ทะลุมิติไปเป็นพระชายาโหดแห่งวังหลวง - ตอนที่ 365 หวานหลีซุนตกหลุมพราง (1)
ตอนที่365 หวานหลีซุนตกหลุมพราง (1)
ตอนที่365 หวานหลีซุนตกหลุมพราง (1)
หวานหลีซุนรีบยกมือขึ้นคว้าจอกในทันใด กล่าวเสียงกระวนกระวายว่า
“ข้าดื่มแล้ว ข้าดื่มแล้ว มีหรือจะทำให้เจ้าเสียน้ำใจ?”
สิ้นเสียงกล่าวจบ ชำเลืองมองเซียถงอยู่หนึ่งปราดและกระดกสุราในจอกรวดเดียวจนหมด รสชาติสุราที่เซียถงรินให้ค่อนข้างใช้ได้เลยทีเดียว
เซียถงเฝ้าสังเกตทุกอากัปกิริยาการดื่มของอีกฝ่าย แลเห็นกระดกรวดเดียวจนหมด นางก็ระบายยิ้มสีหนาวเย็นออกมา
“ข้าดื่มเรียบร้อย! รสชาติสุรานี้ไม่เลวเลย!”
หวานหลีซุนชี้ไปที่ก้นจอกเพื่อพิสูจน์ว่าตนดื่มมันจนหมดแล้วจริงๆ พร้อมส่งยิ้มให้แก่เซียถง
เซียถงจ้องมองอีกฝ่ายนิ่งเงียบไม่เอ่ยกล่าว ดวงตาคู่นั้นยิ่งทวีความหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ รอยยิ้มบนฝีปากค่อยๆ ฉีกกว้างแสยะออก พร้อมเสียงหัวเราะคิกคักที่เริ่มกึกก้องดังออกมา ชั่วแวบแรกที่เห็นรอยยิ้มดังกล่าว หวานหลีซุนใจหายวาบรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาควัน เร่งเอ่ยถามทันทีด้วยความตื่นตระหนกยิ่งว่า
“จะ-เจ้าหัวเราะอะไรรึ?”
“รู้สึกปวดท้องน้อยหรือไม่?”
เซียถงยิ้มตอบหวานหลีซุนด้วยน้ำเสียงแจ่มใส นางอุตส่าห์พยายามตั้งนานกว่าที่จะหลอกล่อให้เขาดื่มสุราได้
“เจ้า…เจ้าใส่ยาพิษในจอกสุรางั้นรึ?!”
ขว้างจอกสุราในมือแตกกระแทกคาพื้นอย่างแรง หวานหลีซุนลุกขึ้นพรวดพราดในทันใด พัดคลี่ในมือสยายเปิดโบกโจมตีใส่เซียถงโดยไม่มีลังเล ทว่าการโจมตีของเขากลับถูกเซียถงหยุดเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย อาศัยเพียงสองนิ้วคีบหยุดเท่านั้น
“ตอนนี้ท่านถูกวางยาพิษแล้ว ทั้งกำลังวังชาและพลังปราณในกายต่างถูกลดทอดไปกว่าครึ่ง”
หากเป็นสถานการณ์ปกติทั่วไป เซียถงคงไม่เสี่ยงใช้สองนิ้วขึ้นรับกระบวนโจมตีด้วยพัดของหวานหลีซุนแน่นอน แต่ในเมื่อตอนนี้ พลังความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายถูกลดทอนไปกว่าครึ่ง นางย่อมรับมือได้สบาย
ทันทีที่หวานหลีซุนพยายามรีดเร้นพลังลมปราณออกมาใช้ บริเวณท้องน้อยของเขาก็เกิดอาการปวดบิดขึ้นฉับพลันคล้ายจะเป็นตะคริว ร่างของเขาเสียการทรงตัวไปชั่วขณะ ล้มคะมำลงกองกับโต๊ะอาหารพังยับ เซียถงที่ยังคงนั่งนิ่งก็พลางหยิบตะเกียบตักข้าวในชามเข้าปากไปหลายคำ หันมากล่าวเตือนอีกฝ่ายอย่างใจเย็นว่า
“นายท่านหวานหลี ทางที่ดีอย่าเพิ่งพยายามหยิบใช้พลังปราณในร่างกายตอนนี้ ยิ่งฝืนมากเท่าไหร่ อาการปวดช่องท้องน้อยของท่านก็จะยิ่งกำเริบรุนแรง และนี่อาจส่งผลถึงชีวิตได้เลย”
“เจ้าใส่นาพิษอะไรลงในสุรา! แล้วไฉนเจ้าถึงดื่มแล้วไม่เป็นอะไร?! แต่…แต่ข้ากลับ…”
หวานหลีซุนรีดเร้นพลังทั้งหมดที่ยังเหลือเปล่งเสียงออกมาด้วยความโกรธจัด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เซียถงดื่มสุราในจอกเดียวกับเขาแท้ๆ แต่ไฉนกลับมีเพียงเขาที่โดนยาพิษ?!
“นายท่านหวานหลี ข้าไม่ได้โกหกท่านเลยแม้แต่น้อย ในสุราจอกนี้ไม่มียาพิษ”
เซียถงคลี่ยิ้มอันทรงสง่างดงามไร้สิ้นสุด
“หากสุราไม่มียาพิษ แล้วข้าจะโดนวางยาพิษได้เยี่ยงไร?!”
สีหน้าหวานหลีซุนในเวลานี้ดูประหลาดใจยิ่งยวด
เซียถงค่อยๆ หันศีรษะจับจ้องไปที่จอกสุราใบก่อนหน้าที่นางโยนทิ้งออกไปด้านนอก แล้วกล่าวน้ำเสียงแผ่วอ่อนขึ้นว่า
“สุราไม่มีพิษ แต่ปากจอกสุราใบก่อนหน้าที่โยนออกไปมีพิษ ซึ่งพิษชนิดนี้มีฤทธิ์รุนแรงมาก เพียงสัมผัสผ่านผิวหนังก็สามารถดูดซับเข้าร่างกายได้แล้ว และพิษดังกล่าวจะไม่ทำงานจนกว่าจะมีตัวกระตุ้น ซึ่งก็คือสุราที่ดื่มลงไป”
ในตอนนั้น ระหว่างที่หวานหลีซุนกำลังจะลงมือฆ่าฮูหยินรองเฉิง เซียถงได้โยนจอกสุราที่ฉาบพิษบนปากจอกโยนใส่เพื่อหยุดเอาไว้ ซึ่งเสี้ยวจังหวะนั้น บริเวณปากจอกสุรามันสัมผัสกับมือของอีกฝ่ายอย่างพอดิบพอดี
หวานหลีซุนโกรธแค้นจัด คว้าชามกระเบื้องใบหน้าที่แตกเป็นเสี่ยงโยนใส่เซียถง แต่เพียงนางสะบัดแขนเสื้อเท่านั้น ก็สามารถปัดทิ้งออกไปได้อย่างง่ายดาย มองหน้าจับจ้องอีกฝ่ายด้วยสายตาสีเย็นเยียบ นางกล่าวขึ้นอีกว่า
“พิษชนิดนี้ข้าขอเรียกว่า พิษเจ็ดวันมรณา แต่หากท่านยังเอาแต่ฝืนใช้พลังลมปราณสุ่มสี่สุ่มห้า เกรงว่าจะต้องเปลี่ยนชื่อเป็น พิษสามวันมรณา เป็นแน่แท้”
หวานหลีซุนยิ่งรู้สึกปวดท้องหนักราวกับพิษในกายกำลังสะทวงท้องน้อยของเขาอย่างบ้าคลั่ง ในปัจจุบัน ขนาดจะขยับเขยื้อนตัวยังแทบไม่ไหว ใบหน้าซีดเผือดเป็นแผ่นกระดาษบาง เหงื่อเย็นผุดซึมทั่วทั้งหน้าผาก เมื่อเงยศีรษะแช่มมองไปที่เซียถง มิทราบเลยว่า ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นัยน์ตาคู่สวยตรงหน้า มันแปรเปลี่ยนกลายเป็นนัยน์ตาแห่งความตาย ตลอดเส้นทางชีวิตของเขา ล้วนเคล้านารีมาแล้วนับไม่ถ้วน เจอผู้หญิงมาแล้วแทบทุกแบบ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เสียรูให้แก่ผู้หญิง ความเคียดแค้นที่จุกแน่นอยู่กลางอก มันมากมหาศาลเกินบรรยายแล้ว
“ท่านเองหก็เป็นคนฉลาดคนหนึ่ง จนกว่าจะนำทางข้าไปหาที่ซ่อนของท่านแม่ ถึงจะยอมบอกว่าโอสถขับพิษชนิดนี้อยู่แห่งหนใด”
เซียถงแสร้งเข้าประจอสอพอพูดจาอ่อนหวาน ดวงตาเปล่งประกายเจิดจรัสแยบยล นางยอมเป็นทุกอย่างแม้กระทั่งอสรพิษ หากต้องถึงคราวที่ต้องช่วยเหลือชีวิตแม่ของนาง
หวานหลีซุนจับจ้องเซียถงตาเขม็ง สายตาราวกับต้องการจะกลืนกินกันทั้งเป็น
“ข้าจริงใจกับเจ้าแท้ๆ แต่เจ้ากลับเล่นไม่ซื่อวางแผนคิดคดหักหลัง! ช่างไร้ยางอายโดยแท้!”
ถือเป็นคำชมกระมัง?
เซียถงที่ได้ยินดังนั้นถึงกับระเบิดหัวเราะลั่น แสยะยิ้มมุมปากกล่าวประชดเสียดสีขึ้นสวนทันที
“เอาความเป็นความตายของท่านแม่ข้ามาข่มขู่ทั้งคน นี่หรือเรียกว่าจริงใจ? กำลังพล่ามเรื่องตลกอยู่กระมัง?”
เซียถงเอื้อมมือไปหยิบพัดคลี่ของหวานหลีซุนขึ้นมาเชยคางอีกฝ่ายยกสูง สายตาคู่หนาวเย็นของเซียถงเสมือนกลั่นตัวกลายเป็นน้ำแข็งนับพันชั้นทับซ้อน รังสีพิฆาตขุมใหญ่แพร่สะพัดออกมาจากร่างของนาง
“ข้ามีเป็นพันเป็นหมื่นวิธีที่ใช้ทรมานเจ้าให้ทรมานเสียยิ่งกว่าความตาย ดังนั้น อย่าได้กำแหงท้าทายตัวข้าให้มากนัก ตราบใดที่ข้าสามารถพาท่านแม่กลับมาได้อย่างปลอดภัย ข้าย่อมมอบโอสถขับพิษเจ็ดวันมรณาให้โดยไม่ตระหนี่แน่นอน มิฉะนั้นแล้ว เตรียมสัมผัสกับสิ่งที่ทรมานยิ่งกว่าความตายได้เลย!”
ไอความหนาวเหน็บสั่นกระเพื่อมฉาบคลุมทั่วร่างเซียถง สิ่งนี้ทำให้หวานหลีซุนเนื้อตัวสั่นเทาเกินควบคุม เขาหาได้สงสัยหรือเคลือบแคลงใจในสิ่งที่นางเอ่ยกล่าวอีกต่อไป สตรีโหดเหี้ยมอย่างนาง ย่อมมีพันหมื่นวิธีไว้เตรียมใช้สำหรับเขารออยู่แล้ว!
เซียถงสะบัดแขนเสื้อหมุนตัวผละออกมา โยนพัดคลี่ในมือใส่อีกฝ่ายและกล่าวว่า
“นำทางไป”
หวานหลีซุนรีบหยิบพัดคลี่จองตนและเดินทางออกจากจวนเสนาบดีเซี่ยในทันที จุดประสงค์แรก เขาลักพาตัวฮูหยินหลี่ก็เพื่อช่วยฮูหยินรองเฉิงระบายความคับแค้นภายในใจ และตั้งใจจะฆ่าทิ้งให้เสร็จสรรพไป ทว่าต่อมา พอเขาได้ยินเกี่ยวกับเรื่องที่ว่า เซียถงชำแดงใช้วรยุทธ์ต่อสู้ในงานประลองสี่จักรวรรดิจนคว้าอันดับหนึ่งมาได้ ความโลภพลันบังเกิดขึ้นทันใด ลอบสันนิษฐานกับตัวเองในใจ เซียถงนางนั้นจะต้องมีคัมภีร์วรยุทธ์ต่อสู้ลับอยู่ในครองครอบแน่นอน ดังนั้นจึงเปลี่ยนใจ และนำฮูหยินหลี่มาเป็นเครื่องมือต่อรอง เพื่อแลกเปลี่ยนกับคัมภีร์วรยุทธ์ต่อสู้ลับที่ว่า แต่ในท้ายที่สุด ใครจะไปคิดว่า เขาจะเสียทั้งไก่ทั้งเล้าเช่นนี้
หวานหลีซุนมัดมือมัดเท้าฮูหยินหลี่ และนำมาซ่อนไว้ในถ้ำรกร้างแห่งหนึ่งนอกเมืองเฟิงหลี่กว่าหลายสิบลี้ ตอนที่เขาลาจากออกไป ก็ไม่ลืมที่จะใช้เถาวัลย์และวัชพืชนานาชนิดมาสร้งาเป็นกำแพงติดทางเข้าออกถ้ำเอาไว้อย่างมิดชิด และก่อนที่เซียถงกับหวานหลีซุนจะมาถึงถ้ำเสียด้วยซ้ำ ทั้งคู่ต่างเห็นซากวัชพืชและเถาวัลย์ถูกฟันเละกระจัดกระจายไปทั่ว ทั้งนางกับเขาต่างหันขวับมองหน้ากัน และรีบวิ่งเข้าไปในถ้ำอันว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่อีกต่อไปแล้ว
“แม่ข้าอยู่ที่ไหน?!”
เซียถงยืนเคว้งอยู่ท่ามกลางถ้ำอันมืดมิดยิ่งส่งเสริมให้นางดูน่ากลัวเข้าไปใหญ่ ค่อยๆ เหลียวมองหวานหลีซุนด้วยความแค้นฆาต เจียนจะฆ่าแกงใครสักคนได้แล้ว
“ตอนที่ข้าออกมา นาง…นางยังอยู่ในถ้ำอยู่เลย!”
หวานหลีซุนกล่าวตอบพร้อมใบหน้าซีดเซียว
“หวานหลีซุน! ข้าจะฆ่าเจ้า!
ด้วยมวลความโกรธจัดจ้าน เซียถงยกมือขึ้นชูตระหง่าน เรียกกระบี่ทัณฑ์ฟ้าปรากฏในทันใด คล้ายกับว่าหลิวซูสามารถสัมผัสได้ถึง ช่วงอารมร์ของผู้เป็นนายของมันในขณะนี้ได้ ส่งผลให้คมกระบี่เล่มนี้ดูเย็นยะเยือกและเฉียบคมกว่าที่เคยเป็น
“คุณหนูเซียไว้ชีวิตข้าด้วย! ข้าจะช่วยออกตามหาแม่ของท่านเอง!!”
หวานหลีซุนย่อมสัมผัสได้ถึง มวลความโกรธเกรี้ยวเกินควบคุมของเซียถงได้เล่นกัน และเขารู้สึกหวาดกลัวเหลือเกินว่า นางจะลงมือฆ่าเขาจริงๆ ด้วยความตื่นตระหนกหรืออย่างไรก็ดี เขารีบลุกเข่าลงต่อหน้านางเพื่อขอความเมตตาทันที