณหนูเซียมาแล้ว! คุณหนูเซียมาแล้ว!”
หนึ่งในฝูงชนเหล่านั้นที่มาเฝ้ารอขอแต่งงานเหลียวหน้าบังเอิญพบเข้า แวบแรกมองด้วยสงสัย ก่อนที่ชั่วขณะต่อมาจะจดจำเซียถงที่อยู่บนม้าได้ในทันควัน ถึงแม้จะสวมผ้าคลุมปิดทับเอาไว้ แต่นี่ก็ไม่สามารถปกปิดความสวยของนางได้เลยสักนิด ชั่วครู่ต่อมา นางกลายมาเป็นจุดสนใจสะดุดตาท่ามกลางฝูงชนในทันใด
มวลมหาประชาชนทั้งหลายทะลักถาโถม คลื่นคำพูดนับพันดังสนั่นแซ่ซ้องออกมา เมื่อเห็นเซียถงนั่งอยู่บนหลังม้าตรงนั้นในชุดแพรพรรณสีขาวประดุจหิมะ ผ้าคลุมปกปิดใบหน้ายิ่งช่วยเพิ่มทวีความลึกลับน่าค้นหา เรียนร่างอรชาโค้งเว้าได้ทรงสมบูรณ์แบบ บังเกิดเป็นความโกลาหลดั่งระเบิดลูกใหญ่กลางฝูงชนชั่วขณะ พวกเขาแห่วิ่งเข้าหาเซียถงเสมือนกำลังแย่งสมบัติกันก็มิปาน
“คุณหนูเซีย! ข้ามาที่นี่เพื่อขอท่านแต่งงาน! นี่คือปะการังหยกขาวพันปี อัญมณีแห่งท้องสมุทรเทียนหลาง!”
“คุณหนูเซีย! ข้านำเงินจำนวนหนึ่งล้านเหรียญทองมามอบให้!”
“คุณหนูเซีย! ข้านำสมบัติประจำตระกูลตั้งแต่ยุคบรรพชนติดตัวมาด้วย หากสนใจขอเพียงบอกมา!”
เย่หลีเทียนมุ่นคิ้วถักหนา โบกมือสั่งการให้กองทหารที่นำมาด้านหลัง รุมเข้าปิดล้อมและสร้งาแนวป้องกันมิให้ลุกล้ำเข้ามาอย่างรวดเร็ว ปิดเส้นทางมิให้กลุ่มชายเหล่านั้นเข้าถึงตัวเซียถงได้ แต่เนื่องด้วยคนพวกนี้ล้วนเป็นคุณชายจากตระกูลมหาเศรษฐีเลื่องชื่อ เมื่อเห็นว่านายน้อยของพวกเขาถูกพวกทหารเข้าถึงเนื้อถึงตัวก็นึกว่าถูกลอบโจมตี จึงรีบชักดาบชักอาวุธออกมาประจัญบานปราบปรามด้วยเกรี้ยวโกรธโดยไว เพียงพริบตาต่อมา สถานการณ์กลับตาลปัตร กลายมาเป็นความเอิกเกริกวุ่นวายในทันที ส่วนคุณชายพวกนั้นก็หาได้แยแสสนใจใดๆ ไม่ เอาแต่โบกมือส่งให้เซียถงด้วยความตื่นเต้นดีใจ
เซียถงถึงกับปวดเศียรกุมขมับ ทว่าหาใช่เพราะความโกลาหลของกลุ่มคุณชายที่ถาโถมเข้าใส่ทั้งหมดสักทีเดียว แต่เป็นตัวไป๋หลี่หานที่อยู่ด้านข้างนางในตอนนี้ ที่กำลังทอดสายตามองธารฝูงชนที่เบียดเสียดวุ่นวายถึงขีดสุดตรงหน้า พร้อมกับปลดปล่อยรัศมีแรงกดดันแผ่ซ่านเข้ากดทับไปทั่วบริเวณวงกว้างโดยไม่มีเหตุผล ไม่ใช่ว่าหมอนี่จะสังหารหมู่ฆ่าพวกเขาทิ้งในคราเดียวกระมัง?